43 replies to this topic

[shogun]

Advertisements

สวัสดีครับสมาชิกชาว hflight ทุกท่าน
ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเดินทางไปฉลองปีใหม่ที่ฮ่องกง ครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้งคือได้นั่งเจ้าปลาวาฬ Emirates A380 First class ด้วย โดยไม่ได้ตั้งใจนัก คือผมเพิ่งรู้ตัวว่าว่างช่วงปีใหม่เอาเมื่อเกือบๆ จะสิ้นปีแล้ว เลยว่าจะไปเที่ยวซะหน่อย พอมาดูตั๋วเครื่องบินชั้น economy ก็พากันขึ้นราคากันไปหมดแล้ว จนซื้อไม่ลง เพราะไปฮ่องกงครั้งก่อนๆ ตั๋วก็ไม่แพงขนาดนี้ business class ของสายการบินอื่นก็ราคาแพงจัด ส่วนของ EK ที่ไม่แพงนักก็เต็มแล้ว เลยตัดใจจอง first class ไปเลย ยังไงก็อยากจะลองมานานแล้ว คราวนี้เลยได้โอกาส (เสียตังค์)
นอกเรื่องมานานแล้ว มาเริ่ม review กันเลยดีกว่า

Flight Information
Airline: Emirates
Aircraft: A380-800
Flight: EK384 Bangkok-Hong Kong
Date: December 31,2011 13.15
Seat: First Class Suite 2F

[shogun]

เริ่มด้วยที่ counter check-in สำหรับผู้โดยสาร first class โดยเฉพาะ แต่ตอนไปถึงช่องนี้มีครอบครัวหนึ่งยืนอยู่เกือบ 10 คน แถมมีเด็กเล็กๆ อีก 2-3 คน ถึงกับแอบคิดว่าครอบครัวนี้คงมีอันจะกินพอสมควรเลยเฉพาะค่าตั๋วเครื่องบินไปฮ่องกงทั้งบ้านก็ 2 แสน++แล้ว!! พร้อมกับแอบกังวลว่า flight นี้คงจะไม่สงบเท่าไหร่ถ้าเด็กๆ ไม่อยู่ใน control! ส่วนพนักงานดูงงๆ ตอนผมเดินเข้าไป พร้อมกับถามย้ำว่า "first class หรือเปล่าครับ?" ผมก็คิดในใจว่าตูหน้าไม่เหมือนผู้โดยสารชั้น first class ขนาดนั้นเลยเหรอ? (ประสบการณ์นี้ผมเคยเจอมาแล้วตอนเช็คอิน THAI Royal Silk Class ที่สนามบินฮ่องกง คราวนั้นพนักงานถามย้ำ 2 ครั้งพร้อมกับทำสีหน้าเหมือนแปลกใจเล็กน้อย คงเห็นว่าไม่ได้ผูกไทด์ใส่สูทมั้งหรือไม่ก็หน้าเด็ก ดูไม่น่าจะบินชั้นอื่นได้นอกจากชั้นประหยัด) พอผมตอบว่าใช่พนักงานก็เลยให้ผมไปยืน check-in ในช่องของผู้โดยสารชั้น business class แทน หลังจากเช็คอินเสร็จ หันไปดูก็ถึงบางอ้อว่าเค้าบินชั้น business เฮ้อ! รอดตัวไป นึกว่าจะต้องมีเด็กๆ มาวิ่งไปมาในเคบินซะแล้ว...



เช็คอินเสร็จก็ได้ boarding pass ที่มี lounge invitation อยู่ในตัว กับ fast track passport control

[shogun]

ผ่านตม.มาได้ก็รีบไปที่ lounge ทันที เพราะไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้า เลยต้องไปหาอะไรรองท้องซะหน่อย


ส่วนของ line อาหารไม่ได้ถ่ายมานะครับ เนื่องจากผู้โดยสารค่อนข้างเยอะ เกรงจะรบกวนผู้โดยสารท่านอื่นๆ ส่วนอาหารที่ิเลือกมาก็มีประมาณนี้ กะกินแค่นิดหน่อย ไม่อยากกินอิ่มเกินเดี๋ยวจะทำให้กินอาหารบนเครื่องไม่อร่อย เพราะ request อาหารบนเครื่องไว้เป็น seafood meal กะว่าต้องอร่อยแน่นอน เพราะนี่มัน Emirates first class นะเว้ย!!!

[shogun]

หลังจากกินเสร็จก็ออกมาช็อปนิดหน่อยแล้วตรงไปทีเกททันที พร้อมกับเจอ status แบบนี้ นึกว่ามาสายแล้ว


ฺขึ้นว่า boarding แต่ยังโหลดของกันอยู่เลย


หลังจากรอได้สัก 10 นาทีก็เริ่ม board กัน มุมนี้มุมบังคับ

[shogun]

รูปใน first class cabin ที่คุ้นเคยกัน เพราะมีคนเคยทำไว้หลายรีวิวแล้ว

[shogun]

มาถึง FA ก็แจก slippers กับ eye shades ก่อนเลย


เปลี่ยนรองเท้าเสร็จก็รื้อดูสิ่งของรอบตัว

[shogun]

หลังจากนั้นก็ีมี อินทผลัมกับกาแฟอราบิกมาเสิร์ฟ ปกติผมไม่กินผลไม้แปรรูปอยู่แล้ว แต่พอลองกินแล้วรู้สึกว่าอินทผลัมอร่อย
เข้ากับกาแฟอราบิกมากๆ


บอกกันชัดๆ ว่า flight นี้ไปไหน flight นี้ FA ประกาศว่าเป็น flight สุดท้ายของปี 2011

[shogun]

ระหว่างนี้ก็ดูหนังไปเรื่อยๆ


จะ take-off แล้ว


ลอยแล้ว...อย่างนิ่มนวลมากๆ


รูปนี้จากกล้องใต้ท้องเครื่อง

[shogun]

เมนูอาหาร




บิน first class ทั้งที อันนี้ต้องสั่งเลย


flight นี้สั่ง seafood meal ไป เพราะไม่กินเนื้อวัว ไม่อยากกินแกะ กำลังรอลุ้นอยู่ว่าจะมาเป็นอะไร..
เริ่มด้วย appetizer เป็น smoked salmon & salad


ดูกันชัดๆ เป็น smoked salmon ที่รสชาติแย่มาก เค็มมากถึงมากที่สุด ผิดหวังอย่างแรง ขนาดผมเป็นคนที่ชอบกิน smoked salmon มากๆ ยังยอมแพ้ จานนี้ไม่ผ่าน "_"

[shogun]

ใจก็คิดว่าไม่เป็นไร ยังมี main course อยู่ ฝากความหวังไว้ที่อาหารจานหลักนี่แหละ ว่าคงอร่อยและมีคุณภาพสมกับเป็นเมนูที่เสิร์ฟใน first class และก็ได้ทราบข่าวร้ายว่าทางสายการบินไ่ม่ได้รับ order ของผมว่า request seafood ไว้ แต่ก็พอจะมีอาหาร seafood อยู่ เดี๋ยวจะเอามาเสิร์ฟให้ พอมาเสิร์ฟจริงถึงกับอึ้ง เพราะมันคือข้าวกับพะแนงกุ้ง เอ่อ...คุ้นๆ นะ ใช่เลยมันเป็นอาหารที่เสิร์ฟอยู่ใน lounge เมื่อกี๊เลย ทั้งสีสันและรสชาติที่ทำออกมาแนวจืดๆ แบบให้ฝรั่งมังค่ากิน ใน lounge ผมตักเอามาชิมได้ 2 ตัวก็เลิก ในใจคิดว่าทำไมตรูต้องจ่ายตังค์บิน first class เพื่อมากินอาหารรสชาติแบบนี้วะ...ผิดหวังเป็นครั้งที่ 2 แต่ก็ขี้เกียจเรื่องมากก็เลยกินๆ ไป


ของหวานเป็น custard pudding รสชาติอร่อยดีทีเดียว ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

[shogun]

หลังจากกินเสร็จพร้อมกับความรู้สึกผิดหวังเล็กๆ ก็เลยไปเดินเล่นรอบๆ เครื่องดีกว่า เริ่มจากการไปสำรวจห้องน้ำที่อยู่ด้านหน้าเครื่องทั้ง 2 ด้าน มีห้องอาบน้ำด้วยแต่ไม่ได้ใช้บริการ เพราะเป็น flight สั้นๆ

[shogun]

ด้านหน้าห้องน้ำจะมีบาร์สำหรับผู้โดยสาร first class แต่ flight นี้ว่างเปล่า


หันหลังไปก็จะพบบันไดเพื่อลงสู่ main deck

[shogun]

เดินไปท้ายเครื่อง ผ่าน business class cabin ก็จะเจอกับ lounge สำหรับผู้โดยสาร first และ business class มาสังสรรค์กัน


ขากลับก็สังเกตุเห็นว่าผู้โดยสารชั้น business class มีช็อกโกแลตกับถั่วเสิร์ฟให้กินเล่นๆ ด้วย แต่พอไปถึงทำไมของเราไม่มีหว่า? เลยถาม FA ดูจึงได้มา 1 กล่อง พร้อมถั่ว 1 ถุง แบบว่่าถุงใหญ่ๆ เลย ไม่รู้ว่าเค้าประชดหรือเปล่า แต่ก็ดี เก็บลงมากินต่อข้างล่างได้


ผู้โดยสาร(ที่เป็นฝรั่งซะส่วนใหญ่)ไม่ได้ปิดประตูกันเลย เพราะไม่ได้อยู่ที่นั่งตัวเองพากันไปอยู่ท้ายเครื่องหมด อย่างงี้นั่ง business class ก็เหมือนกันนะ

[shogun]

หลังจากนั้นสัญญาณรัดเข็มขัดก็ติดขึ้น กัปตันก็ประกาศให้ประจำที่พร้อมสำหรับการนำเครื่องลงจอด ดูภาพจากกล้องที่หางก็เห็นรันเวย์ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ


และก็ landing อย่างนิ่มนวล


หลังจากนั้นก็ taxi ไปเรื่อยๆ ช่วง taxi นี้แหละเป็นช่วงที่ชวนปวดเศียรเวียนเกล้ามาก เพราะ cabin first มันอยู่ชั้น 2 และเครื่องมันนิ่มมาก เวลา taxi ไปก็จะรู้สึกโยกเยกๆ เหมือนนั่งในเรือที่มีคลื่นมากระทบตลอดเวลา ถึงกับอยากจะอาเจียน แต่ก็ผ่านมันมาได้จนเครื่องจอดสนิท


ผมขอจบรีวิวเพียงเท่านี้ครับ
ส่วนขากลับไม่ได้ถ่ายอะไรมาเลย เพราะเหนื่อยล้าจากการชอปปิ้งอย่างเอาเป็นเอาตายเลยนอนอย่างเดียว

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมครับ

[Afterburner]

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ น่าเห็นใจนะครับ บินเฟิร์สทั้งทีต้องเจออาหารแบบนี้

[MuteSwan]

ส่วนตัวยังไม่เคยนั่ง EK เลย แต่มีแต่คนบอกว่า Take off & Landing ได้นุ่มนวลทั้งนั้น..

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

[CazukiTezuka787]

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
FC ของ EK น่านั่งจริงๆเลยครับ

[nitinarth]

A6-EDG ลำนี้แหละครับที่ผมนั่งไปฮ่องกงมาเมื่อเมษาปีที่แล้ว คิดถึงจังเลย

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ชาตินี้จะได้มีบุญนั่ง first class หรือ business class กับเค้าบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้

[PER-AVIATION]

ขอบคุณครับผม

[A_340_350]

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับผม