หลังจากที่เครื่องลงมาก็ taxi อยู่นานมาก กว่าจะจอด แล้วก็ไปจอดอยู่ กลางหลุมจอดอีก ไม่ได้เทียบงวง
ยิ่งทำให้เสียเวลาไปอีกครับ เเละการ transit เเบบ นรก กำลังจะเริ่มขึ้นครับ
เมื่อออกจากเครื่องก็นั่ง bus เข้าตัวอาคาร เมื่อเข้าสู่ตัวอาคารได้ก็รีบไปตามป้าย Transit เดินขึ้นบันไดเลื่อนมาก็ตามป้ายไปอีก ก็จะพบกับ counter transit ของ air india
อย่างเดียวเลย ณ จุดนี้ เราต้องเตรียมเอกสารคือ passport เเละ boarding pass ของ flight ที่เพิ่งเดินทางมาเพื่อให้เค้าตรวจ
จริงๆเเล้วที่กรุงเทพควรจะให้ boarding pass มา 2 ใบเเต่ของผม
มีปัญหาที่ระบบ com พอดีเลยได้มา 1 ใบ
พอไปถึง จะมี counter ตรวจเอกสารดักอยู่ก่อน ซึ่งมีผู้โดยสารที่จะต้องต่อเครื่องไป london เเละ Newark ต้องเข้าคิว
ผู้โดยสารที่จะไป Newark มีประมาณ 5 คนจากกรุงเทพ เป็นคนไทย 4 คนรวมผมและเเม่ และ แหม่มอเมริกาอีกคน เท่าที่ผมเห็น
ผมเลยเเจ้งเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่เลยให้ผ่านไป counter ด้านหลังซึ่งเป็น ที่ออก boarding pass ผมมาถึงเป็นคนเเรก แล้วรีบยื่นเอกสารให้ ขณะนั้นเวลา 00.45 น. เครื่องไป Newark ออก 1.30
เชื่อมั้ยครับแขกทำงานเเบบช้ามาก ผมก็กระวนกระวายเเต่เจ้าหน้าที่ทำหน้าเเบบว่าไม่เป็นไร เเละทำงานอย่างใจเย็น ที่ช้าเพราะกว่าท่านจะพิมพ์ข้อมูล
เรียกว่าพิมพ์ไม่ได้ เพราะนั่งจิ้มทีละตัว เเละจิ้มผิดไปหลายรอบจนต้องเรียกคนข้างๆมาช่วย เเถวอื่นก็กระวนกระวายไม่เเพ้กัน บรรยากาศตอนนี้อึมครึมมาก เเหม่มเริ่มโวยวาย คนไทยที่มาด้วยหนีไปอีกโต๊ะนึง
เเต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เพราะช้าเหมือนกัน กว่าจะหลุดจากจุดนี้ใช้เวลา 25 นาที ก่อนออกเจ้าหน้าที่จะถามว่ามีกระเป๋ากี่ใบ ผมตอบว่า 3 ใบ แล้วเค้าจะให้ tag เเบบผูกติดกระเป๋ามาตามที่บอก และผมก็พลาดที่ลืมนับกระเป๋าถือของเเม่กับเป้ตัวเองอีก 2 ใบ เพราะไม่คิดว่าจะมีผลอะไร
จากนั้นก็ต้องรีับไปผ่าน security ด้านหลัง จะเเยกเป็น 2 ฝั่งคือ ชายกับหญิง ชายไปซ้าย หญิงไปขวา การ check ก็เหมือนสนามบินทั่วไป ถอดนู่นถอดนี่ เอากระเป๋า scan
เมื่อ scan เสร็จก็จะมีการประทับตราว่าตรวจเเล้ว แต่เป้ผมไม่มี tag เค้าก็เลยต้องให้ไป scan อีกรอบ เค้าถึงให้ tag มา
จากนั้นผมเดินไปรับเเม่ที่กำลังผ่านเครื่อง x-ray เอากระเป๋ามา ระหว่างนั้นผมก็ถามว่ากระเป๋าเเม่ไม่มี tag ไม่เป็นไรเหรอ เค้าบอกว่าไม่เป็นไรเเละไม่ให้ tag มา
จากนั้นก่อนออกต้องควัก passport ,boarding pass และเอากระเป๋าให้ดู ว่ามีรอย stamp security (เเต่กระเป๋าถือเเม่ผมไม่มีไม่เห็นว่าไรเลย)
พอออกมาก็มาเข้าห้องน้ำ ด้วยความมึนเลยเดินไปที่ gate ที่จะไป London เเล้วเข้าห้องน้ำ
เเม่ไปก่อนเเล้วผมตามมาตอนนั้น 1.25 เเล้ว
เจ่้้าหน้าที่รีบวิ่งมาตาม ผมออกจากห้องน้ำพอดีเค้าก็ รีบเรียกผมกับเเม่ไป ตอนนั้นไปกึ่งเดินกึ่งวิ่งจนมาถึง gate ซึ่งไกลพอสมควรเเต่ไม่มาก
เเล้วเค้าขอดูเอกสาร กับกระเป๋า ปรากฎว่ากระเป๋าถือของเเม่ไม่มี security tag ผมเลยต้องถือวิ่งไปที่ security ใหม่โดยมี air-hostage วิ่งสาหรีปลิวตามมาด้วย
พอมาถึงเเถวก็ยาว เเอร์เลยไปบอกให้เค้าเปิดเครื่อง x-ray กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลา พอได้กระเป๋าก็วิ่งกลับมาที่เดิม
เเล้วตรวจเอกสาร ฉีก boarding pass
เดินจากจุดนั้นก็จะต้องผ่าน เครื่อง X-ray อีกรอบ
แล้วจึงผ่านไปหน้าประตูงวง ที่นั่นจะมีเจ้าหน้าที่ยืนดักอยู่ ดูเอกสารอีกนานมาก ยังกะตม เปิด passport ทุกหน้า
ผมเริ่มหงุดหงิด เลยบ่นๆ เค้าบอกว่าตรวจอย่างนี้ทุกคนพอผ่านมาก็ไปที่ประตูเครื่อง อีก 2 ก้าวก็จะขึ้นเครื่อง ก็มีเจ้าหน้าที่ดักอีก ขอดู passport กับ boarding pass
กว่าจะถึงเหนื่อยมากครับ
นี่เเหละครับประสบการณ์การต่อเครื่องไปอเมริกาที่ MUMBAI
ภาพที่ภ่ายได้ขาไปคือ 2 ภาพด้านล่างระหว่างคุณเเม่เข้าห้องน้ำ