149 replies to this topic

[Trooperz]

Advertisements

สวัสดีสมาชิกชาว Hflight ทุกท่านครับ

Trooperz กลับมาพบกับท่านผู้อ่านกันอีกเช่นเคยนะครับ

วันนี้ขอฉลองบอร์ดรูปแบบใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม กับเส้นทางเดิมๆ แต่มีอะไรใหม่ ที่ไม่เหมือนเดิมแน่นอนครับ

หลังจากที่ผมได้ปล่อยรีวิวขาไปมานานกว่า 1 เดือน ครึ่งแล้ว คารวนี้มาชมรีวิวขากลับกันบ้างครับ

ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากว่า ผมได้ทำการสำรองที่นั่งกับโปรโมชั่นยอดฮิตของ Airasia ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ในเส้นทาง BKK –KUL – KBV – BKK ครับ แต่เมื่อเวลาใกล้เดินทางเข้ามาถึง ผมเกิดเปลี่ยนใจที่อยากจะอยู่ที่ KUL ต่อ จึงตัดสินใจทิ้งตั๋ว KUL-KBV-BKK ทิ้ง แล้วหาตั๋วซื้อตั๋วใหม่ครับ โชคดีมากที่ผมได้ตั๋ว Oneway Ticket ของ Lufthansa ในราคาที่ถูกมากๆครับ เพียง 2015 บาท เท่านั้น แต่การเดินทางของผมในครั้งนี้ก็มีอุปสรรคเกิดขึ้นอีกจนได้ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกับประเทศนี้ มาเที่ยว 4 ครั้งเจอแต่เรื่องแปลกๆทั้ง iPod หาย และ เจอลูกหลงแก๊สน้ำตาของม๊อบกลางกรุงกัวลาลัเปอร์ และ ล่าสุดกับเหตุการณ์ที่ทำให้ผมมีประสบการณ์ใหม่ๆในครั้งนี้

ว่าแล้วก็ไปติดตามกันเลยดีกว่าครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นในทริปนี้ ทำไมผมถึงใช้เวลาเดินทางจาก KUL – BKK ถึง 2 วัน 1 คืน ? แล้ว ทำไมผมถึงได้นั่ง TG กลับ ทั้งๆที่ซื้อตั๋วของ LH ไปหาคำตอบกันได้เลยครับ

[Trooperz]

Airlines : Lufthansa

Flight : LH783

From : Kuala Lumpur International Airport ( KUL )

To : Suvarnabhumi International Airport ( BKK )

Date : 07 March 2012

Departure Gate : C14

Boarding Time : 20.55 hrs.

Actual Time of Boarding : 20.55 hrs

Departure Time : 21.30 hrs

Actual Time of Departure : Cancelled

Arrival Time : -

Actual Time of Arrival : -

Arrival Gate : -

Aircraft : Boeing 747-400

Registration : D-ABTC

Name : -

Plane Age : 22.4 years

Class : Economy Class

Seat : 46A

PS. Boeing 747-430M : Photo by Andrew Compolo from Airliners.net

[Trooperz]

ก่อนการเดินทาง ผมได้ทำ Web Check-in ผ่าน Application ของ LH สำหรับ iPhone ไว้แล้วครับ ซึ่งหน้าตาของ Application ตัวนี้มีดังนี้ครับ

ซึ่งเมื่อเรากรอกข้อมูลของเราลงไป ก็จะมีข้อมูลเที่ยวบินที่เราเดินทางปรากฏขึ้นดังรูปครับ

โดยทางสายการบินได้สุ่มที่นั่งให้ผมแล้วครับ เป็นหมายเลขที่นั่ง 35A ถ้าหากเราต้องการจะเปลี่ยนที่นั่งก็สามารถทำการเลือกที่นั่งใหม่ได้โดย tap เข้าไป Chang Seat ครับ


จากนั้นก็จะมีแผนผัง Seat Map ของเที่ยวบินนั้นๆ มาให้เราเลือกครับ ซึ่งจะมีหน้าตาแบบนี้

[Trooperz]

เมื่อทำการเลือกที่นั่งเสร็จแล้วก็จะต้องกรอกข้อมูล Passport ของเราครับ

หลังจากทำการกรอกข้อมูล Passport เสร็จแล้วก็จะมีข้อมูลของ E-Boarding Pass ส่งมาให้เราครับ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ครับว่าจะให้ส่งมาเราเข้าช่องทางไหน ?

และนี่คือข้อมูลเที่ยวบินของเรา เพื่อยืนยันการเดินทางครับ

[Trooperz]

หน้าตาของ E-Boarding Pass ครับ ประกอบไปด้วยข้อมูลเที่ยวบิน, QR Barcode , Seat และ ข้อมูลอื่นๆๆครับ

[Trooperz]

สำหรับวันนี้การเดินทางของผมเริ่มต้นด้วยรถบัสเจ้าประจำในเส้นทาง KL Sentral – KLIA ครับ สนนราคาที่ 10 ริงกิต

จากนั้นก็เดินจากชานชลารถบัสขึ้นมาที่ชั้น 2 เพื่อไปยัง Main Terminal ครับ

Main Terminal ของ KLIA มี 5 ชั้นนะครับ ซึ่งชั้น 5 เป็นพื้นที่ของ Departure Hall

[Trooperz]

Lift ของที่นี้จะมีให้บริการอยู่ 2 จุด โดยหันหน้าเข้าหากันครับ โดย Lift ที่มีสัญลักษณ์ KLIA Express แบบนี้ เป็น Lift ที่ลงไปยังสถานี KLIA Express โดยไม่แวะจอดที่ชั้นอื่นๆ ซึ่งหากต้องการจะใช้ไปยังชั้น 4,3 หรือ 2 ต้องไปใช้อีก Lift อีกตัวที่อยู่ตรงข้ามกันครับ (แค่หันหลังก็เจอแล้ว)

Zone นิทรรศการประวัติความเป็นมาของ KLIA ครับ

World’s Best Airport !!! ไม่แน่ใจว่า KLIA เคยได้รางวัลนี้รึปล่าว? ใครทราบบ้างครับ?

[Trooperz]

Monitor แสดงเที่ยวบินของที่นี่ครับ หลากหลายสีสันมาก ดูแล้วปวดตาจริงๆ

ไม่ไหวแล้ว ใช้กล้องถ่ายรูป Zoom ดูเที่ยวบินของเราชัดๆดีกว่าครับ

Salamat Datang KLIA !

[Trooperz]

ผ่าน Check-in Counter ของ TG ครับ ไม่คิดว่าจะมี โอกาสได้มาใช้กับเค้าด้วย

สำหรับ Check-in Counter ของ LH จะประจำอยู่ที่ Low K นะครับ

บริเวณ Check-in Counter ครับ

[Trooperz]

ช่อง Check-in สำหรับผู้โดยสาร First Class, Business Class และผู้โดยสารที่ถือบัตร Gold ของสายการบินในเครือ Star Alliance ครับ ซึ่งระหว่างที่ผมถ่ายรูปนี้อยู่นั้นทางพนักงานของ LH ก็กวักมือให้เข้ามา Check-in ในนี้ครับ ผมบอกว่าผมเป็นผู้โดยสาร Y Class นะ เค้าก็บอกเข้ามาเลย ไม่เป็นไร สบายเลยครับ !! เนียน Check-in ในช่อง Business Class เลย

สำหรับ Check-in Counter ของผู้โดยสาร F Class และ C Class ค่อนข้างโล่งครับ

ซึ่งวันนี้ผมใช้บริการ Check-in ที่เคาท์เตอร์ K2 ครับ

[Trooperz]

ในขณะที่ผู้โดยสารท่านอื่นๆ ยังคงใช้บริการ Check-in ที่ช่อง Check-in ตามปกติ



วันนี้ Check-in กับพี่พนักงานท่านนี้ครับ ไม่พูด ไม่จา ยิ้มอย่างเดียว



ถัดจาก Check-in Counter ของ LH เป็น Check-in Counter ของ QR ครับ

[Trooperz]

ดูนาฬิกาแล้ว ยังมีเวลาเหลือเฟือครับ ผมเลยเดินไปยังสุดอาคารครับ จากจุดนี้มองออกไปเห็นเขตพื้นที่ก่อสร้าง KLIA2 ครับ ซึ่งสร้างไว้เพื่อรองรับการเติบโตของ Airasia ครับ

ใกล้ๆกันนั้นมี B737-400 ของเจ้าถิ่นจอดข้างกันอยู่ 2 ลำครับ

Secret Recipe ต้นตำหรับของร้านขนมชื่อดังในไทยอยู่ที่นี่ครับ

[Trooperz]

สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆภายในสนามบินครับ

ตอนแรกที่เห็นผมนึกว่าเค้าเข้าคิว ตม. กัน แต่ที่จริงแล้วเป็นญาติของผู้โดยสารที่เดินทางไปทำงานยังต่างประเทศครับ

เมื่อเห็นดังนั้นก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อยครับ จะสังเกตุได้ว่า พอลงมาด้านล่างแล้ว ตม. โล่งมากครับ

[Trooperz]

มองย้อนกลับขึ้นไปจากที่เราลงมาเมื่อกี้ครับ

จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ Security Check Point ครับ

จากนั้นก็เดินตามป้ายนี้เพื่อไปยัง Concourse C ครับ

[Trooperz]

ผ่านร้าน Chocolate

Highlight ที่สำคัญของ KLIA คือ ที่นี่จะมีโมเดลเครื่องบินจำลองมากมาย หลากหลายขนาด หลากหลายสายการบินเลยครับ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นสายการบินที่ให้บริการมายังสนามบินแห่งนี้ครับ ดูกันเพลินเลย สำหรับคนที่ชื่นชอบเครื่องบินแบบผม

[Trooperz]

จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่สถานี Aero Train ครับ เพื่อเดินทางต่อไปยังอาคาร Satellite Terminal

บรรยากาศด้านนอกครับเริ่มมืดแล้ว

ผ่านเครื่องบินหลากหลายรูปแบบ

[Trooperz]

และนี่คือหน้าตาของเจ้า Aero Train ครับ

บรรยากาศร้านค้าภายในสนามบินครับ

สำหรับอาคาร Satellite Terminalนั้น ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้บริเวณตรงกลางของอาคารมีลักษณะโปร่งเพื่อจัดทำเป็นป่าดิบชื้นจำลอง ซึ่งเป็นลักษระภูมิประเทศอันโดดเด่นของเอเชียตะวันออกฉียงใต้ครับ

[Trooperz]

ภายในประกอบไปด้วยพืชพันธุ์นานาชนิด รวมทั้งมีการจำลองเสียงสัตว์ป่า และ มีน้ำตกจำลองครับ ที่สำคัญ !! ห้ามแอบเข้ามาสูบบุหรี่ในนี้นะครับ

น้ำตกจำลองครับ

[Trooperz]

ต้นไม้นานาพันธุ์

จากนั้นก็ออกมาด้านนอกครับ เจอกับตู้ Web phone เจ้าตู้นี้สามารถส่ง SMS ได้ฟรีนะครับ ที่สุวรรณภูมิก็มี ตอนฝึกงานผมโดนเพื่อนส่ง SMS จากตู้นี้มาแกล้งอยู่บ่อยๆ

[Trooperz]

ระหว่างนั้นผมก็เดินสำรวจดูเครื่องบินไปเรื่อยๆครับ เริ่มที่ B777-200ER ของเจ้าถิ่น

ตามมาด้วย A330-300

B777-200ER อีก 1 ลำครับ