Jump to content



 
จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองรถเช่า
แผนกบริการลูกค้า โทร 02-3737-555 จันทร์ - เสาร์ 09.00-18.00น.

 

ค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวและการบินในเอชไฟล์ท เชิญด้านล่างนี้

หน้าแรก | เว็บบอร์ดรีวิว | จองตั๋วเครื่องบิน | จองโรงแรม | เที่ยวต่างประเทศ | เที่ยวในประเทศ | ลงโฆษณา

HF INSIGHT : porinter สดจาก Sydney ผู้ก่อตั้ง HFLIGHT กับประสบการณ์งานสายการบิน และชีวิตในต่างแดน


  • Please log in to reply
22 replies to this topic

#1 ทีมข่าวHFLIGHT

ทีมข่าวHFLIGHT

    สมาชิก Business Class

  • Moderator Team
  • 9,839 posts

 


Posted 08 August 2011 - 10:34 PM

Advertisements

HFLIGHT INSIGHT
โดย JK..LSKY

สวัสดีครับ กลับมาพบกันทุกเดือนกับคอลัมน์สัมภาษณ์ HFLIGHT INSIGHT ในคอลัมน์นี้ผมเพิ่งมีโอกาสเดินทางไปนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และได้พบกับคุณ porinter หรือคุณป้อ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง HFLIGHT.net ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ซิดนีย์ แต่ก่อนหน้านั้นคุณป้ออยู่ในแวดวงการบินและการท่องเที่ยวมาหลายปี มีประสบการณ์มากมายจากชีวิตพนักงานบริการภาคพื้นหรือ Ground Staff ของสายการบิน รวมไปถึงเรื่องราวของชีวิตคนไทยในต่างแดง กับ 3 ปีที่ต้องไปอยู่ที่ออสเตรเลีย คุณป้อก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับการบินและการท่องเที่ยวของชาวจิงโจ้มาเล่ามากมาย จนผมต้องไปสัมภาษณ์แบบ INSIGHT จากแดนไกล มาให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกัน ไปพบกับเขาเลยครับ

DSC_0001 copy.jpg


ก่อนจะกล่าวถึงชีวิตในซิดนีย์ขอย้อนกลับไปที่เมืองไทยก่อน ก่อนที่คุณป้อจะมาอยู่ที่นี่้ ตอนอยู่เมืองไทยก็ทำงานหลายอย่างในแวดวงการท่องเที่ยว และการบิน เคยเป็นกราวด์สายการบินนกแอร์ พีบีแอร์ เป็นเซลล์อีว่า แล้วก็มีโรงแรม เล่าให้ฟังหน่อยได้หรือไม่ครับ


งานแรกจริง ๆ จัง ๆ ที่ได้ทำในชีวิตหลังจากเรียนจบ ป.ตรี คือเป็น ground staff ของสายการบิน นกแอร์ ประจำท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง ณ เวลานั้น) ต่อมาด้วยตำแหน่ง Agent Sales สังกัตฝ่ายการโดยสาร บริษัท Green Siam Air Services ซึ่งเป็นบริษัทลูกของสายการบิน EVA Airways จนกลับมาเป็น Airline Staff อีกครั้งหนึ่งกับสายการบิน PB Air ประจำอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จนท้ายที่สุดก่อนเดินทางมาเรียนต่อที่ Sydney ผมได้ร่วมงานกับ โรงแรม Bhundhari, Koh Samui (ปัจุบันนี้ได้เป็นส่วนหนึ่งในเครือโรงแรมของ Centara ) ในตำแหน่ง Guest Service Officer รวมทุกงานที่ผ่านมารวมเวลาได้กว่า 4 ปีกว่า ๆ อาจจะไม่มากนักเมื่อเทียบกับหลาย ๆ ท่านที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการนี้ แต่สำหรับผมเวลาไม่ใช่เรื่องสำคัญ รู้แต่เพียงว่าผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากทุก ๆ ตำแหน่งที่ได้ทำ ด้วยความที่สนใจงานด้านนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้ทุก ๆ วันทีผ่านไปมีความสุขมากครับ ได้ทำให้ลูกค้ามีรอยยิ้ม ได้พบเพื่อนร่วมสายอาชีพที่มีความสนใจเหมือน ๆ กัน รวมถึงรายได้ก็อยู่ในระดับที่เลี้ยงตัวได้สบาย ๆ ไม่ลำบากนัก สรุปได้ว่าสายอาชีพนี้น่าอยู่ไม่น้อยสำหรับคนที่รักในงานบริการ

DSC_0008 copy.jpg


มีความรู้สึกอย่างไงกับงานบริการหรือชิวิตในฐานะคนทำงานในแวดวงการบินการท่องเที่ยวบ้าง


จากประสบการณ์ทั้งหมดที่มีมาบนสายงานด้านการท่องเที่ยวและการบริการพบว่างานสายนี้เป็นงานที่ต้องใช้ใจ ซึงเน้นไปทาง service mind และ common sense เป็นส่วนใหญ่ งานบริการเป็นงานที่ต้องทำงานกับความรู้สึกและความพอใจของลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาปล่าว ไม่สามารถสัมผัสได้ แต่เราสามารถวัดผลของมันได้จากปฏิกริยาโต้ตอบและการซื้อซ้ำของผู้รับบริการ ผมมองว่างานทางด้านการท่องเที่ยวในบ้านเรายังมีพิ้นที่ว่างอยู่อีกเยอะ ด้วยความที่บ้านเราเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงลำดับต้น ๆ ของโลกอยู่แล้ว เพียงแต่อยากจะเน้นว่างานสายนี้อาจจะไม่ยากนักสำหรับคนที่มีใจให้การบริการแต่มันก็ไม่ได้ง่าย เพราะความสำเร็จและความท้าทายของงานมักจะแฝงอยู่ในทุก ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างที่เรากำลังให้บริการกับลูกค้า รวมไปถึงการก้าวกระโดดเพื่อมองไปให้ถึงจุดที่เรียกว่า Over Expectation (การให้บริการแบบเหนือความคาดหมาย) ของลูกค้า สำหรับผม นอกจากการบริการให้ได้ตามมาตฐานของงานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายแล้ว ความสำเร็จของการบริการยังอาจจะหมายถึงการล่วงรู้ได้ถึงความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้งด้วย อาจจะฟังดูแล้วยาก แต่ถ้าได้ลองใกล้ชิดกับลูกค้า หรือ ผู้รับบริกรมากขึ้น ประกอบกับความใส่ใจและประสบการณ์ในงานที่มากขึ้นจุดนี้ก็จะมาถึงได้เอง ขอยกตัวอย่างเรื่องเล่าจากประสบการณ์ของเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกันท่านหนึ่งแล้วกันนะครับ เช่น สายการบิน 5 ดาวแห่งหนึ่งแถวบ้านเรา ใช้คำถามดังต่อไปนี้เป็นคำถามในรอบ final ในการคัดเลือกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของเค้า คำถามที่ว่าคือ “ถ้าผู้โดยสารขอกาแฟร้อนนอกมื้ออาหารคุณจะทำอย่างไร” ผู้เข้ารับการสัมพากษณ์ส่วนใหญ่จะตอบว่า “ดิฉันจะเอากาแฟไปให้ผู้โดยสารท่านนั้นค่ะ” ซึ่งเป็นคำตอบที่ไม่ผิดและเหมือนจะอยู่ในมาตจฐานที่สายการบินต้องการ แต่ในทางกลับกัน ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกตัวจริงส่วนใหญ่จะให้คำตอบว่า “ดิฉันจะเอากาแฟร้อนที่เพิ่งกดจากหม้อกาแฟ พร้อมกับกระดาษเช็ดปาก และ คุ๊กกี้หรือถั่วไปให้ผู้โดยสารท่านนั้นค่ะ” นี้แหละครับคือตัวอย่างของการบริการแบบเหนือความคาดหมาย


สำหรับคุณป้อ งานบริการคืออะไร



ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าสำหรับผมงานบริการเป็นงานที่ต้องใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้ใหญ่ เช่น นายจ้าง หรือ หัวหน้า เพราะงานที่เราทำเป็นงาน front line เราต้องเจอกับลูกค้าโดยตรง ถ้าจะให้ได้ผลในด้านบวกมากที่สุดคือทุกเรื่องต้องจบและแก้ไขปัญหาได้ที่เราเลย มันคงดูไม่ดีเลยถ้าผู้โดยสารมีปัญหาอะไรสักอย่างแล้วเราบอกได้แค่ว่าให้เค้าไปติดต่อตรงโน้นที ตรงนี้ที เพราะเพียงเพราะเราไม่มีอำนาจในการตัดสินใจทั้งหมด รวมถึง การทำงานเป็นทีมจากทุก ๆ ฝ่ายในองค์กรก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะกว่าที่เราจะให้บริการกับลูกค้าแบบ one stop service ได้หมายถึงว่าเราต้องได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทุก ๆ ฝ่าย อย่างเช่นว่าถ้าพูดถึงสายการบิน ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะมุ่งหน้าไปสู่การได้รับบริการที่ดีจากลูกเรือก็คงไม่ผิด ในกรณีนี้ลูกเรือถือว่าเป็น front line เพราะเป็นคนให้บริการกับผู้โดยสารโดยตรง แต่ถ้าในเที่ยวบินนั้นไม่ได้รับความร่วมมือที่ดีจาก Sales & Marketing ที่คอยทำราคาหรือโปรโมชั่นส่งให้ agent, Reservation ที่ทำ booking ให้กับผู้โดยสาร, Catering ที่คอยเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไว้ให้บริการบนเที่ยวบิน, ฝ่ายช่าง ที่คอยดูแลบำรุงรักษาเครื่องบินให้ปลอดภัยอยู่เสมอ, ฝ่าย Operation ที่คอยเตรียมเอกสารประกอบการบินให้กับนักบิน, หรือแม้กระทั้ง พี่ ๆ ramp ที่คอยยกสัมภาระของผู้โดยสารเข้าไปในเครื่องบิน เที่ยวบินดังกล่าวคงไม่มีวันสมบูรณ์ได้ ต่อให้ front line ทำงานได้ดีแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งบกพร่องไป ก็จะมีผลต่อความพอใจของผู้โดยสารทันที ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากในงานบริการ ผมคงไม่ผิดอะไรถ้าจะเชื่อว่าสำหรับงานบริการ ความใส่ใจในรายละเอียด, ความไว้ใจจากผู้บังคับบัญชา และ ความร่วมมือจากทีมงานทุกส่วน ล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับงานบริการ

แล้วเรื่องสนุก ๆ ประทับใจในชีวิตกราวด์ เพราะเป็นกราวด์มาหลายปีเหมือนกัน

ช่วงที่เป็น ground สนุกมากนะครับ มีเรื่องแปลก ๆ เข้ามาให้เจอตลอดเวลา ผู้โดยสาร 100 คนก็ 100 ปัญหา 100 บุคลิก มีเรื่องสนุก ๆ มากมายให้ได้คลายเคลียดกันเป็นประจำ เช่น วันนี้กำลังนั่งเช็คอินผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศเที่ยวหนึ่ง ก็มีผู้โดยสารต่างชาติ เพศหญิงในชุดคลุมท้อง เดินเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าขนาดใหญ่ใบหนึ่ง ผมก็เลยกระซิบบอกให้พี่ rampไปช่วยเธอยก ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร การเลือกที่นั่งและชั่งน้ำหนักกระเป๋าโดยสารก็เป็นปกติดีตามขั้นตอน แต่ก่อนจะที่ผมจะสั่งพิมพ์ Boarding Pass ออกมา ผมก็ต้องถามตามหน้าที่ออกไปว่า ถ้าผู้โดยสารตั้งครรถ์เกินกว่า 28 สัปดาห์ (แล้วแต่ละสายการบินนะครับ) จะไม่สามารถขึ้นเครื่องบินโดยไม่มีใบรับรองแพทย์ได้ เธอนิ่งไปสักพักนึง เธอตอบผมกลับมาเสียงดังฟังชัดว่า “I’m not pregnant, I’m fat” (หัวเราะ) ก็จะไม่ให้สงสัยได้ยังไงหละครับ ก็เธอล่นมีพุงแล้วก็ใส่ยังใส่ชุดเหมือนชุดคลุมท้องมาสนามบินอีก ก็เอาเป็นว่าจะได้รู้เอาไว้ว่าผู้หญิงท้องกับผู้หญิงมีหน้าท้องในชุดคลุมท้อง มันเหมือนหรือต่างกันอย่างไร (หัวเราะ) ที่เล่าไปนี้ก็เป็นหนึ่งในอีกหลาย ๆ เรื่องที่ผมจำได้ขึ้นใจ แต่ยังมีอีกเยอะครับ ถ้าอยากรู้ก็คงต้องกินข้าวกันสักมื้อ

DSC_0024 copy.jpg


ทำงานอยู่ดี ๆ แล้วทำไมถึงย้ายมาแดนไกลข้ามทวีปมาถึงซิดนีย์ หลายคนเขาลือกันในเว็บว่าเพราะหนีรักหรือเปล่า


ไม่ได้หนีรัก หรือ หนีใครอะไรทั้งสิ้นครับ (หัวเราะ) การมาเรียนต่อเป็นอะไรที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่สมัยยังเรียนไม่จบ ป.ตรี แต่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเป็นที่นี่ หรือ ต้องเป็นช่วงนี้ เพราะตอนนั้นก็ยังมีความสุขกับเมืองไทยและหน้าที่การงานดี จุดปลี่ยนมันมาอยู่ที่วันหนึ่งบนเกาะสมุยครับ รุ่งเช้าที่สวยงาม เห็นพระอาทิตย์ดวงกลมโตโผล่ขึ้นมาจากทะเลอ่าวไทย ซึ่งเป็นภาพที่ผมเห็นจนชินตา หลังจากที่ทำงานมาตลอดทั้งคืน เพราะช่วงนั้นได้รับมอบหมายให้เป็น night shift ระหว่างที่รอเพื่อนรอบเช้ามาเปลี่ยนถ่ายงานกัน ก็คิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าไม่ขยับขยายก็คงได้แค่นี้แหละ ไม่ได้ลำบากอะไรมีความสุขดี แต่ด้วยลักษณะของงานมีอยู่แค่นั้นจริง ๆ (ในกรณีคนที่ยังอยากทำงานสายบริการนะครับ ส่วนคนที่ตั้งใจจะทำธุรกิจของตัวเองก็อีกเรื่องนึง) ถ้าอยากขยับขยายหน้าที่การงานหรือตำแหน่งก็ควรจะมีการศึกษาที่พอจะเอาไปสู้กับคนอื่น ๆ เค้าได้บ้างก็เลยคิดที่จะเรียนต่อ ซึ่ง ณ เวลานั้น เลือกเอาไว้แล้วเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศไทยเราเนี้ยแหละครับ และหลักสูตรเป็น International ด้านการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ก็ไปติดต่อมาเรียบร้อยแล้ว ที่มันหน้าสนใจมีอยู่ตรงที่ว่า เค้าจะส่งมาฝึกและดูงานที่ Melbourne เป็นเวลา 1 ภาคการศึกษา แต่สงสัยความคิดจะดังเกินไป คุณพ่อคุณแม่ และ ญาติ ๆ เลยได้ยิน เลยลงความเห็นกันว่า ถ้าจะเรียน international และ อยากไปฝึกงานต่างประเทศสักพัก ทำไมไม่ไปต่างประเทศเลยหละ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่ตัดสินใจ จนถึงวันที่เครื่องบิน landing ที่ Sydney ใช้เวลาเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้นครับ นี่แหละครับ จุดเริ่มต้นของการมาที่นี้

มาอยู่ซิดนีย์ ห่างหายจากเมืองไทยและเอชไฟลท์ไปสามปี ทำอะไรบ้างครับ เล่าเรื่องซิดนีย์ให้ฟังหน่อย นอกจากโอเปราเฮาส์และสะพานฮาร์เบอร์บริดจ์ คุณป้อเจออะไรที่ซิดนีย์บ้างครับ

ถ้านอกจากโอเปราเฮาส์และสะพานฮาร์เบอร์บริดจ์แล้ว ก็คงต้องตอบง่าย ๆ ว่าเจอ “คน” ครับ การที่ได้มาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองมันเป็นอะไรที่ท้าทายความอดทนและความสามารถของทุกคนอยู่แล้ว เพื่อน ๆ สมาชิก HFlight หลาย ๆ ท่านก็เคยมีประสบกาณ์นี้คงจะเข้าใจเหมือน ๆ กันนะครับ ด้วยความที่ประเทศ Australia เป็นประเทศที่ยังต้องการพัฒนาต่อขึ้นไปอีก แต่จำนวนประชากรยังมีไม่เยอะนัก เมื่อเทียบกับขนาดพื้นที่ รวมถึงเรื่องของการขาดแคลนแรงงานในสาขาสำคัญ ๆ เช่น บุคลกรทางการแพทย์ หรือ บัญชี ทำให้ประเทศนี้ยังต้องการประชากรผ่านช่องทางย้ายถิ่นฐานเข้าเมืองอีกเยอะ ซึ่งนั้นก็เป็นที่มาของการเป็น multi-cultural อย่างแท้จริง ตลอดเวลา 3 ปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา ผมรู้จักและคุ้นเคยกับคนหลายชาติหลายภาษาหลายวัฒนธรรม ซึ่งว่าไปก็เป็นผลดีอยู่ไม่น้อย จนหลัง ๆ ผมมักโดนแซวว่าสามารถสื่อสารภาษาจีนและเกาหลี ได้มากกว่าภาษาอังฤษซะอีก แต่ในทางกลับกัน ด้วยความต่างบางครั้งก็เป็นสิ่งที่เราต้องใช้ความอดทนเยอะอยู่เหมือนกัน ส่วนคนไทยที่นี้ก็มาด้วยเหตผลที่แตกต่างกันออกไปครับ เช่น มาเรียน มาทำงาน มาเที่ยว มาหาแฟนแต่งงาน มาชุบตัว และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยเหตผลต่าง ๆ กันออกไปนี้เอง ทำให้บุคลิกและความต้องการของคนกลุ่มนี้แตกต่างกันออกไป ผมได้เรียนรู้ถึงความมีน้ำใจต่อกันของพี่น้องชาวไทยใน Sydney แต่ในทางกลับกันก็คงไม่ปฏิเสธว่าผิดหวังมาไม่น้อยสำหรับความเห็นแก่ตัวของคนไทยแท้ ๆ บางคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ถือว่าเป็นบทเรียนสำคัญครับ ผมขอสรุปในประเด็นนี้สั้น ๆ ว่า ถ้าคิดว่าที่เมืองไทยยากแล้ว หรือเจอมาเยอะแล้ว ผมรับประกันได้ว่าที่นี้เยอะกว่าและหนักกว่าแน่นอนครับ เรียนหนักจริง ทำงานหนักจริง อดจริง สมหวังจริง และ ผิดหวังจริงครับ

DSC_0016 copy.jpg

ทำงานอะไรบ้างครับที่นี่ ลองยกตัวอย่างเผื่อใคร ๆ อยากจะมาเรียนมาทำงานที่นี่

เท่าที่เห็นมา ไม่ว่าจะเป็นใคร เป็นลูกใคร อายุเท่าไหร่ ที่บ้านทำอะไร อาชีพเก่าคืออะไร เมื่อมาอยู่ที่นี้ก็ต้องทำงานครับ อาจจะไม่ใช่เพราะเรื่องเงินเพียงอย่างเดียว แต่มันมีเรื่องของสังคมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ ถ้าไม่นับคนที่มาทำงานแบบ full-time ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงาน office หรือ งานระดับวิศวกรที่ไปอยู่ตามเหมือง งาน part-time สำหรับผู้ที่ถือ visa นักเรียน ตามกฏหมาย 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์แบบหักภาษี ที่นี้มีให้เลือกหลายอย่างครับ ทั้งทำความสะอาด, เลี้ยงเด็ก, โรงงาน, ล้างรถ, ทำสวน, จูงหมาเที่ยว ไปจนถึงร้านอาหารทั้งไทยและเทศ สำหรับตัวผมทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้นผมทำมาหมดแล้วครับ แต่ส่วนใหญ่ผมจะไปจบอยู่ที่ ร้านอาหารไทย เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าร้านอาหารไทยที่นี้มีเยอะมาก ทำให้หางานได้ค่อนข้างง่าย แต่ก็จ่ายน้อยกว่างานอื่นอยู่พอสมควร แต่ที่ผมยังติดใจอยู่กับงานนี้ก็คงเป็นเพราะเรื่องของสวัสดิการพื้นฐาน เช่น การจัดตารางงานแบบเรียบง่ายแบบพี้น้องแบ่ง ๆ กันไป ไม่ต้องไปแย่งชิงดีชิงเด่นกันแบบ café หรือ งานอื่น ๆ รวมไปถึงอาหารไทยที่ให้พนักงานกินกันแบบหายคิดถึงบ้านกันไปข้างหนึ่ง ส่วนอีกเหตผลสำคัญคือเรื่องของสังคมครับ ร้านอาหารไทยเป็นที่รวมของคนไทย ซึ่งหมายความว่าอย่างน้อยก็มีเพื่อน ๆ ในร้านนี้แหละ ที่เอาไว้คุยกันสนุก ๆ ไปเที่ยวด้วยกัน และต่อยอดแนะนำงานอื่น ๆ ให้กันและกัน รวมไปถึงเป็นที่ปรึกษาปัญหาต่าง ๆ ด้วยครับ ผมค่อนข้างโชคดีที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมได้เจอกับเพื่อนร่วมงาน และ พี่ ๆ เจ้าของร้านที่ใจดีมาตลอด เลยมีความสุขดีกับร้านอาหารไทยครับ ถึงแม้จะจ่ายน้อยไปหน่อยก็เถอะ (เมื่อเทียบกับงานอื่น ๆ)แต่ก็มีให้เห็นหลายตัวอย่างที่ทำงานร้านอาหารไทยแต่สามารถส่งตัวเองจนจบ ป.โท และ มีเงินโอนกลับเมืองไทย ซื้อบ้าน ซื้อรถ ได้อีกด้วยครับ

งั้นแนะนำที่เที่ยวน่าสนใจในซิดนีย์หรือในออสเตรเลียหน่อยครับ เผื่อบางคนไม่อยากมาทำงานแต่อยากมาเที่ยว

ผมเชื่อว่าทวีป Australia เป็นที่หนึ่งบนแผนที่โลกที่คนไทยจำนวนไม่น้อยอยากจะมาเยี่ยมเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ เล่าถึงการท่องเที่ยวใน Australia ก่อนแล้วกันครับว่าจริง ๆ แล้ว สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเน้นไปทาง ธรรมชาติเป็นส่วนมาก เพราะด้วยความอุดมสมบูรณ์ ความบริสุทธิ์ของพื้นทวีป และ ขนาดที่ใหญ่โตของ Australia ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งชายหาดที่ดังระดับโลกที่ Gold Coast, ทะเลทรายสีแดงสุดลูกหูลูกตาที่ Darwin ไปจนถึงยอดเขาสูงที่มีหิมะตกเกือบตลอดทั้งปีที่ Hobart ก็ล้วนแต่เป็นสถานที่ที่น่าไปเยือนสักครั้งในชีวิต โดยส่วนตัวตลอดเวลาที่ผ่านมาใน Sydney นอกจากเรียน และ ทำงานแล้ว ผมก็ได้มีโอกาสท่องเที่ยวไปยังหัวเมืองต่าง ๆ มาบ้าง เช่น Gold Coast, เมืองหลวง Canberra, Melbourne, และ Newcastle เป็นต้น แต่ละที่ก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ต่างกันไปครับ แต่ถ้าจะให้พูดถึงเฉพาะใน Sydney ก็คงบอกได้ว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่คึกคักที่สุดใน Australia เลยก็ว่าได้ ถนน George St. ซึ่งตัดผ่านกลาง CBD ของตัวเมือง มีผู้คนคับคั่งเกือบ 24 ชั่วโมง มีรถตำรวจและดับเพลิงวิ่งขวักไขว่ไปมาตลอดเวลา และ ใน Sydney เองก็มีแหล่งท่องเที่ยวระดับ World class มากมายครับ เช่น Sydney Aquarium, Taronga Zoo, Opera House, และ Sydney Tower ถ้าไปไกลอีกนิดซัก ก็สามารถเที่ยว Blue Mountain ,Port Stephens หรือเมื่อถึงฤดูหนาวก็สามารถไปเล่นสกีที่ Snowy Mountain ได้ด้วยครับ ได้ด้วยครับ รวมไปถึงการเดินทางหลากหลายวิธีที่ปลอดภัยและประหยัดก็มีให้เลือกมากมายแล้วแต่ความเหมาะสมในแง่ของเวลาและงบประมาณของแต่ละคนครับ

DSC_0026 copy.jpg

แล้วสไตล์การเดินทาง การบิน และ การท่องเที่ยวใน Australia กับ ที่ไทยเหมือนหรือต่างกันอย่างไร

กล้าพูดได้เลยครับว่าถ้าเป็นด้าน hospitality แล้วบ้านเรานำอยู่เยอะ งานบริการเป็นงานที่ผูกโยงกับคำว่า “น้ำใจ” ในเมื่ด lifestyle ของคนที่นี้ส่วนใหญ่จะเริ่งรีบทำงานแข่งกับเวลาเพราะค่าครองชีพค่อนข้างสูง เค้าก็จะให้บริการเราเฉพาะในส่วนที่จำเป็น พูดง่าย ๆ ก็คือเราอาจจะได้รับการบริการแบบ over expectation ค่อนข้างน้อย ซึ่งถ้าเทียบกับที่ไทยหรือภาคพื้นเอเซียของเราแล้วเค้าคงเดินตามหลังเราอยู่ ด้วยความที่วัฒนธรรมฝรั่งเป็นอะไรที่ต้องตรงต่อเวลามาก ๆ ทั้งเค้าและเราต้องปฏิบัติตาม ถ้าเราไปทัวร์รถบัสเค้าไม่รอนะครับ แม้จะแค่ 1 นาทีก็ตาม เพราะชั่วโมงการทำงานทุกอย่างถูกแพลนเอาไว้แล้ว ถ้าคนขับรถขับเกินเวลาดังกล่าวเค้าจะต้องจอดเลยแม้ว่าจะเป็นแค่กลางทางก็ตาม เป็นต้น นอกจากนั้นถ้าจะให้ยกตัวอย่างเรื่องทั่ว ๆ ไปเกี่ยวกับการบินก็คงเป็นเรื่องของการที่ผู้โดยสารจะต้องเน้น self-service กันมากขึ้น เพราะค่าใช้จ่ายของสายการบินกับพนักงานค่อนข้างสูง เค้าคงต้องการประหยัดตรงนี้ ยกตัวอย่างเช่น สายการบิน low-cost ส่วนใหญ่ของ Australia ล้วนแต่เน้นให้ผู้โดยสารเช็คอินด้วยตัวเอง โดยการคิดค่าบริการเช็คอินที่เค้าเตอร์ คิดค่าบริการเลือกที่นั่ง และ ค่าบริการรับฝากกระเป๋า ฯลฯ

ก็เลยอยากจะฝากไว้ตรงนี้เลยครับว่า กระแสที่สายการบินบางสายในบ้านเรากำลังจะทำขึ้นมานั้นไม่ใช่เรื่องแปลก และ สายการบินหลาย ๆ สาย ในหลาย ๆ ประเทศเช่น Australia นี้เค้าก็ใช้มานานแล้วครับ ถือว่าเป็นวิธีสากลและทำให้การบริการนั้นเพียงพอต่อปริมาณของผู้โดยสารที่มากขึ้น และถึงแม้ว่าจะต้องใช้เทคโนโลยี่เข้ามามีส่วนตรงนี้เยอะ แต่สำหรับท่านที่ไม่สามารถใช้งานได้ หรือ ไม่ถนัด เค้าก็ไม่ได้ทั้งครับ ยังมีพนักงานวนเวียนคอนช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา จากประสบการณ์ตรงก็ตอนที่นั่ง Jet Star กลับมาจาก Gold Coast พอดีไม่มีกระเป๋าต้องฝาก ก็เช็คอินผ่านมือถือ เสร็จแล้วระบบก็จะส่ง barcode มาให้ แล้วก็ไม่ต้องทำอะไรอีกครับ เดินตรงไปที่ gate โดยใช้มือถือ scan ขึ้นเครื่องได้เลยสะดวกสบาย

เห็นได้ว่าอีกเหตหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชาวไทยไม่ค่อยนิยมการท่องเที่ยวแบบ backpacker นั้นเป็นเพราะค่านิยมด้วยครับ การท่องเที่ยวแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องซำเหมา หรือ สกปรก นะครับ ส่วนงบประมาณที่ใช้ไปก็ไม่ได้น้อย ซึ่งนั้นหมายความว่าคนที่เค้าท่องเที่ยวแบบนี้ก็ไม่ได้หมายถึงว่าเค้าไม่มีเงิน เพียงแต่ผมอยากจะนิยามคำว่า backpacker เท่ากับ คำว่า back to basic หมายถึงใช้เท่าที่มีใช้ กินเท่าที่มี และ เห็นให้เท่าที่อยากจะเห็น พูดง่าย ๆ เลยคือ กินง่ายอยู่ง่ายเน้นเที่ยว นักท่องเที่ยวที่ใช้วัฒธรรมตะวันตกที่มีความเจริญเค้าก็ยังสามารถเที่ยวด้วยวิธีนี้ได้เพราะเค้าสามารถหลุดพ้นจากค่านิยมและหน้าตาทางสังคมได้ครับ แต่นักท่องเที่ยวไทยอาจจะยังไม่คุ้น เพราะมันเป็นค่านิยมของเราไปแล้วว่าต้องมีรถมารับ-ส่ง เดินไกลไม่ได้ นอน backpacker ไม่ได้ ต้องนอนโรงแรม อาหารที่กินก็ต้องอร่อยครบรส ซึ่งในทางกลับกัน ฝรั่งเค้าขอแค่มี ขนมปัง เนื้อก้อนนึง เกลือ และ พริกไทย แค่นี้เค้าก็อิ่มได้ครับ


DSC_0014 copy.jpg

กลับมาที่ HFLIGHT บ้าง คุณป้อก็เป็น Founder เป็นผู้ก่อตั้ง 1 ใน 4 คน ตอนนี้เอชไฟลท์ก็จะ 7 ขวบแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้างกับ 7 ปีที่ผ่านมา (แต่พักหลังไม่ค่อยเห็นเลย)

ก่อนอื่นเลยต้องขอสวัสดีสมาชิก HFlight ทุกท่านครับ โดยเฉพาะ สมาชิกรุ่นเก่า ๆ ช่วง 1-3 ปีแรก ผมคิดถึงทุกคนมากครับ ส่วนสมาชิกรุ่นใหม่ ๆ ผมก็ขอถือโอกาสนี้แนะนำตัวเลยแล้วกันนะครับ เพราะผมมั่นใจว่าสมาชิกรุ่นใหม่ ๆ หลาย ๆ ท่านไม่เคยรู้จักผม (หัวเราะ) ขอขอบคุณต้น (หน้ากากแอคชั่น), หมอยุ่ง และ JK..LSKY ด้วยครับ ที่ให้เกียรติร่วมเป็น 1 ใน 4 founder team ด้วย ถึงจะไม่ค่อยได้ทำอะไร จนเหมือนจะหายสาบสูญไปจนสมาชิกรุ่นใหม่ ๆ ไม่รู้จักแล้ว แต่ตลอดระยะเวลา 7 ปีทีผ่านมา ผมเฝ้าดู HFlight ทุกวัน เปิดวันหละหลายรอบครับ เห็นการพัฒนาต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้ง content ในเวป การบริการด้านการท่องเที่ยวที่คุณต้นและทีมงานจัดหามาใส่เอาไว้ให้เป็น one stop service, รวมไปจนถึงข่าวสารต่าง ๆ ที่ทีมงานเอามานำเสนอ ล้วนแต่ทำให้เห็นถึงการพัฒนาทั้งสิ้น โดยส่วนตัวผมว่า HFlight มาถูกทางแล้ว เราได้รับการยอมรับในฐานะสื่ออย่างสมบูรณ์แบบจากธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เราเป็นศูนย์รวมของผู้ที่มีความรักและสนใจในการเดินทางทางอากาศและการท่องเที่ยว เราไม่ได้จำกัดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกด้วยการทำตัวเป็นผู้รู้แต่เพียงผู้เดียว แต่เราเน้นอยู่เสมอครับว่าความเห็นของสมาชิกทุกท่านล้วนแต่มีความหมายและประโยชน์ให้กับสมาชิกทุกท่านที่เข้ามาอ่านทั้งสิ้น รีวิวทุกรีวิวที่สมาชิกและทีมงานทำขึ้นมาไม่ได้เพียงแค่เอามาแบ่งปันกันให้ชมแล้วผ่านเลยไป แต่หลาย ๆ สายการบิน หรือ โรงแรม นำรีวิวของที่อยู่ใน HFlight ไปใช้อ้างอิงในการตรวจสอบ feedback และพัฒนาองค์กรของเค้า ซึ่งจุดนี้เองถือว่า content ใน HFlight ได้ถูกนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในทางที่ถูกต้อง ซึ่งผมมั่นใจว่านี้คือสิ่งที่ webmaster และ ทีมงานทุกคนอยากเห็น สำหรับ 7 ปีที่ผ่านมาผมเชื่อว่า HFlight ได้จุดประกายให้กับหลาย ๆ ให้หันมาสนใจด้านการบินและการท่องเที่ยวมากขึ้น หลาย ๆ คนรู้จัก สนิทสนมจนกลายเป็นกลุ่มเพื่อนสนิทกันจริง ๆ หลาย ๆ คน ได้ทำงานในสิ่งที่รัก หลาย ๆ คนสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างประหยัดด้วยข้อมูลที่มีอยู่ให้มากมายในเวปของเรา

ฝากอะไรถึงเอชไฟลท์หน่อยครับ

สิ่งที่อยากจะฝากถึงคงมีไม่กี่เรื่องครับ เพราะการก้าวมาสู้ปีที่ 7 ได้อย่างแข็งแรงมันสามารถตอบคำถามนี้ได้อยู่แล้วว่าคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงในเรื่องของ content แต่สิ่งสำคัญที่อยากจะฝากถึงสมาชิก HFlight ตอนนี้เลยคงเป็นเรื่องของวัฒธรรมองค์กรและความอบอุ่นของสมาชิกที่หายไปครับ โดยส่วนตัวผมไม่ต้องการเห็นการโต้แย้งแบบเอาเป็นเอาตาย ผมอยากเห็นการให้กำลังใจ การช่วยกันแก้ไขในสิ่งที่เพื่อน ๆ อาจจะเข้าใจผิด ไม่อยากให้มีการสาดโคลน หรือแบ่งพักแบ่งพวก สิ่งแรกที่อยากจะทำเมื่อได้กลับเมืองไทยเลยขอขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ organize งาน HFlight Meeting 2011 ให้มีทิศทางที่ชัดเจน โดยเน้นให้สมาชิกได้มีการรู้จักกันมากขึ้น มากกว่าการนั่งกินข้าวหรือเล่นเกมส์หรือทำกิจกรรมแบบกลุ่มใครกลุ่มมัน ในระยะยาวสิ่งที่ผมต้องการและหวังว่าคงจะได้กลับคืนมาคือ ความอบอุ่นและการกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งของสมาชิกรุ่นบุกเบิกอย่างน้อยก็ขอแต่สักครึ่งหนึ่งของ 50 ท่านแรกที่เคยไปร่วม meeting ตั้งแต่ครั้งแรกผมในห้อง Karaoke ที่มาบุญครองผมก็ดีใจแล้วครับ รวมถึงการช่วยกันรณรงค์ปลูกฝังวัฒธรรมความอบอุ่นของสมาชิกรุ่นใหม่ ๆ ให้ได้รู้จักคุ้นเคยกัน และ ถ้าเป็นไปได้เราอาจจะมีโอกาสได้ทำกิจกรรมที่ได้ความรู้เกี่ยวกับการบินและท่องเที่ยว เช่น การดูงาน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของพวกเราครับ


สุดท้ายมาซิดนีย์ 3 ปีแล้วจะกลับเมื่อไรครับ แล้ววางแผนอย่างไรต่อไป


ผมจะกลับเมืองไทยถาวรช่วงปลายเดือน ต.ค. ครับ หลังจากที่จากบ้านมา 3 ปีกว่า โดยที่ไม่ได้กลับไปเยี่ยมเลย สิ่งที่ตั้งใจหลัก ๆ เลยคือขอเที่ยวรอบ ๆ Asia สักสักนึงก่อนครับ เพราะตอนนี้ผมเบื่อเมืองฝรั่งมาก หลังจากนั้นคงจะขอทำงานด้าน marketing เพื่อที่จะได้ลองนำความรู้ที่เรียนมาสด ๆ ร้อน ๆ ไปใช้สักระยะหนึ่ง สั้นหรือยาวแล้วแต่ความเหมาะสม แต่ท้ายที่สุด ผมก็อยากจบแบบ classic ตามแบบฉบับของคนสมัยนี้ครับ คือเปิดธุรกิจเล็ก ๆ แบบ SME ถ้าเป็นไปได้คงหนีไม่พ้นด้านงานบริการหรือการท่องเที่ยวนี้แหละครับ เพราะใจมันมาด้านนี้อยู่แล้ว สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาเยี่ยมเยียนอ่านกัน หวังว่าจะได้เจอทุกท่านที่งาน meeting 2011 นะครับ มาร่วมกันสร้างบ้าน HFlight ของเราให้แข็งแรง อบอุ่น และ ยั่งยืนตลอดไปกันเถอะครับ ขอบคุณครับ

DSC_0025 copy.jpg

แล้วพบกับ HFLIGHT INSIGHT ได้ใหม่ในเดือนหน้าครับ

HFLIGHT INSIGHT ย้อนหลัง
3 - หนุ่มเมืองกรุง กูรูอารยธรรม กับประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร รู้จักผู้ที่หลงใหลในสเน่ห์ของอารยธรรมโบราณ และค้นหาที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ
2 - ChAzZaNoVa ลุงแชสเจ้าพ่อรีวิว กับมาดใหม่ในชุดลูกเรือ สัมภาษณ์พิเศษแบบ INSIGHT ที่บินไปสัมภาษณ์ไปกลางอากาศ
1 - ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ .. มารู้จักหมอยุ่ง ในแบบ Insight ครั้งแรกกับคอลัมน์สัมภาษณ์ใน HFLIGHT.net กับ 1 ใน Founder ของเรา

  • PoMpOmPuRiNmAn, weerawatk, lilomelody and 3 others like this


Advertisements

#2 TG992

TG992

    สมาชิก Economy Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 841 posts
  • LocationL'arts CU.

Posted 08 August 2011 - 10:57 PM

คิดถึงตอนที่เราไปนั่งกินชายสี่หมี่เกี๊ยวด้วยกันที่เมเจอร์รัชโย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

#3 porinter

porinter

    Founder

  • Premium Members
  • 546 posts
  • LocationSydney, Australia

Posted 08 August 2011 - 11:16 PM

พี่คิดถึง "หมูกระทะ" ตอนหลัง Meeting มากกว่า อิอิ

#4 ktheerasuk

ktheerasuk

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,523 posts
  • LocationLondon United Kingdom

Posted 08 August 2011 - 11:33 PM

นับว่าเป็นประสบการณ์ ที่เหนือคำบรรยาย และซิดนีย์ ยังคงความงดงาม เหมือนเดิม โดยเฉพาะ Sydney Habour

#5 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 09 August 2011 - 12:59 AM

เย้ๆๆๆ จริงๆ คิดถึงมีตติ้งหมูกระทะนะ ตั้งแต่สมัยยุคยังเป็นนกป้อ ป้ออีว่า ยันป้อพีบีแอร์ สุดท้ายเป็นป้อสมุย บินบางกอกฯ กลับบ้านทุกเดือน

จำตอนสมัยที่รู้จักกันใหม่ๆ ในพันทิปได้ และก็เลยเป็นที่มาของทีมฟาวเดอร์ HFlight
ซึ่งถ้าขาดใครคนใดคนหนึ่งไป ก็คงมาเป็น HFlight แบบทุกวันนี้ไม่ได้แน่ๆ
ว่าแล้ว คราวหน้าอย่าลืมสัมภาษณ์เฮียต้นและสัมภาษณ์ตัวเองนะเออ จะได้ครบสูตร

พูดถึงมีตติ้ง จริงๆ ที่จัดกันแบบจริงๆ จังๆ ปีแรกคือปี 48 ที่มาบุญครอง ยังจำภาพเจเคฯ หิ้วคอมเปิดเล่นเกมส์กันได้
และ ปีที่ดูเหมือนจะสำเร็จมากที่สุด คนเยอะสุดคือปี 50 จัดบนโรงแรมเลยทีเดียว สปอนเซอร์เยอะมาก ....
หลังจากนั้นปี 51 เนื่องด้วยสถานการณ์ปิดสนามบิน ก็เลยดูเหมือนจะแป้กๆ
แต่ก็ไม่เป็นไร ปีนี้ HFlight ครบ 7 ปี ป้อกลับมาแล้ว ก็น่าจะมีอะไรแจ่มๆ เกิดขึ้นได้เช่นกัน

แล้วเจอกันนะป้อ :lol:
  • PoMpOmPuRiNmAn and porinter like this

#6 Eak...

Eak...

    สมาชิก Economy Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 881 posts

Posted 09 August 2011 - 07:33 AM

Sydney... น่าไปมากๆเลยคร้าฟฟ...

#7 PeterP.™

PeterP.™

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2,017 posts
  • LocationBetween the moon and New York City

Posted 09 August 2011 - 01:03 PM

ขอบคุณคุณ jkl..sky สำหรับบทสัมภาษณ์ (ที่ยาวจริงๆ แต่ก็อ่านสนุกนะครับ)

ได้รู้จักคุณ porinter ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งเว็บเอชไฟลท์ (ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ค่อยได้เห็นคุณ porinter ในเอชไฟลท์สักเท่าไหร่ ยกเว้นหลังๆมานี้ครับ)

เพิ่งรู้ด้วยว่ามีหลายสายการบินและโรงแรมเข้ามาชมรีวิวเพื่อเอาข้อมูลไปปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ก็คงจะเป็น motivation สำหรับสมาชิกหลายๆคน (รวมถึงผมเอง) ที่จะผลิตรีวิวขึ้นมาต่อไป

ขอบคุณอีกครั้งครับ

#8 song55

song55

    สมาชิก Premium Economy

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,342 posts
  • LocationSomewhere in your heart

Posted 09 August 2011 - 01:13 PM

อ่านแล้วได้ความรู้เยอะมากมายเลยคร้าบ ว่าแต่ถ้าจัดมีทติ้งคราวหน้าจะพยายามไม่พลาดเหมือนคราวก่อนๆคร้าบ

#9 bteddy

bteddy

    สมาชิกกำลังออกตั๋ว

  • Premium Members
  • 237 posts
  • LocationBKK

Posted 09 August 2011 - 03:25 PM

สวัสดีค่ะ คุณป้อ
อ่านแล้วได้กำลังใจจริงๆ สำหรับการใช้ชีวิตต่างแดน เคยใปอยู่ตอนเรียนหนังสือ
แต่ชีวิตแบบทำงานต่างแดนยังไม่เคยเหมือนกันค่ะ
อยากให้มี meeting แบบที่ว่าจัง คราวที่แล้วติดธุระไปไม่ได้จริงๆ
ถ้ามีเมื่อไรจะพยายามไม่ให้พลาดเลยค่ะ เอาใจช่วยค่ะ
กำลังอ่านหนังสือของหมอยุ่งอยู่....สนุกดีค่ะ ถ้าใครยังไม่มีช่วยไปหาซื้อติดตามได้เลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ

#10 Patchayada

Patchayada

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,490 posts
  • LocationPhetchabun (PHY)

Posted 09 August 2011 - 05:09 PM

อ่านและได้เกร็ดความรู้เยอะมากๆ

ทั้งเรื่องของการทำงานในต่างแดน สังคมและวัตนธรรม

และเห็นด้วยกับคุณป้ออย่างยิ่งในเรื่องของปัญหาการสาดโคลนกันในบอร์ด

พัชเองก็เป็นสมาชิกมาเกือบ4ปีแล้วเห็นความเปลี่ยนแปลงของอร์ดนี้เยอะมากๆ

สมาชิกเก่าห่างหายกันไปหลายท่าน สำหรับHFlight Meetingปีนี้ไม่พลาดค่ะ

ตั้งใจไว้ว่าจะไปให้ได้ทุกปีเลยค่ะ


#11 pakavit_123

pakavit_123

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,548 posts
  • LocationToulouse FRANCE

Posted 09 August 2011 - 10:30 PM

ได้ความรู้ในเรื่องการสมัครงานอีกด้วย และตลกตรง หญิงอ้วนในชุดคลุมท้อง นึกแล้วตลกดี

#12 Srijulaluk

Srijulaluk

    สมาชิกกำลังเช็คอิน

  • Premium Members
  • 412 posts
  • LocationBangkok, TH

Posted 09 August 2011 - 10:42 PM

โหห พี่ป้อ ไปอยู่ออสตั้ง 3 ปี
ถึงว่าล่ะหลังจาก HF เข้าวัดแล้วไม่ค่อยเห็นเลยพี่ป้อกับคุณหมอเจ้าพ่อหางแดงเท่าไหร่นัก :D


จะว่าไปถ้าไม่ใช่ porinter คอยแนะนำ srijulaluk ก็ยังคงงกๆเงิ่นๆกับ HFlight ตั้งแต่แรก

ขอบคุณคุณเจเคด้วยนะครับสำหรับบทสัมภาษณ์เจาะลึกอย่างนี้

#13 M-Ai

M-Ai

    สมาชิกปั่นจักรยาน

  • Members
  • Pip
  • 21 posts

Posted 10 August 2011 - 10:55 AM

เฮ้ยยย ป้อ ดีใจมากเลยที่ได้เจอเธอในนี้ จำเราได้ป่าว MAI(BU)รู้สึกว่าเราจะเจอกันครั้งสุดท้ายที่ร้านชาติไทย(@ซิดนีย์)เกือบ2ปีแล้วล่ะมั้ง
เรากลับมาไทยแล้วน่ะ ยังไงเธอจะกลับมาแล้วติดต่อกันบ้างน่ะ take care dude ....ps. คิดถึง ร้าน ณ บางกอก ฝากไปกินด้วย
อ๋อ ขอบคุณสำหรับ review ชอบมากค่ะ
  • porinter likes this

#14 Leading Steward

Leading Steward

    สมาชิกกำลังออกตั๋ว

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 275 posts

Posted 10 August 2011 - 06:01 PM

คิดถึงซิดนีย์ คิดถึงพี่ป้อ ^_^

#15 Ki-jang-aey

Ki-jang-aey

    สมาชิกกำลังออกตั๋ว

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 216 posts

Posted 10 August 2011 - 08:53 PM

ขอบคุณครับ :) :) :) :)

#16 porinter

porinter

    Founder

  • Premium Members
  • 546 posts
  • LocationSydney, Australia

Posted 10 August 2011 - 09:30 PM

'ktheerasuk', on 08 Aug 2011 - 4:33 PM, said:

นับว่าเป็นประสบการณ์ ที่เหนือคำบรรยาย และซิดนีย์ ยังคงความงดงาม เหมือนเดิม โดยเฉพาะ Sydney Habour


ขอบคุณครับ ขอบคุณสำหรับ comment ครับ สิ่งที่ผมกล่าวไปเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งเท่านั้นเองเมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญที่ครำหวอดในวงการนี้ท่านอื่น ๆ ครับ มันทำให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วงานบริการยังมีอีกหลายแง่มุมที่ผู้รับบริการไม่เคยได้เห็น และ มีเสนห์อย่างบอกไม่ถูกครับ ... Sydney Harbour ยังคงสวยงาม นักท่องเที่ยวยังมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย แต่หลัง ๆ นี้มีการก่อสร้างที่ Circular Quay นิดหน่อยทำให้อาจจะดูไม่ค่อยสวยงามครับ ^^

'ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์', on 08 Aug 2011 - 5:59 PM, said:

เย้ๆๆๆ จริงๆ คิดถึงมีตติ้งหมูกระทะนะ ตั้งแต่สมัยยุคยังเป็นนกป้อ ป้ออีว่า ยันป้อพีบีแอร์ สุดท้ายเป็นป้อสมุย บินบางกอกฯ กลับบ้านทุกเดือน

จำตอนสมัยที่รู้จักกันใหม่ๆ ในพันทิปได้ และก็เลยเป็นที่มาของทีมฟาวเดอร์ HFlight
ซึ่งถ้าขาดใครคนใดคนหนึ่งไป ก็คงมาเป็น HFlight แบบทุกวันนี้ไม่ได้แน่ๆ
ว่าแล้ว คราวหน้าอย่าลืมสัมภาษณ์เฮียต้นและสัมภาษณ์ตัวเองนะเออ จะได้ครบสูตร

พูดถึงมีตติ้ง จริงๆ ที่จัดกันแบบจริงๆ จังๆ ปีแรกคือปี 48 ที่มาบุญครอง ยังจำภาพเจเคฯ หิ้วคอมเปิดเล่นเกมส์กันได้
และ ปีที่ดูเหมือนจะสำเร็จมากที่สุด คนเยอะสุดคือปี 50 จัดบนโรงแรมเลยทีเดียว สปอนเซอร์เยอะมาก ....
หลังจากนั้นปี 51 เนื่องด้วยสถานการณ์ปิดสนามบิน ก็เลยดูเหมือนจะแป้กๆ
แต่ก็ไม่เป็นไร ปีนี้ HFlight ครบ 7 ปี ป้อกลับมาแล้ว ก็น่าจะมีอะไรแจ่มๆ เกิดขึ้นได้เช่นกัน

แล้วเจอกันนะป้อ :lol:


คิดถึงหมอยุ่งเหมือนกันน๊า ... ตอนที่หมอแวะมาเที่ยวก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลยเนอะ อิอิ ขอบคุณคุณต้น คุณหมอ และ JK มาก ๆ ที่ให้เกียรติเป็นส่วนหนึ่งใน HFlight ถึงจะห่างหายไปนาน แต่ก็ยังคงเข้ามาดูอยู่อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่อยากจะทำจริง ๆ เมื่อกลับไปอย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้แล้วคือ อยากจะขอเข้ามาช่วย HFlgiht ใน่ส่วนของ Member Relation ซึ่งเหมือนจะขาดหายไปในช่่วงหลัง ๆ นี้ จะไปในทิศทางไหนค่อยว่ากันครับ แต่่ที่แน่ ๆ อยากให้ HFlight อบอุ่นยิ่ง ๆ ขึ้นไป ไว้ขึ้นไปเชียงใหม่จะแจ้งข่าวให้ทราบล่วงหน้า อิอิ

'Eak...', on 09 Aug 2011 - 12:33 AM, said:

Sydney... น่าไปมากๆเลยคร้าฟฟ...


ขอบคุํณครับ ... Sydney น่ามาเที่ยวครับ เพราะเป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุดของประเทศ Australia เลยก็ว่าได้ แต่สำหรับผมถ้าให้มาอยู่นาน ๆ อีกครั้งหนึ่งคงต้องคิดดูก่อนครับ ^^

'PeterP.™', on 09 Aug 2011 - 06:03 AM, said:

ขอบคุณคุณ jkl..sky สำหรับบทสัมภาษณ์ (ที่ยาวจริงๆ แต่ก็อ่านสนุกนะครับ)

ได้รู้จักคุณ porinter ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งเว็บเอชไฟลท์ (ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ค่อยได้เห็นคุณ porinter ในเอชไฟลท์สักเท่าไหร่ ยกเว้นหลังๆมานี้ครับ)

เพิ่งรู้ด้วยว่ามีหลายสายการบินและโรงแรมเข้ามาชมรีวิวเพื่อเอาข้อมูลไปปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ก็คงจะเป็น motivation สำหรับสมาชิกหลายๆคน (รวมถึงผมเอง) ที่จะผลิตรีวิวขึ้นมาต่อไป

ขอบคุณอีกครั้งครับ


ขอบคุณสำหรับ comment ครับ ... หายตัวไปร่วม ๆ 3 ปีสมาชิกในระยะหลัง ๆ นี้ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาผมแน่นอนครับ อิอิ สำหรับริวิวใน HFlight ของเรานั้น ถ้าให้มองกัน่ง่าย ๆ ก็คือเป็นการที่สมาชิกเอาประสบการณ์มาแชร์กัน ถ้ามองให้ลึกไปกว่านั้นก็จะพบว่าผู้ที่เห็นว่ารีวิวนั้น ๆ ตรงกับความสนใจของเค้า เค้าก็จะเลือกรับชมและเข้ามาเก็บข้อมูลนำไปใช้ประโยชน์ ส่วนถ้ามองให้ลึกแบบสุด ๆ ก็จะเห็นได้ว่าในทุก ๆ รีวิวที่ออกมานั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเอาไปเห็นหลักฐานอย่างหนึ่งในการเช็ค feedback ของเค้าได้อีกด้วยครับ ...ผมมองว่าการทำรีวิวหรือการแสดงความเห็นในกระทู้ต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นประโยชน์ทั้งสิ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมครับ ผมอยากจะให้กำลังใจทุกท่านที่ทำรีวิว เพราะเข้าใจดีว่าถึงแม้ว่าจะได้ไม่ยากเกินความสามารถ แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะเอามานำเสนอ ต้องเสียเวลาย่อรูป เสียเวลาเรียบเรียงคำพูด เสียเวลา upload ... แต่ท้ายที่ขอให้เชื่อครับว่ามีหลาย ๆ คนได้รับประโยชน์จากการทำรีวิวของทุก ๆ ท่านครับ ^^

'song55', on 09 Aug 2011 - 06:13 AM, said:

อ่านแล้วได้ความรู้เยอะมากมายเลยคร้าบ ว่าแต่ถ้าจัดมีทติ้งคราวหน้าจะพยายามไม่พลาดเหมือนคราวก่อนๆคร้าบ


ขอบคุณครับ หวังว่าคงได้เจอกันที่งาน Meeting ครับ ^^

'bteddy', on 09 Aug 2011 - 08:25 AM, said:

สวัสดีค่ะ คุณป้อ
อ่านแล้วได้กำลังใจจริงๆ สำหรับการใช้ชีวิตต่างแดน เคยใปอยู่ตอนเรียนหนังสือ
แต่ชีวิตแบบทำงานต่างแดนยังไม่เคยเหมือนกันค่ะ
อยากให้มี meeting แบบที่ว่าจัง คราวที่แล้วติดธุระไปไม่ได้จริงๆ
ถ้ามีเมื่อไรจะพยายามไม่ให้พลาดเลยค่ะ เอาใจช่วยค่ะ
กำลังอ่านหนังสือของหมอยุ่งอยู่....สนุกดีค่ะ ถ้าใครยังไม่มีช่วยไปหาซื้อติดตามได้เลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ


ขอบคุณครับ ... ค่อนข้างลำบากเมื่อเทียบกับบ้านเรา เพราะที่นี้นอกจากค่าครองชีพจะสูง (มาก) ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตก็ไม่ได้ครบถ้วนเหมือนอยู่บ้านเรา แต่ก็ได้ประสบการณ์ดี ๆ กลับบ้านมากมายครับ ส่วน Meeting ทางทีมงานจะแจ้งข่าวให้ทราบเป็นระยะ ๆ แน่นอนครับ หวังว่าคงได้เจอกันนะครับ ... หนังสือของหมอยุ่งยังไม่ได้อ่านเหมือนกันครับ ไม่รู้ว่ายังมีเหลืออยู่หรือเปล่าจะบินไปขอลายเซ็นต์ซะหน่อย อิอิ

'Patchayada', on 09 Aug 2011 - 10:09 AM, said:

อ่านและได้เกร็ดความรู้เยอะมากๆ

ทั้งเรื่องของการทำงานในต่างแดน สังคมและวัตนธรรม

และเห็นด้วยกับคุณป้ออย่างยิ่งในเรื่องของปัญหาการสาดโคลนกันในบอร์ด

พัชเองก็เป็นสมาชิกมาเกือบ4ปีแล้วเห็นความเปลี่ยนแปลงของอร์ดนี้เยอะมากๆ

สมาชิกเก่าห่างหายกันไปหลายท่าน สำหรับHFlight Meetingปีนี้ไม่พลาดค่ะ

ตั้งใจไว้ว่าจะไปให้ได้ทุกปีเลยค่ะ


ขอบคุณครับ... โดยส่วนตัวผมไม่ได้มองว่าประเด็นดังกล่าวเป็นปัญหา แต่ผมมองว่าป็นเพราะความห่างเหินกันมากกว่า จึงทำให้วิธีการโต้ตอบใน board เป็นไปอย่างแห้ง ๆ ไม่ได้อบอุ่นชุ่มน้ำเหมือนรุ่นก่อน ๆ ไว้ค่อยช่วยกันหาจุดลงตัวดี ๆ สำหรับการสร้างวัฒนธรรมความอบอุ่นให้เกิดขึ้นใน HFlight กันครับ... ไว้เจอกันที่งาน Meeting ครับ ^^
  • PeterP.™ likes this

#17 porinter

porinter

    Founder

  • Premium Members
  • 546 posts
  • LocationSydney, Australia

Posted 10 August 2011 - 10:32 PM

'pakavit_123', on 09 Aug 2011 - 3:30 PM, said:

ได้ความรู้ในเรื่องการสมัครงานอีกด้วย และตลกตรง หญิงอ้วนในชุดคลุมท้อง นึกแล้วตลกดี


ขอบคุณครับ ... มีฮากว่านั้นอีกเยอะครับ มันก็เหมือนงานอื่น ๆ แหละครับ ถ้าเรามีความสุขกับมัน ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดระหว่างการปฏิบัิติงานมักจะกลายเป็นเรื่องตลกไปในที่สุดครับ ^^

'Srijulaluk', on 09 Aug 2011 - 3:42 PM, said:

โหห พี่ป้อ ไปอยู่ออสตั้ง 3 ปี
ถึงว่าล่ะหลังจาก HF เข้าวัดแล้วไม่ค่อยเห็นเลยพี่ป้อกับคุณหมอเจ้าพ่อหางแดงเท่าไหร่นัก :D


จะว่าไปถ้าไม่ใช่ porinter คอยแนะนำ srijulaluk ก็ยังคงงกๆเงิ่นๆกับ HFlight ตั้งแต่แรก

ขอบคุณคุณเจเคด้วยนะครับสำหรับบทสัมภาษณ์เจาะลึกอย่างนี้


ขอบคุณครับ ...ระยะเวลา 3 ปี 4 เดือน ที่จากบ้านมา มันไม่ได้นานอะไรหรอกครับ บางคนอยู่กันเป็น 10 ปีขึ้นไป แต่สำหรับผมการที่ไม่ได้กลับไปเที่ยวบ้้านเลยในระยะเวลาดังกว่าทำให้รู้สึกว่าเบื่อ Sydney มากกว่าครับ อิอิ

'M-Ai', on 10 Aug 2011 - 03:55 AM, said:

เฮ้ยยย ป้อ ดีใจมากเลยที่ได้เจอเธอในนี้ จำเราได้ป่าว MAI(BU)รู้สึกว่าเราจะเจอกันครั้งสุดท้ายที่ร้านชาติไทย(@ซิดนีย์)เกือบ2ปีแล้วล่ะมั้ง
เรากลับมาไทยแล้วน่ะ ยังไงเธอจะกลับมาแล้วติดต่อกันบ้างน่ะ take care dude ....ps. คิดถึง ร้าน ณ บางกอก ฝากไปกินด้วย
อ๋อ ขอบคุณสำหรับ review ชอบมากค่ะ


นึกว่าใคร ..เพื่อนใหม่นี้เอง เราก็ดีใจที่เจอใหม่ในนี้ อิอิ ทำไมจะจำไม่ได้อ่ะ เรียนด้วยกันมาตั้ง 4 ปี ทำงานที่สนามบินดอนเมืองเหมือนกัน (แต่คนละสายการบิน อิอิ) แล้วก็ยังมาเจอกันที่ Sydney อีก เรากลับบ้านปลาย ๆ Oct. อ่ะ ยังไงไวุ้กินข้าวกันน๊า ส่วนร้านชาติไทย และ ณ บางกอก ก็ยังสบายดี ขยายสาขามากขึ้น(และก็แค่อาหารแพงขึ้นเท่านั้นเอง 555) .. คิดถึง ๆ ไว้เจอกันนะใหม่ ^^

'Leading Steward', on 10 Aug 2011 - 11:01 AM, said:

คิดถึงซิดนีย์ คิดถึงพี่ป้อ ^_^


ขอบคุณครับ ไว้เจอกันที่งาน Meeting ครับ ^^

'Ki-jang-aey', on 10 Aug 2011 - 1:53 PM, said:

ขอบคุณครับ :) :) :) :)


ขอบคุณเช่นกันครับ ที่แวะเข้ามา comment ... ดีใจแทนน้อง JK ครับที่มีคนชื่นชอบในคอลัมม์ของเค้า ^^

#18 PoMpOmPuRiNmAn

PoMpOmPuRiNmAn

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 50 posts

Posted 11 August 2011 - 04:48 AM

พี่ป้ออ...โอย คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ เสียดายตอนไปซัมเมอร์ไม่ได้ไปอยู่ซิดนีย์ตามที่ตั้งใจไว้เลยไม่ได้เจอพี่เลย สี่ปีได้แล้วมั้งพี่ กลับมาแล้วนัดเลยนะพี่

#19 flyvirgin

flyvirgin

    สมาชิก Premium Economy

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,262 posts
  • LocationPhuket, Thailand

Posted 12 August 2011 - 06:01 PM

ขอบคุณผู้ก่อตั้ง web ทุกท่าน เลยครับ เป็น 1 ในไม่กี่ web ที่เข้ารายสัปดาห์เลย ไม่ว่าจะไปไหน

รูปจากการท่องเที่ยวของผมค้างอยู่มากมายอยากเอามาลงแบ่งปัน เป็นพวกชอบเล่าเรื่องแต่ไม่ชอบพิมพ์

มีโอกาส จะไป meeting ด้วยคนครับ อยู่ภูเก็ต ต้องหาโอกาสดีๆ ไป meeting บ้างละ


#20 MANJOONU

MANJOONU

    สมาชิกกำลังออกตั๋ว

  • Premium Members
  • 237 posts
  • LocationNongkhai - Udonthani

Posted 13 August 2011 - 02:49 AM

โหหห มาอีกคนแล้ว.. ขอบคุณที่ทำสัมภาษณ์มาให้อ่านกัน

ปล. คิดถึงหนูเตยกับป๋า saranboy อะครับ จัดมาหน่อยครับ




0 user(s) are reading this topic

0 members, 0 guests, 0 anonymous users

ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Galileo (แสดงผล waiting list)     ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Amadeus (เแสดงเฉพาะที่นั่งว่าง)
   
Thailand Web Stat     ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนก ตั๋วเครื่องบิน โทร 02-3737-555 / จันทร์ - ศุกร์ 09.00~18.00 น. // เสาร์ 09.00-16.00 น.