54 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

รีวิวการเดินทางกับเครื่องบินโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก Airbus A380 คราวนี้เราพาบิน Emirates สายการบินที่ปฏิบัติการด้วย A380 มากที่สุด กับการเดินทางไกลข้ามทวีปจาก ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา มากรุงเทพฯ ผ่านดูไบ ใช้เวลามากกว่า 20 ชั่วโมงบนชั้นประหยัดของ Emirates A380 จะเป็นอย่างไรตามไปชมกัน

 

สามารถชมรีวิวนี้ในรูปแบบวิดีโอเต็มอิ่มจุใจได้ที่ https://youtu.be/Ju1mDPYw3iE

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

1. เริ่มต้นการเดินทางที่ ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส หรือ LAX ประตูสู่อเมริกาบนชายฝั่งแปซิฟิก

 

Emirates (รวมถึงสารพัดสายการบินนานาชาติ) จะให้บริการที่ Tom Bradley International Terminal (TBIT - Terminal

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

2. มาเช็คอินกันเลย เทียวบินของเราในวันนี้ EK216 จาก LAX ไปดูไบ และเราก็เช็คอินต่อเครื่องไปกรุงเทพฯเลย(เช็คทรู) ฝากกระเป๋าทีเดียวตั้งแต่ต้นทาง ได้บอร์ดดิงพาสมาสองใบทั้งขา LAX-DXB และ DXB-BKK ต่อเครื่องสบาย ๆ ที่ดูไบ ไปรับกระเป๋าทีเดียวที่กรุงเทพฯ

 

ปัจจุบัน Emirates ให้บริการเที่ยวบินเส้นทาง ดูไบ-ลอสแอนเจลิส ไปกลับ วันละ 1 เที่ยวบิน และเชื่อมต่อกับเที่ยวบินดูไบ-กรุงเทพฯ ได้สะดวกเพราะมีถึง 4 เที่ยวบินต่อวัน(จะเพิ่มเป็น 5 เที่ยวบินในเดือนสิงหาคมนี้)

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

3. เช็คอินเรียบร้อยก็ผ่านด่านตรวจความปลอดภัยของ TSA มารออยู่ในห้องผู้โดยสารขาออกแล้ว อาคาร TBIT นั้นเป็นอาคารผู้โดยสารหลังใหญ่ที่สุดของ LAX ก็ว่าได้ และก็ดูโอ่โถงที่สุดแล้ว มีตัวเลือกด้านร้านอาหาร บริการและการชอปปิงเยอะพอสมควร

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

4. ชอปปิงก็มีร้านแบรนด์เนมและดิวตีฟรี

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

5. เครื่องบินมาแล้ว นี่คือ Emirates A380 เครื่องบินโดยสารทีใหญ่ที่สุดในโลกที่จะพาเราบินจาก LA ไปดูไบ ใช้เวลาเดินทางเกือบ ๆ 16 ชั่วโมง

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

6. เที่ยวบินของเรา EK216 จะออกเดินทางจาก LA เวลา 15.35 น.

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

7. จะเห็นได้ว่ามีสะพานเทียบเครื่องบินหรืองวงช้างเทียบทั้งชั้นบนและชั้นล่างของเครื่องบิน A380 เพราะว่าเป็นเครื่องบินที่มีห้องโดยสารสองชั้น(Double Deck) ยาวตลอดลำตัวของเครื่องบิน

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

8. ขึ้นเครื่องแล้วที่นั่งชั้นประหยัดบน A380 ของ Emirates ในเวอร์ชันนี้จะอยู่ที่ชั้นล่าง(Main Deck) ของเครื่องบินทั้งหมด จัดที่นั่งแบบ 3-4-3

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

9. ที่นั่งของเราในวันนี้เป็นที่นั่ง 68K จะเป็นที่นั่งที่พิเศษคือมีพื้นที่วางขากว้างเพราะไม่มีเก้าอี้แถวหน้า ลุกออกจากที่นั่งได้สะดวก แต่ในขณะเดียวกันก็ยังติดหน้าต่าง ทำให้

 

ที่นั่งตรงนี้หากเลือกอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยขี้นอยู่กับประเภทบัตรโดยสารที่ซื้อมาและระยะทางของเที่ยวบิน โดยเราสามารถเข้าไปเลือกที่นั่งได้เองเลยผ่านฟังก์ชัน Manage Booking บนเว็บไซต์ของ Emirates

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

10. มุมมองจากที่นั่ง 68K จะเป็นที่นั่งที่ข้างหน้าจะเป็นประตูทางออกฉุกเฉิน แต่จะไม่มีที่นั่งตัวหน้าขวาง(ที่นั่งแถว 67 จะมีเฉพาะตัว BC DEFG HJ)

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

11. และก็ยังมีบานหน้าต่างด้วย

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

12. ผู้โดยสารอีกคนหนึ่งนั่งที่นั่ง 68H ซึ่งเป็นที่นั่งตัวติดทางเดินที่มีเก้าอี้แถวข้างหน้าตามปรกติ ก็จะมีจอส่วนตัวอยู่หน้าที่นั่ง พร้อมทั้งอุปกรณ์ควบคุมระบบความบันเทิง ปลั๊กจ่ายไฟ พอร์ต USB กระเป๋าหน้าที่นั่ง

 

(สำหรับที่นั่ง 68K) จอส่วนตัวจะพับเก็บไว้ใต้ที่วางแขนต้องยกขึ้นมา)

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

13. เมื่อขึ้นเครื่องมา แต่ละที่นั่งจะมีหมอน ผ้าห่มและหูฟังวางไว้ให้แล้ว

 

จริง ๆ ที่นั่งบน A380 ของ Emirates ที่นั่งค่อนข้างกว้างอยู่แล้ว เพราะว่าห้องโดยสารกว้าง แม้จะจัดที่นั่งแบบ 10 ที่นั่งต่อแถว โดยที่นั่งกว้าง 18 นิ้วและระยะห่างระหว่างแถว(Seat Pitch 32-34 นิ้ว)

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

14. สิ่งที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมอบให้แก่ผู้โดยสารเมื่อเราขึ้นเครื่องและนั่งที่ที่นั่งคือ กระเป๋าแบบนี้เป็น Amenity Kit ซึ่งแม้แต่ในชั้นประหยัดก็มีให้ แต่อาจจะเรียบง่ายลงมา เมื่อเทียบกับสิ่งที่ให้บริการในชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่ง

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

15. เอาหละ ได้เวลาออกเดินทาง

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

16. หน้าจอความบันเทิงนั้นจะสามารถดูข้อมูลการบินพร้อมทั้งภาพที่ถ่ายจากกล้องที่ติดตั้งอยู่ในหลาย ๆ มุมของเครื่องบินได้ ถ้าไม่ได้นั่งติดหน้าต่างก็ไม่เป็นไรยังดูภาพจากมุมมองเหล่านี้ได้ผ่านจอระบบความบันเทิง

 

ข้อมูลบอกว่าเราจะบินไกลอีกกว่า 9,000 ไมล์กว่าจะถึงดูไบ

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

17. เครื่องบินเทคออฟฟออกมาแล้ว มองออกไปเห็นย่านชานเมืองของนครลอสแอนเจลิสและมหาสมุทรแปซิฟิก

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

18. หลังจากสัญญาณรัดเข็มขัดดับลง จะมีทีมลูกเรือเดินไปเดินมาในห้องโดยสารพร้อมกับกล้องโพลารอยด์และกรอบรูปแบบพิเศษของ Emirates คอยถ่ายรูปให้กับผู้โดยสารไว้เป็นที่ระลึกสำหรับการเดินทางบนเที่ยวบินนี้ด้วยนะ

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

19. จากนั้นก็เริ่มการบริการมื้ออาหาร สำหรับบนเที่ยวบินนี้ที่บินยาว ๆ เกือบ 16 ชั่วโมงนั้นจะให้บริการอาหาร 3 ครั้งได้แก่ Dinner หลังจากเครื่องบินขึ้นมาสักพัก จากนั้นระหว่างทางจะมี Light Bites และก่อนลงสักเกือบ ๆ 2 ชั่วโมงจะเป็น Brunch

 

รายการอาหารแม้จะเป็นชั้นประหยัดที่ไม่มีแจกเมนูเป็นเล่ม แต่เราก็สามารถเข้าไปดูได้เองที่บุคกิงของเราผ่านระบบ Manage Booking บนเว็บไซต์ของ Emirates หรือดูได้จากเมื่อเราใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่หรือพวก tablet ส่วนตัวของเราเชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย Wi-Fi บนเที่ยวบิน

 

เราโพสต์ภาพเมนูรายการอาหารของเที่ยวบินนี้ไว้ในคอมเมนท์แล้ว

 

 

เมนูอาหารบนเที่ยวบินนี้