เรายังอยู่ที่ เมืองทิมบุกตู(Timbuktu) มาถึงเมืองที่เคยเจริญรุ่งเรืองในอดิตแล้วจะไม่แวะชม ท่าทางจะมาไม่ถึงนะ! บอกสามีว่า ดีใจที่ได้กลับมาบ้านเก่า มีความรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เมืองทิมบุกตูเมืองเก่า เป็นเมืองไทยก็อยุธยา เมืองเก่าของเราแต่ก่อนอะไรทำนองนั้น ฮิฮิ ตอนแรกบอกตรงๆว่าไม่ค่อยอยากจะไปเลยทริปนี้ แต่พอได้มาแล้วกลับไปดีใจที่ตัดสินใจมานะ มารู้จัก เมืองทิมบุกตู(Timbuktu)กันสักเล็กน้อย ทิมบุกตูเป็นเมืองที่สร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 12 เป็นจุดศูนย์กลางที่กองคาราวานสินค้า 4 สายของโลกอาหรับ ซึ่งในขณะนั้นกินเนื้อที่ตั้งแต่สเปนไปจนถึงตะวันออกกลางเดินทางมาบรรจบกัน ทำให้ทิมบุกตูเป็นสถานที่ที่มีความมั่งคั่ง มากที่สุดของโลกแห่งหนึ่งในยุค นั้น สวยงามด้วยศิลปะแบบ อาหรับ-มุสลิม ในอัฟริกาตะวันตก

ทิมบุกตู ในประเทศมาลีนั้นเข้าสู่ยุครุ่งเรืองที่สุดในช่วงศตวรรษที่15-16โดยเน้น ศูนย์กลางภูมิปัญญาและจิตวิญญาณของศาสนาอิสลามที่แพร่กระจายไปทั่วแอฟริกา
ด้วยมีที่ตั้งอยู่บนชายขอบทะเลทรายซาฮาร่า มีความคล้ายคลึงกับสวนลอยแห่งบาบิโลน1ใน7สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณที่ล่มสลายไป
ทิมบุกตู จึงกลายเป็นเส้นทางการค้าสำคัญของการค้าทอง งาช้าง เกลือ ทาส และสินค้าอื่นๆ ของพ่อค้าชาวเผ่าทัวเร็ก เผ่ามันเด และเผ่าฟูลามี่ ในย่านทะเลทรายซาฮาร่าที่ขนถ่ายสินค้าจากชุมชนมุสลิมในทางตอนเหนือไปลงเรือ ที่นิแจร์ด้วยขบวนคาราวาน
ชื่อทิมบุกตูนั้นบ้งก็ว่ามีรากศัพท์ทางนิรุกศาสตร์มาจากคำพื้นเมือง “ทิน” ซึ่งแปลว่าสถานที่ และคำว่า “บุกตู” ซึ่งมาจากชื่อของหญิงชราชาวมาลีที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น และบ้านของเธอก็เป็นสถานที่ซึ่งพวกเร่ร่อนมักจะนำสิ่งของที่ไม่ต้องการแล้ว มาทิ้งไว้ สถานที่แห่งนี้ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO ในปี1988
พวกเราไป ทิมบุกตู เพื่อไปดูงาน Mali Music Festival ก็ได้แวะไปชม Timbuktou mosque แต่เขากำลังซ่อมแซมก็เลยได้ดูแต่ข้างนอกแต่ก็มีรูปที่อื่นมาให้ดูจ้า