41 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

See Angkor Wat and Die : บินตรงลง "เสียมราฐ" ชมนครวัด สไตล์บูทีคกับ Bangkok Airways

เรื่องและภาพ JK..LSKY

 

 

หลายคนคงจะรู่จัก นครวัด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือให้คนทั้งโลกนั้นปราถนาจะมาเยือนและชมความงดงามยิ่งใหญ่อลังการ ของสิ่งก่อสร้างที่มีอายุนับพันปี แต่แสดงให้เห็นถึงความสามารถและทักษะของอารยธรรมในอดีต จนมีคนกล่าวว่าต้องมาชมให้ได้สักครั้งในชีวิต See Angkor Wat and Die

 

หลาย ๆ คนอาจคิดว่าจะไปชมความยิ่งใหญ่ของนครวัดนั้นอาจจะลำบากและไกล แต่จริง ๆ แล้วจะไปสัมผัสสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแห่งนี้ไม่ยากเลย เพราะเราสามารถเดินทางไปเสียมราฐประเทศกัมพูชา ซึ่งมีพรมแดนติดกับไทย จริง ๆ แล้วห่างจากกรุงเทพฯ แค่ 300 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น และก็มีสายการบินพาเราบินไปได้แบบสบาย ๆ อย่าง Bangkok Airways นี่ก็มีบริการเที่ยวบินตรงจากสุวรรณภูมิ 5 เที่ยวบินต่อวัน

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เริ่มต้นการเดินทางกันที่สนามบินสุวรรณภูมิเช่นเคย สำหรับผู้โดยสารของบางกอกแอร์เวย์สนั้น มีเคล็ดลับอยากมาบอกกันว่า ถ้าไม่อยากเข้าคิวรอเช็คอินนาน ๆ นั้นผู้โดยสารสามารถเลือกเช็คอินผ่านเว็บ หรือผ่านตู้เช็คอิน Kiosk ที่อยู่หน้าบริเวณ Row F ด้วยตัวเอง แล้วไปเข้าคิวฝากกระเป๋าสำหรับผู้ที่เช็คอินมาแล้วซึ่งแถวสั้นกว่าได้

หรือหากเป็นสมาชิกระดับพรีเมียร์ของฟลายเออร์โบนัส หรือเดินทางด้วยชั้นธุรกิจ Blue Ribbon Class (ซึ่งในเที่ยวบินเสียมราฐนั้นไม่มี) ก็สามารถมาเช็คอินช่องพิเศษตรงนี้ได้สะดวกสบาย


 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เช็คอินเสร็จแล้วก็ช้าอยู่ทำไม รีบไปนั่งรอขึ้นเครื่องสบาย ๆ สไตล์บูทีค กันเลยที่เลาจน์ สำหรับเลาจน์หรือห้องรับรองผู้โดยสารระหว่างประเทศของ Bangkok Airways นั้นเขาเพิ่งเปิดใหม่ อยู่ที่ Concourse D ตรงข้ามเกท D7 ซึ่งเราเคยพาไปชมกันมาแล้วที่ http://www.hflight.n...s/topic/17702-q

หรือไปชมวิดีโอกันที่




 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แต่อย่ามัวนั่งเพลิดเพลินกับอาหารการกินจนเกินไป คอยดูเวลาเรียกขึ้นเครื่องและเผื่อเวลาเดินไปเกทด้วยนะ เนื่องจากว่าขาออกระหว่างประเทศที่สุวรรณภูมิเขาก็กว้างใหญ่อยู่นะ และบางทีเกทอาจจะไกลจากเลาจน์ ต้องเผื่อเวลาเดินกันหน่อย สำหรับเที่ยวบิน PG905 วันนี้ใช้เกท C1a เป็นบัสเกท สำหรับ Bangkok Airways นั้นเขาก็มีเที่ยวบิน กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) - เสียมราฐ หรือเสียมเรียบ รวม 31 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ หรือว่ามากกว่า 4 เที่ยวต่อวัน

[ทีมข่าวHFLIGHT]

จริง ๆ แล้วระหว่างกรุงเทพฯ ไปเสียมราฐ นั้นไม่ไกลเลยเป็นระยะทางแค่ ประมาณ 333 กิโลเมตรเท่านั้น หรือใกล้กว่าบินไปพิษณุโลกเสียอีก แต่ว่าอาจจะมีอุปสรรคทั้งด้านพรมแดนระหว่างประเทศ เรื่องภูมิประเทศและสภาพถนนหนทาง ทำให้การบินไปนี่แหละสะดวกและสบายที่สุด

สำหรับเที่ยวบินสั้น ๆ ระยะทางไม่ไกล ใช้เวลาบินไม่ถึง 1 ชั่วโมงแบบนี้ Bangkok Airways เขาก็ใช้ทั้ง ATR72 A320 และ A319 สลับกันให้บริการในเส้นทางนี้



 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ขึ้นมานั่งประจำที่ นั่งแถวหน้าสุดเลย ที่นั่งของ ATR นี่ก็จัด 2-2 มีทั้งหมด 70 ที่นั่ง

นั่งที่แล้วลูกเรือจะแจกแบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร รวมถึงใบขอ Visa on Arrival ซึ่งสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางไทยนั้น เราไม่ต้องขอวีซ่าก็เดินทางเข้ากัมพูชาและพำนักอยู่ได้ 14 วัน ดังนั้นใบขอ Visa On arrival เราก็ไม่ต้องสนใจ กรอกแต่ใบขาเข้าขาออกและศุลกากรพอ


 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ไฟลท์สั้น ๆ และบริการอาหารสำหรับเที่ยวบินยามสายวันนี้เป็นตอร์ติย่าเป็ดปักกิ่ง


 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

อย่างที่บอกว่านี่เป็นเที่ยวบินสั้นแต่บินข้ามประเทศ ด้วยระยะทางเพียง 333 กิโลเมตร เราก็ลงจอดที่สนามบินเสียมเรียบภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากเทคออฟ


 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ถึงแล้วสนามบินเสียมเรียบ เป็นสนามบินขนาดไม่ได้ใหญ่โตนัก ผ่าน ต.ม. รับกระเป๋า ผ่านศุลกากร ใช้เวลาไม่นานก็ออกมาด้านนอก

สำหรับคนที่จะเข้าเมือง หลายโรงแรมมีบริการรถมารับมาส่งที่สนามบิน หรือจะลองใช้บริการรถตุ๊กตุ๊ก ที่หน้าตาไม่เหมือนตุ๊กตุ๊กที่เมืองไทย แต่จะเป็นมอเตอร์ไซต์พ่วงเก๋งลาก ราคาเข้าเมืองประมาณ 5-10 USD ต่อเที่ยว


 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

หลังจากเข้าที่พัก บ่ายวันแรกเราก็ตรงมาที่นี่เลย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเสียมเรียบ ข้างในแสดงบรรดาศิลปวัตถุมากมาย โดยเฉพาะสิ่งที่ได้มากจากบรรดานครวัด นครธม ปราสาทต่าง ๆ ในเขตเสียมเรียบ และยังมีสภาพสมบูรณ์

ข้างในไม่สามารถถ่ายรูปได้ แต่แนะนำว่าก่อนจะไปชมนครวัด นครธมของจริง ให้แวะมาชมและเรียนรู้เรื่องราวที่นี่ก่อน

[ทีมข่าวHFLIGHT]

วันต่อมา วันนี้จะใช้เวลาทั้งวันกับการเที่ยวชม Angkor ซึ่งเราจะเหมารถให้พาเราเที่ยวเหมาทั้งวันจะอยู่ที่ 12-15 USD (เฉพาะค่ารถ) แต่ยังไม่รวมค่าบัตรเข้าชมอุทยานมรดกโลก ซึ่งจะสามารถชมได้ทั้ง นครวัด นครธม ปราสาทอีกหลายแห่งที่อยู่โดยรอบ

มีบัตร 3 ประเภท วันเดียว 37 USD / 3 วัน 62 USD (เข้าชมได้ 3 วันในช่วงอายุบัตร 7 วัน) / 7 วัน 72 USD (เข้าชมได้ 7 วันในอายุบัตร 1 เดือน)

ผู้เข้าชมทุกคนต้องมาซื้อบัตรที่นี่เพราะว่าจะต้องถ่ายรูปพิมพ์ลงไปบนบัตร


 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

จากนั้นรถก็จะพาเราขับเข้าไปชม ซึ่งวันหนึ่้งอาจไปได้ไม่ทุกปราสาทเนื่องจากที่กว้างมาก และหลายปราสาทก็มีรายละเอียดมาก


 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

นครวัด หรือ Angkor Wat ปราสาทขนาดใหญ่ ที่สร้างขึ้นโดยจำลองหลักความเชื่อเรื่องเขาพระสุเมรและจักรวารของศาสนาพราหมณ์ วัตถุประสงค์แรกคาดว่าจะสร้างเพื่อบูชาเทพตามความเชื่อของศาสนาพราหณ์ โดยมีการสร้างปราสาท ยอดปรางค์ 5 ยอดหรือ 9 ยอดถ้านับรวมชั้นนอก รายล้อมด้วยอาคารประกอบ ระเบียง สระน้ำบาราย

แต่สำหรับชื่อนครวัดนั้น เกิดจากว่าภายหลังกษัตริย์เขมรเปลี่ยนมาศรัทธาในพระพุทธศาสนา จากศาสนสถานในศาสนาพราหมณ์ ก็เลยมาเป็นวัดในศาสนาพุทธ


 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

หลังจากข้ามทะเลสาบบาราย
ข้ามตัวกำแพงชั้นนอก เข้ามา เราก็จะได้เห็นความสวยงามและยิ่งใหญ่ของนครวัดค่อย ๆ ปรากฎตรงหน้าอยู่ไกล ๆ ที่สุดทางเดินทอดยาว ราวกับว่าสื่อถึงความยิ่งใหญ่ของเขาพระสุเมรุซึ่งเป็นศูนย์กลางของจักรวาลและที่ประทับของเทพ

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ความยิ่งใหญ่ที่ได้สัมผัสนั้นสมกับคำกล่าวที่บอกว่า See Angkor Wat and Die จริง ๆ และตัวโบราณสถานก็มีรายละเอียดที่สวยงามเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นราวบันไดนาค สิงห์ นางอัปสร หน้าบัน รูปสลักต่าง ๆ


 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แน่นอนว่าหนึ่งในความน่าสนใจของนครวัดคือบรรดานางอัปสร


 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

บนยอดปราสาทประธานนั้นสามารถเดินขึ้นไปได้ แต่คิวยาวมากเราเลยขอดูอยู่ด้านล่าง


 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]