125 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

ภาพแรกคือภาพเกาะสนามบินที่เรานั่งเรือออกมา

 

ส่วนภาพอีกสามภาพคือเกาะมาเล่ เมืองหลวง โดมสีทองคือมัสยิดกลาง

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ประมาณ 20 นาทีเราก็มาถึงเกาะ Giraavaru ซึ่งเป็นเกาะของ Centara Ras Fushi Resort & Spa ตัวเกาะมีความยาว 400 เมตร กว้าง 250 เมตร และทั้งเกาะมีรีสอร์ทเดียวเต็มพื้นที่ ดังนั้นเราก็เหมือนได้เข้ามาอยู่ในเกาะส่วนตัวของรีสอร์ทนั้น ๆ อันนี้เป็นอีกหนึ่่งจุดน่าสนใจของ Maldives Experience เพราะว่าแต่ละเกาะแต่ละรีสอร์ทเขาก็จะมีการตกแต่งหรือปรับบรรยากาศ อาคารสถานที่ให้เป็นไปตามแนวคิดหรือคอนเซปของรีสอร์ทแต่ละแห่ง

 

เวลาเรือมาถึงแต่ละรอบก็จะมีพนักงานมารอรับเราขึ้นเรือจากท่าเรือของรีสอร์ทแบบนี้

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

มาถึงแล้วก็มานั่งที่ลอบบี้รอเช็คอิน  นั่งรอพนักงานเช็คอินพร้อมเครื่องดื่มและผ้าเย็นต้อนรับ

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ตัวลอบบี้ก็จะเป็นอาคารที่พื้นเป็นทรายให้เข้ากับบรรยากาศว่าเราอยู่บนเกาะ ข้าง ๆ ลอบบี้จะมีบาร์ ชื่อ Giravaru Lobby Bar เป็นบาร์ที่มีชานออกไปริมทะเล ให้มานั่งรับลมระหว่างรอเช็คอินได้

 

สำหรับ Centara Ras Fushi Resort & Spa ก็จะเป็นรีสอร์ทระดับ 4 ดาวในแบรนด์เซ็นทารา มีห้องพักหลากหลายแบบซึ่งเราจะพาไปดูกัน รวมไปถึงในพื้นที่รีสอร์ทก็มีห้องอาหารอีก 4 แห่งและบาร์อีก 2 แห่ง

 

ขณะเช็คอินพนักงานก็จะมาอธิบายถึงแผนผังโรงแรมโดยคร่าว ๆ และก็จะอธิบายถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของแพคเกจที่เรามี คือทางรีสอร์ทเขาอาจจะมีการจำหน่ายแต่ละช่องทางด้วยแพคเกจที่แตกต่างกัน ในแต่ละช่วงเวลา เช่น มีทั้งแบบ All Inclusive คือรวมอาหารทุกอย่างทุกมือเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ก็รวม แบบ Full Board คืออาหาร 3 มื้อเช้ากลางวันเย็น แบบ Half Board คืออาหารเช้ากับเย็น หรือแค่รวมอาหารเช้า อันนี้ก็ตรวจสอบรายละเอียดตอนสำรองที่พักนะ หากจองกับเซ็นทาราโดยตรงก็สอบถามเซ็นทารา หากจองผ่านพวกเอเจนซี่หรือเว็บ Online Travel Agent ต่าง ๆ ก็อ่านรายละเอียดดูตอนจองด้วยนะ

 

สำหรับเราในครั้งนี้พักด้วยแพคเกจแบบ All Inclusive รวมอาหารทุกมื้อ รวมอาหารว่าง เครื่องดื่มและเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ (แต่จะมีอาหารบางชนิดหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์พิเศษบางอย่างที่อาจจะต้องจ่ายเพิ่มถ้า)

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สำหรับห้องพัก ที่นี่มีทั้งแบบ Ocean Front Beach Villa คือพักบนเกาะบนหาด (จะมีประเภทย่อยๆ ลงไปอีก เดี๋ยวอธิบายตอนพาไปดู)

 

และ Over Water Villa หรือที่สร้างยื่นออกไปกลางน้ำแบบนี้

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สำหรับห้องพักที่เราจะพาไปชมในวันนี้อันแรกจะเป็นห้องประเภทสูงที่สุดของโรงแรมคือ 

Premium Deluxe Spa Water Villa คือเป็นห้องพักกลางน้ำประเภทหนึ่งที่ทั้ง Deluxe ทั้ง Premium และทั้ง Spa

 

ความ Premium คือจะเป็นห้องที่อยู่ปลายสุด ๆ ของสะพานดังนั้นจะได้ความเป็นส่วนตัวเพราะจะไม่มีคนเดินผ่านห้องและข้างห้องด้านหนึ่งก็เปิดออกสู่ทะเลชัดเจนไม่ มีห้องข้าง ๆ เราอีก

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ตัวห้องมีขนาด 30 ตร.ม. มีระเบียงอีก 12 ตร.ม. รวมพื้นที่ 42 ตร.ม. 

 

ความ Spa ในชื่อห้องก็คือจะมีอ่างอาบน้ำกลางแจ้งอยู่ที่ระเบียงห้อง และก็จะมี Ipod Dock สำหรับเล่นเพลงให้ในห้อง

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ส่วนความ Premium อีกสองอย่างก็คือจะมี Hammock หรือที่นอนตาข่ายที่ยื่นไปกลางน้ำเป็นของตัวเองในห้อง

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

มีเดย์เบดยื่นออกไปให้นอนชมทะเล มี Hammock และก็มีบันไดให้เดินลงน้ำจากในห้องได้(บันไดนี่มีทุกห้องที่เป็น Water Villa)

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ส่วนห้องพักของเราจริงๆ  แล้วนั้นเป็นห้องแบบ Deluxe Sunrise Water Villa ซึ่งจะมีขนาดเท่ากับ Premium Deluxe Water Villa นั่นแหละ (ห้องกลางน้ำทุกห้องขนาดเท่ากัน) คือ 30 ตร.ม. + 12 ตร.ม. เพียงแต่ในห้องนั้นก็จะไม่มี Ipod Dock กับภาพบนผนัง แค่นั้น (ส่วน Sunrise Sunset คือฝั่งที่ห้องอยู่ว่าหันไปทางทิศไหน โดยปรกติแล้วฝั่ง Sunset จะมีราคาสูงกว่าเล็กน้อย)

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ห้องน้ำและห้องอาบน้ำกว้างขวา มีพื้นที่สำหรับแขวนเสื้อเปลี่ยนเสื้อ มีตะกร้าสำหรับใส่ผ้าใช้แล้วในเป็นสัดส่วนในพื้นที่ห้องน้ำ มีหน้าต่างที่เปิดทะลุมายังห้องนอนได้บริเวณอ่างล้างหน้า

 

สำหรับที่นี่ซึ่งเป็นรีสอร์ทระดับ 4 ดาวก็จะไม่มีอ่างอาบน้ำในห้อง(ยกเว้นห้องประเภท Deluxe Spa) มีแต่พื้นที่ Shower Box ซึ่งมีทั้งแบบ Rain Shower และ Hand Shower

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เครื่องอำนวยความสะดวกก็ครบทั้งเซฟ ผ้าเช็ดตัวชายหาดก็มีให้ไว้ในห้อง มีที่ชั่งน้ำหนัก และที่สำคัญหัวปลั๊กเป็นแบบ Universal ไม่ต้องเอาหัวแปลงมานะ

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เข้ามาถึงห้องบนโต๊ะก็ยังมีเค้ก สปาร์กลิงไวน์ ขนมหวานและจดหมายต้อนรับจากผู้จัดการโรงแรมวางไว้

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สำหรับห้องแบบ Deluxe Water Villa นั้นก็จะไม่มี Hammock กับ Daybed ที่นอกห้องแต่จะมีเก้าอี้ชายหาดแบบนี้วางไว้ให้แทนที่ระเบียง โดยที่ระเบียงก็จะมีราวแขวนผ้าเปียกไว้ ด้านหนึ่่งกับผนังระแนงเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวไม่ให้ห้องข้างกันมองเห็นกัน ส่วนอีกด้านก็จะโล่งเป็นบันไดเดินลงไปในทะเล ที่เชิงบันไดจะมีก๊อกน้ำไว้ให้ล้างเท้าเวลาขึ้นมาจากทะเลด้วย

 

ความพิเศษของ Water Villa ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่ง Maldives Experience (เพราะมีไม่กี่ที่ในโลกที่จะสร้างที่พักบนทะเลแบบนี้ได้) ก็คือการได้สัมผัสธรรมชาติและน้ำใส ๆ ทันทีที่เราชะโงกออกนอกระเบียงห้อง อย่างบ่ายวันนี้เราโผล่หน้าออกมาก็เจอนกตัวนี้มารอกินปลา และก็เห็นน้ำใส ๆ (มากมากที่มองทะเลุเห็นพื้นทรายและที่สำคัญคือเห็นปลาชนิดต่าง ๆ ว่ายเวียนมาทักทายถึงปลายบันไดห้องเราเต็มไปหมด

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

พาไปชม facilities ของรีสอร์ทกันบ้าง การมาพักรีสอร์ทแบบนี้ก็เหมือนติดเกาะ(แต่พอดีเป็นเกาะที่สะดวกสบาย มีอาหารการกินครบ) เพราะเราเข้ามาอยู่ในอีกโลกหนึ่งที่รีสอร์ทสร้างขึ้น จะออกไปเที่ยวไปชมอะไรก็คงยากไม่เหมือนกับเวลาเราไปเที่ยวบนแผ่นดิน ดังนั้นแล้วทางโรงแรมเขาก็จะต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมให้แขกมาทำ อย่าง เช่น ฟิตเนส อันนี้ก็มีอยู่แล้วตามมาตรฐานโรงแรมทั่วไป และก็มีห้องเกมส์รูม ที่มีทั้งบอลโต๊ะ เครื่องเกมส์ของเล่นต่าง ๆ

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แต่จริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้ใช้ห้องเหล่านั้นหรอกนะ เพราะการมารีสอร์ทแบบนี้ จริง ๆ แล้วควรมานั่ง ๆ นอน ๆ สบาย ๆ ผ่อนคลาย สัมผัสธรรมชาติ อากาศดี ๆ วิวดี ๆ อ้อแล้วทางรีสอร์ทเขาก็มีกิจกรรมที่เป็นแบบ Excursion ให้ทำ มีทั้งแบบเสียตังเพิ่มและฟรี มีหลายอันน่าสนใจเดี๋ยวจะพาไปดู

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แต่ตอนนี้เราขอพาไปชมห้องพักอีกแบบก่อนคือ Ocean Front Beach Villa คือที่พักบนหาด ไม่ได้อยู่กลางน้ำ

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สำหรับห้องแบบ Ocean Beach Front Villa นี่ราคาจะถูกกว่าแบบห้องกลางน้ำ และก็จะเป็นที่นิยมของคนมีอายุหน่อยเพราะว่า ตอนกลางคืนเสียงคลื่นลมจะไม่ดังเท่า และก็จะไม่ได้รับรู้ถึงความสั่นสะเทือนจากคลื่นหรือกระแสน้ำ คือห้องกลางน้ำเนี่ยถ้าช่วงคลื่นลมแรง ๆ เวลาอยู่ในห้องจะรู้เลยว่าห้องมันสั่นจากแรงปะทะของคลื่น 

 

สำหรับห้องแบบนี้ก็จะมีแบบย่อยสองแบบคือ Ocean Beach Front Villa ห้องนอนก็จะมีขนาด 29 ตร.ม. และมีพื้นที่ที่เป็นชานหรือลานด้านนอกอีก 12 ตร.ม. กับ Deluxe Ocean Beach Front Villa ที่ตัวห้องนอนจะมีขนาดเท่ากันแต่พื้นที่ชานด้านนอกจะมีขนาด 16 ตร.ม. แล้วก็จะมีอ่างน้ำกลางแจ้งกับ Ipod Dock ให้