59 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

เที่ยวบินวันนี้ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมงนิด  ๆ ตามตารางคือ XJ638 ออกเดินทางจากดอนเมืองเวลา 06.55 น. และจะลงจอดที่นาโกย่าตอน 14.20 โดยเวลาที่นาโกย่าจะเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง

 

ตอนนี้ก็บินเข้าแผ่นดินญี่ปุ่นแล้วจ้า

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชื่อนาโกย่า เพราะจริง ๆ แล้วนาโกย่านั้นเป็นเมืองอุตสาหกรรม เสียมากกว่าจะมีชื่อเสียงด้านแหล่งท่องเที่ยวในสายตาของชาวโลก ซึ่งก็มีบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นหรือระดับโลกหลายแห่งที่มีกิจการที่นี่ รวมไปถึงที่นาโกย่านั้นยังเป็นที่ผลิตชิ้นส่วนของเครื่องบินโบอิ้ง 787 ด้วยนะ เราจึงได้เห็น Boeing 747 Dreamlifter ลำนี้จอดรออยู่เพื่อรอขนส่งชิ้นส่วนบินไปส่งต่อที่สายการประกอบของโบอิ้งที่วอชิงตันหรือเซาท์ แคโรไลน่า  อย่างไรก็ตามที่ตั้งของนาโกย่านั้นอยู่เหมาะเจาะกึ่งกลางระหว่างสองเมืองใหญ่และประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่าง โตเกียวและโอซาก้า รัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้มีการพัฒนาสนามบินนาโกย่า ชุบุเซ็นแทร์ แห่งนี้ โดยสร้างเป็นสนามบินกลางน้ำที่ทันสมัยและสะดวกสบาย หวังจะให้ว่านอกเหนือจะเป็นประตูสู่นาโกย่าแล้ว ยังจะเป็นประตูที่สำคัญที่เปิดสู่การเดินทางเชื่อมต่อภาคกลางของญูี่ปุ่นและลดความแออัดของเที่ยวบินที่โตเกียวและโอซาก้า

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ตอนนี้เครื่องบินของเราก็จอดเทียบอาคารผู้โดยสารที่นาโกย่าเป็นที่เรียบร้อย ที่นี่นั้นไม่ได้เป็นสนามบินที่ใหญ่โตพลุกพล่านเหมือนที่โตเกียวหรือโอซาก้า บรรยากาศก็จะสบาย ๆ คนไม่เยอะ เที่ยวบินไม่เยอะ ตม. คิวไม่ยาว เดินไปไหนมาไหนก็สะดวก อาคารผู้โดยสารที่นี่ก็มีแค่หลังเดียว เดินใกล้ ไม่ได้มีอะไรใหญ่โต แต่จะบอกว่าก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบหรืออาจจะมากกว่าอีกหลาย ๆ ที่

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

การเดินทางที่นี่นั้นก็มีทั้งรถบัส รถไฟ ที่จะเชื่อมต่อไปยังจุดต่าง ๆ ทั่วภูมิภาคนี้ อย่างในภาพจะเห็นว่าเราถ่ายมาสองป้าย อันแรกคือรถบัสเข้าเมืองนาโกย่า และอีกป้ายคือรถบัสที่ตรงไปยังเกียวโต ซึ่งเป็นเมืองเก่าเมืองสำคัญและเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของญี่ปุ่นที่หลายคนคิดว่าถ้าจะไปต้องไปลงโอซาก้าเป็นหลัก แต่ไปจากที่นาโกย่าก็มีรถตรงไปถึงเลยนะ

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

บนชั้นบนของสนามบินยังมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ฟู๊ดคอร์ท ที่เรียกได้ว่าอยู่ได้ไม่อดตาย และก็สามารถมาใช้เวลาชอปปิงที่นี่ได้ ร้านดัง ๆ ก็มี มีการตกแต่งสวยงามเป็นเหมือนร้านค้าตามถนนในเมือง ไม่เหมือนเดินอยู่ในสนามบินเลย

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

มีจุดชมเครื่องบินที่อยู่เหนืออาคารผู้โดยสารยื่นออกไปหาทางวิ่ง ที่ถือว่าดีมากแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น สามารถเดินได้ตลอดแนว เห็นได้ทั้งสองฝั่งของลานจอด ไปจนถึงปลายอาคารที่ใกล้กับทางวิ่งที่เห็นเครื่องบินขึ้นลงได้ชัดเจน

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

บรรยากาศตอนที่เราไปกำลังดีเย็นสบายเลยหละ

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ป้ายตามข้าง ๆ จุดชมเครื่องบินก็จะให้ความรู้ด้านการบินต่าง ๆ อย่างป้ายนี้ก็อวดว่าที่นาโกย่าเป็นที่ผลิตหนึ่งในชิ้นส่วนหลักของ 787 ดรีมไลเนอร์และก็บรรยายว่าจะมีการขนส่งไปยังสายการผลิตขั้นสุดท้ายอย่างไร แต่น่าเสียดายมีแต่ภาษาญีปุ่น 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เราออกมาชมเครื่องบินและก็ได้ส่ง HS-XTA ลำที่เรานั่งมาให้บินกลับไปดอนเมืองในเที่ยวบิน XJ639 พอดี มุมมองจากจุดชมเครื่องบินช่างสวยงาม

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

บรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกดินจากจุดชมเครื่องบิน

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

นี่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของสนามบินนาโกย่า นั่นคือมีออนเซ็นในสนามบิน เท่านั้นยังไม่พอ ยังเป็นออนเซ็นที่มีพื้นที่เอาท์ดอร์ (กึ่งเอาท์ดอร์ก็ได้ เพราะมีหลังคาครอบ) เท่านั้นยังไม่พอยังเป็นออนเซ็นที่มีจุดชมเครื่องบินด้วย คือแช่น้ำร้อนไปดูเครื่องบินไปได้ด้วย ราคาก็ประมาณพันกว่าเย็น มีบ่อออนเซ็นหลาย ๆ แบบตามแบบฉบับออนเซ็นญี่ปุ่น แล้วก็มีห้องซาวน่าด้วย 

 

ภาพล่างสุดนั้นเอามาจากเว็บไซต์ของออนเซ็นนั่นแหละ เพราะเราถ่ายรูปในออนเซ็นไม่ได้ เห็นไหมว่ามีการแปะเครื่องบินลงไปด้วยนะให้ดูรู้ว่ามองจากออนเซ็นเห็นรันเวย์ (แต่ก็รู้เลยว่าเครื่องบินตัดต่อ เพราะมีที่ไหนที่ยกตัวมาแค่นั้นแล้วเก็บล้อหมดแล้ว)

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

นี่ก็อีกหนึ่งไฮไลท์ของสนามบิน เพิ่งเปิดได้ไม่นาน เรียกว่า Flight of Dreams เป็นเหมือน ๆ กึ่ง ๆ พิพิธภัณฑ์ คอนเซปก็คือเนื่องจากว่าที่นี่นั้นเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตโครงสร้างของ 787 และก็เป็นจุดที่ใช้ปฏิบัติการในการขนส่งโครงสร้างนั้นไปยังสายการประกอบในสหรัฐฯ  ก็เลยมีการนำโบอิ้ง 787 ลำต้นแบบ ลำทดสอบลำหนึ่ง ที่พอไม่ได้ใช้ในภารกิจแล้ว มาจอดจัดแสดงที่นี่เลย จากนั้นก็มีการสร้างอาคารสำหรับจัดแสดงนี้ แล้วก็ใส่ร้านค้าร้านอาหารในคอนเซปเสมือนว่าเป็นบรรยากาศของซีแอทเทิล ซึ่งก็คือเมืองที่เป็นฐานสำคัญของโรงงานประกอบเครื่องบินของโบอิ้งนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นร้านสตาร์บัคส์ (กาแฟสตาร์บัคส์สาขาแรกอยู่ที่ซีแอทเทิล) ร้านอาหารทะเล คอนเซปประมาณว่าเหมือนอยู่ตรง Pike Market ที่ซีแอทเทิล ร้านขายของจากอเมริกา รวมไปถึงการมีร้าน Boeing Store ขายของที่ระลึกจากโบอิ้งด้วย(แต่ราคาแพงกว่าในอเมริกาประมาณหนึ่งเท่า)

 

ส่วนตัวเครื่องบินที่จอดจัดแสดงนั้นก็ซื้อตั๋วขึ้นไปชมได้ ข้างในก็จะมีเรื่องราวข้อมูลต่าง ๆ 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ใครชอบเครืองบินหรือมีเวลาว่าง ๆ ระหว่างการเดินทางรอเครื่องก็เดินมาชมกันได้ มีทางเชื่อมเดินมาจากอาคารผู้โดยสารได้เลย

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

หน้าอาคารผู้โดยสารก็จะเป็นอาคารศูนย์การขนส่งที่มีทั้งรถไฟ รถบัส รถแทกซี่ รถเช่า เรื่องรถไฟก็ไม่ต้องพูดถึงทุกคนคงรู้ว่ารถไฟญี่ปุ่นนั้นดีแค่ไหน เอาเป็นว่า มาลงที่นาโกย่าแล้วอยากต่อไปไหนก็ไปได้ทั้งนั้นแหละ (แต่ว่าจะใกล้ไกล หรือนั่งรถกี่ต่อนั้นก็อีกเรื่องนะ ก็วางแผนดีๆ ) อย่างที่บอกว่าเขาอยากให้ที่นี่ เป็นประตูอีกแห่งสู่ญี่ปุ่นแบ่งเบาภาระของโตเกียวและโอซาก้า

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

นอกเหนือจากรถไฟแล้ว ที่นี่ก็มีเครือข่ายรถบัสที่ดี มีรถบัสสายพิเศษต่าง ๆ ไปยังหลายพื้นที่ ทั้งในเมือง หลาย ๆ จุด ไปดีสนีย์แลนด์ ไปย่านต่าง ๆ รอบ ๆ เขตปริมณฑลของภูมิภาค

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

นั่งรถบัสเข้าเมือง เอาของไปเก็บที่โรงแรม แล้วก็ไปชมเมืองยามค่ำคืนกัน

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Nagoya TV Tower บริเวณนี้เป็นย่านกลางเมืองเลยเรียกว่าย่าน Sakae มีทั้งห้าง ที่มีร้านค้าแบรนด์ต่าง ๆ มากมาย เรียกได้ว่าใครอยากจะมาชอปปิ้งละก็แถวนี้เลย รวมไปถึงที่นี่มี Apple Store ด้วยนะ

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ในเมืองนาโกย่านั้นก็เดินทางสะดวกด้วยระบบรถไฟใต้ดิน เช่นเดียวกับเมืองใหญ่ ๆ ของญี่ปุ่น