27 replies to this topic

[- The hoBByist -]

Advertisements

บนถนนสุขุมวิท ถนนสายเศรษฐกิจสำคัญเส้นหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่ ๆ คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ สองฝั่งถนนเต็มไปด้วยอาคารสูง ทั้งโรงแรมและห้างสรรพสินค้า บนฟุตบาทบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ก็เชื้อเชิญลูกค้าให้จับจ่ายซื้อสินค้าของตน ในความวุ่นวายสับสน เร่งรีบในการใช้ชีวิตของคนเมือง ถ้าเราก้าวเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่งบริเวณปากซอย สุขุมวิท 15 เรากลับพบความอบอุ่นและเงียบสงบอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งที่แห่งนี้ก็คือ โรงแรม S15 สุขุมวิท กรุงเทพ

[- The hoBByist -]

ทันทีที่ขับรถเข้าไปบริเวณโรงแรม ก็พบสิ่งที่ทำให้เราตื่นเต้นได้พอสมควรคือ ลิฟท์ที่จะพารถเราไปยังที่จอดรถ (ถึงแม้ว่าจะทราบมาแล้วว่าจะต้องขับรถเข้าไปในลิฟท์ แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดี) สำหรับโรงแรมขนาดไม่ใหญ่นักกับตึกสูงเพียง 8 ชั้น ผมว่าลิฟท์ที่ใช้นำรถไปนี้สามารถตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี



ลิฟท์มี 2 ตัว หลาย ๆ ท่านอาจจะคิดว่าจะน้อยไปไหมถ้ามีแขกเยอะ ๆ ช่วงที่ผมไปพักไม่เจอปัญหานี้นะครับ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นชาวต่างชาติ และปริมาณลูกค้าคนไทยที่ขับรถมาใช้บริการก็ไม่ค่อยมาก



ลานจอดรถของโรงแรมมี 2 ชั้น คือชั้นใต้ดิน (ชั้น และ ชั้น 8 ส่วนข้อจำกัดของรถที่จะเข้าไปใช้บริการลิฟท์นี้คือความสูงต้องไม่เกิน 2 เมตร



เมื่อเรานำรถไปจอดแล้วก็ขึ้นลิฟท์โดยสาร (ของคน) ขึ้นมาที่ชั้น 1 ซึ่งเป็นล็อบบี้ของโรงแรม

[- The hoBByist -]

หลังจากนั้นพนักงานก็เอา welcome drink มาเสิร์ฟให้ ระหว่างที่เรารอพบคุณรุ่งโรจน์ ซึ่งเป็น residence manager ของที่นี่



ป้ายบอกรายละเอียดของแต่ละชั้นว่าเป็น facilities อะไรบ้าง



เมื่อทักทายกับคุณรุ่งโรจน์แล้ว คุณรุ่งโรจน์ก็ให้เกียรติพาขึ้นไปที่ห้องพัก ซึ่งลิฟท์ของ S15 นี้ต้องใช้การ์ดเสียบด้วยถึงจะกดเลือกชั้นได้



หน้าลิฟท์มีเครื่องขัดรองเท้าอัตโนมัติด้วย



บริเวณหน้าลิฟท์ชั้น 6 มีกระจกบานใหญ่ และของประดับจากแผ่นทองแดง

[- The hoBByist -]

ประตูลิฟท์เปิดออกก็จะพบกับภาพนี้



หันซ้าย



หันขวา (ตกลงไปทางไหนดี)



ทางนี้ไม่ใช่แน่ ๆ



ห้องเราอยู่ทางซ้ายครับ ต้องมาทางนี้ เห็นเลขห้องเราแล้ว บริเวณหน้าห้องต่าง ๆ ก็จะติดรูปขาวดำ ดูคลาสสิคดีครับ



ทางโรงแรมจัดให้เราพักห้อง 602 ซึ่งเป็นห้อง Jacuzzi Suite

[- The hoBByist -]

โรงแรม S15 มีห้อง 4 แบบด้วยกันคือ deluxe room, junior suite, Jacuzzi suite และ business suite น่าเสียดายที่ช่วงที่ผมไปพักมีแขกเข้าพักเต็มทุกห้องจึงไม่สามารถไปถ่ายรูปห้องแบบอื่นมาให้ชมกันด้วย ห้อง 602 จะอยู่ด้านหน้าสุดของโรงแรมติดถนน ซึ่งทำให้ห้องนี้น่าจะเป็นห้องที่วิวดีที่สุดห้องหนึ่งของโรงแรม



ขนาดของห้องไม่ใหญ่มาก เนื่องจากอยู่ด้านมุมตึก แต่ก็จัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ไว้ค่อนข้างลงตัว



การตกแต่งใช้สีเอิร์ทโทน พื้น ผนังเป็นสีอ่อน ซึ่งตัดกับเฟอร์นิเจอร์บานประตูที่เป็นสีเข้ม (บนเตียงไม่มีหงส์ซารังเฮโย แต่เป็นกระต่ายน้อยคอยรักแทนนะครับ)



มีดวงไฟไว้บริเวณหัวเตียง 2 ดวง



บริเวณหัวเตียงมีโต๊ะสำหรับนั่งทำงานและอ่านหนังสือ รวมถึงนั่งชมวิวได้อีกด้วย

[- The hoBByist -]

welcome fruit เป็นแอ๊ปเปิ้ล แก้วมังกร และลำไยครับ



complimentary พวกชา กาแฟ กาต้มน้ำ พร้อมด้วยนิตยสาร และหนังสือแนะนำโรงแรมในเมืองไทย (ต้องมี S15 ด้วยอย่างแน่นอน)



กระดาษโน๊ต ดินสอ และโทรศัพท์ก็วางอยู่บนโต๊ะนี้ด้วย



ตู้เสื้อผ้า มีตู้เซฟ ให้ด้วย



ติดกับตู้เสื้อผ้าก็จะเป็นตู้วางทีวี ซึ่งคอบอลก็ต้องผิดหวังอีกเพราะไม่มี true sport ครับ มี star sport กับ ESPN ส่วนสัญญาณภาพช่อง 3,5,7,9 ไม่ค่อยดีครับ มีขาดหายบ้างบางช่วงเวลา อ้อ รู้สึกช่อง 9 จะรับสัญญาณไม่ได้เลยด้วย ด้านล่างของตู้จะเป็นเครื่องเล่นดีวีดี มินิบาร์ และตู้เย็น

[- The hoBByist -]

ดูมินิบาร์กันชัด ๆ ครับ (ราคาจำไม่ได้ครับ จำได้แต่กล่องสีทองกับกล่องสีน้ำเงินครับ กล่องละ 100 บาทถ้วน ถ้าคิดว่าแพง ฝั่งตรงข้ามโรงแรมมีเซเว่นนะครับ)



ดูเครื่องดื่มกันบ้าง



ห้องที่ผมพักเป็นแบบ Jacuzzi suite เพราะฉะนั้นต้องมีดีที่ห้องน้ำแน่นอน ลองเข้าไปชมกันครับ



ห้องน้ำมีขนาดใหญ่ (พอ ๆ กับห้องนอนเลย) แบ่งโซนเปียก โซนแห้ง โดยมีกระจกกั้น มีอ่างล้างหน้า 2 อ่าง จะได้ไม่ต้องแย่งกัน แต่ก๊อกอ่างอันนึงคงเริ่มเสีย เพราะเปิดน้ำแล้วกระเซ็นออกมานอกอ่าง

[- The hoBByist -]

ป้ายเตือนความจำให้เรารู้จักรักษ์โลก



มีน้ำดื่มเป็น complimentary ให้วันละ 2 ขวดครับ



มาถึงไฮไลท์ ของห้อง type นี้ครับ อ่าง Jacuzzi ขนาดที่ผู้ชายสูง 180 หนึ่งคนลงไปนอนแช่กับผู้หญิงท้อง 8 เดือนอีกหนึ่งคนได้สบาย ๆ ครับ 5555



ถ้าไม่ชอบนอนแช่ในอ่างก็มายืนให้ rain shower รดหัวเลียนแบบ MV ตอนกำลังอกหักก็สะใจดีครับ



การที่เราจะดำเนินการธุรกิจอะไรก็ตามแต่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจโรงแรม สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอันดับแรก ๆ คือเรื่องของ ทำเลที่ตั้ง โรงแรมในเครือ S group ทั้ง 3 แห่งไม่ว่าจะเป็น S15, S31 หรือโรงแรมน้องใหม่อย่าง S33 ดูจะได้เปรียบจริง ๆ เพราะตั้งอยู่บนปากซอยสุขุมวิททั้ง 3 ซอย สำหรับ S15 อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าอโศก ช็อปปิ้งใกล้ ๆ ได้ที่โรบินสันสุขุมวิท หาอาหารเกาหลีอร่อย ๆ ได้ที่ Korean Town เยื้อง ๆ ก็เป็นตึก Times square แค่นี้ก็น่าจะเป็นที่พอใจของผู้ที่พิศมัยในแสงสีแล้ว

[- The hoBByist -]

ลองเปิดม่านออกไปดูแสงสีข้างนอกบ้าง เวลาอยู่ในห้องถ้าปิดม่านนี่ไม่รู้กลางวันกลางคืนเลย



ชอบถ่ายรูปช่วงเวลานี้ที่สุด ถึงแม้จะทรมาน (จากความหิว) ที่สุดเหมือนกันก็ตาม 555 แล้วยิ่งเป็นมุมมองจากตึกสูงด้วยผมยิ่งชอบ เสียดายที่ต้องถ่ายผ่านกระจก ทำให้มีแสงสะท้อนพอสมควร



มองมุมเมือง



โรงแรม S15 เป็น 1ใน 3 โรงแรมของ S Group ซึ่งมีคุณสรัญ ลิ้มสวัสดิ์วงศ์ เป็นเจ้าของ อีกสองโรงแรมได้แก่ โรงแรม S31 และ โรงแรม S33 โดยที่โรงแรมทั้งสามจะรองรับลูกค้าคนละกลุ่มกัน S31 เป็นโรงแรม 5 ดาว ; S15 เป็น Boutique Hotel ส่วน S33 เป็น Budget Hotel

[- The hoBByist -]

โรงแรม S15 เป็นโรงแรม 4 ดาว สูง 8 ชั้น มี 72 ห้อง เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2550 เอกลักษณ์อีกอย่างของกลุ่มโรงแรมนี้คือการตั้งชื่อโรงแรมง่าย ๆ โดยใช้เป็นโค้ดแบบนี้เพื่อให้ชาวต่างชาติจำได้ง่าย ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคอร์เปอร์เรต มาจากญี่ปุ่นราว 40% อเมริกา และเอเชีย (ไต้หวัน ฮ่องกง)



หลังจากผมทานอาหารค่ำเรียบร้อยแล้วก็กลับมาปฏิบัติภารกิจ ถ่ายรูปเพื่อรีวิวต่อครับ



ล็อบบี้ เน้นสีผนัง และสีเฟอร์นิเจอร์แบบเดียวกันกับในห้องพัก



ดูกว้างขวาง และโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด

[- The hoBByist -]

การตกแต่งดูเรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่มีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก



มีโปรโมชั่นสปาให้ลูกค้าทราบด้วย



เฟอร์นิเจอร์สีดำ กับงานศิลปะจากแผ่นทองแดงดูไม่น่าเบื่อ



นั่งสังเกตุพนักงาน และแขกที่มีวอร์ก อิน เข้ามาหลายคน ดูพนักงานสนใจเอาใจใส่ที่จะช่วยให้แขกมีที่พักให้ได้ในคืนนี้

[- The hoBByist -]

ดูกันชัด ๆ กับป้ายบอกว่าแต่ละชั้นของโรงแรมมีอะไรบ้าง



บาร์เล็กๆ แขกสามารถสั่งเครื่องดื่มได้



ได้เวลากลับขึ้นไปพักผ่อนแล้วครับ มาอยู่ย่านนี้ทั้งที แต่ไม่มีโอกาสออกไปท่องราตรีครับ ต้องไปอยู่เป็นเพื่อนคุณภรรยาก่อน ช่วงนี้ระดับฮอร์โมนไม่ค่อยปกติ คนกำลังท้องก็แบบเนี้ยะ ขึ้นมาที่ห้องซักพักก็มีพนักงานมาเคาะประตู เพื่อเสิร์ฟน้ำลูกเดือย เป็นเครื่องดื่มก่อนนอน เพื่อให้เรานอนหลับสบาย และรู้สึกผ่อนคลาย เป็นอีกบริการที่ไม่เคยได้รับจากที่อื่นที่ผมเคยไปพัก



เช้านี้เรามีธุระที่จะต้องไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง แต่ก่อนไปขอรองท้องซักนิดกับบุฟเฟต์ที่โรงแรมนะครับ



ห้องอาหารของที่นี่อยู่ชั้น 2

[- The hoBByist -]

การตกแต่งยังคงเน้นเหมือนกับที่ล็อบบี้และในห้องพักครับ



มาดูไลน์อาหารกันบ้าง คงไม่ต้องบอกมั้งครับว่ามีอะไรกันบ้าง ไปดูรูป ประกอบความหิวกันเลยดีกว่า

[- The hoBByist -]

แพนเค้ก มันฝรั่ง และเฟร้นช์โทสท์



เฟร้นช์โทสท์ชุบไข่เยอะมาก



ไส้กรอก แฮม และไข่ลวก (ทีแรกคิดว่าเป็นไข่ต้ม แบบว่าลืมอ่านป้ายอ่ะครับ)

[- The hoBByist -]

ผัดหมี่และผัดผัก







ขอถ่ายตอนปิดฝานะครับ อาจจะไม่เห็นอาหารข้างในแต่ถูกสุขอนามัย

[- The hoBByist -]

โคลด์คัท



ขนมปังหลากชนิด



เค้ก



วันนี้ไม่ได้กินของหวานเลยครับ อิ่มมากกกก

[- The hoBByist -]

สถานีไข่



น้ำผลไม้และนม



ช่วงเช้าแขกยังลงมาไม่เยอะ สงสัยจะยังไม่ฟื้นจากเมื่อคืน



คุณภรรยาชอบมุมนี้ครับ แต่ไม่ได้นั่ง

[- The hoBByist -]

ภาพหลังเป็นตึก S15 แบบซีเปีย



หลังจากอิ่มแล้ว เราก็ไปร่วมงานแต่งงาน พิธีเสร็จใกล้ ๆ เที่ยง เราก็เดินทางกลับมาเพื่อมาทานอาหารกลางวันที่โรงแรมครับ เนื่องจากการเข้าพักครั้งนี้ ทางโรงแรมได้จัดอาหารเพิ่มเติมให้เรา 1 มื้อด้วย
สั่งเครื่องดื่มกันก่อนเลยครับ ของผมเป็นน้ำแตงโมปั่น



ส่วนเธอขอน้ำเปล่า



ตอนเข้ามาที่ห้องอาหารแปลกใจนิดหน่อย เนื่องจากคิดว่ามีบุฟเฟต์ แต่เราเข้าใจผิดครับ เพราะบุฟเฟต์มีเฉพาะวันธรรมดา เท่าที่ทราบมาบุฟเฟต์ที่นี่ก็น่าสนใจ และมีชื่อพอสมควรด้วยความที่อาหารอร่อย และราคาไม่แพง



เราเลยสั่งเป็น a la carte ระหว่างรออาหาร ก็ไปแอบเก็บภาพมาอีก

[- The hoBByist -]

อาหารมาแล้วครับ อย่างแรกเลย ยำเนื้อย่าง รสจัด



ผัดไทกุ้งสด กุ้งตัวใหญ่มากและไม่ได้มีแค่ตัวเดียวเหมือนที่เคยทานที่อื่น



พิซซ่าหน้าแซลม่อนรมควัน เข้มข้นด้วยซอสมะเขือเทศ

[- The hoBByist -]

ไม่อยากจะบอกเลยว่าผมเจแตกก็เพราะอาหารที่นี่แหล่ะครับ 5555 สารภาพกันตรงนี้เลยแล้วกัน (ตั้งแต่มื้อเช้าแล้ว) ตอนสั่งเราคิดภาพว่าจะเป็นอาหารจานเล็ก ๆ เลยสั่งมาตั้งสามอย่าง แต่พอเสิร์ฟมาก็ตกใจจนแทบจะสั่งยกเลิกพิซซ่าไป แต่ไม่ทันครับ เลยต้องทานไปจนหมด ไม่ได้ต้องฝืนอะไรนะครับ อร่อยจนทานไม่เหลือเลย (แถวบ้านเรียกตะกละ)



หลังจากอิ่มท้องแล้ว ก็ถึงเวลาพักผ่อน (ของคนที่มาด้วย) ส่วนเราต้องทำงานครับ เลยขึ้นไปถ่ายรูปที่สปาครับ



ไปกันครับตอนนี้จะพาไปสวรรค์ชั้น 7 เพราะสปาของที่นี่อยู่ชั้น 7



เป็นโชคดีของผมที่ไม่มีลูกค้าใช้บริการสปาอยู่ จึงเก็บภาพได้สะดวกหน่อย