57 replies to this topic

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

Advertisements

เอาหล่ะ รถมาถึง Shin-Osaka เรียบร้อย เป้นอันสิ้นสุดการเดินทางกับเจ้า Haruka ครับ ...

การเดินทางอื่นๆ และเรื่องที่พักขอยกไปไว้ในกระทู้อื่นนะครับ

เที่ยวขากลับไปสนามบินคันไซ ..... ใช้บริการรถไฟบริษัท Nankai ครับ
จุดเริ่มต้นที่สถานี Namba แต่เราขึ้นที่สถานี Nankai Shin-Imamiya ซึ่งติดกับสถานี JR Shin-Imamiya นั่นเอง

ราคาขากลับไปสนามบิน 890 เยนถูกที่สุดละครับ
สามารถเลือกนั่งรถไฟสูงสุดคือขบวน Airport Express ซึ่งจอดน้อยสถานีที่สุด (อย่าได้เผลอไปนั่งพวก Local เชียวนะครับ จอดกันเบื่อเลยหล่ะ)

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ต้องอธิบายนิดนึง เกี่ยวกับรถไฟของบริษัท Nankai ครับ

รถไฟที่วิ่งอยู่มีหลายประเภทมากๆ ตอนแรกผมก็แอบงงเหมือนกัน
รู้แต่ว่า ถ้าใครที่ใช้ Kansai Thru Pass หรือซื้อตั๋วราคา 890 เยนมา
จะมีขบวน Limited Express สองขบวนเป็นขบวนต้องห้ามครับ (คือบัตร Kansai Thru Pass สามารถใช้ขึ้นได้เหมือนกันแต่ต้องจ่ายเพิ่ม 500 เยนและต้องจองที่นั่งล่วงหน้านะ)

ความต่างก็จะตามราคาครับคือ ....
เจ้า Limited Express (Rapit และ Southern) เป็นขบวนที่มุ่งหน้าสู่สนามบินแบบจอดน้อยสถานีมากๆ (ให้นึกถึง Airport Link ของไทยแบบ Express นะครับ)
ในขณะที่ Airport Express จะจอดเยอะกว่า มีที่นั่งแบบหันหน้าเข้าหากันเหมือนรถไฟฟ้าทั่วๆ ไป (ให้นึกถึง Airport Link สาย City Line นะครับ)
เหมือนกับพวกๆ Semi-Express และ Local ซี่งพวกนั้นจะจอดสถานีเยอะกว่ามากๆ จอดกันจนเบื่อ นานกว่าจะถึง
จึงแนะนำให้ดูว่า ขบวน Express มากี่โมง ก็ขึ้นขบวนนั้นนะครับ

ดูได้จากภาพประกอบ สายที่เรานั่งได้สูงสุดคือสายสีส้ม Airport Express ส่วนสายสีเข้มๆ Rapit และ Southern ไม่สามารถนั่งได้
และดูเวลารถเข้าสนามบิน ในแต่ละชั่วโมง ตามสีของแต่ละขบวนเลยครับ ถ้าเราจะนั่ง Airport Express ก็ดูตัวที่เป็นสีส้มเข้าไว้ ตัวอื่นไม่ต้องสนใจ

ตรงชานชลาจะมีบอกด้วยครับว่าขบวนที่กำลังจะเข้ามาเป็นขบวนอะไร จะได้ไม่ขึ้นผิดขบวนครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

รอไปเรื่อยๆ นะครับ เจ้า Rapit มาแล้ว กระจกบานใหญ่เชียว แต่เรานั่งไม่ได้นะครับ
หัวรถอย่างกะเจได ...

ตามติดด้วยเจ้า Southern ที่นั่งมาแบบนี้ เราก็นั่งไม่ได้เช่นกัน เฮ่อ

จนสุดท้าย หน้าตาแบบนี้คือคุณค่าที่คุณคู่ควร ในราคา 890 เยน ก็ต้องนั่งแบบนี้หล่ะครับ
(อย่างว่าหล่ะ มีแซวกันเองว่า ไปอย่างราชากลับอย่างยาจก ขามานั่ง Haruka ขากลับนั่ง Nankai แบบบ้านๆ เพราะตังค์หมดแล้ว เหอๆ)

ยืนกันเมื่อยหลายสถานีเหมือนกันนะเนี่ยะ ถ้าอยากนั่งตั้งแต่ต้นทาง แนะนำขึ้นที่สถานีต้นทาง Namba จะดีที่สุดครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

กว่ารถจะว่าง ได้นั่งก็ต้องผ่านไปเกือบๆ ครึ่งทางครับ ต้องทำใจนะ You get what you pay

ผ่านไปราว 40 นาทีจากตัวเมืองโอซาก้า เราก็มาถึงละครับ สนามบินคันไซ
เสียบตั่วเพื่อออกจากสถานีไปได้เลย (ตั่วจิ๋วๆ แบบนี้เสียบทางไหนก็ได้นะครับ เครื่องกลับด้านเองให้เรียบร้อยเจ๋งจริงๆ)

บ้ายบายทั้ง Nankai และ JR
คราวหน้าปีหน้าใบไม้แดง ถ้ามี Cebu Pacific จัดโปรฯ มาหนักๆ จะขอบิน BKK-MNL-KIX อีกซักรอบนึงนะ

ของแอร์เอเชียเอ๊กซ์ ตรงไป North Wing ได้เลยครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เข้าตัวอาคารขึ้นไปชั้นขาออกได้เลยครับ

เคาน์เตอร์เช็คอินแอร์เอเชียเอ๊กซ์อยู่ Row A ฝั่งซ้ายสุดของอาคารเลย ....
จะมีช่องอยู่ 3 กลุ่มคือ ช่อง Premium 1 ช่อง

ช่อง Internet Check-in 3 ช่อง
และช่องเช็คอินปกติ 2 ช่อง

ที่แปลกคือ ช่อง Internet Check-in คิวแอบยาวเหมือนกันแต่เค้าก็เคลียร์ได้เร็ว
ที่สำคัญ สัมภาระทุกชินจะต้องถุกชั่งน้ำหนัก และติด Tag กระเป๋าครับ ผู้โดยสาร 1 คนถือของขึ้นเครื่องได้คนละ 2 ชิั้น (บางทีถุงช๊อปปิ้งอาจหยวนให้เป็นชิ้นที่ 3)
ได้บอร์ดดิ้งพาสแบบฉบับ ANA มาโลด ....

ตรงไปผ่านด่าน ตม.ได้เลย คิวไม่ยาวมากแต่ก่อนผ่าน ตม. จะต้องเจอกับด่าน Security ก่อนก็ตรวจเข้มเหมือนกันนะครับ
เมื่อหลุดเข้าไปได้ก็จะเป็นดินแดนดิวตี้ฟรี แต่ด้วยความที่ไฟล์ทขาออกเหลืออยู่แค่ไม่กี่ไฟล์ท ร้านก็เลยปิดกันเงียบเลย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เรียกขึ้นเครื่องที่ Gate 6 North Wing ก็ต้องขึ้นรถไฟฟ้าไปเช่นเคยครับ ... (โปรดเผื่อเวลาไว้ด้วย)
การบินไทยเรียกที่ Gate 5 Gate ติดๆ กันเลย ...

ทั้ง 2 ไฟล์ทมีคนไทยเหมือนกัน แต่การแต่งกายและลักษณะท่าทาง บ่งบอกได้ชัดเจนว่า คนไทยคนนั้นบินกับเจ้าไหน เหอๆๆ
ถ้ามาแนวคุณป้าหิ้วหลุยส์ ทำผมทรงไลอ้อนคิงส์หล่ะก็ ไม่บอกก็รู้ ว่านั่งอะไร ....

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

อยากเข้านะ แต่... คิดว่าคงต้องสั่่่งสมบารมีอีกเยอะ ...

เงียบเหงาๆ เพราะมีการบินไทยเป็นไฟล์ทปิดสนามบินครับ

สำหรับน้ำดื่มในตู้กด ที่สนามบินคันไซคิด 150 เยนนะครับ ถ้าซื้อในตู้แช่ที่ร้านเค้าขาย 160 เยน
ดังนั้นจึงแนะนำว่าไปซื้อบนเครื่อง ขวดละ 3 ริงกิตประหยัดกว่าเยอะเลยครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

แป๊บเดียวได้เวลาขึ้นเครื่องละครับ

วันนี้เราจะได้เจอกับ ป้า A330-300 ลำนี้ 9M-XAA น่าจะมีอายุมากที่สุดในฝูงบินแอร์เอเชียทั้งหมดในปัจจุบันเลย
ด้วยเป็นเครื่อง A330-300 ลำแรกที่ได้รับมอบมาก่อนที่จะมาเปลี่ยนที่นั่งเป็นแบบใหม่ อายุอานามป้าเห็นว่าราว 17 ปีแล้ว
จุดเด่นของป้าคือ ป้าจะใช้เครื่องยนต์ที่ไม่เหมือนชาวบ้านเค้า และลายของป้าจะมีจุดหมายปลายทางของแอร์เอเชียอยู่ ...

Boarding ตรงตามเวลาเป๊ะครับ ไฟล์ทนี้คนไม่เยอะมาก นั่งกันได้แบบหลวมๆ อย่างน้อยน่าจะมีที่ให้เราไปนอนยาว 3 ที่บ้างหล่ะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

รอซักพักหนึ่ง ....

กัปตันประกาศ Ready for Departure ที่นั่งว่างข้างๆ เป็นของเรา อิอิ
เห็นมีหลายๆ คนโดยจับแยก ก็เริ่มมองหาที่ใหม่ๆ ไปนั่งด้วยกันนะครับ



เครื่อง taxi ไปทางทิศใต้ เห็นแก๊งค์โลว์คอสต์น้อง Peach จอดอยู่ ปีหน้ามี Jetstar Japan (JQ+JL)
และ AirAsia Japan (AK+NH) ไม่แน่ใจว่าจะเริ่มบินเมื่อไหร่นะครับ ข่าวเดิมบอกว่าเริ่มบินสิงหาคมนี้
ซึ่งถ้า AirAsia Japan เปิดบินเส้นทางอินเตอร์อย่าง NRT-HKG หรือ NRT-MFM คิดว่าคนไทยเราสามารถบิน BKK-HKG ไปต่อเครื่องที่ฮ่องกง ก็น่าจะสะดวกดีเหมือนกันครับ

เครื่องก็ออกจากสนามบินคันไซ .... ขึ้นทางเหนือแล้วก็ตีโค้งซ้าย บ้ายบายเมืองโอซาก้า ...
(ในภาพวิ่งขึ้นทางทิศใต้นะครับ ของไฟล์ทที่ผมนั่งวิ่งขึ้นทางเหนือ)

พอเครื่องไต่ระดับได้ ... แอร์ก็หยิบแซนวิชใส่ถาดมาเดินไล่แจกผู้โดยสารที่ Pre-book แซนวิชไว้ทันที
เข้าใจว่าแซนวิชนี้น่าจะทำออกมาจากมาเลย์ครับ ราคาขายเลยเท่ากันทั้งไฟล์ทขาไปและขากลับ
เตรียมบอร์ดดิ้งพาสไว้ให้พร้อม แล้วทีนี้เราก็จะเห็นแล้วหล่ะว่าสติ๊กเกอร์ตัว E หรือตัว S มีความสำคัญอย่างไร

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

หลังจากที่ซัดแซนวิชกันคนละชิ้นก็ได้เวลางีบหล่ะครับ ...
แต่ก่อ่นงีบเกิดอยากกินมาม่าขึ้นมา รู้สึกมาม่าแม๊กกี้้ถ้วย ราคา 6 ริงกิตจากมาเลย์ น่าจะเป็นอะไรที่เวิร์กสุดแล้ว
เพราะข้าวแกงเขียวหวานก็มี แต่ราคา 39 ริงกิตเกินจะรับไหว (ทั้งๆ ที่อารมณ์นั้นอยากอาหารไทยมากๆๆๆๆๆ)
ถามว่ารสชาติเป็นไงมั่ง ผมว่ามาม่าของไทยอร่อยโดนใจกว่าเยอะครับ

ต่อไป แอร์เค้าจะขาย Duty Free ก็ให้เค้าขายไปเพราะซักพักก็ปิดไฟนอนยาว

หิวน้ำแบบสุดๆ เลยครับ ซื้อน้ำมาขวดนึงยังไม่พอ ก็ต้องควัก 3 ริงกิตไปอีก
จึงแนะนำว่า อาหารตระกูลมาม่า ข้อเสียคือมีผงชูรสทำให้หิวน้ำหนักยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงครับ

ตื่นเช้ามาก่อนเครื่องลงชั่วโมงกว่าๆ แอร์ก็จะเปิดไฟ ใครใครเคลมอาหารก็เอาบอร์ดดิ้งพาสไปแจ้งแอร์ได้เลย แอร์จะเตรียมอาหารมาให้
อย่างเซ็ท All-Day Breakfast ผมเอาบอร์ดดิ้งพาสไปให้แอร์ แอร์ก็หายไปราว 20 นาทีกลับมาพร้อมอาหารและกาแฟร้อนในถาดแบบนี้

ภายในเป็นแพนเค้กครับ รสชาติก็โอเคพอไหว คิดว่าไฟล์ทออกจากกัวลาลัมเปอร์จะคุ้มกว่า จ่าย 10 ริงกิตเท่ากันแต่ออกจากมาเลย์ได้อาหารตระกูลไข่ มีไส้กรอกด้วย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เครื่องร่อนลงจอดที่สนามบิน KLIA กัวลาลัมเปอร์เวลา 5.10 น. พอดีๆ
ถึง LCCT อันคุ้นเคยแล้ว มีความรู้สึกว่าเหมือนถึงเมืองไทยแล้วยังไงอย่างงั้นเลย
บนเครื่องก็ประกาศเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาบาฮาซ่ามาเลเซีย และภาษาญี่ปุ่นตามลำดับ

ได้เวลาโบกมือบ้ายบายแอร์เอเชียเอ๊กซ์แล้วครับ
ปีหน้าฟ้าใหม่ มีโปรโมชั่นแรงๆ คงจะได้เจอกันอีก
ตอนนี้ไปออสเตรเลีย และ ญี่ปุ่น เกาหลี มาแล้ว เสียดายที่ปิดยุโรป กับนิวซีแลนด์ไป

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า แอร์เอเชียเอ๊กซ์เค้าอยากจะบินไปไหนอีกนอกเหนือจากนี้ (ใจจริงอยากให้เค้าแบ่ง A330 มาให้ FD ซักสี่ซ้าห้าลำ ก็จะดีมากๆ เลย)
โปรที่คุ้มค่าที่สุด คือโปรฯ เปิดเส้นทางครับ

ปล. คุณแอร์ยิ้มเก่งดีครับ ไฟล์ทขากลับเจอลูกเรืออินโด ส่วนไฟล์ทขาไปเจอลูกเรือคนไทยด้วย แต่ไม่ได้คุยกันครับ
(ดูสัญชาติลูกเรือได้จากป้ายชื่อ ซึ่งที่ต้องมีแน่ๆ คือมาเลย์ กับจุดบินปลายทาง เช่นในไฟล์ทนี้มีลูกเรือญี่ปุ่นอย่างน้อย 1-2 คน และนอกนั้นอาจเป็นชาติอื่นๆ)
บินแอร์เอเชียเอ๊กซ์แล้วเจอลูกเรือไทย ผมคิดว่าเป็นอะไรที่น่าดีใจมากๆครับ ดูเค้าจะเทคแคร์คนไทยด้วยกันได้ดีด้วย
อย่างคราวที่แล้วพี่แอร์ไทยเอากาแฟมาให้ถึงที่นั่งเลย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ได้เวลาต่อเครื่องกลับเชียงใหม่ครับ มีเวลา 1.50 ชั่วโมง ทันสบายบรื๋อ

เหมือนช่อง Fly-Thru ยังไม่เปิดแฮะ .... เช้าไปหรือเปล่าเอ่ย

และก็รับกระเป๋าไปโหลดใหม่ กระเป๋าลูกเรือมาก่อน มีเจ้าหน้าที่ยกตั้งรอไว้เรียบร้อย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เคาน์เตอร์เช็คอินและโหลดกระเป๋าไปเชียงใหม่อยู่ที่ช่อง R7 ต้องดูจากบนหน้าจอในสนามบินก่อนนะครับ
ก่อนเข้าไปโซนนั้นก็ต้องสแกนกระเป๋าก่อน (ตอนที่มาต่อเครื่องเอ๊กซ์ ไม่ต้องสแกนกระเป๋าแฮะ)

โหลดกระเป๋าเสร็จ ตรงไปที่ Gate โลดดด

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

หน้า Gate ผู้คนมากมาย มีเวลาให้นั่งหลับได้อยู่พักนึง
ดังนั้นการต่อเครื่องราวๆ 2 ชั่วโมงที่ LCCT กำลังสบายๆ เลยครับ ไม่ต้องรอนานเกินไป
แต่ข้อเสียก็คือ ถ้าไฟล์ทแรกดีเลย์มาก็อาจจะได้ลุ้นกันเหนื่อยหน่อยล่ะครับ

ตรงเคาน์เตอร์ติดกับ Gate คอกกัก T14-T18 จะมีเคาน์เตอร์ให้ Verify บอร์ดดิ้งพาส
สำหรับผู้โดยสารที่ไม่มีสัมภาระ ก็ต้องมาแวะ Verify ที่นี่ก่อนครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

หุ หุ หุ

รอพักนึงก็ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว .... เดินไปซะไกลเลย
บนหน้าจอจะมีบอกว่าขึ้นเครื่องที่ Bay หมายเลขอะไร
วันนี้เราต้องไปถึง Bay F74 ฝั่งภายในประเทศนู้นนน เดินกันแบบว่าไกลพอสมควรเลยครับ

ข้อเสียของ LCCT คือเดินค่อนข้างเยอะ บางทีต้องเดินผ่านรถลากกระเป๋า รถฯลฯ มากมายจนบางทีเหมือนอาจไม่ค่อยปลอดภัย
แต่ส่วนตัวผมชอบครับ ได้เห็นเครื่องบินเยอะดี เหอๆ ตรงทางแยกต่างๆ ก็จะมีเจ้าหน้าที่บอกว่า ทางนี้ไปไหน
เชียงใหม่ๆๆๆ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ตรงหน้าทางขึ้นเครื่องมีการตรวจบอร์ดดิ้งพาสอีกรอบนึงนะครับ
ดังนั้น ระหว่างเดินโปรดถือบอร์ดดิ้งพาสไปด้วย ....

วันนี้เจอเจ้า 9M-AHS สภาพยังใหม่เอี่ยมอยู่

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ไม่ได้ขึ้น AK มานานพอสมควร และไฟล์ท AK ที่ขึ้นก็มักจะเป็น KUL-CNX นี่หล่ะครับ ....

มีน้ำมะพร้าวขายด้วยลูกละ 10 ริงกิต หรือ 100 บาท เอ่อ ... จะขายได้ไหมเนี่ยะ แอบหนักด้วย

อาหาร pre-book ของ AK แต่ละรายการดูน่าสนใจทั้งนั้นเลยครับ รสชาติอาหารโดยรวมคิดว่าไม่น่าจะผิดหวัง
แต่ก้ไม่รู้ว่า ผัดไทยแบบมาเลย์ๆ ซึ่งเป็นเมนูของเดือนนี้ รสชาติจะเป็นอย่างไร ...

แป๊บเดียวก็ได้เวลาออกเดินทางแล้ว ... ออกก่อนเวลาเสมอ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ได้เวลาออกเดินทาง ฟ้าเริ่มจะสว่างพอดี เกือบ 7 โมงเช้ามาเลย์ ฟ้ามืดอยู่เลย ...

เครื่องไต่ระดับได้ เราก็เบิกอาหารกัน คราวนี้จัดหนักจริงๆ เยอะมากกกก

วันนี้สั่งสิ่งนี้มาครับ อิ่มแบบด่วนๆ ในราคา 7.9 ริงกิต
หน้าตาละม้ายคล้ายอาหารของบางกอกแอร์เวย์ส ขนมปังแข็งๆ ที่เคยเสิร์ฟเมื่อหลายเดือนก่อน

หน้าตาแม้จะดูไม่ค่อยผ่าน แต่รสชาติดีจริงๆ ครับ ขนมปังเย็นๆ แต่ไส้รวมๆ แล้วโอเคเลย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ส่วนอันอื่นๆ ... มีสตูว์เนื้อ และ นาซีเลอมัก ครับ ...
เจ้านาซีเลอมัค ผมคงไม่กล่าวถึงเพราะรสชาติเหมือนบนแอร์เอเชียเอ๊กซ์ (มาจากครัวเดียวกัน)

แต่สตูว์เนื้อ ผมว่าผมก็ชอบอยู่ครับ รสชาติโอเคแต่บางท่านที่ไม่ชอบแนวเครื่องเทศๆ อาจจะไม่ชอบก็เป็นได้

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

หนังท้องตึง หนังตาหย่อน .. ถึงเชียงใหม่

เป็นอันจบทริปยาว ย๊าว ยาว ...... ครับ

คราวหน้า ปีหน้าเจอกันนะ เชียงใหม่-มาเก๊า

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 
•