73 replies to this topic

[~{por}~]

Advertisements

หมดแล้วหรอครับ
กำลังสนุกเลย T^T

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ขออภัยครับ เผลอหลับไป เอาให้จบเลยแล้วกันนะครับ แห่ะๆๆๆ

แค่เห็น Terminal 2 ก็อลังการสุดๆ แล้วหล่ะครับ

รันเวย์สนามบินนาริตะ จะจัดแบบแปลกๆ เห็นว่าส่วนหนึ่งเพราะปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดินด้วยครับ
รันเวย์ก็เลยเหลื่อมออกไปซะขนาดนั้น

และแล้วก็ได้แตะแผ่นดินญี่ปุ่นซะที ....

คุณจ๊วตพี่เวียตประกาศออกไมค์ว่า อุณหภูมิข้างนอก 8 องศาเซลเซียส จ๊ากก..
รีบหาเสื้อกันหนาว อุปกรณ์กันหนาวสวมใส่โดยด่วน ...

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

Gate ข้างๆ กัน มีเครื่องพี่เวียต A330-300 กำลังเข้าจอดด้วยเหมือนกัน
ลำนี้บิน ฮานอย-นาริตะ ครับ แต่รู้สึกว่าจะดีเลย์มาครึ่งชั่วโมง
ในขณะที่ ไฟล์ทจากโฮจิมินห์ ถึงก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง (ขณะนี้เวลา 7.20 น. ตามเวลาญี่ปุ่น หรือ 5.20 น.ตามเวลาไทย)

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ถ่ายสภาพที่นั่งมาให้ดูอีกทีนึง ค่อนข้างอึดอัดนะครับ แห่ะๆๆ seat pitch สู้ A321 ไม่ได้เลย

เบาะเอนสุดได้แค่นี้จริงๆ ครับ แห่ะๆๆ บินไกลๆ ก็เมื่อยหน่อยนะครับ

แอบถ่ายที่นั่ง biz รุ่นโบราณหน่อย ... รีบถ่าย มือสั่นครับ แห่ะๆๆ
แค่อยู่ตรงปากประตูเครื่องบิน ก็สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นละครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

อินเตอร์เน็ตติ๊งต๊องครับ ต้องขออภัย ...

ได้เข้ามาใน Terminal ซักทีนะครับ
ตรงไปด่าน ตม. เลย เพราะคนค่อนข้างเยอะ 2 ไฟล์ทเข้าพร้อมกันด้วย

ต้องนั่งรถไฟฟ้าเข้าไปที่ตัว Main Terminal ด้วยครับ คนเยอะหน่อย แห่ะๆๆ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ถึงด่าน ตม. ก็จะมี จนท. ตรวจความเรียบร้อยของเอกสาร แล้วถึงจะปล่อยให้ไปเข้าคิวครับ

การผ่าน ด่าน ตม. ง่ายมากๆ ครับ จนท. แทบจะไม่ถามอะไรเลย แถมบนหน้าจอ ที่ให้ประทับพิมพ์ลายนิ้วมือ นิ้วชี้ทั้งสองข้าง
ก็มีภาษาไทยด้วยครับ ก็แค่วางนิ้ว พอเรียบร้อย ก็มองกล้อง ถ่ายรูปเป็นอันเรียบร้อย ได้เข้าประเทศญี่ปุ่นแล้ว

สำหรับญี่ปุ่น ถ้าวีซ่าผ่าน ก็ไม่มีปัญหาแล้วครับ สบายใจได้เลย ตม. ไม่วุ่นวาย
จะคนละแบบกับออสเตรเลีย ที่วีซ่าก็ขอยาก เจอ ตม. + ด่านตรวจวุ่นวายมากมายอีก

ผ่าน ด่าน ตม. ก็ไปรับกระเป๋ากันด้านล่างเลยครับ
แล้วก็ผ่านด่าน จนท. ศุลกากร เขาก็ถามนิดหน่อยครับว่ามาทำอะไร อย่างไร แล้วก็ให้ผมผ่านเลย ไม่เปิดกระเป๋าดูซักนิดเดียว
ง่ายมากเลยครับ ไม่ต้องเอากระเป๋าเข้าเครื่องสแกนด้วย เย้ ได้เข้าญี่ปุ่นอย่างสมบูรณ์ แล้ว

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

Tag กระเป๋า มีโลโก้การบินไทยด้วยนะครับ อิอิ นึกว่าบินกับป้ามาญี่ปุ่น

Attached Thumbnails

• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ว่าแล้ว ก็หาวิธีทางเข้ากรุงโตเกียวเลยดีกว่าครับ ....

แน่นอน ของผมก็ต้องเอาแบบถูกที่สุดครับ ก็คือ การเดินทางกับรถไฟของบริษัท Keisei ขบวน Limited Express 1,000 เยน หน่ะครับ อิอิ
มีรถออกตลอดครับ วิธีนี้ถูกที่สุดแล้ว ถ้านั่ง Keisei Skyliner ก็แพงอยู่ครับ 1,920 เยน ใช้เวลาเดินทางเร็วขึ้นแค่ 17 นาทีเอง

แต่ .. ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2553 จะมีขบวนรถด่วนพิเศษเส้นทางใหม่ ของบริษัท Keisei เข้าเมืองโดยใช้เวลาเพียง 36 นาทีเท่านั้นครับ
ก็รอดูต่อไปนะครับว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

ดูรอบรถนะครับ วิ่งกันค่อนข้างถี่ทีเดียว ถ้าสนใจก็ลงไปซื้อตั๋วจากเครื่องอัตโนมัติตรงสถานีชั้นล่างสุดได้เลยครับ

สำหรับรถไฟที่วิ่งเข้า-ออก สนามบินนาริตะจะมี 2 เจ้าครับ คือ JR (Japan Railway) และ บริษัท Keisei ครับ
รักใครชอบใครก็เลือกข้างได้เลยครับ Keisei ข้างซ้าย JR ข้างขวาครับ ...

สำหรับใครที่มีต้องการใช้บัตร Japan Rail Pass ก็เอาใบ Exchange มาแลกที่นาริตะ แล้วเดินทางเข้าเมืองกับ Narita Express ขบวนด่วนพิเศษของ JR ได้เช่นกัน
แต่สำหรับผม เก็บไว้ก่อนครับ ไว้ค่อยเดินทางไกล อิอิ ตอนนี้เน้นเดินทางถูกๆ ไปก่อน

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

วิธีการซื้อตั๋วจากเครื่องอัตโนมัติก็ง่ายมากๆ เลยครับ เมนูภาษาอังกฤษก็มีให้เลือกเหมือนกัน

ปกติเราจะต้องทราบว่า จุดหมายปลายทางของเรา จะไปลงที่ไหน และจะต้องจ่ายราคาเท่าไหร่
อย่างเข้ากรุงโตเกียว ราคา 1,000 เยน เราทราบแล้ว เราก็คลิ๊กเลือกตรงไอคอน 1,000 เยน แล้วก็สอดแบ๊งค์พันเยนเข้าไป

แค่นี้ก็จะได้ตั๋วมาแล้วหล่ะครับ ... กรณีจะไปต่อรถไฟเจ้าอื่น อาทิเช่นไปลงที่สถานี Nippori แล้วต่อกับ JR Nippori (เดินทางสาย JR Yamanote วนลูบรอบเมือง) ก็จะมีเครื่องปรับราคา ที่เรียกว่า Fare Adjustment เราก็เพียงแค่เสียบตั๋ว Keisei อันเดิมเข้าไปในเครื่อง แล้วก็เลือกจ่ายเงินเพิ่มราคาใหม่ อาทิเช่น จาก JR Nippori ไป Shinjuku ราคา 190 เยน ก็คลิ๊กตรงไอคอน 190 เยน แล้วก็จ่ายเงิน 190 เยนเข้าไป (ถ้าจ่ายแบ๊งค์พัน ก็ทอนมาเป็นเหรียญโดยอัตโนมัติครับ) แค่นี้เราก็ได้ตั๋ว JR ไปสถานีอื่นๆ ได้แล้วครับ

แรกๆ อาจจะงงๆ นะครับ แต่ถ้าลองๆ ทำไปจะคุ้นและจะรู้สึกว่ามันง่ายมากๆ เลยครับ

Attached Thumbnails

• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

สบายๆ กับบริการฝากกระเป๋า ส่งตรงถึงที่พัก

สำหรับที่ญี่ปุ่น มีบริการรับฝากสัมภาระให้ไปส่งตามที่ต่างๆ ด้วยนะครับ
อย่างเรามีกระเป๋าใบใหญ่ บางทีเราก็ไม่อยากจะกระเตงกระเป๋าไปเที่ยวด้วย
เราก็สามารถใช้บริการบริษัทเหล่านี้ ในการส่งกระเป๋าที่ยังที่พักของเราได้เลย

สำหรับบริษัทที่รับฝากมีหลายเจ้าเลยครับ
เจ้าที่ดังมากที่สุดก็คือบริษัท Yamato หรือ แมวดำ นั่นเอง หลายๆ คนจะเห็นโลโก้แมวดำอยู่บนรถบรรทุก
นี่หล่ะครับ บริษัทนี้มีเครือข่าย network ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในญี่ปุ่นแล้ว
ที่ Terminal 2 จะอยู่ใกล้กับ Hall B เคาน์เตอร์จะชื่อว่า GPA (เกรดเฉลี่ย) อ่ะครับ

สำหรับบริษัทอื่นๆ ก็มีครับ JAL, ANA, ABC และ ฯลฯ มากมาย
ที่ Terminal 2 จะอยู่ใกล้กับ Hall A นะครับ มีเคาน์เตอร์เรียงรายเลือกใช้บริการตามอัธยาศัย

สำหรับผมเลือกใช้บริการของแมวดำ ให้ส่งกระเป๋าไปหน่อย
ก็ฝากตอนเช้า กระเป๋าจะถูกส่งถึงที่หมายประมาณช่วงหัวค่ำครับ
สำหรับกระเป๋าใหญ่ขนาด 30 นิ้วแบบนี้ ราคาอยู่ที่ 1,690 เยนครับ

จริงๆแล้ว มีอีกวิธีหนึ่งที่ประหยัดกว่า นั่นก็คือการลากกระเป๋าขึ้นรถไฟ แล้วพอถึงสถานี Nippori ก็เอากระเป๋าฝากไว้ในล๊อกเกอร์ตู้หยอดเหรียญในสถานี
ปกติ ล๊อกเกอร์ช่องที่ใหญ่ที่สุด จะราคาประมาณ 500 เยน/วัน เราก็เอาของใส่ให้เรียบร้อย
แล้วก็ปิดฝาตู้ล๊อกเกอร์ แล้วก็หยอดเหรียญ 100 เยนจำนวน 5 เหรียญเข้าไป แล้วก็บิดกุญแจล๊อกก็จะล๊อกตู้ได้แล้วครับ
(แต่ถ้าล๊อกแล้ว ปลดล๊อก ต้องเสียตังค์ใหม่นะครับ จ่ายเงินแล้วล๊อกตู้ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ดังนั้นระวังเรื่องการลืมของให้ดีๆ นะครับ)
พอเที่ยวเสร็จ ก็ค่อยกลับมาช่วงเย็น ก็เอากุญแจปลดล๊อกตู้ แล้วเอากระเป๋าออกมาเข้าที่พักก็ได้เหมือนกันครับ ประหยัดกว่าพอสมควร

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ความเห็นสุดท้ายแล้ว จบแล้วครับ ...

ยินดีต้อนรับสู่ญี่ปุ่นนะครับ

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ

Attached Thumbnails

• 

[frodo]

รีวิวนี้ใช้เวลาตั้ง 5 วันนะครับหมอ
เห็นราคาตั๋วของ VN ยั่วใจมากเลย สภาพเครื่องก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร น่านั่งอีกต่างหาก
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะครับ ไว้ rop เต็มถุงเต็มถังเมื่อไหร่ได้เจอกันแน่ "เจแปน"

[ann_vareewan]

ตามอ่านมาทั้งสองตอนแล้วค่ะ
ยังคงเข้มข้นชวนอ่านเหมือนเดิม

รอชมท่องเที่ยวในแบบฉบับหมอยุ่งนะคะ

[ninoknan]

เหนื่อยแทนหมอนะคะ

ขอบคุณที่มาทำรีวิวให้เราชมกัน
ขอบคุณที่อัพเดทข้อมูลท่องเที่ยวใน FB ตลอด
ให้เราได้รู้ว่า วันนี้ ทำอะไร ทีไหน อย่างไร..

ขอบคุณค่ะ

อาหารน่าทานนะคะ ทั้งจากครัวการบินไทยและครัวของเวียดนามเอง..
ฟูจิซัง ดูจากบนเครื่องแล้วเหมือนเล็กนิดเดียว
ถ้าไม่สังเกตุ...อาจจะไม่เห็นได้ ดังนั้นใครไป
อย่าเผลอไผลเป็นอันขาด ไม่งั้น อดเห็น..อิอิอิ

ไกด์บุ๊คดีๆ หาอ่านได้ที่นี่ ขอบคุณคะ

[Title by KU]

โห ติดตามมาตั้งแต่ที่พี่หมอทำรีวิววันแรกเลย เมื่อคืนก็กด F5 ตามตลอด แต่ไม่ไหวอ่ะคับง่วงมาก วันนี้เปิดมาอีกทีก็รีวิวเสร็จซักทีนะคับ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ เย้......

เห็นด้วยกับเรื่องอาหารนะครับ น่าทานมากมาย แต่แอร์นี่ก็นะ ทำงานตามหน้าที่จริงๆ ครับ เอากายมาทำงาน แต่ไม่ได้เอาใจมาด้วย แบบนี้ก็ซื้อใจลูกค้าได้ยากนะคับ

ผมชอบรีวิวตรงที่กำลังจะลงนาริตะอ่ะครับ มันเหมือนกับอะไรซักอย่างที่ถึงจุดหมายแล้วอะไรประมาณนี้อ่ะครับ

ขอบคุณพี่หมอมากครับสำหรับรีวิว เปิดดูทีไรก็สนุกไปกับการเดินทางของพี่หมอด้วยครับ ขอบคุณค๊าบบบบบ

ปล. กดบวกให้แล้วนะคับ อิอิ ชอบๆ

[Noom_Muang_Krung]

ตามมาชมแล้วนะครับ ไฟลท์นี้ทรหดเหมือนกันนะครับ บินค่ำต่อดึกยันสว่างเลย...แต่อาหารทะเลน่ากินจริงๆครับ...แมวดำนี่ตอนนั้นพี่ไปญี่ปุ่นยังไม่ได้ใช้ เพราะแบกเป้เองตลอด คราวนี้อาจจะได้ใช้บริการครับ

ตอนนี้รอดูโปรสายญี่ปุ่นอยู่ครับ ถ้าเจ้าไหนออกโปรก่อนก็จะซื้อเเล้ว เพราะวันเวลาของพี่ก็กำหนดแล้ว สปอนเซอร์อนุมัติแล้ว เหลือแต่โปรนี่ล่ะครับ ^^

[porinter]

ขอบคุณครับ รอดูอยู่นะครับ ^^

[TravelMax]

ขอบคุณมากครับ สำหรับรีวิว

[captain H]

โห อยากไปบ้างอะ หมื่นเจ็ดไปกลับ ขอให้มีมาอีกนะคับ เสียได้สะสมไมล์ไม่ได้อ่า

[TG992]

รีวิวเข้มข้นตามไตล์ำี่หมอยุ่งครับ ^^

รอชมรีวิวภาคต่อไปด้วยคนนะครับ ท่าทางสนุกแน่ๆเลย เห็นบอกไว้ในเฟสบุ๊คว่าไปมาหลายที่เชียว

ขอบคุณมากๆครับสำหรับรีวิว