99 replies to this topic

[Afterburner]

Advertisements

ข้างๆ ห้องน้ำมีที่กดน้ำดื่มด้วยนะครับ (เอาน้ำมาจากไหนหว่า ^^)



ประตูเครื่องบินครับ อย่าไปเปิดเชียวนา (แต่จริงๆ ใครอยากเปิดก็เปิดไม่ได้หรอกครับ ด้วยแรงดันขนาดนั้น แต่ก็อย่าลองเลยนะครับ ^^)



ลิฟท์ส่ง Cart อาหารไปยังชั้นบนครับ (ชั้นที่พวกเราอยากนั่งอ่ะ)



นี่ก็ทางขึ้นไปยังชั้นบน ด้านท้ายเครื่อง คนชั้นล่างห้ามขึ้น แต่คนชั้นบนลงมาได้นะครับ T-T



ความใส่ใจของเค้าครับ ด้านท้ายเครื่องที่ไม่มีพนักพิงผู้โดยสารให้เกาะเผื่อเวลาเครื่องส่าย เค้าก็ทำราว ใว้ให้จับครับ

คือผมคิดว่างั้นนะ (จริงๆ เอาไว้ทำไร รอแอร์ตัวจริงมาบอกนะครับ --")

[Afterburner]

หลังจากซนอยู่ท้ายเครื่องซักพัก ก็กลับมานั่งที่ครับ อ้าว! จะถึงแล้วนี่นา



เครื่องเริ่มลดระดับครับ ต้องลดความเร็ว เปิด Speed Break หน่อย



จะแตะรันเวย์แล้วครับ



Touch down เปิด Speed Break เต็มสูบครับ

[Afterburner]

แล้วก็ Taxi มาจอดข้างๆ เจ้าถิ่น อย่าง Dragon Air นะครับ



แล้วก็ อย่างที่รู้กันครับ พรึบ!!



ออกจากเครื่องแล้วก็เดินตามป้าย หรือ ฝูงชนไปเลยนะครับ



ลงบันไดไปต่อรถไฟนะครับ

[Afterburner]

หลังจากผ่าน ตม. ที่คนเยอะมากกกกก แล้วก็มาดูป้ายนี้นะครับว่ากระเป๋าเรามาที่สายพานไหน

คราวนี้ สายพานที่ 11 ครับ





แล้วก็เดินออกมาจากสนามบินครับ ไปขึ้นรถเมล์ เข้าเมืองเนื่องจากนานๆ มาที ผมเลยอยากจะนั่งชมวิวซักหน่อย

แต่กลับกลายเป็นว่า รถติดมหาศาลครับ แนะนำว่าเพื่อนๆ ขึ้นรถไฟเข้าเมืองดีกว่านะครับ ^^

[Afterburner]

ตัดมาที่วันกลับเลยนะครับ เนื่องจาก Detail ไม่มากเหมือนขามา (ไฟลท์ดึก ไม่มีแสง และเรี่ยวแรง เพราะเหนื่อยจากการช๊อบปิ้ง!!)

เริ่มจาก มาขึ้นรถไฟที่ สถานีฮ่องกง ครับ (Hong Kong Station)



ด้านหน้าครับ



ฝั่งตรงข้ามเป็น IFC Mall ครับ

[Afterburner]

ข้อดีของการกลับสนามบินด้วยการนั่งรถไฟ Airport Express คือการที่เราจะสามารถ ทำการ Check in ได้ที่สถานีรถไฟนี่เลยครับ (In town Check in) ไม่ต้องแบกกระเป๋าไปสนามบินเอง หรือใครที่ไม่ต้องซื้ออะไรแล้ว แพคกระเป๋าเสร็จแล้ว เรายังสามารถมา Check in ล่วงหน้าได้ถึง 24 ชม. ก่อนเวลาเครื่างเราออกครับ ทำให้เราเดินตัวปลิวไปไหนต่อไหนสบายครับ แต่อย่าให้ตั๋วเราปลิวไปแค่นั้น 555

เข้ามาด้านในแล้วก็ซื้อตั๋วตรงตู้นี่ครับ



เที่ยวเดียวจากสถานีนี้ 100 เหรียญฮ่องกงครับ



ต้องมีตั๋ว แบบนี้ หรือมีบัตร Octopus Card ก่อนนะครับ ถึงจะเข้าไปทำการ Check in ได้

ดูจากบอร์ดนะครับ ว่าสายการบินเราอยู่ช่องไหน แล้วก็เข้าไปเลยครับ

[Afterburner]

เสร็จแล้ว ก็ออกประตูนี้ครับ



แล้วก็ไปตามป้ายเลยครับ



ตั๋วโดยสารประเภทต่างๆ มีป้ายแสดงข้อมูลชัดเจนครับ

[Afterburner]

มาขึ้นรถไฟกันเลยนะครับ



ภายในจัดที่นั่งแบบ 2 + 2 ครับ ด้านขวาคือที่วางกระเป๋าครับ



มีไฟบอกตำแหน่งว่าเราอยู่ตรงไหน กำลังจะไปที่ไหนครับ



ลืมให้ดูตั๋วเครื่องบินที่ได้มาครับ หน้าตาเหมือนเดิม แต่คราวนี้เลือกนั่งหน้าเครื่องบ้างครับ

ขามาตอนที่เครื่องกำลังจะแลนด์เวลากางล้ออ่ะครับ เสียงกางล้อดังตึ้ง!!!! ดังมากจนผมกับเพื่อนคิดว่า เครื่องไปชนกับอะไรซะอีก เฮ้อ....

ขากลับเลยหนีไปนั่งหน้าแทน

[Afterburner]

มาถึงสนามบินแล้วครับ เค้ามีให้เลือกว่าจะออก Terminal ไหนนะครับ

ถ้า T1 ก็ออกจากรถทางซ้าย ถ้า T2 ก็ออกทางขวา

Emirates ออกทางซ้าย ไป Terminal 1 ครับผม (แต่ถ้าใครออกผิดก็ไม่เป็นไรนะครับ เดินอ้อมกันได้)





ยาวไปครับ ยาวไป



เรา check in แล้วครับ แต่ขอไปดูที่เคาเตอร์ Check in ของสนามบินหน่อยว่าเป็นยังไง

ดูที่บอร์ดครับ ว่าอยู่ตรงไหน

[Afterburner]

เจอแล้วครับ Row G



แล้วผมก็คิดถูกจริงๆ ครับ ที่ทำ In town Check in มาแล้ว

[Afterburner]

แล้วก็ต้องฝากท้องกับสิ่งนี้เหมือนกันครับ หลังจากที่เงินผมละลายหายไปอย่างรวดเร็ว ^^



ผมว่าที่ฮ่องกงเค้าดีนะครับ มีที่ให้นั่งเพียบเลย แต่ของบ้านเรา ถ้าจะนั่งต้องไปนั่งในร้านค้า ซึ่งของแต่ละอย่าง แพงจนซื้อทานไม่ลงจริงๆครับ ฝากท่านผู้มีอำนาจด้วยนะครับ เพื่อสนามบินของเราคนไทยครับ

หลังจากเติมพลังแล้ว เราก็ไปต่อเลยครับ เหมือนขามาครับ เราต้องนั่งรถไฟ ไปอีกฟากนึงครับ เพื่อไปที่เกทของเรา วันนี้เกท 62ครับ

[Afterburner]

เดินไปที่เกท เช่นเคยครับ เผื่อเวลาไว้ซักหน่อยก็จะดี ไม่ต้องรีบให้เหนื่อยด้วยครับ



เกท 62



ลูกเรือยังไม่ได้ขึ้นเครื่องไปเตรียมงานเลย --" ดีเลย์อีกแน่เรยย



แต่เครื่องเราจอดรออยู่นานแล้วครับ

[Afterburner]

เครื่องเราชัดๆ ครับ (สุดความสามารถแล้วครับ)



ระหว่างรอขึ้นเครื่อง ก็เดินไปซนที่เกทข้างๆ ครับ เจ้าถิ่นเค้าก็สมราคาครับ ทุกเกทเลยครับ 5555





อ๊ะนั่น Orient Thai นี่นา

[Afterburner]

และแล้ว เค้าก็เรียกบอร์ดครับ ดีเลย์เหมือนกัน แต่ก็ยังน้อยกว่าที่กรุงเทพครับ

ถึงแม้จะบอร์ดช้า แถมยังมีคุณพี่ท่านหนึ่งช๊อปเพลิน แต่ด้วยไฟลท์ไทม์แค่ 2.10ชม. ก็เลยดีเลย์ไปเพียงแค่ 5 นาทีเมื่อถึงกรุงเทพครับ



ที่นั่งของผมครับ 49K



ที่ท้าวแขนด้านขวาครับ



ที่ท้าวแขนด้านซ้ายครับ

[Afterburner]

จอทีวีส่วนตัวระบุเลขที่นั่งผมครับ



ผู้รู้ช่วยมาไขข้อข้องใจของผมอีกซักข้อนะครับ

ขามา ที่เสียบหูฟัง และปลั๊กไฟมันอยู่ที่ Armrest แต่ทำไมขากลับมันไปอยู่ที่พนักพิงด้านหน้า แบบในภาพอ่ะครับ

มันแล้วแต่เครื่อง หรือมันเป็นอย่างนี้ทุกลำ แต่หน้า ก่ะหลังเครื่อง Config ไม่เหมือนกันครับ







ระยะห่างจากที่นั่งริมหน้าต่าง กับหน้าต่างมีมากพอสมควรครับ

[Afterburner]

สิ่งที่แปลกดีอีกอย่างคือ ขามาเค้าฉีกตั๋ว เอาด้านยาวให้เรา

แต่ขากลับฉีกเอาด้านสั้นให้เราครับ



อย่างอื่นก็มีให้ครบเหมือนขามา ทั้งหูฟัง หมอน นิตยสาร และที่เพิ่มเข้ามาครับ ผ้าห่ม

จริงๆแล้ว ขามาถ้าอยากได้ผ้าห่ม ก็ขอเค้าได้เลยนะครับ



Service เริ่มเหมือนขามาครับ



เมนูก็เหมือนขามา ที่ได้รับ แต่ไม่ได้อ่าน เพราะ Pre Order Seafood Meal ไว้เหมือนเดิมครับ



ระหว่างที่ซนอยู่บนเครื่องตอนที่ Taxi ไป Run way เหลือบไปเห็นคุณคะจอดอยู่ลำนึงครับ ไม่รู้จอดรอไปไหน ใครทราบบ้างครับ

[Afterburner]

เครื่องจะขึ้นแล้วครับ .....



ขณะที่เครื่องใต่ระดับอยู่ ในความมืดของเครื่อง ก็หันไปเจอสิ่งนี้ครับ เรียกว่าอะไรน้าาาา แสงดาวพวกนั้น



แต่ยังไงก็ไม่สนใจครับ เพราะสิ่งที่น่าสนใจกว่า คือ.....



ผ่าง...... (ผมแปลกใจที่ สจ๊วตคนมาเสริฟ เค้าบอกผมว่า Lunch Sir! หรือผมฟังผิดหว่า)



น่าทานมั๊ยครับ

[Afterburner]

ดูใกล้ๆนะครับ พาสต้า ซอสครีมข้นๆ หน้าหอยเชลตัวโตๆ กุ้งเน้นๆ โอ้โห





จริงๆ ก็จืดไปหน่อยครับ ดีที่มีเกลือและพริกไทยให้มาด้วย

เครื่องเคียง น่าจะเป็นแซลมอนรมณ์ควันรึไงเนี่ยครับ มีเลมอนมาให้เติมรสชาติ



ของหวานน่าจะเป็น Mouse อะไรซักอย่างครับ แต่ไม่น่าจัดมาเข้า Set กับพาสต้า เพราะพากันเลี่ยนเข้าไปใหญ่เลยครับ

สรูป ครัวไทย ชนะเลิศ ^^



ขนมปัง ก็เย็นเหมือนเดิม แต่ ช๊อกโกแลตก็อร่อยเหมือนเดิมครับ

[Afterburner]

รอบนี้ขอเป็น Red Wine ครับ เพราะขามา White Wine ไม่ค่อยถูกปาก

ขอเบิ้ล น้ำแอปเปิ้ลมาพร้อมกันเลย



หลังจากอิ่มแล้ว ก็ดูหนังไปพลาง กดมาดูที่กล้องอีกที อ้าวจะถึงแล้ว (ไฟลท์นี้เพอเซอร์ผู้ชายประกาศอะไรโน่นนี่นั่น เยอะแยะไปหมด รบกวนผู้โดยสารนะครับ)





แล้วเครื่องก็แตะพื้น มาถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพครับ



แล้วก็ Taxi มาจอดข้างๆ Kenya Airways, Qantas, แล้วก็การบินไทยครับผม

[Afterburner]

แอบถ่ายขุมพลังก่อนจะลงครับ



ปรากฎการณ์ธรรมชาติครับ



ลงจากเครื่องแล้วก็เดินไป ตม. ครับ ไกลหน่อยเพราะมันเหนื่อยอ่ะครับ แล้วก็ไปดูที่บอร์ดนี้ ว่ากระเป๋าเรามาที่สายพานไหน



แล้วไปรับกระเป๋า กลับบ้านครับ



เป็นอันเสร็จสิ้นไฟลท์นี้ครับผม กลับบ้านนอน ครอกกกก..........