59 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

สวัสดีครับทุกท่าน

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา แอร์เอเชียได้ทำการบินเส้นทางใหม่เป็นเส้นทางที่ 6 ของปีนี้ จากเชียงใหม่บินตรงสู่มาเก๊า เราจะพาทุกท่านไปชมเที่ยวบินปฐมฤกษ์และเที่ยวชมมาเก๊ากันครับ

เริ่มกนจากเคาท์เตอร์เช็คอินสนามบินเชียงใหม่ มีติดป้ายต้อนรับเที่ยวบินใหม่ด้วย

เครื่องออกเวลา 16.15 น. เรามาเช็คอินประมาณบ่ายสองโมงครึง วันนี้เต็มทุกที่นั่งครับ

.

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แต่เนื่องจากไม่มีสัมภาระ เลยไปเช็คอินผ่านตู้ Kiosk จะได้ Boarding Pass เป็นแผ่นยาวๆเหมือนไปเช็คอินที่เคาท์เตอร์

อย่าลืมนำไป Verified ที่เคาท์เตอร์ก่อน และรับใบตม.มาด้วย เสร็จแล้วก็ไปรอที่เกทกัน

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ขึ้นเครื่องกันครับ วันนี้เราบินไปกับ HS-ABS ซึ่งมาประจำการอยู่ที่เชียงใหม่ได้ซักพักนึงแล้ว

นั่งประจำที่เรียบร้อย เครื่องก็แท็กซี่ไปเรื่อยๆ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ตอนนี้ที่สนามบินเชียงใหม่กำลังมีการสร้างแท็กซี่เวย์เพิ่มด้วยครับ

เทคออฟไปทางใต้ ก่อนเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปยังมาเก๊า

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

หลังจากสัญญาณรัดเข็มขัดดับลง พนักงานก็เดินแจกใบตรวจคนเข้าเมืองของมาเก๊า

หลังจากนั้นก็เข็นรถบริการอาหารสำหรับ Prebook

ไฟลท์นี้ Prebook ไว้เป็น Special Menu ประจำเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ซึ่งก็คือข้าวอบชีส พร้อมทั้งโค้ด 1 กระป๋องและคิทแคท ในราคา 139 บาทครับ ลองเทียบหน้าตาอาหารจากในเมนูและของจริงกัน

สำหรับข้าวผัดมีรสชาติเค็มๆของชีส ถือว่าอร่อยเลยครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

กล่องเดียวยังไม่อิ่มครับ เลยขอลองอีก 1 เมนู ทูน่าห่อด้วยแผ่นทอทิลล่า

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ทานอิ่มแล้ว หลายๆคนเลือกที่จะนอนหลับกันครับ

แต่เนื่องด้วยเป็นเที่ยวบินพิเศษปฐมฤกษ์ ก็แจกใบประกาศนียบัตรเหมือนหลายๆเส้นทางที่เปิดใหม่ครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เวลาประมาณ 20.00 น. ตามเวลามาเก๊าซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง เครื่องบินก็ลงสู่ท่าอากาศยานมาเก๊าเป็นที่เรียบร้อย

หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าเป็นที่เรียบร้อยก็มุ่งหน้าสู่โรงแรมเพื่อพักผ่อนก่อนจะไปตะลุยเมืองมาเก๊าในวันพรุ่งนี้ครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

หลังจากนอนพักกันเต็มอิ่ม ตื่นมาทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว วันนี้เราพาไปชมเมืองมาเก๊ากันครับ


เริ่มด้วยสถานที่แรก "วัดอาม่า" มาถึงแล้วคนเยอะพอสมควรครับ เนื่องจากทัวร์มาลงค่อนข้างเยอะ


อาม่า หรือที่คนไทยเรียกว่าเจ้าแม่ทับทิม เป็นเทพธิดาแห่งท้องทะเล ตามตำนานเล่าว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งต้องการข้ามฝั่งมายังคาบสมุทรเอ้าเหมิน(เมืองมาเก๊าในปัจจุบัน) แต่ไม่มีเรือลำไหนรับเลย จนกระทั่งมีเรือลำเล็กๆของชาวประมงลำหนึ่งรับเธอมาด้วย แต่แล้วได้เกิดพายุอย่ารุนแรงขึ้น เรือหลายๆลำต้องอับปางลง แต่เรือที่เธอโดยสารมาด้วยแม้จะเป็นเรือลำเล็กกลับมีปาฏิหาริย์ที่สามารถเข้าฝั่งอย่างปลอดภัยโดยไม่เป็นอะไรเลย เมื่อก้าวถึงฝั่งเธอก็ได้ลอยขึ้นและหายตัวไป ชาวประมงทั้งหลายจึงเชื่อว่าเธอคือเทพธิดาแห่งท้องทะเล แต่เรียกดินแดนตรงนั้นว่า "อา มา เกา" ซึ่งแปลว่า อ่าวของของอาม่า ก่อนจะเพี้ยนมาเป็นมาเก๊าในปัจจุบัน

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ที่หน้าหอสวดมนต์นั้น มีการเจาะเป็นช่องใหญ่ๆตรงกับรูปปั้นอาม่า เพื่อให้ผู้ที่เดินเรือสามารถขอพรจากอาม่าเพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินเรือ

ซึ่งบริเวณนั้นจะมีอ่างทองเหลืองใบใหญ่ๆ มีความเชื่อว่าหากข้อพรเสร็จแล้วให้เอามือไปถูที่หูอ่าง หากน้ำกระเด็นยิ่งมากแปลว่าพรที่ขอนั้นจะยิ่งสัมฤทธิ์ผล

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ภายในบริเวณวัด มีรูปเรือที่แกะสลักอยู่บนหินอยู่หลายลำ มีความเชื่อว่าเพื่อให้อาม่าได้ออกไปช่วยผู้เดินเรือที่ประสบภัยในทะเลได้

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

โดยภายในวััดจะมีองค์อาม่า 3 องค์จะต้องเดินขึ้นบันไดไปนิดนึงเนื่องจากวัดอยู่ริมภูเขา

ซึ่งระหว่างทางเดินทางเดินขึ้นไปก็มีพระพุทธรูปให้สักการะอยู่ตลอดทาง

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

วิวที่มองจากบนที่ตั้งขององค์อาม่าด้านบนสุด อีกฝั่งทะเลคือจูไห่ ประเทศจีน

Attached Thumbnails

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ที่ต่อไปที่เราจะไปกันคือ วัดเจ้าแม่กวนอิม เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13

สังเกตบันไดทางเข้าวัดมีทั้งหมด 8 ขั้น เนื่องจากชาวมาเก๊าเชื่อว่าเลข8เป็นเลขมงคล

Attached Thumbnails

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ผ่านประตูเข้าไป มีรูปของพระศรีอาริยเมตตรัยโพธิสัตว์ติดอยู่ หลายๆคนเข้าใจว่าคือพระสังกัจจายน์เนื่องจากมีรูปร่างที่อ้วนเหมือนกัน


พระศรีอาริยเมตตรัยคือพระโพธิสัตว์ รอที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ถัดไป
ส่วนพระสังกัจจายน์ เป็นพระเถระในนิกายเถรวาท ถือเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง

ข้อแตกต่างของพระทั้ง 2 องค์หากเห็นรูปคือ พระสังกัจจายน์จะมีขมวดผมแบบเม็ดพระศกอยู่บนศีรษะแต่พระศรีอาริยเมตตรัยไม่มี และพระสังกัจจายน์ห่มจีวรเฉียง มีมีสังฆาฏิพาดไหล่ แต่พระศรีอาริยเมตตรัยครองจีวรเปิดด้านหน้า

Attached Thumbnails

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ทางด้านซ้ายและขวาของประตู มีรูปปั้นของท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ คอยปกปักรักษาวัทั้งสี่ทิศ ประกอบด้วย ท้าวธตรัฐมหาราช ท้าวเวสสุวัณมหาราช ท้าววิรูปักข์มหาราช และ ท้าววิรุฬหกมหาราช

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เข้าไปแล้วจะเห็นกระถางธูปใบใหญ่ตั้งเด่นอยู่ด้านนอก เนื่องจากวัดเป็นอาคารไม้จึงไม่อนุญาตให้ปักธูปภายในวัดซึ่งอาจเกิดอันตรายได้


ตรงบันไดที่ไกด์ยืนอยู่ตรงนั้น กำลังอธิบายถึงสิงโต ตามความเชื่อคือถ้าอยากได้อะไรให้มาอธิษฐานขอที่สิงโต
ผู้ชายลูบตัวเมีย ผู้หญิงลูบตัวผู้ โดยให้เอาล้วงมือเข้าไปลูบลูกแก้วในปากสิงโต 3 รอบแล้วมาลูบจากหัวไปที่อวัยวะเพศ

แต่เนื่องจากลูกแก้วที่อยู่ในปากสิงโตเป็นหินเช่นกับตัว เวลาแกะสลักจึงต้องแกะมาพร้อมกัน ไม่สามารถแกะตัวก่อนแล้วยัดลูกแก้วเข้าไปได้
จึงอนุโลมให้ลูบตัวอยากเดียวก็พอ เนื่องจากอาจทำให้เขี้ยวหักได้

Attached Thumbnails

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ภายในวัดจะมีโถงหลักอยู่ 3 โถง

โถงแรก จะมีองค์พระประธาน 3 พระองค์ (พระประธานของไทยจะมีแค่องค์เดียว) คือพระพุทธเจ้าในอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต
โถงที่สอง คือหออายุวัฒนะ ซึ่งประดิษฐานองค์พระศรีอาริยเมตไตรย พระพุทธเจ้าองค์ต่อไป

โถงที่สามคือโถงด้านในสุด ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมในชุดเจ้าสาว ซึ่งการไหว้ จะต้องไหว้เจ้าแม่กวนอิมเป็นองค์แรก แล้วออกมาไว้พระที่สองโถงด้านหน้า

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ตรงบริเวณโถงเจ้าแม่กวนอิม มีต้นไม้มัดใจอยู่ 2 ต้น ต้นหนึ่งสำหรับผู้ชายมาผูกมัดใจผู้ชาย อีกต้นสำหรับผู้ชายมัดใจผู้หญิง

วิธีง่ายๆคือเขียนชื่อ วัดเกิดคนที่ต้องการมัดใจ ไปผูกโดยด้ายหรือเชือกแดง ดูจากต้นไม้แล้วว่าต้นไหนสำหรับผู้หญิงหรือผู้ชาย



ด้านหลังของต้นไม้นั้นจะเป็นภาพนูนต่ำ สังเกตดีๆจะเห็นมังกรอยู่ 2 ตัว แต่จะนูนออกมาแค่ตัวเดียว เมื่อใดที่มังกรออกมาพร้่อมกัน 2 ตัว เมื่อนั้นอาจะเกิดภัยพิบัติได้

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ขอปิดท้ายด้วยบริเวณสวนหลังวัดครับ ซึ่งเป็นบริเวณของสุสาน (แต่ไม่ได้ถ่ายให้เห็นครับ)


นอกจากเป็นวัดแรกในมาเก๊าแล้ว ความสำคัญของวัดนี้คือเป็นที่ลงนามสนธิสัญญา Wanghia ระหว่างจีนและสหรัฐอมริกา เมื่อปีค.ศ.1844 ด้วย (สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ wikipedia)

Attached Thumbnails

•