Jump to content



 
จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองรถเช่า
แผนกบริการลูกค้า โทร 02-3737-555 จันทร์ - เสาร์ 09.00-18.00น.

 

ค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวและการบินในเอชไฟล์ท เชิญด้านล่างนี้

หน้าแรก | เว็บบอร์ดรีวิว | จองตั๋วเครื่องบิน | จองโรงแรม | เที่ยวต่างประเทศ | เที่ยวในประเทศ | ลงโฆษณา

เกี่ยวกับ Airport Rail Link


  • This topic is locked This topic is locked
44 replies to this topic

#1 todd9a

todd9a

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 61 posts

 


Posted 27 September 2010 - 08:31 PM

Advertisements

ผมมีโอกาสทดลองนั่ง airport rail link จากสถานีราชปรารถไปสุวรรณภูมิ ขาไปนั่ง city line 15 บาท ขากลับเลยชวนคุณแม่นั่ง Express line ราคา100 บาทเพราะที่นั่งดีกว่า มีที่วางสัมภาระ และไม่จอดสถานีระหว่างทาง
ผมขอประนามการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่าบริหารงานไม่ได้เรื่องเริ่มตั้งแต่
1. การจัดซื้อตัวรถไฟและระบบ ซึ่งเป็นรุ่นเก่าแล้ว ประตูปิดดังมากในสาย city line การจ่ายไฟฟ้าให้กับตัวรถไฟฟ้าโดยใช้สายไฟฟ้าอยู่เหนือตัวรถไฟฟ้า ซึ่งตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมาไม่มีประเทศไหนที่ซื้อรถไฟฟ้ารุ่นนี้จากบริษัท Siemen มาทำการวิ่งระยะทางขนาดนี้อีกแล้ว ซึ่งจะมีค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซมสูงมาก (สงสัยเอาไว้เป็นช่องทางหางบฯ ซ่อมบำรุงเพิ่ม) ควรจะเหมือน BTS หรือ MRT ที่จ่ายกระแสไฟฟ้าตามรางรถ ซึ่งจะมีค่าบำรุงรักษาต่ำกว่ามาก แม้ว่าราคาจะสูงกว่า แต่ถ้ามองในระยะยาวแล้วจะคุ้มกว่ามาก ไม่รู้ว่าโกงกินกันไปเท่าไหร่ตอนเซ็นสัญญา
2. ตัวรถไฟฟ้าห่างจากชานชลาสถานีพอสมควร เด็กหรืออาจจะเป็นผู้ใหญ่ก็ดี เท้าอาจะพลัดตกลงไปในช่องว่างระหว่างชานชลากับตัวรถไฟฟ้าได้ ไม่ต้องพูดถึงกระเป๋าเดินทางแบบลาก จะต้องยกทุกครั้งที่เข้า-ออก จากตัวรถไฟฟ้า ไม่รู้ว่าตอนที่คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างฯ ของการรถไฟฯ พิจารณาอย่างไรเมื่อตอนตรวจรายละเอียดก่อนลงนามจัดซื้อ
3. อย่างอื่นก็มีอีกนะครับแต่เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย เมื่อเปิดบริการใหม่ ๆ อาจมีปัญหาอยู่บ้างก็ค่อย ๆ ปรับกันไป

แต่ส่วนที่ต้องชมเชยก็คือพี่ ๆ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สถานี ช่วยบริการดีมากทั้งช่วยยกกระเป๋า บอกทาง และเรียกแท็กซี่ให้ และบางคนยังต้องทนฟังผู้โดยสารทั้งไทยและชาวต่างประเทศ บ่นถึงความไม่ได้เรื่องของการจัดการในการให้บริการผู้โดยสารของการถไฟฯ อันนี้ผมสงสารพวกพี่ ๆ รปภ. เค้าจริง มิน่าการรถไฟฯ มันถึงขาดทุนมาตลอด ทั้งที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่มีรถไฟให้บริการเป็ นประเทศแรกในภูมิภาคนี้ ถ้าเปรียบเทียบกับระยะเวลาที่เปิดดำเนินการแล้ว เราควรจะมีบริการทางด้านรถไฟเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภ าค

โดยส่วนตัวแล้วผมเองไม่มีอคติอะไรกับการรถไฟนะครับ แต่ผมทนไม่ได้ที่เห็นการบริหารงานแบบนี้ ขายหน้าชาวต่างชาติรวมถึงคนไทยที่ใช้บริการรหว่างสนา มบิน-ตัวเมือง เปล่า ๆ

ถ้าบริหารจัดการเองดีไม่ได้ ก็ให้ BTS หรือ รฟม เขามารับจ้างสัมประทานดีกว่า ผมเองเป็นคนที่ชอบนั่งรถไฟมากเพราะมันสะดวกและรวดเร็ว ผมเองก็นั่งมาหมดแล้วทั้ง Airport Express ของ Hongkong, MRT ของ สิงค์โปร์, MAG LEV ที่เซี่ยงไฮ้ Euro rails , TGV ของฝรั่งเศษ, ICE ของเยอรมัน, Dubai Metro. แต่ยังไม่ได้นั่ง Shinkansen ของญี่ปุ่นเสียที ไม่รู้จะมีโอกาสหรือเปล่า

ขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่านจนจบนะครับ

  • ★TITLE★ likes this


Advertisements

#2 Natt@B747-800I

Natt@B747-800I

    Natt Achibald

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 566 posts
  • LocationBKK-LOE

Posted 27 September 2010 - 08:44 PM

ประตูเสียงดังน่ากลัวจริงๆครับ

#3 EKR

EKR

    สมาชิกนั่งแท็กซี่

  • Members
  • PipPipPip
  • 148 posts

Posted 27 September 2010 - 08:52 PM

ถ้าจำไม่ผิดรถมันจอดรวิ่งอยู่ประมาณสองสามปีได้แล้วมั้งครับ เพื่อนผมขับผ่านโณงเก็บทุกวันยังแซวเลยว่าสงสัยต้องซ่อมก่อนวิ่ง
ตอนซื้อมามันคงใหม่อยู่หรอก แต่พอใช้งานจริงมันตกรุ่นแล้วไง :angry:

#4 nutnano

nutnano

    สมาชิก Economy Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 843 posts
  • LocationSARL Phaya Thai Station

Posted 27 September 2010 - 08:53 PM

ขอตอบตามประเด็นที่แสดงข้างล่าง นอกจากนั้นไม่ขอตอบ

1. การจัดซื้อตัวรถไฟและระบบ ซึ่งเป็นรุ่นเก่าแล้ว ประตูปิดดังมากในสาย city line


เสียง"ปั้ง" ที่ดังระหว่างประตูปิด เกิดจากกลไกของประตู เวลาที่ประตูถูกดึงกลับเข้ามาในตัวรถ หากท่านลองสังเกตดีๆ บริเวณด้านล่างของประตู จะมีอุปกรณ์ทำหน้าที่เปรียบเสมือนสปริง คอยดึงประตูกลับ พอประตูปิดมาถึงตำแหน่ง อุปกรณ์ตัวนี้จะทำการดึงประตูให้หุบเข้ามาในตัวรถ จึงทำให้เกิดเสียงดัง และเสียงแบบนี้เป็นปกติของระบบประตูแบบ Plug-In Door

ประตูแบบ Plug-In Door

ประตูแบบนี้จะใช้บนเครื่องบิน และห้องที่ต้องการควบคุมความดัน หรืออุณหภูมิ แต่สำหรับรถไฟก็มีการนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย อาทิเช่น

MTR A-Stock EMU จาก ADTranz/CAF
MTR K-Stock EMU จาก Hyundai Rotem/ Mitsubishi Heavy Industries
Desiro Series จาก Siemens AG

ทั้งนี้ ในรถไฟไม่ได้มีจุดประสงค์ไว้เพื่อควบคุมความดันหรืออุณหภูมิแต่อย่างไร และไม่สามารถควบคุมความดันหรืออุณหภูมิได้

และ เสียงที่เกิดขึ้นจากการปิดประตู เกิดการกลไกการทำงานของระบบประตู โดยเฉพาะช่วงที่ประตูหุบเข้ามาในขบวนรถ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตระบบประตูให้กับรถขบวนนั้นๆ สามารถออกแบบกลไกให้ทำงานเงียบได้ (ของ SARL นั้นคือ บริษัท BODE A.G. จากประเทศเยอรมนี)

ประตูรถไฟแบบ Plug In Door มีทั้งแบบเสียงดัง และแบบเงียบ ขึ้นอยู่ว่าจะทำแบบไหน (ลองชมตัวอย่างได้จากในคลิปด้านล่าง)

ส่วนใหญ่รถไฟความเร็วสูง หรือรถไฟที่ต้องการทำความเร็ว จะใช้ระบบประตูแบบนี้กันมาก เนื่องจากมีผลในเรื่องของกระแสลมวนบริเวณของประตู

Outside Sliding Door แบบ BTS/MRT หรือ Pocket Sliding Door
จะมีส่วนของประตูที่ยื่นออกมาจากตัวถังรถด้านข้าง อาจจะทำให้เกิดกระแสนลมวน เวลารถวิ่งด้วยความเร็วสูง และอาจทำให้เกิดความเสียหายได้

Plug-In Door แบบ Desiro
เวลาประตูปิด ประตูจะเรียบสนิทกับตัวถังรถ ทำให้ไม่เกิดกระแสลมวนบริเวณประตูเวลารถวิ่งด้วยความเร็วสูง


Plug In Door on MTR A-Stock EMU จาก ADTranz/CAF (Now, Bombardier Transportation)

http://www.youtube.com/watch?v=EngxONnDtRs&feature=player_embedded

http://www.youtube.com/watch?v=RPafwxeIvdU&feature=player_embedded


การจ่ายไฟฟ้าให้กับตัวรถไฟฟ้าโดยใช้สายไฟฟ้าอยู่เหนือตัวรถไฟฟ้า ซึ่งตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมาไม่มีประเทศไหนที่ซื้อรถไฟฟ้ารุ่นนี้จากบริษัท Siemen มาทำการวิ่งระยะทางขนาดนี้อีกแล้ว ซึ่งจะมีค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซมสูงมาก (สงสัยเอาไว้เป็นช่องทางหางบฯ ซ่อมบำรุงเพิ่ม) ควรจะเหมือน BTS หรือ MRT ที่จ่ายกระแสไฟฟ้าตามรางรถ ซึ่งจะมีค่าบำรุงรักษาต่ำกว่ามาก แม้ว่าราคาจะสูงกว่า แต่ถ้ามองในระยะยาวแล้วจะคุ้มกว่ามาก ไม่รู้ว่าโกงกินกันไปเท่าไหร่ตอนเซ็นสัญญา


การจ่ายกระแสไฟฟ้าด้วย Overhead Line อย่าเพิ่งไปดูถูกว่ามันล้าหลัง ใช้งานได้ไม่ดี
เพราะรถไฟความเร็วสูง CRH ในจีน, JR Rail ของญี่ปุ่น, MTR ของฮ่องกง, หรือแม้แต่ ICE ของเยอรมนี ต่างก็ใช้ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าผ่าน Overhead Line ทั้งสิ้น เนื่องจาก

1.รถไฟฟ้าวิ่งด้วยความเร็วสูง มากกว่า 100 km/h ขึ้นไป หากใช้อุปกรณ์รับไฟฟ้าผ่านรางที่สาม หรือระบบ Third Rail จะทำให้อุปกรณ์ได้รับความเสียหายได้ง่าย เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วสูง แล้วทีนี้ค่าซ่อมแซมมันก็จะเกิด หากอุปกรณ์'พัง' และอุปกรณ์รับกระแสไฟฟ้าจาก Third Rail ที่ตัวรถมันมีโอกาสสูงที่จะพังได้ 'ง่าย' และ 'บ่อย' หากวิ่งด้วยความเร็วสูง ซึ่งรถมันวิ่งด้วยความเร็วขนาดนี้ (160 km/h) อาจจะเกิดความเสียหายได้อย่างง่ายแน่นอน หากใช้ระบบ Third Rail

2.แรงดันไฟฟ้าที่ใช้ในการเดินรถไฟฟ้าสายนี้อยู่ที่ 25 kVAC หรือ ไฟฟ้ากระแสสลับแรงดัน 25000 V (สองหมื่นห้าพันโวลต์) ซึ่งต่างจากของ BTS และ MRT ที่ใช้ไฟฟ้าแค่ 750 VDC (ไฟฟ้ากระแสตรงแรงดัน 750 โวลต์)

การจ่ายกระแสไฟฟ้าด้วย Third Rail แบบ BTS/MRT นั้นจะใช้สำหรับเดินรถ Metro ระยะสั้นๆ ในเมือง วิ่งด้วยความเร็วไม่สูงมากนัก สถานีถี่ ซึ่งต่างจาก SARL ซึ่งเป็นแบบ Commuter วิ่งด้วยความเร็วสูง มีระยะห่างระหว่างสถานีมาก

ระบบ Third Rail ถึงแม้จะดูเรียบร้อย สวยงาม ไม่มีสายไฟมาให้รกหูรกตา
แต่ก็มีข้อเสีย โดยเฉพาะช่วงประแจสับเปลี่ยนราง ไม่สามารถวางให้มันต่อเนื่องเหมือนกับ Overhead Line ได้
หลายท่านคงยังจำเหตุการณ์ที่รถไฟฟ้า MRT ชนกันที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ ได้ เหตุก็เพราะ Third Rail นี่แหละ

สำหรับรถที่คุณคิดว่ามันอาจจะ'ตกรุ่น'แล้ว อันนี้ผมยอมรับว่า มัน'ตกรุ่น'จริง เพราะการสั่งซื้อรถไฟฟ้าของระบบ SARL ทั้ง 9 ขบวนเป็นการสั่งซื้อเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ในสมัยนั้นรถรุ่นนี้อาจจะยัง'ไม่ตกรุ่น'

หากคุณติดตามข่าวดีๆ จะพบว่าขบวนรถนั้นจอดรอรางเพื่อวิ่ง และได้ออกวิ่งให้บริการจริงๆ ก็เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2553

แล้วก็อีกอย่าง จะบอกให้ทราบเอาไว้ว่า ระบบการส่งกระแสไฟฟ้าด้วย Overhead Line นั้น มีราคาและค่าซ่อมบำรุงสูงกว่าการใช้ระบบการส่งกระแสไฟฟ้าผ่าน Third Rail

  • arq, ponpon, weerawatk and 7 others like this

#5 nutnano

nutnano

    สมาชิก Economy Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 843 posts
  • LocationSARL Phaya Thai Station

Posted 27 September 2010 - 08:53 PM

เพิ่มเติมคลิป

Plug In Door on MTR K-Stock EMU จาก Hyundai Rotem/ Mitsubishi Heavy Industries

http://www.youtube.com/watch?v=IMIA3nt7qv8&feature=player_embedded

http://www.youtube.com/watch?v=F8gYW4QI3aM&feature=player_embedded
  • arq, nene and hornet97 like this

#6 nutnano

nutnano

    สมาชิก Economy Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 843 posts
  • LocationSARL Phaya Thai Station

Posted 27 September 2010 - 08:54 PM

Plug In Door on Suvarnabhumi Airport Rail Link City Line (Desiro Class 360/2) จาก Siemens AG

http://www.youtube.com/watch?v=eiRH_NG0AYg&feature=player_embedded

http://www.youtube.com/watch?v=6nmhTV8URnw&feature=related
  • arq, nene and hornet97 like this

#7 911turbo

911turbo

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 98 posts

Posted 27 September 2010 - 08:58 PM

กำลังจะมาตอบเรื่อง สายไฟบนหัว ว่ามันน่าจะเกี่ยวกับความร้อนสะสมที่ตัวรับไฟ
แตมีคนตอบไปแล้ว ^^'

#8 BB_ANA

BB_ANA

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 97 posts
  • LocationOita, JAPAN

Posted 27 September 2010 - 09:12 PM

อ่านแล้วได้ความรู้ครับ

#9 ★TITLE★

★TITLE★

    สมาชิก Economy Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 834 posts
  • LocationBKK,UBP,Thammasat

Posted 27 September 2010 - 09:16 PM

คือผมเองก็ไม่ได้เดินทางไปตปท.บ่อยนักและในชีวิตนี้ก็ไปมาไม่กี่ประเทศ ก็เลยไม่รู้ว่ารถไฟที่อื่นเป็นไง
แสดงว่ารถไฟที่ปิดประตูเสียงดังแบบนี้ ก็มีใช้ในประเทศอื่นใช่มั้ยครับ เพราะผมเห็นนักท่องเที่ยวแทบทุกคนตกใจ ก็เลยเข้าใจว่ามีแต่บ้านเรา

แล้วอีกอย่างนึงที่ผมสงสัยอะครับคือ ทำไมช่วงสถานีรามคำแหงมันจะมีเสียงดังเหมือนรถไฟตกรางอะครับ ตึ๊กๆ ผมได้ยินบ่อยมากๆ
แล้วก็เรื่องแก๊ปเนี่ย กว้างเกิ้นนน
แล้วก็ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองรึปล่าวว่าที่นั่งบนARLมันนั่งไม่สบายอย่าง BTS และ MRT เลย

ส่วนเรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆก็คิดว่าเค้าคงจะพัฒนาได้ดีขึ้นในอนาคต
เช่น เสียงประชาสัมพันธ์ในสถานีจะเบาไปไหน บางครั้งเปิดไม่สัมพันธ์กัน แบบรถไฟกำลังจะเข้าชานชาลา แต่ที่สถานีมีเสียงประกาศแนะนำเรื่องทางเชื่อมบีทีเอส ทั้งๆที่ผดส ในขบวนไม่มีโอกาสได้ยิน
แล้วก็ผมไม่ได้จะว่านะครับ เสียงประกาศบอกว่าประตูรถจะเปิดในด้านขวาในภาษาอังกฤษเนี่ย สำเนียงภาษาอังกฤษของพี่ที่ขับรถไฟบางท่านแปลกๆอะครับ(ขอโทษด้วยนะครับ ไม่ได้มีเจตนาจะว่า)

จริงๆผมอยากให้สถานีมันมันดูโล่ง โปร่งกว่านี้ครับ แต่ก็คงปรับยาก

แล้วก็มีเรื่องป้ายบอกชานชาลาที่สถานีสุวรรณภูมิ ผมไม่ได้ดูชัดๆ มันเหมือนฟิวเจอบอร์ดเคลือบพลาสติคมาแปะไว้อะครับ (ไม่แน่ใจ)

แต่ข้อดีก็มีมากอยู่เหมือนกันครับ ราคาประหยัดดี และเปิดได้เร็วกว่าที่คิด ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะครับ

#10 Jomie

Jomie

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,574 posts
  • LocationBKK

Posted 27 September 2010 - 09:24 PM

ผมว่าตัวสถานีมันอับมากถึงมากที่สุดโดยเฉพาะชานชลาหลายๆสถานี ยกตัวอย่างง่ายๆเลยก็พญาไทนี่ล่ะ

ช่วงคนยืนรอเยอะๆร้อนสุดๆไม่ไหวจะเคีลยร์ อยากให้สถานีดูทันสมัยมากกว่านี้(ตอนนี้มันเหมือนโกดังชัดๆ)

เห็นด้วยว่าประตูรถไฟปิดดังมากแต่ก็เข้าใจครับเพราะเป็นที่ระบบ

อีกเรื่องนึงก็คือไม่รู้ว่ามีคนรู้สึกแบบผมบ้างรึป่าวนะ เวลารถไฟออกตัวนี่รู้สึกว่าจะกระชากเอาเรื่องเลย

มากกว่า BTS ด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าต้องเร่งความเร็วมากๆรึปล่าว(อันนี้คิดไปเอง) เลยทำให้ทรงตัวลำบากนิดนึงตอนยืน

ไหนๆก็บ่นล่ะขออีกสักหน่อย เรื่องตะแกรงกั้นอันนี้ขัดใจมากกกกกกกกกกกก โอ้ว เปลี่ยนเป็นกระจกได้ไหมจะแลดูไฮโซ

เจริญหูเจริญตามากกว่านี้


บ่นมามากเเล้ว เข้าใจว่าเพิ่งเปิดอะไรๆหลายอย่างก็ยังไม่ลงตัว ก็เป็นกำลังใจให้พัฒนาต่อไปครับ

(ความเห็นส่วนตัวนะครับ :lol: :lol: )

#11 nutnano

nutnano

    สมาชิก Economy Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 843 posts
  • LocationSARL Phaya Thai Station

Posted 27 September 2010 - 09:33 PM

แสดงว่ารถไฟที่ปิดประตูเสียงดังแบบนี้ ก็มีใช้ในประเทศอื่นใช่มั้ยครับ เพราะผมเห็นนักท่องเที่ยวแทบทุกคนตกใจ ก็เลยเข้าใจว่ามีแต่บ้านเรา


เอาเท่าที่ผมทราบนะ รถไฟฟ้าที่ปิดประตูแล้วมีเสียงดังแบบของเรา

1.MTR Airport Express & Tung Chung Line ของฮ่องกง (รถไฟฟ้า A-Stock จาก ADtranz/CAF Series 6000 ผลิตในสเปน)
2.Heathrow Connect ของประเทศอังกฤษ (SARL ของเราใช้รถรุ่นเดียวกับเขา)
3.บรรดารถไฟฟ้าในอังกฤษทั้งหลาย ที่ใช้รถรุ่น Desiro จาก Siemens


แล้วอีกอย่างนึงที่ผมสงสัยอะครับคือ ทำไมช่วงสถานีรามคำแหงมันจะมีเสียงดังเหมือนรถไฟตกรางอะครับ ตึ๊กๆ ผมได้ยินบ่อยมากๆ


มันไม่ใช่เสียงรถตกรางหรอก แต่มันเป็นเสียงที่ดังมาจากอุปกรณ์รับกระแสไฟฟ้าบนหลังคา (Pantograph) และจะเกิดเฉพาะตู้กลางของ City Line และตู้ที่มีห้องน้ำของ Express Line เท่านั้น (ตู้ที่มีการติดตั้ง Pantograph ไว้) เสียงที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากสาเหตุที่ในช่วงนั้นเป็นเขตสับเปลี่ยนการส่งกระแสไฟฟ้า หรือเขาเรียกกันว่า Neutral Zone ซึ่งสายไฟในช่วงนั้นจะไม่มีกระแสไฟฟ้าอยู่ช่วงหนึ่ง (ระยะทางไม่มาก) สำหรับรายละเอียดทางเทคนิค และสาเหตุของการเกิดเสียงดังอย่างละเอียด ผมไม่ขออธิบาย

แล้วก็มีเรื่องป้ายบอกชานชาลาที่สถานีสุวรรณภูมิ ผมไม่ได้ดูชัดๆ มันเหมือนฟิวเจอบอร์ดเคลือบพล่าสติคมาแปะไว้อะครับ (ไม่แน่ใจ)



อันนี้เขาเรียก'มักง่าย' ไม่ยอมลงทุนทำแบบถาวรมาแปะ แบบประเภทที่บอกว่า ชานชาลาหมายเลขอะไร รถไปไหน + แผนที่เส้นทาง อาทิเช่น

Posted Image

ถ้าลองสังเกตดีๆ จะพบความ'มักง่าย'ได้ 2 จุดคือ
1.แผนที่เส้นทาง เอาแบบเน่าๆ ที่ติดบนรถมาใช้
2.หมายเลขชานชาลา เป็นกระดาษ A4 เคลือบมาแปะ


#12 riyad

riyad

    สมาชิก Economy Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 720 posts
  • LocationBKK-NST-BKK

Posted 28 September 2010 - 12:03 AM

ได้ความรู้เยอะเลย
แต่ผมกลับชอบนะ ประตูปิดเสียงดัง เร้าใจดี อิอิ กลับฮา ด้วยซ้ำ เมื่อต้นเดือนผมได้ลองใช้บริการแล้วก็ถือว่าโอเคนะ เสียงประตูดังทำให้ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งอุทานขึ้นมาว่า"....
แ ห ก " 55555+

#13 Star Royalty

Star Royalty

    สมาชิก Premium Economy

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,287 posts
  • LocationBKK and AMS

Posted 28 September 2010 - 12:08 AM

ที่อัมสเตอร์ดัม เสียงดังกว่านี้อีก ทั้งประเทศเลยมั้ง ก็ไม่เห็นมีใครว่ากระไร

และเป็น Overhead line กันหมด :lol:

#14 Amakung

Amakung

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2,698 posts

Posted 28 September 2010 - 12:15 AM

ขอบคุณคุณ nutnano มากนะครับที่มาให้ความรู้

ผมว่า Airport Link ก็ดีอยู่นะ เรื่องประตูดังนี่ไม่เป็นไร ใช้ไปเดี๋ยวก็คุ้น

ผมว่าระยะห่างระหว่างตัวรถกับชานชาลามันห่างน้อยกว่า MRT อีกนะ

แต่ผมว่า city line นี่คนเยอะมาก (จริงๆ) แต่เห็นรถ express วิ่งผ่านไปมีคนไม่ถึง 10 คนมั้ง

ถ้าเป็นไปได้ จริงๆ ก็อยากให้เพิ่ม city line ให้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีผลต่อตารางการเดินรถของสายอื่นๆ รึเปล่า

ขณะเดียวกัน ผมว่าที่ express คนน้อยเพราะสถานีมักกะสันไม่ค่อยสะดวกรึเปล่าครับ

เพราะตอนนั้นเดินจากเพชรบุรี ไม่ไกลมากแต่เหนื่อยมากๆ เพราะมันไม่มีทางเดินจริงๆ จังๆ

อยากให้ รฟท ทำทางเดินเหมือนที่พญาไทนะครับ จะช่วยได้อีกเยอะเลย

#15 ONG-ARTist

ONG-ARTist

    สมาชิก Economy Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 553 posts
  • Locationนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่

Posted 28 September 2010 - 12:42 AM

ขอบคุณสำหรับความรู้ที่ร่วมแบ่งปันครับ

#16 auterater

auterater

    สมาชิก waiting list

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 183 posts

Posted 28 September 2010 - 12:42 AM

ขอบันไดเลื่อนทั้งขึ้นและลงไปจนถึงชั้นที่เป็นชานชลาทุกสถานีได้มั้ยครับ คนเดินทางที่มีกระเป๋ามาด้วยจะได้สะดวกหน่อย เวลาผู้โดยสารเดินลงมาจากชานชลาจะได้ flow มากขึ้นด้วย ลิฟท์ที่มีก็มีน้อยเหลือเกิน ถ้าผู้โดยสารสัมภาระไม่มากจริง ๆ เค้าก็คงขี้เกียจรอลิฟท์ ก็เลือกที่จะกระเตงกระเป๋าเดินลงบันไดกันมากกว่า

ไหน ๆ จุดประสงค์หลักของ Airport Rail Link ก็เพื่อ serve นักเดินทางที่จะเดินทางเข้าออกสนามบินแล้ว ก็ช่วยทำมันช่วยให้อำนวยความสะดวกหน่อยเถอะครับ เห็นนักท่องเที่ยวเดินหิ้วกระเป๋าขึ้นลงบันไดแล้วสงสารครับ

สถานีบรรยากาศอับได้ใจจริง ๆ ครับ ร้อนมาก ส่วนเรื่องประตูเสียงดังก็ไม่เป็นไรครับ แต่ที่นั่งสาย City Line น่าจะทำเป็นที่นั่งแบบ BTS หรือ MRT นะครับ นอกจากนั่งไม่สบายแล้ว บางทีผู้โดยสารบางคนก็ไม่นั่งชิดกันเลยเหลือเนื้อที่ของที่นั่งนิดเดียวจนบางคนไม่กล้าเข้าไปนั่ง ทำที่นั่งแบบ individual น่าจะดีกว่านะครับ

#17 alokaya

alokaya

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,694 posts
  • Location+เกษตร บางเขน+

Posted 28 September 2010 - 01:05 AM

สถานีมันใหญ่เกินไปไหมครับ

ผมว่าในตัวเมืองเนี่ยใหญ่ได้ แต่พอชานเมือง มันจะใหญ่ไปทำไม

บางสถานี แทบหาบ้านคนไม่เจอ ก็ยังสร้างให้ใหญ่ แล้วพอสร้างใหญ่ๆ ดันออกแบบภาษาอะไรไม่รู้ อับมากๆ

และร้อนมากๆด้วย

ดูไม่โปร่งสบายเลย

#18 Flight Mania

Flight Mania

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2,453 posts

Posted 28 September 2010 - 02:58 AM

ว่าจะมาตอบ แต่คุณ nutnano ซัดซะละเอียดเลยครับ

จริงๆแล้วผมกะสรุปง่ายๆว่ามันเหมาะกับรถไฟความเร็วสูงแหละครับ

แต่ผมอะอยากซัดประเด็นที่ว่า ทำไมรถวิ่งช้าจังครับ City line เนี่ย ผมว่าน่าจะวิ่งเร็วคร่าวๆประมาณ 130-140 km/hr มั๊ง อันนี้พอเข้าใจ หยุดบ่อย แต่ express เนี่ย น่าจะเอาซัก 220km/hr นะครับ (เข้าใจว่าได้)

แล้วตอนตีโค้ง+เส้นเข้าสนามบิน ออกแบบได้ห่วยมากครับ ผมว่า BTS ตรงอนุสาวรีย์ยังทำดีกว่าเลย

ตู้ซื้อบัตรอัตโนมัติ ผมว่ายังมีน้อยเกินไปครับ

ส่วนสถานีมักกะสันเนี่ย ประเด็นหนักสุดคือ ไม่ได้เชื่อมต่อกับ MRT เลยซักนิด แบบนี้ผมเรียกว่าบัญเอิญป้ายใกล้ๆกัน

แล้ว งง มากเลยครับ ทำไม taxi ถึงได้.... ขนาดนี้ จนต้องมีป้าย (กระดาษ A4) มาแปะว่า TAXI NO SERVICE CHARGE

แล้วที่ผมยังไม่แน่ใจคือชั้น Arrival ของมักกะสันครับ คือระบบจะทำงานอย่างไรครับ หรือว่าแค่แยกทางออกธรรมดาไม่มีลูกเล่น ถ้าแบบนี้จริงก็น่าจะบรรจบเป็นรางเดียวพอ ขึ้นประตูซ้าย ลงประตูขวา แบบนั้น แล้วตอนเปิด check-in ได้เนี่ย TG จะได้ exclusive กี่อันครับ(หรือเหมาหมด) แล้วสายอื่นจะแบ่งอย่างไรครับจะเป็น all airline หรือเฉพาะบางสายที่มีสัญญา แล้วจะเปิดจนถึงกี่นาทีก่อนออกถึงต้องสนามบนครับ(อันนี้อาจจะรู้ตอนเปิดแล้ว) แล้วสัมภาระที่เช็คอินแล้วเนี่ย จะมี rolling stock แยกหรืออย่างไรครับ

ผมหมดข้อสงสัยและข้อสังเกตแล้วครับ

ส่วนข้อคิดเห็นผม express line เจ๊งเละเทะ 150 บาทไป 3 คน taxi คุ้มกว่า แม้แต่นั่ง city line ก็คุ้มกว่า ท้ายสุดก็จะมีแต่ชาวต่างชาติหรือนักท่องเที่ยวเท่านั้นที่ใช้ คล้ายๆกับ Heathrow Connect และ Heathrow Express

#19 hornet97

hornet97

    สมาชิกปั่นจักรยาน

  • Members
  • Pip
  • 47 posts

Posted 28 September 2010 - 07:28 AM

ขอบคุณ คุณ nutnano มากครับได้ข้อมูลเยอะมาก

ระบบเพิ่งเปิด เดินรถเเบบสมบูรณ์ได้เดือนนึง ก็ต้องมีข้อบกพร่องบ้างละครับ

ส่วนเรื่อง การบริการก็ต้องยอมรับว่า สู้ Airport Express ของฮ่องกงยังไม่ได้ เพราะ MTR เป็นบริษัทเอกชนมีประสบการณ์เดินรถไฟฟ้ามา30กว่าปี ขนาดได้ไปเดินรถในต่างประเทศ

#20 sratta1991

sratta1991

    สมาชิกกำลังเช็คอิน

  • Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 398 posts

Posted 28 September 2010 - 07:28 AM

สถานีไม่มีลมพัดอะ ร้อนมาก




0 user(s) are reading this topic

0 members, 0 guests, 0 anonymous users

ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Galileo (แสดงผล waiting list)     ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Amadeus (เแสดงเฉพาะที่นั่งว่าง)
   
    ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนก ตั๋วเครื่องบิน โทร 02-3737-555 / จันทร์ - ศุกร์ 09.00~18.00 น. // เสาร์ 09.00-16.00 น.