40 replies to this topic

[Tonberry]

Advertisements

สวัสดีชาว HFlight

วันนี้จะมานำเสนอรีวิวของการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ในชั้นธุรกิจครับ 

สำหรับผม นี่เป็นรีวิวที่ 3 ล๊ะ ของสายการบินนี้ 

   

 

 

 

 

 

สืบเนื่องมาจากพอดีผมมีโอกาสได้ขึ้นสายการบินนี้อีก และในช่วงที่จะเดินทาง

สายการบินได้นำเครื่องบินรุ่น A350-900 ลำแรกที่เพิ่งรับเข้ามาประจำการ นำมาบินเส้นทางกรุงเทพฯพอดี

ด้วยความอยากขึ้น A350 (ซึ่งผมยังไม่เคยขึ้น) ก็เลยเลือกไฟล์ทที่บินด้วยเครื่องรุ่นนี้ไปซะเลย 

ถึงแม้ว่าชั้นธุรกิจของ A350 เรียกว่าแทบจะไม่ได้แตกต่างกับรุ่น A330 เลย แต่ก็ถือว่าได้มาลองนั่งของใหม่ล๊ะกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สำหรับไฟล์ทที่จะรีวิวนี้ จะเป็นไฟล์ท MH782 เส้นทาง KUL-BKK และ MH783 เส้นทาง BKK-KUL

ทั้ง 2 ไฟล์ท บินด้วยเครื่องรุ่น A350-900 ทะเบียน 9M-MAB ครับ ซึ่งเป็นลำแรกและลำเดียว

ของ Malaysia Airlines ณ เวลานั้น โดยทางสายการบินนำเครื่องนี้มาบินในเส้นทางกรุงเทพฯแค่ชั่วคราวเท่านั้น

ในช่วงระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2017 จนถึง 13 มกราคม 2018 ครับ และมีเฉพาะบางวันครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

==========================================================================================

 

 

 

ฝากผลงาน Review ที่ผ่านมาด้วยคร๊าบบบบ     

 

 

 

        

      

        

        

        

  

[Tonberry]

ก่อนจะเข้าสู่รีวิว จะเล่าในส่วนของที่นั่งก่อนครับ

A350-900 ของ Malaysia Airlines แบ่งที่นั่งออกเป็นทั้งหมด 3 ชั้นโดยสารครับ

ได้แก่ First Class, Business Class และ Economy Class ที่แบ่งย่อยเป็น extra leg room กับ eco ธรรมดา

มีจำนวนที่นั่ง 4, 35, 27 และ 220 ที่นั่งตามลำดับ (ทังหมด 286 ที่นั่ง)

 

ในส่วนของ First Class สายการบิน Malaysia Airlines ถือเป็นสายการบินแรกครับ

ที่มีชั้น First Class อยู่บนเครื่อง A350-900 ด้วย

 

 

Credit pic: MalaysiaAirlines.com

 

 

 

 

สำหรับในส่วนของ First Class เค้าอธิบายว่า ก็จะเป็นเหมือนห้อง Suite

ณ เวลานั้นโฆษณาก็ออกมาว่า หน้าตา First Class จะประมาณนี้

(ช่วงนั้นเครื่องยังไม่มาเลยยังไม่เห็นของจริง)

 

 

Credit Pics: AUSBT.com.au

 

 

 

สำหรับการซื้อตั๋วผ่านหน้าเวป ในช่วงแรกๆเลยระบบของ MH ได้เปิดให้ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ

สามารถที่จะทำการเลือกที่นั่ง 01 ที่เป็นที่นั่งของชั้น First Class ได้ด้วย ซึ่งจะมีที่นั่งเพียงแค่ลำละ 4 ที่นั่งเท่านั้น

ด้วยความดีใจ และดีใจมากกก ว่าเราช่างโชคดี จะได้มีโอกาสนั่งที่นั่ง First Class ในราคา Business Class

ก็เลยเลือกไปซะเลย ทั้ง 2 ไฟล์ท ตามนี้........

 

 

  

 

 

แต่ๆๆๆๆๆๆ ความฟินนั้นมันก็มาอยู่กับเราได้เพียงแค่ชั่วคราว  

ก่อนจะบินประมาณสัก 2 สัปดาห์ ก็มี email ส่งมาจาก MH พร้อมกับระบุว่า.........

 

 

 

 

ตอนนั้นแบบ ฮือออออออออ?????? มีความหัวเสียเล็กน้อย    

เลยลองโทรไปถามที ่CC ดู ซึ่งทาง จนท ก็เชคให้

และแจ้งว่าที่นั่งทั้ง 4 ที่ถูกสายการบิน block ไว้ทั้งหมด ทั้ง 2 ไฟล์ท

ทาง จนท เองก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน  ก็เลยเป็นอันว่าจบไป

ดังนั้น เพื่อนๆก็เลยอดเห็นกระทู้รีวิวชั้น First Class นะครับบบบ    

(แต่อาจจะมีของท่านอื่นๆที่โชคดีได้นั่งครับ) 

 

ว่าแล้วไปชมรีวิวในส่วนของชั้นธุรกิจของ A350 กันเลยครับ

[Tonberry]

เริ่มจากไฟล์ท MH783 ในเส้นทางกรุงเทพฯ-กัวลาฯครับ

 

มาเชคอินตามปกติ ของ Malaysia Airlines อยู่ที่ Row G

เนื่องจากเป็นเครื่องลำใหญ่ คนก็จะเยอะๆระดับนึงงงง

แต่ในส่วนของ Business Class ทางสะดวกมากครับ เดินไปนี่เด่นเลย

 

 

 

 

 

 

เชคอินเสร็จแล้วได้ Boarding Pass มาพร้อมกับ Priority Pass และ Lounge Invitation ครับ

MH จะให้ Invitation card มาสำหรับ Miracle Lounge แต่ผมไม่ไปครับ 5555

อยากจะไปลองใช้บริการที่ Cathay Pacific Lounge แทน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

[Tonberry]

ผมชอบ Lounge นี้มากกว่า Miracle  นะ ที่นั่งดีมากก

แต่คนเยอะไปหน่อย เลยไม่ได้ถ่ายรูปใน Lounge มาให้ดู

 

 

[Tonberry]

วันนี้ตรง gate มี A350-900 จอดอยู่ 2 ลำติดกันเลย

ลำนี้ของ Cathay Pacific 

 

 

 

 

 

 

ส่วนอีกลำเป็นลำที่เรากำลังจะขึ้น ของ Malaysia Airlines ครับ

 

 

 

[Tonberry]

ถ่ายหน้าตรงครับ

 

 

 

 

 

 

 

Flight Information

 

 

Airlines: MALAYSIA AIRLINES BERHAD SYSTEM (MH, MAS)
Flight: MH783
Origin: Suvarnabhumi International Airport (BKK)
Dep. Date: 08th JAN 2018
Dep. Time: 17:05 (actual 17.35)
Gate: G5
Destination: Kuala Lumpur International Airport, KLIA (KUL)
Arr. Date: 08th JAN 2018
Arr. Time: 20:20 (actual 21:00)
Aircraft: Airbus 350-900
Registration: 9M-MAB
Seat: 10A
Class: Business

[Tonberry]

ทะเบียน 9M-MAB 

ลำแรกของ Malaysia Airlines ณ ขณะนั้น

 

 

 

 

 

[Tonberry]

ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ววววว

 

 

 

 

 

หยุดถ่ายมุมบังคับ

 

 

 

 

เข้าประจำที่นั่งของเรา 10A เป็นที่นั่งเดี่ยวติดหน้าต่าง

 

 

[Tonberry]

จอส่วนตัวขนาด 16 นิ้ว  แบบ touch screen 

 

 

 

 

 

welcome drink รอบนี้ขอเป็นน้ำส้มละกัน

 

 

 

[Tonberry]

จริงๆแล้ว ที่นั่ง Business Class ของ A350 มีส่วนแตกต่างกับ A330 เล็กน้อยครับ

อันแรกเลย ที่นั่งของ A350 จะกว้างกว่า A330 อยู่ 2 นิ้ว และเมื่อปรับ Full-flat lie จะยาวกว่าเดิม 3 นิ้ว

 

 

 

 

 

 

อันที่ 2 คือตำแหน่งวาง remote ของ IFE บน A350 จะอยู่ตรงที่วางแขนด้านข้าง

(ของ A330 ที่เก็บจะอยู่ข้างหลัง ใกล้ๆหัวไหล่)

 

 

 

 

และของ A350 จะุเป็นแบบ touch pad แทน ซึ่งกดง่ายดี

 

 

[Tonberry]

เชคความเรียบร้อยครบแล้วก็เตรียมตัว push back

 

 

 

 

 

 

และ taxi ไปยัง runway

 

 

 

 

[Tonberry]

พระอาทิตย์กำลังจะตกพอดี ท้องฟ้าช่วงนี้สีสวยมาก

 

 

 

 

 

 

 

ถ่าย logo ของ MH ที่ปีกงอนๆ

 

 

 

 

 

 

อันนี้ลองถ่ายแบบ portrait 

 

 

 

 

 

[Tonberry]

หลังจากไต่ระดับแล้วก็มีสัญญาณ Wifi โผล่ขึ้นมาครับ

แต่ว่าไฟล์ทนี้ยังไม่ให้บริการครับ

 

 

 

 

 

 

 

ระหว่างรออาหารเย็น เปิดหนังดูไปพลางๆ 

ชอบ MH ตรงมีหนังเยอะดีครับ หนังเก่าๆแบบนี้ก็มี

 

 

 

 

 

 

เอกสารต่างๆ ได้แก่ Safety Information, Inflight Shopping และ Magazine  

 

 

 

[Tonberry]

อาหารเย็นวันนี้ เป็น Spicy prawn noodles ครับ

รสชาติดีมากๆ อร่อยมากกกกก เหมือนผัดหมี่ซอสแดงแต่เผ็ดกว่า 

 

 

 

 

 

 

ส่วนของหวานเป็น Coconut cheese cake กับ Strawberry sauce

 

 

 

 

 

 

และไม่ลืมที่จะขอครับ Teh Tarik: signature drink อีกอย่างนึงของ Malaysia Airlines 

ผมชอบมาก ขึ้นทุกรอบ สั่งทุกรอบ

 

 

 

[Tonberry]

ด้านข้างของที่นั่ง ใต้ไฟอ่านหนังสือของ A350 จะมีช่องให้ใส่ของเพิ่มมาครับ

ซึ่งถ้าเป็นที่นั่งของ A330 ตรงนี้จะเป็นที่เก็บ remote 

 

 

 

 

 

 

บินกัวลาแป๊บๆก็ถึงแล้ว

 

 

 

 

 

 

เตรียมตัว landing ครับ

 

 

 

[Tonberry]

ด้านข้างของที่นั่ง ใต้ไฟอ่านหนังสือของ A350 จะมีช่องให้ใส่ของเพิ่มมาครับ

ซึ่งถ้าเป็นที่นั่งของ A330 ตรงนี้จะเป็นที่เก็บ remote 

 

 

 

 

 

 

บินกัวลาแป๊บๆก็ถึงแล้ว

 

 

 

 

 

 

เตรียมตัว landing ครับ

 

 

 

[Tonberry]

ถึงสนามบินกัวลาฯ โดยสวัสดิภาพ

 

 

 

[Tonberry]

เสร็จแล้วเดินตามป้ายเพื่อไปยัง Immigration และรับกระเป๋าครับ

 

 

 

 

 

 

[Tonberry]

มาต่อกันที่ไฟล์ทถัดไป MH782 ครับ เส้นทาง KUL-BKK

 

เริ่มต้นที่การเชคอินไฟล์ท MH782 ที่นี่ครับ ใน Air-side ของ KLIA - Main Terminal 

เนื่องจากว่าผมมีไฟล์ทบินมาจากที่อื่นมาก่อน (คนละสายการบินกัน) แล้วต่อไฟล์ท MH782 กลับกรุงเทพฯ

ลงเครื่องปุ๊บ ก็เดินมาที่ Transfer Counter ของ Malaysia Airlines ครับ แล้วก็ให้ จนท เชคอินให้

เนื่องจากผมไม่มีกระเป๋าโหลด ก็เลยสามารถจะทำการเชคอินที่นี่ได้เลย โดยไม่ต้องออกไปข้างนอก

ผ่าน Immigration แล้วกลับเข้ามาใหม่ครับ

 

 

 

 

 

 

[Tonberry]

สำหรับสนามบิน KLIA ซึ่ง Golden Lounge ที ่Satellite ปิดปรับปรุงมาตั้งแต่เมื่อกลางปี

จนถึงตอนที่บินนี่ก็ยังไม่เสร็จครับ จนท เลยให้ไปใช้บริการ Lounge ดังนี้

 

Regional Golden Lounge ที่ Main Terminal

กับ  CIP Lounge ซึ่งอยู่ที ่Satellite Terminal