81 replies to this topic

[monopod]

Advertisements

สวัสดีครับ มือใหม่หัดรีวิว ฝากตัวด้วยนะครับ

นี่ก็เป็นรีวิวที่สองของผมที่เว็บนี้ หลังจากอัปเปหิตัวเองมาอยู่ห่างบ้านไปครึ่งโลก เรียนหนังสือเบื่อๆหน่ายๆได้ครึ่งปีก็ถึงเวลาเบรคซักทีครับ
พอถึงเวลาเบรค ทางโรงเรียนที่แสนน่ารักของเราก็จะไล่เราออกไปจากหอให้ไปอยู่ไกลๆในทันที ชาวบ้านชาวเมืองเค้าก็จะกลับบ้านเค้ากันไป เพื่อนๆเอเชียที่โรงเรียนก็เลือกตั๋วกลับจีน เกาหลี ญี่ปุ่น รวมทั้งไทยกันอย่างมีความสุข เราก็ได้แต่นั่งมองตาปริบๆเพราะไม่มีตัง ^^ และด้วยความอยากเที่ยว อยากเห็นว่าอเมริกามันหน้าตาเป็นยังไง ผมก็วางแผนเที่ยวมันซะเลย 17 วันใช่มั๊ย จัดไปเลย 3 เมือง

เลือกสายการบินก็ ง่ายๆครับ ไมล์ๆๆๆๆ ไม่คิดอย่างอื่นเลย เพราะมันแพงกว่าพวก Low Cost นิดเดียวจริงๆ เรื่องกระเป๋าก็ช่างมัน Carry on ก้ได้ฟระ สุดท้ายก็มาได้สายการบินที่เก็บไมล์ด้วยอยู่ คือ United Airlines นั่นเองครับ

Attached Thumbnails

• 

[monopod]

เริ่มกันที่ Boston Logan Airport (BOS) สนามบินหลักของผมในปีนี้ครับ ปีหน้าอยากจะหนีไปให้พ้นๆซักทีเพราะอากาศแย่มากๆ หิมะท่วมโลก
โรงเรียนผมยังใจดีครับ เลยขับรถพาเด็กๆมาทิ้งสนามบินและสถานนีรถไฟ บ่ายสองแก่ๆของวันที่ 4 มีนาคม ผมก็อยู่หน้า Terminal C ของสนามบินโลแกนเรียบร้อยครับ

ข้างในสนามบินก็ง่ายๆตามสไตล์สนามบินอเมริกันเข้าไปก็มีตู้เช็คอินรายล้อม ทั้งแบบใช้คน แก้ไขครับ ไม่มีคน มีแต่เครื่อง คนอยู่ตรงโหลดกระเป๋าครับ(เอาไว้เก็บค่าโหลด $25) และแบบ Kiosk แต่วันนี้ไม่ใช้ดีกว่า เช็คมาแล้วเรียบร้อยครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[monopod]

เพิ่มเติมบรรยากาศภายในสนามบินอีกหน่อย จริงๆแล้วรีวิวนี้จะกึ่งๆรีวิวสนามบินด้วยนะครับ เพราะผมถ่ายรูปบนเครื่องบินค่อนข้างน้อย เพราะแอร์ดุเป็นอย่างยิ่ง ด่ากราดเลย T_T กล้อง DSLR ก็ไม่ได้

Attached Thumbnails

• 
• 

[monopod]

ผ่าน Security เข้ามาที่เกตแล้วครับ วันนี้ได้เกต C20 พนักงานที่สนามบินนี้น่ารักมากๆ พูดจาดี เรียกเราก็ sir ทุกคำเลยครับ

ถึงจะสุภาพ แต่ก็เป๊ะเหมือนเดิม เอากระเป๋าผมไปค้นต่อเจอยาสีฟันหลอดยักษ์ที่ไม่รู้พลาดเอามาได้ยังไง
เค้าก็เรียก หนูคะ โชคร้ายหน่อยนะหนู ยาสีฟันหนูมัน(โคด)ใหญ่เลย เอาขึ้นเครื่องไม่ได้นะคะ
ผมก็อยากจะเถียง ทำดรามายืนน้ำตาไหล พี่ครับบ แล้วผมจะเอาอะไรแปรงฟัน >>_<<
แต่ไม่ดี ดูไม่โปร เลย..ครับ ทิ้งไปเลยครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[monopod]

ใบเบิกทางในทริปนี้ครับ เห็นว่า United มีบริการ Mobile Boarding Pass เลยขอลองของซักหน่อย ก็พบว่าสะดวกดีไม่ต้องใช้กระดาษให้เปลืองทรัพยากรโลกนะครับ แต่ลำบากนิดหน่อยเวลาผ่าน security เพราะว่าต้องแบกของ แก้ผ้า แล้วยังต้องยกมือถือขึ้นมาแสกนอีก

พอมาอยู่เกต C20 เกตข้างๆก็ต้องเป็น C19 ถ่ายรูปมาก็แปลกใจว่าทำไมถึงมีธงชาติสหรัฐติดอยู่
ไหนๆเวลาเหลือเยอะประกอบกับสนามบินนี้มีเน็ตและปลั๊กไฟให้ใช้ฟรี ก็เลยเปิดคอมกด Wiki ดูก็พบว่าไอ้ที่สงสัยเป็นเรื่องจริงครับ

เกต C19 ของสนามบิน Logan คือเกตที่ใช้บอร์ดเที่ยวบิน UA 175 ที่ไปชนตึก World Trade Center ในเหตุการณ์ 11 กันยา นั่นเองครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[monopod]

มาส่องเครื่องบินกันครับ
ลำแรกเป็น B757 ของ UA ที่เพิ่ง Push Back มาจากเกตข้างๆ จะไปไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน
ซักพักก็มีพี่ใหญ่ Air France A340 บินตรงมาจากฝรั่งเศสครับ เครื่องบินใหญ่ๆที่นี่จะเด่นมากๆเพราะส่วนใหญ่จะเครื่องบินจะเป็นเครื่องในประเทศเล็กๆครับ เครื่องใหญ่ๆมักไปลงที่ New York ซะหมด เพราะมันใกล้กันนิดเดียวครับ
ส่องไปไกลๆเห็นก้น A340 อีกลำของ Lufthansa ครับ ท่าทางกำลังจะกลับไป Frankfurt

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[monopod]

มาส่องประชากรหลักของสนามบินนี้กันต่อครับ
เริ่มด้วยเครื่องเล็กๆสีสดๆ(จนโดนหลายๆคนด่าว่าทุเรศ)ของ Southwest สายการบินนี้ก็ดีอย่างเพราะมีแต่ B737 ทั้งฝูงบิน ลายนี้มาก็ไม่ต้องเดาเลย B737 แน่นอนล้านเปอร์เซนต์
ลำต่อมาเป็น A320 ลำน้อยจาก UA อันนี้เป็นลายใหม่ที่จะใช้หลังจากควบกิจการกับ Continental ครับ จะเป็นลาย CO เลยแต่ว่าเปลี่ยนจากคำว่า Continental มาเป็น United เท่านั้นเอง ส่วนตัวชอบแบบเก่ามากกว่าเพราะว่าชอบสีน้ำเงินครับ
อีกลำเป็น A320 เหมือนกัน ลำนี้ของ US Airways แต่ว่าสวมชุดลาย Star Alliance อยู่ครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[monopod]

หลังจากรอเป็นเวลากว่าสามชั่วโมง ส่องชาวบ้านมาเยอะ ก็มาดูเครื่องที่ตัวเองจะขึ้นบ้างครับ ไม่มีอะไรพิเศษ เป็นเครื่อง B757 รุ่นยอดนิยมสำหรับเที่ยวบินในประเทศนี้นั่นเอง

Attached Thumbnails

• 

[monopod]

ไฟลท์นี้เต็มมากๆครับ ถึงขนาดพนักงานต้องประกาศหาคนสละสิทธิ์ไปบินไฟลท์ต่อไปกันเลยทีเดียว พวกที่แสตนด์บาย หรือรออัพเกรดอยู่ก็เลิกหวังไปได้เลยครับ อดแน่นอน
ด้วยความที่ไฟลท์เต็ม และการโหลดกระเป๋ากับสายการบินพวกนี้มันเสียตัง ทุกคนจึงพร้อมใจขน Carry on ใบเขื่องเต็มขีดจำกัดกันมา พนักงานเลยต้องขอความร่วมมือ ใครอยากโหลดกระเป๋า โหลดฟรีโลดดด ผมก็ได้ยินอะไรไม่รู้ฟรีๆ เลยไปโหลดกะเค้าด้วยครับ

โหลดเสร็จก็ เข้างวง ขึ้นเครื่องกันเลยครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[monopod]

เข้าประจำเครื่องก็เริ่มส่องทันทีครับ สนามบินที่นี่จะเอาสายการบินเดียวกันมากองรวมๆกันหมด เพราะมันมีอยู่ไม่กี่สายการบิน มองไปรอบๆเลยน้ำเงินทั้งแถบเลยครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[monopod]

พอเข้ามาถึงที่นั่งก็พบกับตัวละครสำคัญของไฟลท์นี้ เขาเป็นหนุ่มอเมริกันอายุน่าจะซัก 20 กลางๆ นั่งอยู่ที่ที่นั่งผม หน้าตาดูเรียบร้อยๆดี ผมก็ทวงที่นั่งกะเค้า ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เข้ามาก็สำรวจ Seat Pitch ซักหน่อย อืมม พอไหวสำหรับคนเตี้ยๆ 170 อย่างผม

เงยหน้าไปดูระบบความบันเทิงของไฟลท์นี้แล้วจะเป็นลม จอ CRT ครับ หรือที่เรียกกันว่าทีวีตูดใหญ่นั่นเอง ผมเจอแล้วก็ต้องนึกอยู่นานว่าเราดูไอ้ทีวีแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่วะ น่าจะเป็นตอนอยู่ไทย เพราะทีวีที่นี่ส่วนใหญ่ก็ใช้เป็น LCD หมดแล้ว ส่วนถ้าเป็นบนเครื่องบิน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของชีวิตจริงๆ เฮ่ออ เพลีย full-cost เพื่อไมล์ เพื่อไมล์ เพื่อไมล์

Attached Thumbnails

• 
• 

[monopod]

ระหว่างแทกซี่ไปยังรันเวย์ ตาคนนั้นก็เริ่มแผลงฤทธิ์
หลังจากสัญญาณรัดเข็มขัดดังขึ้น แอร์ก็เริ่มเดินไล่ผู้โดยสารให้ปิดมือถือและอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ทุกชนิด พี่แกก็นั่งเสียบหูฟังเปิด iPod น่าตาเฉย ป้าแอร์(ขอบอกว่าป้าจริงๆ แกสูงอายุเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็โปรมากๆ)ก็เข้ามาบอกว่าให้ปิดเครื่องนะคะ ^^ พี่แกก็มองหน้าแอร์ แล้วก็ทำหน้ากวนเบื้องล่างเล็กน้อย ก่อนจะนั่งฟังเพลงต่อเหมือนเดิม
ป้าแอร์เริ่มของขึ้นอย่างรวดเร็ว(ถ้าในกรณ๊แอร์การบินไทยจะของขึ้นช้ากว่านี้ประมาณแปดสิบเท่า)คว้าไอพอดแล้วก็บอกว่าปิดเดี๋ยวนี้ พูดไม่รู้เรื่องหรอ กฏสายการบินบอกให้ปิดก็ต้องปิด ปิดเองเป็นมั๊ย ถ้าไม่เป็นเดี๋ยวชั้นปิดเอง ว่าแล้วป้าแอร์ก็หันไปถามผู้โดยสาร "มีใครปิดไอพอดเป็นบ้างคะ" แล้วก็มีคนบอกวิธีไป ป้าแกก็เริ่มปฏิบัติการปิดไอพอด
ณ จุดนี้เริ่มวุ่นวายแล้ว ป้าแอร์ก็เรียกแอร์อีกคนนึงให้ไปบอกกัปตัน ว่าที่นั่งนี้ไม่ยอมทำตามกฏสายการบิน สุดท้ายพี่แกก็ยอม ถอดหูฟังเก็บไอพอดแต่โดยดี แล้วก็บ่นว่าไม่ต้องมาบอกหรอกน่า ผมแก่แล้ว ป้าแอร์ก็บอกว่าป้าก็แก่แล้วเหมือนกัน ด้วยอารมณ์หยอกๆ พี่ตัวละครหลักของเราก็จัดการแลบลิ้นใส่แอร์หนึ่งครั้งเป็นอันเสร็จพิธี

โอย เหนื่อย กว่าจะได้เทคออฟ...ไปกันเลยดีกว่าครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[monopod]

บริการระหว่าไฟลท์ก็น่าประทับใจตามสไตล์อเมริกันครับ เอาน้ำไปแก้วนึง..จบ = =

ด้วยความที่จอทีวีมันไฮโซมาก ถึงแม้ว่าจะมี The King's Speech ฉายอยุ่ผมก้ปลง ไม่ไหวจะดู เปิดคอมดูหนังตัวเองดีกว่า

แต่ด้วยความที่ไฟลท์ยาว 6 ชั่วโมง แล้วผมกินแซนด์วิชเน่าๆไปชิ้นเดียวจากบอสตัน ท้องก็ร้องโฮกฮากกก เราก็ปั้นหน้าหิวเต็มที่ จนแอร์มาถามว่าน้องคะ หิวมากมั๊ย กินอะไรมั๊ย สรุปก็ได้แซนด์วิชไก่งวงมาฟรีๆหนึ่งชิ้นไม่เสียตัง เย่ๆ

Attached Thumbnails

• 
• 

[monopod]

หลังจากดูหนังจบไปหนึ่งเรื่องกว่าๆ เวลาก็ผ่านไปห้าชั่วโมงกว่าแล้ว เมื่อยมากๆ ตอนนี้เราก็อยู่บนน่านฟ้าเมือง Los Angeles เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อมองลงไปก็เห็นไฟเมืองอันคุ้นเคยทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าไฟลท์การบินไทยที่ผมนั่งมาลงที่อเมริกาครั้งแรกก็ลงที่สนามบินนี้ เวลาประมาณนี้พอดีเลย คิดแล้วก็คิดถึงบ้านเล็กน้อย (อีกสองเดือนก็ได้กลับแล้ว >< ตื่นเต้น)

สุดท้ายก็ลงจอดที่ Los Angeles International Airport (LAX) เป็นที่เรียบร้อยครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[monopod]

ลุกพรึบ จะรีบไปไหนกัน อยู่ตั้งท้ายเครื่อง เฮ่ออ

และดง UA ณ LAX ครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[monopod]

ก็ไฟลท์แรกก็จบลงเพียงเท่านี้ครับ

เดี๋ยวมาโพสต์ไฟลท์ต่อไปนะครับ

Attached Thumbnails

• 

[monopod]

ต่อด้วยไฟลท์ที่สองเลยนะครับ หลังจากที่เที่ยว LA เป็นเวลายาวนานมาก (4 วัน T T) แล้ว เราก็เดินทางต่อไปยัง San Francisco ครับ
ไฟลท์นี้มีเสียวตกเครื่องเล็กน้อยเพราะผมกับเพื่อนพักอยู่ที่ Claremont ซึ่งห่างจาก LA ประมาณชั่วโมงครึ่งทางรถไฟครับ ไฟลท์เรา 6.45 ตอนแรกก็กะจะนั่งรถไฟรอบ 2.30 แต่ปรากฏว่าลืมเช็คเวลา สุดท้ายเลยไปไม่ทันครับ ต้องนั่งรอบ 3.30 เข้ามาถึง Downtown LA ตอน 5.00 พอดี เราก็กระโดดขึ้นรถบัส LAXFlyaway เลย ผลก็คือมาทันแบบฉิวเฉียดครับ

ภาพภายใน LAXFlyaway bus ครับ คิดว่าเป็นบริการ Airport Shuttle ที่ดีมากๆ คือไม่แพงเกินไป ($6 ประมาณ 180 บาท) แล้วก็เร็วมากๆ LA จะมีเลนพิเศษสำหรับรถที่มีคนมากกว่าสองคนแบบ ขึ้นทางด่วนไปเลนเดียวตรงเข้าสนามบินเลยครับ สะดวกมากๆ

หอบังคับการ และโครงอะไรไม่รู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของ LAX

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[monopod]

พูดถึงสนามบิน LAX นี่ ผมไม่ค่อยชอบเลย รู้สึกว่าเป็นสนามบินโบราณ ล้าหลัง แล้วก็วุ่นวายมากๆ รถไฟเชื่อมระหว่าง Terminal ก็ไม่มี ต้องไปขึ้น Shuttle ที่มาประมาณปีละคัน บรรยากาศก็อึมครึมๆยังไงก็ไม่รู้ แต่คราวนี้โชคดีที่ห้องน้ำไม่เน่ามากนัก ตอนเข้าไปเค้ากำลังทำความสะอาดอยู่พอดี ตอนนี้เห็นว่าทางสนามบินกำลังต่อเติมส่วน International Terminal นั่งรถผ่านแวบๆพบว่าสวยงามใช้ได้เลยทีเดียว ไม่รู้ว่าจะเปิดซักปีไหนและการบินไทยจะได้ไปลงที่นั่นหรือเปล่า

มาถึงเกตเป็นที่เรียบร้อยอย่างรวดเร็วพบว่าร้างมาก เราก็ตกใจนึกว่าเค้าขึ้นเครื่องไปกันหมดแล้ว รีบดูนาฬิกา ก็เออีกตั้ง 10 นาทีกว่าจะบอร์ด เลยเหลือบไปมองกระดานที่ขึ้นชื่อ Standby List ซึ่งจะมีบอกว่าเครื่องนี้มีที่นั่งเหลือกี่ที่ก็ถึงบางอ้อ หลังจากเคลียร์ Standby List แล้วยังมีที่นั่งเหลือทั้งสิ้น 106 ที่ครับ = =

ส่วนเครื่องบินก็เจ้าเก่าครับ B757 ไฟลท์นี้เป็นไฟลท์สั้นๆแค่ชั่วโมงกว่าเท่านั้นเอง คุยกับเพื่อนแปบเดียวก็ถึงแล้ว

บอร์ดดิ้งพาสก็เหมือนเดิมครับ โหลดไว้ในมือถือ เพื่อนผมมาปริ้นที่สนามบินพบว่าได้เป็นบัตรแข็งด้วยครับ ถึงจะไม่สวยเหมือนของการบินไทยแต่ก็ยังดีกว่ากระดาษแฟกซ์มากๆ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[monopod]

จะรอช้าอยู่ใย ไปขึ้นเครื่องกันเลยครับ

รอบนี้มีช่องให้ถ่ายมุมบังคับด้วย เย่ๆ ไปบอสตันไม่มีนะเนี่ย มีแต่งวงทึบๆตันๆ

เรียบร้อยประจำที่นั่ง 24A ครับ

รอบนี้นั่งกับเพื่อนตัวเอง สบายไป

Attached Thumbnails

• 
• 

[monopod]

สำรวจทรัพย์สินรอบตัวซักหน่อย

Seat Pitch ครับ พออยู่ได้ ไม่เดือดร้อนต้องจ่ายเพิ่มไปนั่ง Economy Plus ซึ่งเหมือน Eco ธรรมดาทุกประการ แค่ได้ Pitch เพิ่ม 5 นิ้ว ไว้ถ้าได้บัตรเงินแล้วจะไปเยื่อมเยียนนะคร้าบบ

อุปกรณ์ความบันเทิง หนังสือ ถุงไม่สบาย (เค้าเขียนว่า Sick Bag ง่ะ) และหูฟังที่ห่วยที่สุดในโลกครับ
ข้อดีของที่นั่งที่นี่คือเป็นรูหูฟังแบบปกติโลก เพราะงั้นเราเอาหูฟังเราเสียบได้เลย ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาณกับเสียงเคาะกระป๋องของหูฟังสายการบินครับ

Taxi แล้วครับ จะสังเกตเห็นเสาหลากสี จุดเด่นอีกอย่างของ LAX ไกลๆครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
•