ด้านหลังวัดนี้จะมีร่องรอยบนหินในลำธารที่แปลกประหลาดชาวบ้านที่นี่เลยเชื่อกันว่าไปรอยเท้าของหนุมานและก็เป็นรอยที่หนุมานคุกเข่าขอให้นางสีดากลับไปซึ่งตามเรื่องรามายณะนั้นสถานที่เกิดเหตุการณ์นี้คือชานกรุงลงกา ดังนั้นชาวบ้านจึงเชื่อกันอีกว่ากรุงลงกาในอดีตนั้นนั้นตั้งอยู่ไม่ห่างไกลนักจากจุดนี้ เพราะว่าหินและต้นไม้ในบริเวณแถวนี้มีสีดำซึ่งไปตรงกับในเรื่องรามายณะที่หนุมานเผากรุงลงกาพอดี
แท้ที่จริงแล้วมีความเชื่อมโยมอย่างหน้าบังเอิญหลายแห่งที่ทำให้ศรีลังกาหรือเกาะ"ลังกา" นั้นคล้ายกับว่าจะเป็น กรุง"ลงกา" ของทศกัณฐ์ในเรื่องรามายณะ เช่นในบริเวณที่เป็นอ่าว Mannar ในช่องแคบ Palk ที่เป็นทะเลแคบ ๆ กั้นระหว่างปลายคาบสมุทรอินเดียกับเกาะลังกานั้น (ลองไปดูจุดนี้จากกูเกิลเอิร์ธหรือกูเกิลแมปที่ 9.108877,79.562988) บริเวณนี้เป็นทะเลตื้น ๆ ที่เป็นสันดอนทรายและเกาะน้อยใหญ่เรียงรายทอดยาวจากฝั่งอินเดียไปยังเกาะลังกา เหมือนกับจะเป็นสะพาน (จุดนี้เลยได้ชื่อว่า Adam's Bridge) แต่ว่า ๆ จุดนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า Rama's Bridge หรือสะพานของพระราม เพราะไปตรงกับเรื่องราวในรามายณะที่ตอนที่พระรามจะไปบุกกรุงลงกา และได้เกณฑ์บรรดาลิงสมุนของหนุมาน ช่วยกันถมทะเลสร้างสะพานข้ามไปนั่นเอง นอกจากนั้นแล้วยังมีหลักฐานบางอย่างแสดงว่า บริเวณสะพานนี้เพิ่งจมลงในทะเลไปไม่กี่ร้อยปีหรืออาจจะแค่พันปี โดยก่อนหน้านั้นสันดอนตรงนี้สามารถเดินข้ามจากอินเดียสู่เกาะลังกาได้อีกด้วย
หรือว่า เกาะลังกาที่เรายืนอยู่นี้ จะเป็นกรุงลงกาของทศกัณฐ์ตามมหากาพย์รามายณะโบราณจริง ๆ