30 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

สวัสดีครับ

รีวิวนี้เป็นภาคต่อของการเดินทางไปยังประเทศศรีลังกาในเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เส้นทางกรุงเทพฯ-โคลอมโบ ซึ่งเริ่มทำการบินตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมาและเราได้ทำรีวิวเที่ยวบินนี้ให้ทุกท่านได้ชมกันแล้ว ตามไปชมกันก่อนได้ที่

เหินฟ้าข้ามทะเล บินปฐมฤกษ์ สู่เมืองลังกา กรุงเทพ-โคลอมโบ กับแอร์เอเชีย

ส่วนในรีวิวนี้เราจะเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยว ไปชมว่า ศรีลังกา มีอะไรดีกันบ้าง โดยรีวิวนี้เป็นตอนแรกครับ เราจะพาไปรู้จักกับกรุงโคลอมโบและศรีลังกากันแบบคร่าว แล้วก็พาไปไร่ชา ผลิตภันฑ์เลื่องชื่อของศรีลังกา และพาไปเมืองตากอากาศบนภูเขาชื่อประหลาด นูเวอระ เอลิยา Nuwera Eliya ที่มาแล้วอาจไม่นึกว่านี่คือศรีลังกาแต่เหมือนกับว่านี่คือเมืองเล็ก ๆ กลางภูเขาริมทะเลสาบในยุโรป และตามหานางสีดา ทศกัณฑ์ และหนุมานจากมหากาพย์รามายนะที่ชาวลังกาเชื่อว่ามีอยู่จริงที่นี่

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สนามบินโคลอมโบบันดาราไนยเก สนามบินนานาชาติแห่งเดียวของประเทศศรีลังกา(ในตอนนี้) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงโคลอมโบเมืองหลวง เมืองธุรกิจ และเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศห่างไปราว 30 กิโลเมตร

จริง ๆ แล้วรัฐบาลศรีลังกา สถาปนาเมืองหลวงใหม่ชื่อว่า ศรีชัยวรเทนปุระ-โกตเต เมื่อปี 2525 เพื่อใช้เป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการเป็นเมืองราชการ แต่จริง ๆ แล้วเมืองศรีชัยวรเทนปุระ-โกตเต หรือเรียกสั้น ๆ ว่าโกตเต ก็ตั้งอยู่แถบชานเมืองของโคลอมโบไม่ห่างไปนักราว 5 กิโลเมตร ก็เหมือนว่าเป็นเมืองเดียวเชื่อมต่อกันนั่นแหละ แค่มีย่านหนึ่งเป็นย่านที่ทำการของรัฐบาล ที่ตั้งของรัฐสภา แต่ว่าสถานทูต หรือสำนักงานขององค์การระหว่างประเทศหลายแห่งยังคงตั้งอยู่ในตัวเมืองโคลอมโบเดิม

ตอนนี้เราก็กำลังเดินทางจากสนามบินเข้าสู่กรุงโคลอมโบ ถนนหนทางในศรีลังกานั้นค่อนข้างแคบแต่โครงสร้างยังดีอยู่ เพราะสร้างไว้ตั้งแต่สมัยอังกฤษปกครองเสียส่วนใหญ่(ปี 2358-2491 แต่ก่อนหน้านั้นศรีลังกาก็ถูกโปรตุเกสและดัตช์ปกครองมาก่อน รวม ๆ แล้ว 3 ประเทศนี้ก็ครองศรีลังกาอยู่ราว ๆ 500 ปี)ถนนจากสนามบินไปโคลอมโบ มีรถเยอะแต่แคบ(เส้นนี้แทบจะดีที่สุดในประเทศแล้ว)ระยะทางราว 30 กม. ทำให้ใช้เวลาเข้าเมืองราว 45 นาที - 1 ชั่วโมง

Attached Images

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ศรีลังกาหน้าตาเป็นประเทศแขก เพราะชนพื้นเมืองที่นี่้คือชาวสิงหลและทมิฬ ซึ่งก็คือชาติพันธุ์หนึ่งของชนในชมพูทวีปหรือเอเชียใต้ (ที่คนไทยเรียกรวม ๆ กันว่าแขก หรือแขกดำ อันหมายรวมถึง อินเดีย ศรีลังกา บังคลาเทศ และอาจเลยไปถึงเนปาล) แต่ที่แตกต่างกับประเทศอื่น ๆ ในแถบเอเชียใต้ก็คือ แม้คนศรีลังกาจะเป็นแขก แต่เป็นแขกที่เป็นพุทธเป็นส่วนใหญ่ และเป็นพุทธเถรวาทเหมือนประเทศไทยด้วย (หากใครเคยจำได้สมัยเรียนหนังสือมัธยม จะเคยได้ยินว่า พระจากลังกามาเผยแพร่ศาสนาในสุโขทัยและอยุธยา และพระจากไทยก็เคยไปฟื้นฟูศาสนาในลังกา) ที่สำคัญคือพุทธเถรวาทนิกายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศศรีลังกาเรียกว่านิกายสยามวงศ์ สยามที่หมายถึงประเทศไทยนั่นแหละครับ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นเดี๋ยวเราค่อยเล่าให้ฟังตอนที่ไปถึงเมืองแคนดี้ ในภาคต่อไปละกันนะครับ

แต่ที่กล่าวมายืดยาวเรื่องนี้ก็เพราะว่า ประชาชนชาวศรีลังกาจะแสดงออกถึงความศรัทธาในศาสนาค่อนข้างมาก เช่นการสร้างพระพุทธรูปไว้ตามที่ต่าง ๆ อย่างเช่นตั้งแต่เราลงเครื่องบินก็เจอพระพุทธรูปองค์ใหญ่หน้าตม. หรือตามสี่แยก ตามหน้าปากซอย

นอกจากศาสนาพุทธซึ่งมีคนนับถือราวร้อยละ 70 ของประเทศแล้ว หากชุมชนไหนเป็นชาวคริสต์ก็จะมีการนำรูปพระเยซูหรือพระแม่มารีมาไว้ตามปากซอยบ้านเช่นกัน(มีชาวคริสต์ราว 6) ส่วนฮินดูเขาก็จะมีเทวาลัยของเขาอยู่แล้ว(ฮินดูร้อยละ 7) คงจะมีแต่ศาสนาอิสลามที่ไม่นับถือรูปเคารพจึงทำให้ไม่เห็นการแสดงออกในลักษณะนี้(อิสลามร้อยละ 7)

Attached Images

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

โคลอมโบ เมืองใหญ่ที่สุดของศรีลังกามีขนาดไม่ใหญ่โตนักครับ ย่านกลางเมืองจริง ๆ นั้นมีประชากรแค่ราว 700000 คน แต่ถ้านับรวมบริเวณปริมณฑลของกรุงโคลอมโบซึ่งกินพื้นที่ในสามอำเภอแล้วก็จะมีประชากรราว 6 ล้านคน

โคลอมโบตั้งอยู่ริมทะเลครับเป็นเมืองท่าสำคัญมาตั้งแต่อดีตครับและเจริญเติบโตมาจากการที่มีท่าเรือ ตึกสูงในโคลอมโบมีไม่มากมายนักครับ

ภาพแรกสุดคือศาลาว่าการเมืองโคลอมโบ

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ถนนในโคลอมโบและอาคารรัฐสภาหลังเก่า

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ส่วนนี่คืออาคารที่จัดประชุมกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดหรือ NAM

ชายหาดของกรุงโคลอมโบที่เรียกกันว่า Gal Face

ห้างคาร์กริล ห้างเก่าแก่ของโคลอมโบตั้งแต่สมัยอาณานิคมอังกฤษ

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

อีกเรื่องหนึ่งของศรีลังกาคือในอดีตหลายคนคงจะเคยได้ยินข่าวการสู้รบระหว่างรัฐบาลศรีลังกาและกล่มกบฎพยัคฆทมิฬอีแลม ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการจะแยกดินแดนทางตอนเหนือของศรีลังกาซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวทมิฬและนับถือฮินดูออกจากประเทศศรีลังกาซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นสิงหลและนับถือพุทธ ซึ่งเขาก็รบกันมานานหลายปี(หลายสิบปี) วันดีคืนดีก็มีการก่อการร้ายตามสถานที่สำคัญต่างๆ จนเรียกว่าจะเป็นสงครามกลางเมือง แต่ว่ารัฐบาลศรีลังกาก็ได้ปราบปรามกลุ่ม Tamil Tiger นี้ได้สำเร็จเมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา (หลังจากเริ่มความไม่สงบกันมาตั้งแต่ปี 2526) ซึ่งหากใครมาศรีลังกาก่อนหน้านี้จะพบว่าการรักษาความปลอดภัยจะเข้มงวดมาก มีทหารตำรวจถือปืน(อาวุธสงคราม)ยืนตามถนนเต็มไปหมด แต่เดี๋ยวนี้เมื่อเหตุการณ์สงบลงแล้วความเข้มงวดก็เริ่มผ่อนคลายลง แต่อย่างไรก็ดีเราก็อาจจะพบป้อมยามทหารตำรวจที่ถือปืนรักษาการแบบนี้ได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการท่องเที่ยวอะไรนัก

Attached Images

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

รถตุ๊กตุ๊กแบบนี้หากใครเคยเห็นภาพจากอินเดียคงจะคุ้น ๆ ใช่แล้วครับ แบบเดียวกับที่อินเดียเลย และนำเข้ามาจากอินเดียด้วย แต่ที่นี่เขาเป็น แทกซี่มิเตอร์เลยนะ

Attached Images

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

มาดูสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในกรุงโคลอมโบกันบ้างสถานที่แรกเราขอพาไปวัดกันก่อน วันนี้ชื่อวัด Gangaramaya หรือคงคารามนั่นเอง เพราะว่าเป็นวัดที่มีอุโบสถตั้งอยู่กลางน้ำ ตามพระไตรปิฏกแล้วนอกจากจะกำหนดเขตพัทธสีมาด้วยใบเสมาแบบที่นิยมกันในประเทศไทยแล้ว ยังใช้น้ำเป็นสิ่งกำหนดเขตพัทสีมาได้อีกด้วย

หากสังเกตให้ดีพระพุทธรูปที่นี่หน้าตาเหมือนพระพุทธรูปในเมืองไทยมากเพราะว่านำเข้ามาจากเมืองไทย หรือมีคณะพุทธศาสนิกชนชาวไทยมาทำบุญถวายให้นั่นเอง ซึ่งมีหลายวัดที่เป็นแบบนี้

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

วัดนี้เป็นวัดที่ใหญ่และสำคัญวัดหนึ่งของกรุงโคลอมโบ ส่วนนี่เป็นการจำลองแบบมาจากบุโรพุทโธในอินโดนีเซียแต่นำพระพุทธรูปแบบไทยมาประดิษฐาน

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

อีกสถานที่หนึ่งที่เป็น Landmark ของกรุงโคลอมโบ คือศาลาเอกราช หรือศาลาประกาศอิสรภาพแห่งนี้ (Independence Memorial Hall) ที่เป็นที่ลงนามในการประกาศเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี 2491 โดยตัวอาคารนั้นสร้างเลียนแบบมาจากท้องพระโรงของพระราชวังในกรุงแคนดี้เมืองหลวงเก่าซึ่งใช้เป็นที่ลงนามยอมอยู่ใต้อาณัติของอังกฤษเมื่ออังกฤษเข้ามายึดลังกาในปี 2358 เมื่อจะประกาศเอกราชเลยสร้างเลียนแบบมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าลงนามยอมเป็นเมืองขี้นที่ไหนก็ประกาศเอกราชในสถานที่ดุจเดียวกัน แต่ว่าศาลาเอกราชที่โคลอมโบนี้ใหญ่โตโอ่อ่าและตกแต่งได้สวยกว่าที่แคนดี้ครับซึ่งเราจะพาไปแคนดี้กันในตอนที่ 2 นะครับ

หน้าศาลาเอกราชเป็นอนุสาวรีย์ของ Don Stephen Senanayake นายกรัฐมนตรีคนแรก หลังประกาศเอกราช

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

วันต่อมาเราขอพาทุกท่านเดินทางออกจากรุงโคลอมโบเข้าไปทางใจกลางเกาะซีลอนหรือศรีลังกากันบ้างหากใครได้ย้อนไปดูรีวิวเที่ยวบินปฐมฤกษ์สู่โคลอมโบของเรา จะเห็นว่าเมื่อเราเข้าสู่เกาะลังกาจะเห็นเทือกเขาสูงอยู่ตรงกลางเกาะ วันนี้เราจะเดินทางขึ้นเขาไปหาของดีของศรีลังกากันต่อครับ

Attached Images

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

อย่างที่บอกไปแล้วว่าถนนที่นี่นั้นดีแต่เล็กครับเพราะสร้างไว้นานแล้ว ทางถนนคดเคี้ยวขึ้นเขา ทำให้การเดินทางสู่เมืองนูเวอระเอลิยาของเราในวันนี้ต้องใช้เวลาราว 6 ชั่วโมงแม้จะมีระยะทางห่างจากกรุงโคลอมโบราว 160 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ก็รวมการแวะรับประทานอาหารและชมไร่ชาระหว่างทางด้วย เพราะแถบเมืองนี้เป็นแหล่งปลูกชาที่สำคัญของศรีลังกา

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ระหว่างเส้นทางจากโคลอมโบไปนูเวอระเอลียานั้นถนนจะสร้างเลียบแม่น้ำเกลานียะ ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับล่องแก่งด้วย อย่างเช่นบริเวณแม่น้ำในเขต Kitulgala ในภาพนี้

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ระหว่างทางก็ผ่านทั้งป่าเขาและเมืองเล็กเมืองน้อยอย่างตอนนี้เราก็ผ่านเมืองกัมโพละ Gampola ซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างทางแยกไปแคนดี้และทางไปนูเวอระเอลิยา

Attached Images

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ก่อนถึง Nuwera Eliya เราจะผ่านไร่ชากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา กินพื้นที่เหนือภูเขาแถวนี้เป็นพื้นที่กว้าง ไร่ชาตรงนี้เป็นของแบรนด์ Mackwood ที่ Labookellie ใกล้ๆ กับเมืองนูเวอระเอลิยา แบรนด์ชายี่ห้อนี้ก็เป็นแบรนด์ชื่อดังของศรีลังกาอีกแบรนด์หนึ่ง

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

โรงงานผลิตชาที่นี่จะมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเพื่อรู้จักกับชาซีลอนและกระบวนการผลิตชา การคัดชาเป็นเกรดต่าง ๆ กันด้วยครับ

จริง ๆ แล้วชาซีลอนนั้นก็ไม่ใช่พืชท้องถิ่นของศรีลังกาหรอกครับ เพราะว่าจริง ๆ แล้วชานั้นเป็นพืชแถบเมืองจีน แต่เมื่อฝรั่งตะวันตกได้ลองชิมชาก็ชื่่นชอบและมีค่านิยมการดื่มชา และก็นำชาจากจีนไปปลูกยังอาณานิคมต่าง ๆ ของตนเอง (ศรีลังกาก็เป็นหนึ่งในนั้น) เพื่อส่งกลับไปให้ชาวยุโรปได้ดื่ม แต่ด้วยลักษณะภูมิประเทศภูมิอากาศที่เหมาะกับการปลูกชาของภูเขาทางตอนกลางของเกาะลังกา ทำให้ชามาปลูกที่นี่มีคุณภาพดี ชาซีลอนก็เลยโด่งดังขึ้นมา กลายเป็นสินค้าอันดับต้น ๆ ของประเทศนี้ไป

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ชมการผลิตชาเสร็จก็มานั่งจิบชาซีลอนชมวิวสวย ๆ ของไร่ชาอันกว้างไกลในและแวกนี้

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

จากไร่ชาเรามุ่งหน้าต่อไปยังเมือง Nuwera Eliya นูเวอระเอลิยา ที่มีชื่อเล่นอีกชื่อหนึ่งว่า นอลาเลีย เมืองนี่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงราว 1800-1900 เมตรเหลือระดับน้ำทะเล จึงมีอากาศเย็นสบายตลอดปีแม้ในหน้าร้อน ในต้นเดือนมีนาคมที่เรามานี้ ตอนกลางวันอุณหภูมิสูงสุดไม่ถึง 25 องศา ส่วนกลางคืนนั้นเป็นเลขตัวเดียวและอาจต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส

เมืองนี้เมื่อครั้งเกาะลังกาตกอยู่ใต้อาณานิคมอังกฤษ บรรดาผู้ปกครองอังกฤษพบว่าในหน้าร้อนนั้นอากาศในกรุงโคลอมโบนั้นร้อนแทบจะอยู่ไม่ได้(ซึ่งน่าจะเป็นความจริงหลังจากเราได้ลองพิสูจน์มาแล้วในกรุงโคลอมโบ) เลยพากันย้ายศูนย์กลางการปกครองมายังเมืองนูเวอระเอลิยาบนเขาสูงแห่งนี้ในช่วงหน้าร้อน(พออากาศเริ่มเย็นค่อยกลับลงไปโคลอมโบ) ในเมืองนี้จึงมีการสร้างอาคารบ้านเรือนสไตล์วิคตอเรียและสไตล์ยุโรปบนภูมิประเทศที่เป็นเนินเขา และก็มีการขุดทะเลสาบไว้กลางเมืองไว้เก็บกักน้ำ แม้อังกฤษจะสิ้นสุดการปกครองลังกาไปกว่า 60 ปีแล้ว แต่บ้านเรือนที่สร้างภายหลังหรือสร้างใหม่ในปัจจุบันของเมืองนี้ก็ยังสร้างสไตล์วิคตอเรียเพื่อรักษารูปแบบสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์เพียงเมืองเดียวในประเทศศรีลังกานี้ไว้ด้วย

Attached Images

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แต่ก่อนจะไปชมบ้านเรือนสไตล์วิคตอเรียที่เพิ่งมาไม่กี่ร้อยปีในเมืองนี้นัั้นขอย้อนเวลาไปสัก 4-5000 ปีก่อน เพราะห่างจากนูเวอระเอลิยาไม่ไกลนัก ชาวบ้านแถวนี้เขาเชื่อกันว่า กรุงลงกา ทศกัณฐ์ หนุมาน และนางสีดา เคยมีอยู่จริงในบริเวณนี้

นอกเมืองนูเวอระเอลิยาไม่กี่กิโลเมตร มีวัดฮินดูแห่งหนึ่งชื่อว่าวัด Seetha หรือวัดสีดา ที่หมายถึงนางสีดาในเรื่องรามายณะ รามเกียรติ์ นั่นแหละ

Attached Images

• 
•