79 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

สวัสดีกันอีกครั้ง

ภาคนี้เป็นภาคต่อตอนที่ 3 ของการเดินทางไป Brussels, Belgium ของทีมงานเอชไฟลท์ สำหรับภาคแรกซึ่งเป็นการเดินทางด้วยชั้น Royal Silk Class ของการบินไทยจากกรุงเทพฯ ไปยังซูริคสามารถไปชมกันได้ที่

HF พาบิน Royal Silk การบินไทยสู่ Zurich TG970 กับ A340-600 : ข้ามทวีปมุ่งสู่ยุโรป จากเมืองไทยไปสวิตเซอร์แลนด์ก่อนต่อไปเบลเยียม http://www.hflight.n...s/topic/7056-hf

ส่วนตอนที่ 2 หลังจากต่อเครื่องจากซูริคมาลงที่บรัสเซลส์ เราพาไปสัมผัสเบลเยียมและบรัสเซลส์ในเบื้องต้น พร้อมเกร็ดเล็ก ๆ เกี่ยวกับการเดินทางในบรัสเซลส์ และก็พาไปดู Land Mark และบ้านเมืองสวย ๆ ของบรัสเซลส์ พาไปพบผู้ชายที่มีสเน่ห์ที่สุดในบรัสเซลส์ ไปเดินเล่นที่จตุรัสที่สวยที่สุดในโลก Grand Place และตามหาของกินอร่อย ๆ ในบรัสเซลส์กันไปแล้วนั้น สามารถชมตอนที่ 2 ได้ที่นี่

HF พาไป Brussels(1) ชม ดู ชิม เมืองแห่งสีสันกับจตุรัสที่สวยที่สุดในโลก : เที่ยว กิน และสัมผัสบรัสเซลส์เมืองหลวงของเบลเยียม http://www.hflight.n...s/topic/7157-hf



สำหรับในตอนที่ 3 นี้เราจะขอพาไปเที่ยวบรัสเซลส์กันต่อ โดยจะเริ่มจากการพาไปชอปปิงที่ตลาดนัด ที่มีของขายหลากหลาย ไปดูฐานอำนาจของสหภาพยุโรปที่ทำให้บรัสเซลส์กล้าบอกกับทุกคนได้ว่า เมืองหลวงเล็ก ๆ แห่งนี้แหละคือเมืองหลวงของยุโรปอันเกรียงไกร จากนั้นก็พาไปเที่ยวทั่วยุโรปทุกประเทศได้ในวันเดียว แล้วยังจะพาไปดูวิธีการทำ "ชอคโกแลต" ว่าชอคโกแลตเบลเยียมที่ดังนักหนานั้นแท้จริงแล้วมันเป็นมาอย่างไร ที่นี่มีต้นโกโก้จริงหรือ ตามไปชมกันเลยครับ

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เอาหละครับ เริ่มต้นเช้าวันใหม่หลังจากผ่านค่ำคืนแรกในเบลเยียมไป ขอพูดถึงเรื่องที่พักในบรัสเซลส์หน่อยละกันครับ ที่พักในบรัสเซลส์นั้นราคาไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับเมืองหลวงอีกหลาย ๆ เมืองของยุโรป โรงแรม 5 ดาวที่นี่หาได้คืนละ 5-6000 บาทต่อคืนได้ไม่ยาก และก็ยังมี Budget Hotel ที่ราคาราว 2-3000 บาท และยังมีที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ในขณะที่เทียบกับปารีส โรงแรม 3 ดาวก็เริ่มที่ 5-6000 บาทแล้วหากเป็นโรงแรม 4-5 ดาวก็เตรียมเงิน 8000-10000 บาทต่อคืนไว้ได้เลย

ในเช้าวันนี้เราจะเดินทางไปชอปปิงสมบัติผู้ดีเก่ายุโรปที่ตลาดนัด Flea Market (Vlooienmarkt) ซึ่งตั้งอยู่ที่ Place du Jeu de Balle ซึ่งหลายคนจะเรียกว่า Sunday Flea Market แต่จริง ๆ แล้วตลาดนี้เปิดทุกวันตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึงบ่ายสอง

ลานที่ใช้เป็นตลาดนัดนั้นตั้งอยู่หน้าโบสถ์ Eglise Notre-Dame Immaculee

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ของที่ขายที่นี่ ก็หน้าตาคล้าย ๆ ตลาดเปิดท้ายขายของบ้านเรา คือนำของมือสอง มือสาม ของเก่าใช้แล้วมาขาย แต่บาวร้านก็ขายของมือหนึ่ง โดยเฉพาะของล้างสต๊อกจากโรงงานหรือร้านค้าต่าง ๆ ที่สำคัญของหลายชิ้นนั้นเป็นของเก่า เป็นงานฝีมือที่ประนีตและสวยงาม ดังนั้นหากใครอยากตามหาสมบัติผู้ดีเก่ายุโรป ในราคาไม่แพงก็ลองมาเดินดูที่นี่ได้

สำหรับเรื่องราคานั้นก็ไม่มีราคาตายตัว ไม่มีฉลาก ของที่นี่ต่อได้ ขอลดได้ (แต่อย่าหวังว่าคนขายบอก 20 ยูโร เราต่อเหลือ 5 ยูโรแล้วแกล้งเดินหนี แล้วเขาจะกวักมือเรียกให้มาซื้อแบบต่อของในเมืองจีนหรืออินเดียนะครับ ไม่ได้ต่อกันขนาดนั้น)

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ที่นี่มีหนังสือเก่า มือสองขายด้วย ราคาลดจากปกไปมากพอสมควร

นอกจากนั้นแล้วยังมีของพวกศิลปะจากแอฟริกาขายอีกด้วย

สำหรับใครที่ได้มาเยือนบรัสเซลส์ แล้วพบว่าที่นี่มีคนเชื้อสายแอฟริกัน หรือหน้าตาละม้ายทางอาหรับอาศัยและทำงานเยอะพอสมควร ก็อาจจะสงสัยว่าทำไม ก็เนื่องจากว่าในยุคล่าอาณานิคมนั้นเบลเยียมเป็นเจ้าอาณานิคมหลายประเทศในแอฟริกา เช่นสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก รวันดา และบุรุนดี

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ไปต่อกันที่ตลาดอีกที่หนึ่ง เดินกันไปได้ไม่ไกลครับที่ Place du Grand Sablon หรือ จตุรัสซาบลอง (Sablon Square) ซึ่งก็อยู่ข้าง ๆ โบสถ์ Notre-Dame du Sablon ที่เราพาไปชมกันเมื่อตอนที่แล้วนั่นแหละครับ

ตลาดนนี้่เป็นตลาดที่ดังเรื่องของเก่า Antique ครับ และรอบ ๆ ก็ยังมีร้านขายของเก่าหลายร้าน แต่สินค้าอย่างอื่นก็มีขายเช่นกันครับ ตัวตลาดโดดเด่นด้วยเตนท์ เขียว-แดง สีสดใส

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ตลาดนี้หาไม่ยาก เพราะว่าอยู่ด้านหลังของโบสถ์ Notre-Dame du Sablon เลยครับแต่ว่าไม่ได้เปิดทุกวันนะครับ เปิดแค่เสาร์กับอาทิตย์ เสาร์เปิด 09.00 - 18.00 น. ส่วนวันอาทิตย์เปิด 9 โมงแต่ปิดแค่บ่ายสองโมง

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ของที่ขายก็อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าเป็นพวกของเก่า กับพวกศิลปะสวย ๆ งานฝีมือต่าง ๆ แต่ก็ยังมีของอย่างอื่นด้วยเช่นแผงดอกไม้ร้านนี้

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ไปนั่งรถชมเมืองบรัสเซลส์กันบ้างดีกว่า

อย่างที่ได้กล่าวไปหลายครั้งแล้วว่า คนบรัสเซลส์นั้น ภูมใจเหลือเกินที่จะบอกกับทุกคนว่า "Brussels is the capital of Europe" หรือบรัสเซลส์ เมืองหลวงเล็ก ๆ ที่ไม่ได้โด่งดังหรือยิ่งใหญ่คับคั่งเท่า ลอนดอน โรม ปารีส หรืออัมสเตอร์ดัม แห่งนี้นั้น คือเมืองหลวงของยุโรป ถึงขนาดที่ว่าสนามบินบรัสเซลส์ Brussels Airport ยกสโลแกนว่า Welcome to Europe เป็นสโลแกนของสนามบิน

นั้นก็เพราะว่า เบลเยียมเป็นหนึ่งในประเทศผู้ก่อตั้ง ประชาคมถ่านหินและเหล็กกล้ายุโรป European Coal and Steel Community ก่อนจะพัฒนามาเป็น ประชาคมยุโรป และกลายเป็นสหภาพยุโรป European Union (EU) ในปัจจุบัน

กรุงบรัสเซลส์เองจึงเป็นที่ตั้งของสถาบันทางการปกครอง บริหารและนิติบัญญัติที่สำคัญของสหภาพยุโรป ไม่ว่าจะเป็น European Commission คณะกรรมาธิการยุโรป,Council of the European Union คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป และ European Parliament หรือสภาแห่งยุโรป

อย่างไรก็ตามสหภาพยุโรปนั้นไม่ได้ประกาศว่าเมืองใดคือเมืองหลวงอย่างเป็นทางการและก็ยังไม่มีแผนเช่นนั้น แต่ในทางความเป็นจริงแล้วบรัสเซลส์เป็นเมืองที่มีที่ตั้งของหน่วยงานต่าง ๆ ของสหภาพยุโรปมากที่สุดและน่าจะได้ชื่อว่าเมืองหลวงของยุโรปมากที่สุด

สถานที่ทำการของสหภาพยุโรปจะอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า European Quarter ในกรุงบรัสเซลส์

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ผู้คนจากประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรปกว่า 40000 คนเดินทางมาอยู่ในบรัสเซลส์ เพื่้อทำงานในองค์กรต่าง ๆ ของสหภาพยุโรปที่ตั้งอยู่ที่นี่ครับ นอกจากนั้นแล้วด้วยความที่องค์กรสำคัญต่าง ๆ ของยุโรปตั้งอยู่ในบรัสเซลส์ เบลเยียม บรรดาประเทศต่าง ๆ นอกสหภาพยุโรปจึงต้องให้ความสำคัญกับบรัสเซลส์เป็นอย่างยิ่ง ทำให้ที่บรัสเซลส์คณะผู้แทนทางการทูตของประเทศต่าง ๆ มากมายจากทั่วโลก เพื่อมาคอยประสานงานและเป็นตัวแทนรัฐบาลของตนต่อสหภาพยุโรป

ภาพแรกเป็นอาคาร กรรมาธิการยุโรป

ภาพล่างเป็นอาคารรัฐสภายุโรป

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ที่บรัสเซลส์ เราจึงสามารถพบผู้นำอันทรงอำนาจของโลกมารวมตัวอยู่พร้อมกันได้อย่างง่ายดาย นอกจากสหภาพยุโรปแล้ว บรัสเซลส์ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่องค์การระหว่างประเทศที่สำคัญอีกหลายแห่งอย่างเช่น NATO หรือองค์การสนธิสัญญาแอตเลนติกเหนือ องค์การด้านความมั่นคงที่สำคัญของโลกอีกด้วย

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เอาหละหลังจากเราไปชมแล้วว่าทำไมบรัสเซลส์ถึงเป็นเมืองหลวงของยุโรป ก็ไปหาอะไรรับประทานกันดีกว่า มื้อเที่ยงวันนี้เราไปกันที่ย่าน Stockel ชานกรุงบรัสเซลส์

ร้านอาหารชื่อว่า Shake-Hands Brasseries

วันนี้ขอชิมลอบสเตอร์หรือกุ้งมังกรจากทะเลเหนือ ราคาครึ่งตัวประมาณ 24 ยูโร ตัวใหญ่ กินคนเดียวอิ่มมาก

พร้อมกับอาหารจานแรกเป็นสลัด เบคอน

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

จากนั้นเราไปพบกับ Landmark ที่สำคัญและโด่งดังอีกแห่งหนึ่งของบรัสเซลส์ นั่นคือ Atomium หรืออะตอมเมี่ยม

อนุสาวรีย์ รูปทรงกลม 12 ลูก เรียงต่อกันเป็นโมเลกุล ซึ่งถอดแบบโครงสร้างโมเลกุลของธาตุเหล็ก

อนุสาวรีย์นี้สูง 102 เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1958 เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของงาน World Expo ในปีนั้น the 1958 Brussels World's Fair

นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปในอะตอมเมี่ยมแล้วขึ้นไปยังยอดในลูกเหล็กเพื่อชมทิวทัศน์กรุงบรัสเซลส์ได้ครับ ค่าเข้าก็คนละ 11 ยูโร แต่เนื่องจากว่าวันที่เราไปฝนตกค่อนข้างหนักและฟ้ามีเมฆมากคิดว่าขึ้นไปก็คงจะไม่ได้ภาพทิวทัศน์ที่ดีนัก เลยขอข้ามไปดีกว่า

รอบ ๆ อะตอมเมี่ยมนั้นปัจจุบันยังมีอาคารที่ใช้เป็นที่ตั้งของการแสดง World Expo ตั้งหลงเหลืออยู่และ Pavilion ของบางประเทศก็ถูกนำไปดัดแปลงเป็นอาคารสาธารณะประโยชน์ต่าง ๆ

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ใกล้ ๆ กับอะตอมเมี่ยมเป็นที่้ตั้งของ Mini Europe ที่นี่แหละครับ มาวันเดียวเที่ยวทั่วยุโรปได้ทุกประเทศ

มินิยุโรป เป็นเมืองจำลอง ตั้งอยู่ในบริเวณ Bruparck

ไหน ๆ บรัสเซลส์ก็ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของยุโรปแล้ว จึงมีการสร้างเมืองจำลองที่นำเอาสถานที่เด่น ๆ ของทุกประเทศในสหภาพยุโรปมาไว้ที่นี่เลย เรียกได้ว่าเป็นหน้าต่างของยุโรปขนาดกระทัดรัด ค่าเข้าชม 13.40 ยูโร

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เมืองจำลองมีโมเดลสถานที่สำคัญ ๆ ของยุโรป 350 แห่ง จาก 80 เมือง โดยสร้างในอัตราส่วน 1 : 25 จากขนาดจริง

เข้ามาถึงก็เจอเลย จำตึกนี้ได้ไหมครับ European Commission กรรมาธิการยุโรป

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

จากศูนย์กลางอำนาจของสหภาพยุโรปเราไปดูสถานที่สำคัญ ๆ ของประเทศอื่น ๆ กันบ้าง

เมืองจำลองที่นี่ไม่ใช่ธรรมดานะครับเพราะว่าเขาใส่กลไกให้เคลื่อนไหวได้ด้วย ทั้งคน รถ เรือรถไฟ และแม้แต่เครื่องบิน

ใครรู้บ้างนี่ประเทศอะไร ใบ้ให้ก็ได้อยู่ในกลุ่มสหภาพยุโรปนี่แหละ (แน่นอนหละ)

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

พวกเรือวิ่งได้นะครับ และก็มีเสียงประกอบด้วยนะครับ เสียดายที่วันที่เราไปฝนตก ก็เลยเป็นยุโรปกลางสายฝนแบบนี้

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ที่นี่ที่ไหนจำได้ไหมครับ

เราเคยพาทุกท่านไปชมมาแล้วในตอนแรก Grand Place หรือจุตรัสที่ตั้งอยู่กลางกรุงบรัสเซลส์นั่นเอง
ตามย้อนไปดูภาพของจริงในภาคที่แล้วได้นะครับ แล้วลองเทียบกันดูว่าเขาจำลองได้เหมือนจริงไหม http://www.hflight.n...s/topic/7157-hf

ส่วนภาพที่สองหลายคนคงรู้จักกันดี Big Ben รัฐสภาและเวสมินสเตอร์แห่งกรุงลอนดอน โดยมีหอไอเฟลแห่งปารีสเป็นฉากหลัง

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

มีแบบจำลองสนามบินด้วยนะครับ โดยสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของเบลเยียมคือ Brussels Airlines และสายการบินนี้ก็เป็นสมาชิกสตาร์อไลอันซ์ ดังที่เรากล่าวไปแล้วในเรื่องที่ว่าเบลเยียมเคยเป็นเจ้าอาณานิคมในแถบแอฟริกา นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สายการบินนี้มีโครงข่ายการบินที่แข็งแกร่งไปยังแอฟริกาตะวันตก และแอฟริกากลาง ถึง 21 เมือง ดังนั้นแล้ว Brussels จึงกลายเป็น Gateway สำคัญอีกแห่งในการเดินทางไปยังแอฟริกาของกลุ่ม Star Alliance สำหรับผู้โดยสารจากเมืองไทยเมื่อการบินไทยเปิดบินตรงกรุงเทพฯ-บรัสเซลส์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ไปแล้ว ก็น่าจะมีทางเลือกเพิ่มขึ้นสำหรับการเดินทางไปยังภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกและแอฟริกากลาง ผ่านสนามบิน Brussels โดย Brussels Airlines

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ที่ป้ายด้านหน้าของประเทศต่าง ๆ ก็จะมีรายละเอียด ชื่อประเทศ เมืองหลวง เนื้อที่ ประชากร สกุลเงินเมื่อเทียบกับยูโรแล้วก็ปีที่เข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป แล้วก็จะมีปุ่มข้างบน

นั่นไม่ใช่ปุ่มระเบิดนะครับ กดแล้วจะมีเสียงเพลงประจำชาติของแต่ละประเทศบรรเลงให้ฟัง

Attached Images

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

จากการชมยุโรปทั้งทวีปในยามบ่ายกลางสายฝนที่ Mini Europe เราไปค้นความลับ ล้วงสูตรเด็ดกับของกินที่เป็นตำนานของเบลเยียม อย่างชอคโกแลต

เรากลับเข้ามาใจกลางกรุงบรัสเซลส์อีกครั้งที่ Zaabar chocolatier+epicier ซึ่งเป็นร้านชอคโกแลตกลางกรุงบรัสเซลส์ ที่เป็น Workshop ให้นักท่องเที่ยวมาเรียนรู้การทำชอคโกแลตได้ด้วย

ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนน chaussée de Charleroi ครับ

Attached Images

• 
•