ก่อยอื่นขออภัยที่ข้อมความผมกำกวม เลยเข้าใจผิด
รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถูกจัดวางให้อยู่ในกลุ่ม Commuter และเป็น Commuter อย่างชัดเจนด้วย ถึงแม้ว่า จะมีคนเอาเรื่องการเพิ่มความถี่มาอ้างว่าสามารถเพิ่มได้สูงสุด เท่านั้นเท่านี้ขบวนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง มายัดเยียดให้ SARL เป็น Rapid Transit ให้ได้
ยังไง Commuter Train ก็คือ Commuter Train ไม่สามารถที่จะทำอะไรหลายๆ อย่างเหมือน Rapid Transit ได้
ส่วน BTS นั้น เป็น Metro หรือ Rapid Transit ไม่ใช่ Commuter แบบที่คุณเข้าใจ
ส่วนเรื่องที่ต้องสร้างลอยฟ้านั้น จริงๆ แล้วเขาก็อยากจะทำเป็นใต้ดิน แต่ติดปัญหาอยู่ที่เงิน ประเทศไทยไม่ได้รวยอะไรขนาดนั้น การก่อสร้างโครงการใหญ่ๆ นอกจากจะต้องดูรูปแบบความเหมาะสมแล้ว จะต้องดูเรื่องฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศในขณะนั้นด้วย
อ้อ แล้วอยากจะบอกคุณ Flight Mania ให้เป็นความรู้ไว้ว่า รถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในกรุงเทพมาหนครและปริมณฑลอีกหลายๆ สายนั้นเป็นระบบลอยฟ้า อาทิเช่น
ผมรู้ครับอะไรคือ metro อะไรคือ commuter
สั้นๆครับ SARL ตั้งใจให้เป็น commuter แต่ ส่งที่ออกมามันไม่ใช่
ผมยกตัวอย่าง "มหาชัย วงเวียนใหญ่" เป็นตัวอย่าง commuter ครับ
ไม่ได้จะประชดนะครับ แต่ถ้าจะบ้าจี้เรียก SA maglev ก็ไม่มีใครห้าม แต่เนื้อแท้ มันออกมาไม่ใช่ maglev หรอกครับ
เรื่องสายสีแดง ผมทราบแต่ว่าจะมีอีกสายที่วิ่งขนาน แต่ที่ก็พอเดาออกว่า สายนี้เป็นหมันไปอีกนาน แล้วโยนภาระไปให้ SARL
สายอื่นๆผมก็พอรู้ว่ามันอยู่บนดิน มันเลยเซ็งไง
ส่วน BTS นี่ก็ไม่มีอะไร เอกชนมีทุน เอกชนทำ เอกชนรวย จบ
เรื่องการเงินก็เกี่ยว เรื่องธรณีวิทยาก็เกี่ยวข้องด้วย
เรื่องการเงิน ลองไปดูตัวอย่างของ สายสีส้ม บางกะปิ - ตลิ่งชัน ก็ได้ ถูกดองมาหลายปีแล้ว ทั้งๆ เส้นทางของมันถ้าเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะช่วยบรรเทาเรื่องรถติดเป็นอย่างมาก
สายนี้โครงสร้างส่วนใหญ่อยู่ใต้ดิน หรือเรียกเหมารวมเลยก็ได้ว่าใต้ดินตลอดสาย วงเงินในการก่อสร้างสายนี้เลยสูงกว่าสายสีอื่นๆ เรียกประมาณๆ ได้ว่า สายนี้สายเดียวสร้างสายบนดินได้หลายสาย
ดังนั้นในสภาวะปัจจุบัน ที่ต้องเร่งก่อสร้างเพิ่มหลายๆ สาย จึงสมควรว่า ควรจะลงเงินครั้งเดียวแล้วได้หลายสายก่อนจะดีกว่า
ไหนๆ ตอบแล้ว ก็ขอยกประเด็นที่คุณ Flight Mania ยังสับสน เข้าใจผิด อยู่ในกระทู้ เกี่ยวกับ Airport Rail Link มาตอบด้วยเลย
รถไฟฟ้าสาย City Line และ Express Line เป็นรถรุ่นเดียวกัน Spec เดียวกัน ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนแบบเดียวกัน รุ่นเดียวกัน ทำงานบนกระแสไฟฟ้า และแรงดันไฟฟ้าที่ 25 kVAC เท่ากัน ดังนั้น รถทั้งสองแบบจะมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 161 km/h เท่ากัน
แต่ที่คุณบอกว่า City Line ช้า อันนี้เป็นเพราะ อัตราการเร่ง (Acceleration) มันต่ำกว่า BTS และ MRT เลยทำให้ดูเหมือนช้ากว่า และการจอดบ่อย แต่ความเร็วในการวิ่งจริงๆ ถึง 160 km/h แน่นอน ลองเปรียบเทียบดูกับรถบนมอเตอร์เวย์หรือทางด่วนก็ได้ แซงเรียบทุกคัน
โค้งของ SARL แต่ละจุดนั้น เป็นการออกแบบที่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมแล้ว คือ โค้งยกขอบ รัศมีวงเลี้ยวมาก คุณเลยรู้สึกเหมือนว่า เวลาเข้าโค้งแล้วรถมันเอียงๆ เขาออกแบบมาให้เพื่อรถสามารถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงได้อย่างปลอดภัย ไม่แหกโค้ง โดยไม่ต้องชะลอความเร็ว
แต่ BTS ตรงอนุสาวรีย์ชัยฯ, สยาม, ช่องนนทรี, ศาลาแดง เป็นทางโค้งในแนวราบ ซึ่งโค้งแบบนี้ รัศมีวงเลี้ยวน้อย จะต้องมีตัวประกบล้อกับรางเอาไว้ เพื่อกันรถหลุดโค้ง (เหล็กประกบรางนี้เป็นต้นตอของเสียงเอียดอ้าดเวลา BTS เข้าโค้ง) และโค้งของ BTS ไม่สามารถเข้ามาด้วยความเร็วสูงได้ ต้องชะลอความเร็วลง ถึงจะไปได้อย่างปลอดภัย
เรื่องเงินไม่มี ก็เข้าใจครับ ได้แค่นี้ เลยเซ็ง แค่หวังว่าจะไม่มีอนุสาวรีย์ โฮปเวล อีกโครงการก็พอ
เรื่องความเร็ว city line "อันนี้พอเข้าใจ หยุดบ่อย" ผมไม่ได้ว่าอะไร แต่ express line ผมรู้ครับมันไปได้แค่ 160 เพราะ รถมันไปได้แค่นั้น ผมแค่อยากจะสื่อว่า ควรจัดซื้อรถที่เร็วกว่านี้ตั้งแต่แรกแล้ว
แล้วที่ว่า city line "อันนี้พอเข้าใจ หยุดบ่อย" วิ่งถึง 160 ผมไม่รู้ว่าถึงบ้างรึเปล่า แต่โดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 130-140 ตัวเลขนี้ ผมใช้ GPS จับเอาครับ โดยประสบการณ์เครื่องนี้จะ +- ไม่เกิน 5 km/hr ครับ ผมไม่ได้จ้องเครื่องตลอดเวลา แต่ส่องสายตาไปทีไรก็จะอยู่ในช่วงนี้ แต่จะวิ่งเต็มที่แค่ไหน ผมว่าไม่มีปัญหา เพราะเท่านี้ก็พอแล้วครับ มันหยุดบ่อย สำหรับ city line
โค้งมันห่วยตรงที่ต้องลดความเร็วเยอะ ไม่ใช่เพราะเอียงเยอะหรือเสียงดัง (เข้าใจครับ tilting rolling stock มันแพงและซับซ้อนกว่า) ผมไม่เคยบอกว่ามัน"ออกแบบผิดหลักวิศวะ"ผมแค่บอกว่ามัน"ห่วย" มันคงมีปัจจัยอีกหลายอย่างเรื่องเงินและพื้นที่มั๊ง เลยไม่สามารถเข้าโค้งที่ 160 ได้ (ไม่สิ ไม่ได้ออกแบบมาให้เข้าเร็ว 160 มากกว่า ไม่ใช่ว่าไม่สามารถเข้าได้)
ผมไม่ได้จะกล่าวหาว่าผิด หรือถูก ผมเขียนกำกวนไปหน่อยเลยอ่านแล้ว งง ก็ขออภัย
ผมแค่อยากสื่อมุมมองของผู้บริโภคและประชากรคนหนึ่งเท่านั้นเองครับ อนาคตเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบ แต่ผมแค่ไม่อยากเห็นอนาคตเป็นไปในทิศทางที่พอเดาได้ว่ากำลังไปทางไหน