69 replies to this topic

[The traveler]

Advertisements

นมัสเต... รอบที่แล้วพาทัวร์งานเทศกาล"นววรรษา" หรือปีใหม่เนปาลี กันไปแล้ว แต่ดั๊นไปตั้งชื่อกระทู้ว่าหนุงหนิงพาเพลิน เดินเล่น เทศกาลปีใหม่เนปาลี เลยทำเอาเพื่อนๆ เข้าใจผิดกัน ต้องขออภัยด้วยนะคะ หนุงหนิงเป็นน้องหมาที่อยู่ทางซ้ายมือน่ะค่ะ พอดีหนีเค้าไปเที่ยวเกือบอาทิตย์ รู้สึกผิดเลยเอาชื่อเค้ามาตั้งชื่อกระทู้ครั้งก่อน
ครั้งนี้ขอแก้ตัวใหม่ละกันนะคะ แนะนำตัวกันก่อน ชื่อต้นอ้อ นะคะ วันนี้จะพาไปเดินเล่นกันแบบสบายๆค่ะ ที่เมืองปักตระปูร์แล้วเราก็จะไปชมพระอาทิตย์กันที่ คลับหิมาลายา รีสอร์ท เมืองนคราก๊อต กันต่อ เริ่มกันเลยนะคะ ..อ้อ เนื่องจากบางภาพจะติดรูป จขกท ไปบ้าง ต้องขออภัยนะคะ

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

ปักตระปูร์ อยู่ห่างจาก กาฐมาณฑุ เพียง 26 kms.ค่ะ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน เมืองนี้ เคยเป็นเมืองนครหลวงที่เคยรุ่งเรืองมาก สร้างมากว่า 300 ปี รุ่งเรืองเช่นเดียวกับ กาฐมาณฑุ และ ปาฏาน (ไว้โอกาสหน้าจะเล่าให้ฟังนะคะ)
เมืองนี้เค้าว่ากันว่าจริงๆ แล้วมีมาตั้งแต่ ศตวรรษ ที่9 ตั้งแต่แถบนี้เรียกว่า ชมพูทวีป จากนั้นในสมัยราชวงศ์มัลละ ได้แบ่งมหานครเป็น 3 แห่ง คือ กาฐมาณฑุ ปาฐาน และ ปักตระปูร์ โดยส่งให้ราชธิดา ราชโอรส 3 พระองค์ มาปกครอง สำหรับ ปักตระปูร์นี้ ได้มีพระเจ้าอนันท์มัลละ มาปกครอง
มุมนี้หลายคนคงคุ้นตานะคะ และเป็นฉากในหนัง The Little Buddha ตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะ เสด็จออกเห็นสถาพบ้านเมือง ประชาชน แล้ว เห็นความทุกข์ ความเจ็บ ความตาย (พอจำกันได้ไหมคะ นานมากๆ แล้วเน๊อะ )

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

ปักตระภูร์ หรือ ตามรากศัพย์ว่า ภักดี + ปูระ หมายถึงเมืองแห่งความภักดีต่อพระเจ้า เป็นเมืองสำคัญทางการค้า โดยเฉพาะ ทางทิเบต และจีน เมืองถูกสร้างโดยใช้หอยสังข์ของพระวิษณุ เป็นแบบผังเมือง
คือมีถนนหลักโค้งผ่ากลางเมือง คล้ายแกนกลางของหอยสังข์ และมีซอยเล็ก ซอยน้อย ไล่กันไปเรือยๆ ตามแนวยาวของร่องกลางหอยสังข์ค่ะลองดูภาพประกอบนะคะ
*** ภาพประกอบจาก Google ค่ะ ***

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

เมื่อเราซื้อตั๋วเข้าชมแล้วก็เดินเข้าไปเลยค่ะ ค่าตั๋วอยู่ที่ 10 USD หรือจะจ่ายเป็นรูปี ก็ 750 รูปี
ผ่านก่อนเข้าประตูเมืองเราจะเห็นร้านรวงขายของที่ระลึกกัน อย่าเพิ่งรีบ Shop นะคะ ต้องเดินอีกยาว

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

เมื่อผ่านประตูเมืองเข้าไปภาพแรกที่เราเห็นก็จะเป็นอย่างนี้ค่ะ เป็นลานกว้างๆ ที่เรียกว่า"โจก" คุณสุจิณ ไกด์ท้องถิ่นบอกกับเราว่า คำว่าโจก หมายถึงที่โล่งกว้าง โดยมากเป็นรูปสี่เหลี่ยม ใช้กับลานในวังเท่านั้น ไม่ใช้กับสถานที่ทั่วไป สำหรับลานนี้ เป็น โจกสำหรับดูการละเล่นทั่ว ๆไป ฝั่งขวามือเป็นวิหาร และ ศาลาประชาคมค่ะ

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

ทางฝั่งซ้ายมือ มีสิ่งน่าสนใจมาก ๆอยู่ค่ะ
1 ตึกสถาปัตยกรรมแบบ อินเดีย โคโลเนียน
2 มองถัดไปเป็นประตูทองคำ ( Golden Gate )และ พระราชวัง 55 พระแกล ด้านขวาเป็นวัดเทพ Taleju เทพประจำตระกูลมัลละ และ ระฆังที่เห็นคือระฆังเทพ Taleju ที่ก่อนจะตี ต้องมีการบูชายันต์ด้วยเลือดแพะ หรือกระบือ ก่อน(ตอนนี้ที่เนปาลยังมีพิธีบูชายันต์ด้วยสัตว์อยู่ แต่เราอย่าพูดถึงเลยเน๊อะ T-T )

Attached Thumbnails

• 
• 

[The traveler]

เรามาเริ่มที่ ประตูทองคำ ก่อนนะคะ ประตูนี้มีหน้าบันเป็นรูปพระวิษณุ ตามความเชื่อของเมือง
ประตูนี้เชื่อมไปสู่ วัดกุมารี เราไม่สามารถถ่ายภาพได้ค่ะ ยืนชมได้แค่ปากประตู จึงถ่ายรูปประตูทางเข้าด้านข้างของวัดมาให้ชมแทน

Attached Thumbnails

• 
• 

[The traveler]

ด้านตรงกันข้าม จะพบ สุนทรียโจก หรือ ที่สรงน้ำของกษัตริย์ ค่ะ
1 สุนทรียโจก โดยภาพรวม น่าเสียดายที่หน้าแล้ง ไม่มีน้ำเลยค่ะ ภาพนี้แต่งสีเล็กน้อยนะคะ
2 ปล่อยน้ำออกทางปล่องนี้ คนเนปาลเชื่อว่า แพะ คือผู้ไถ่บาปให้มนุษย์ จึงมักใช้หัวแพะเป็นสัญลักษณ์
3 งูจงอาง คือผู้ปกปักรักษา มาจากงูที่พระศอของพระศิวะใต้ฐานงู คือ วิหารเทพต่างๆ
4 ภาพสลักส่วนฐานมองมุมนี้จะชัดและสมบูรณ์ มุมขวา จะเห็นวัด Fasidaga (สีขาว) ที่บูชาพระศิวะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[The traveler]

ใต้ฐานหัวแพะพ่นน้ำ จะเป็น เทวดา เป่าหอยสังข์
ขนาบข้างซ้ายขวาด้วยภาพกามเทพ

Attached Thumbnails

• 
• 

[The traveler]

เดินลอดประตูออกมาอีกครั้ง ขอถ่ายภาพ หน้าบันพระนารายณ์อีกครั้ง (สังเกต ส่วนบนสุดคือครุฑ พาหนะ ของพระนารายณ์ค่ะ)
เราจะเจอ พระราชวัง 55 พระแกล พูดง่ายๆ ก็คือ มี 55 หน้าต่างนั่นเองค่ะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[The traveler]

วิหารเทพตาเลจู Taleju เราเห็นนางแบบเนปาลด้วยแหล่ะ (สวมชุดสีแดง) กำลังถ่ายแบบกันขมักเขม้นเชียว น่าเสียดาย เราน่าจะขอเบอร์โทรมาฝากหนุ่ม ๆ HF กันเน๊อะ หุหุ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[The traveler]

วิหารทรงแปดเหลี่ยมบูชาพระกฤษณะ
มีลายจำหลักสวยงามเป็นเรื่องของความรักค่ะ
สิงห์ คู่เฝ้าบันใดด้านล่าง สวยงามมากทำจากทองเหลือง ( ตัวกลางสีน้ำเงินนั่นไม่ใช่นะจ๊ะ ตัวนั้นน่ะท่าทางจะพิทักษ์อะไรไม่ได้แน่ๆ 555 )

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[The traveler]

วิหารเบยราพนารถ(Bairabnath) บูชาเทพเจ้าเบยราพ หรือที่คนไทยเรียกว่าเทพ ไภราพ เป็นเทพเจ้าแห่งความดุร้ายค่ะ
มีรูปสลักคล้ายๆ หมูอยู่ มาทราบภายหลังว่าคือสัตว์ในตำนานป่าหิมพานต์ค่ะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[The traveler]

วิหารลักษมี มีรูปจำหลักที่ฐานค้ำยังหลังคา สวยงามมากๆ
บันไดขึ้นมีผู้พิทักษ์ตามลำดับคือ
นักมวยปล้ำ (หมายถึงผู้มากพลัง)
ช้างคู่ (พลังมากกว่านักมวยปล้ำ 10 เท่า)
สิงห์คู่(พลังมากกว่า ช้าง 10 เท่า)
ครุฑคู่ (พลังมากกว่า สิงห์ 10 เท่า)
เทวดาคู่ (พลังมากกว่าครุฑ 10 เท่า )

Attached Thumbnails

• 
• 

[The traveler]

โจก(ลาน)ด้านหลังกำลังมีการเตรียมการสำหรับพิธีปีใหม่ นววรรษา ที่จะมาถึงวันที่ 13 เมษายนนี้ (เราไปถึงวันที่ 10 เมษายน ค่ะ ลงเครื่องปุ๊บก็เที่ยวกันเลย)
รายละเอียดเรื่องพิธีปีใหม่ ลองเข้าไปชมได้ที่: http://www.hflight.n...น-เดินเที่ยวเท/

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[The traveler]

ถัดมาเป็นวัดบูชาพระศิวะค่ะ ชื่อ วิหารโลฮาน เดก้า หรือวัดหิน และ สถูป ฟาสิเดก้า(Fasidega)สังเกตุเห็นโคนันทิ ที่บันไดไหมคะ นั่นแหล่ะค่ะ พาหนะของพระศิวะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[The traveler]

จากนั้นจะเป็นทางเดินต่อไปค่ะ ร้านรวงที่นี่น่าสนใจมากๆ ถนนจะปูพื้นด้วยหินและอิฐ ฝุ่นเยอะค่ะ ใครเป็นภูมิแพ้อย่าลืม เตรียมผ้าปิดปากมาด้วยนะคะ

Attached Thumbnails

• 
• 

[The traveler]

ปลายทางเราจะเจอเมืองปักตระปูร์เก่าค่ะ เริ่มจากสุนทรีย์โจก ของเดิมก่อน
วัดปศุปตินาถ เป็นวัดเพื่อขอพรเรื่องผลผลิตทางการเกษตรค่ะ มีตำนานที่เชื่อมโยงกับวัด ปศุปตินาถที่กาฐมาณฑุด้วย แล้วค่อยเล่าให้ฟังนะคะ
ภาพสลักจะเป็นภาพเกี่ยวกับรามเกียรติ พระวิษณุ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[The traveler]

แล้วเราก็เดินออกค่ะ ทางเดินออกจะออกทางป้อมย่านเมืองเก่าเลย นักท่องเที่ยวบางคนก็เดินทางแบบ เข้าทางป้อมเมืองเก่า แล้วเดินขึ้นไปทางย่านเมืองใหม่
พาชมวิถีชาวบ้านระหว่างทางค่ะ ดูเรียบง่ายดีจัง
ที่นี่น้ำประปายังไม่มีค่ะชาวบ้านต้องออกมาตักน้ำไปใช้อยู่เลย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 

[The traveler]

ก่อนพาไป นคราก๊อต ขอลาจากปักตระปูร์ด้วยรูปนี้ค่ะ เป็นรูปอนุสาวรีย์ของ พระเจ้าภูปฏินทรา มัลละ ทำท่าบวงสรวงพระเจ้าอยู่ คุณสุจิณบอกเราว่าเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของเมืองนี้ สังเกตุที่ฉัตรนะคะ สำหรับอนุสวรีย์กษัตริย์ที่มีฉัตรคุมอยู่จะมีที่นี่ที่เดียว ส่วนที่กาฐมาณฑุ กับ ปาฏาน จะเป็นรูปงูคุ้มอยู่แทนค่ะ

Attached Thumbnails

•