1
วันศุกร์ที่ 14 ก.ย.2555 ออกเดินทาง 6 โมงเย็น – 1 ทุ่ม แต่ต้องเลื่อนเพราะฝนตกรถติด ออกประมาณ 21:45 จากถนนพระราม 2 ขึ้นทางด่วนไปดินแดง จะจอดรับ พี่ปีเตอร์ กับ ทิว บิ๊กซีสะพานควาย
วันที่ 15 ก.ย. 2555 ช่วงเช้า ถึง จ.น่าน แวะซื้อเสบียงเล็กๆน้อย ทานข้าวเช้า แล้วเดินทางไปตามเส้นทางเส้นทาง อ.สันติสุข, อ.บ่อเหลือ โครงการพัฒนาเกษตรที่สูงบ้านสะจุก สะเกี้ยง เพื่อไปเจอกับพี่จบ วันนี้เราจะเที่ยว นาขั้นบันได โครงการปิดทองหลังพระ บ้านเปียงซ้อ บ้านบวกอุ้ม โดยจะเช่ารถ 4วีลของชาวบ้าน เหมาทั้งวัน จนถึงเย็น แล้วกลับมานอนที่ โครงการพัฒนาเกษตรที่สูงบ้านสะจุก สะเกี้ยง (เขามีห้องนอนให้) อาหารค่ำและเช้าให้เจ้าหน้าที่จัดหาให้ นอนที่นั้น 1 คืน
วันที่ 16 ก.ย. 2555 ตื่นเช้า เก็บบรรยากาศที่นั้น เสร็จแล้ว เก็บของเดินทางไปยังตัวเมืองน่าน ระหว่างทางถ้าเจอวิวสวยๆก็จะจอดถ่ายรูป ช่วงบ่ายๆ ถึง ตัวเมืองน่าน จะไปวัด ภูมินทร์ วัดเขาน้อย พระธาตุแช่แห้ง แล้วก็เก็บบรรยากาศการแข่งเรือ ประมาณ 2 ทุ่ม เดินทางกลับ กทม. เหลือ ผมอยู่เที่ยวน่านคนเดียวต่ออีก 2คืน
วันที่ 17 ก.ย. 2555 เที่ยวชมวัด และ รอบๆ อ.เมืองน่าน
เบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่
1) พี่จบ 084-378-3278 (คนที่พาเราเที่ยว)
2) พี่ชิดชนก (หัวหน้าหน่วย สะจุกสะเกี่ยง) 081-885-7098
3) โครงการพัฒนาเกษตรที่สูงบ้านสะจุก สะเกี้ยง โทร 054 731 380
น่าน ดินแดนแห่งล้านนาตะวันออกซึ่งมีความเก่าแก่รุ่นเดียวกับกรุงสุโขทัย มีเจ้าผู้ครองนครสืบต่อกันมารวมทั้ง สิ้น 64 พระองค์ น่านมีชื่อเดิมว่า "นันทบุรี"หรือ "วรนคร" สร้างขึ้นโดยพระยาภูคาในราวพุทธศตวรรษที่ 18 บริเวณที่ราบทางตอนใต้ในเขตตำบลศิลาเพชรหรืออำเภอปัวในปัจจุบัน ต่อมาในสมัยพระยาการเมืองได้รับ พระบรมสารีริกธาตุจำนวน7 องค์มาจากกรุงสุโขทัย ทรงเลือกดอยภูเพียงแช่แห้งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารี ริกธาตุ พร้อมกับย้ายเมืองมาสร้างใหม่ที่บริเวณเชิงดอย และในราวปี พ.ศ.1911 แม่น้ำน่านได้เปลี่ยนทิศทางไหล จึงได้ย้ายเมืองอีกครั้งมา ตั้งที่บ้านห้วยไค้ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำน่าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองน่านปัจจุบัน ความที่ เป็นเมืองชายแดนแห่งล้านนาตะวันออกอันอุดมไปด้วยวัฒนธรรมที่หลอม รวมจากเทือกเขาสูงถึงพื้นราบ ทำให้ เสน่ห์ของเมืองน่านยั่งยืนมาจนถึงทุก ทุกวันนี้ ประกอบกับลักษณะภูมิประเทศที่เป็นท้องทะเลแห่งขุนเขา อีกทั้ง สายลมหนาวและสายหมอกที่พัดผ่านทุ่งข้าวสีเขียวฉ่ำฝน หรือ เหลืองทองพร้อมจะเก็บเกี่ยว ยังทำให้ผู้มาเยือน เก็บความประทับใจกลับไปด้วยป้อมปราการธรรมชาติ ที่บดบังเมืองน่านจากคนต่างถิ่นก็คือเทือกเขาผีปันน้ำและ หลวงพระบาง พื้นที่ป่าของเมืองน่านมีประมาณ 5 ล้านไร่ เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ทั้งจังหวัดประมาณ 7 ล้านไร่ ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์มาก ชาวบ้านเชื่อว่ามนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ จึงไม่สามารถฝืนกฎของธรรมชาติ ได้ พวกเขาจะไม่ตัดไม้หรือถางป่าทำไร่ในพื้นที่ลุ่มน้ำ พวกเขาดูแลรักษาภูเขาและป่าไม้ด้วยความเคารพ ชาวเขา เผ่าต่างๆ เช่น ขมุ ลัวะ และเมี่ยน เชื่อว่ามีดวงวิญญาณที่รักษาป่า พื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำของจังหวัดน่านมีเพียง ร้อยละ 14 เท่านั้น จะกระจัดกระจายอยู่ตามหุบเขาในอำเภอต่างๆ ชุมชนตามที่ราบลุ่มเหล่านี้จะใช้ระบบการทดน้ำท้องถิ่น ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อการเกษตร ทุกปีเครือข่ายชุมชนที่ใช้ระบบการประปาร่วมกัน โดยเฉพาะ ไทลื้อ ลาวพวน จะร่วมกันจัดงานสักการะดวงวิญญาณที่ เฝ้าดูแลรักษาป่าแม่น้ำที่เป็นเสมือนเส้นเลือด ของชาวน่านคือ แม่น้ำน่าน มีต้นกำเนิดจากดอยขุนน้ำน่าน ตำบลขุนน่าน อำเภอบ่อ เกลือ ซึ่งจะไหลขึ้นเหนือไป ทางอำเภอทุ่งช้าง ก่อนจะไหลลงใต้ ไปยังอำเภอปัว, ท่าวังผา, เมืองน่าน, เวียงสา หลังจากนั้นจะไหลลงไปยัง จังหวัดอื่น คือ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และ พิจิตร จึงไปรวมกับแม่น้ำยมที่อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ และ แม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากน้ำโพ นครสวรรค์ ร้อยละ 40 ของลำน้ำน่านนั้นหล่อเลี้ยงลำน้ำเจ้าพระยา ความเกี่ยวดอง กันด้วยศรัทธาในพุทธศาสนา วัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความหวงแหนในทรัพยากรธรรมชาติที่มี ร่วมกันทำให้ชาวน่านมีเครือข่ายชุมชนที่เข้มแข็งเรียน รู้ที่จะ อยู่กับความเปลี่ยนแปลงแต่ ยังคงตระหนักถึงความเป็น ตัวเองอยู่เสมอ อันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่าง ยั่งยืน ด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบาย ฉุ่มฉ่ำตลอดปีจึง สามารถ เลือกเที่ยวน่านได้ทุกฤดู ความเงียบสงบเรียบง่ายน่า อยู่ รอยยิ้มของผู้คน วัดวาอารามเก่าแก่ คือ เสน่ห์ของเมืองน่าน
ขอบคุณข้อมูลจาก ไปด้วยกันดอดคอม
ติดตามได้ที่แฟนเพจ Backpacker by Peter / น้าเตอร์ท่องโลก เพราะโลกยังมีสิ่งแปลกใหม่น่าค้นหาอยู่ตลอดเวลา ผมจึงต้องออกเดินทางเพื่อแสวงหาประสบการณ์แปลกใหม่ในหลายรูปแบบ เดินป่า ปีนเขา ท่องเที่ยวธรรมชาติ วัฒนธรรม และนำสิ่งเหล่านั้นกลับมาแบ่งปันผ่านผลงานภาพถ่ายให้กับเพื่อนๆที่มีหัวใจรักการเดินทางเช่นเดียวกัน เพจนี้ต้องการที่จะนำเสนอข้อมูลจากประสบการณ์การเดินทางด้วยตนของผม ที่ดำเนินการเองในทุกขั้นตอน เพราะต้องการเข้าถึงและสัมผัส อย่างลึกซึ้งและผมเชื่อว่าสีสันของการเดินทางไม่ได้เกิดขึ้น ณ ตรงจุดหมายปลายทางเท่านั้นแต่ยังรวมถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดในระหว่างการเดินทาง
อำเภอเมืองน่าน, บ.บวกอุ้ม
บ.ขุนน่าน, บ.เปียงซ้อ
ทะเลหมอกตอนเช้า ฟ้าระเบิด บ้านสะจุก บ้านสะเกี้ยง
วัดพระธาตุเขาน้อย,วัดพระบรมธาตุแช่แห้ง,วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร,ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์,การแข่งขันเรือยาว
