7 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

Exclusive : พาชมห้องโดยสาร 787-9 Dreamliner
ลำแรกของการบินไทย ใหม่เอี่ยม ก่อนให้บริการจริงเร็ว ๆ นี้

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ ลำแรกเข้าประจำฝูงบินของการบินไทย จากศูนย์ส่งมอบเครื่องบินโบอิ้ง เมืองเอเวอร์เรต สหรัฐอเมริกาและเครื่องบินลำใหม่นี้ได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อ 02.20 น. ของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา

 

เครื่องโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์

 

กัปตัน อภิลักษณ์ เพิ่มผล Chief Pilot ประจำฝูงบินโบอิ้ง 787 

 

เครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ เป็นสมาชิกรุ่นที่ 2 ในตระกูลโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ เป็นเครื่องบินที่รวมทั้งความทันสมัยและความมีประสิทธิภาพ ได้รับการพัฒนาต่อจากโบอิ้ง 787-8 โดยจะมีลำตัวเครื่องบินยาวกว่าประมาณ 6 เมตร ทำให้สามารถบรรทุกผู้โดยสารและสินค้าได้มากยิ่งขึ้น ประกอบกับการนำโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบามาใช้ในการประกอบลำตัวและปีกเครื่องบิน พร้อมด้วยเครื่องยนต์โรลส์รอยซ์ เทรนท์ 1000 ที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงถึงร้อยละ 20 รวมทั้งจะมีเสียงดังรบกวนน้อยลงต่อบริเวณรอบเขตสนามบินและชุมชนโดยรอบ รวมถึงภายในห้องโดยสารนอกจากนี้ ยังใช้เทคโนโลยีการกรองอากาศในการทำความสะอาดอากาศภายในห้องโดยสารเครื่องบิน ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสบายในการเดินทางมากที่สุด
 
สำหรับห้องโดยสารและเก้าอี้ ได้รับการออกแบบด้วยแนวคิดไทยร่วมสมัย (Thai Contemporary Design Concept) ด้วยเก้าอี้โดยสารชั้นธุรกิจ ซึ่งมีอยู่ 30 ที่นั่ง ถูกจัดวางอย่างเหมาะสมด้วยความกว้างที่นั่ง 20 นิ้ว สามารถปรับเอนนอนราบได้ 180 องศา ทุกที่นั่งมีความเป็นส่วนตัวและเข้าสู่ทางเดินได้อย่างสะดวก จัดเรียง 1-2-1
 

ที่นั่งชั้นธุรกิจ

 

ที่นั่งชั้นธุรกิจ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ในส่วนของระบบสาระบันเทิงบนเครื่องบิน (In-Flight Entertainment) ภายในเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ เป็นระบบ Panasonic eX3 ที่มีความทันสมัย สามารถรองรับรสนิยมผู้โดยสารได้อย่างมากมายหลายรูปแบบทั้งภาพยนตร์ เกมส์ เพลง และรายการโทรทัศน์ โดยสามารถติดตามอ่านข่าวสารของการบินไทย และข้อมูลท่องเที่ยว ผ่านระบบดิจิตัลได้บนหน้าจอทีวีส่วนตัวขนาด 16 นิ้ว สำหรับชั้นธุรกิจ(จอจะพับเก็บและเปิดออกมาได้เมื่อจะใช้งานระหว่างทำการบินตามภาพ)

ที่นั่งชั้นธุรกิจ
 

ที่นั่งชั้นธุรกิจ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สำหรับชั้นประหยัด มีอยู่ 268 ที่นั่ง จัดที่นั่ง 3-3-3 ในโทนสีม่วงและเหลืองสดใส และจุดเด่นของเครื่องบิน 787 คือ หน้าต่างที่กว้างขึ้นทำให้เห็นมุมมองที่กว้างใหญ่สบายสายตามากขึ้น พร้อมระบบปรับความเข้มของแสงที่ผ่านเข้าหน้าต่างแบบสัมผัส (Electromagnetic Windows Shades) ก็ยังมีให้บริการบน 787-9 ด้วยเช่นกัน

ที่นั่งชั้นประหยัด
 

ที่นั่งชั้นประหยัด

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ที่นั่งชั้นประหยัดติดตั้งจอขนาด 11 นิ้ว ใช้ระบบความบันเทิง eX3 เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นเครื่องบินลำนี้ยังสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย หรือ Wi-Fi บนเครื่องบินในทุกชั้นโดยสารเพิ่มความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสารสำหรับผู้โดยสาร

ที่นั่งชั้นประหยัด
 

ที่นั่งชั้นประหยัด
 

ที่นั่งชั้นประหยัด

[ทีมข่าวHFLIGHT]

จุดเด่นของโบอิ้ง 787 ทีมีการใช้ไฟห้องโดยสารที่ปรับแต่งเฉดสีได้หลากหลายเพื่อให้ลูกเรือปรับบรรยากาศในห้องโดยสารให้เหมาะกับช่วงเวลาเดินทางของผู้โดยสารก็ยังมีติดตั้งบน 787-9 นี้เช่นกัน

 

ที่นั่งชั้นประหยัด
 

ระบบ Mood LED Lighting

[ทีมข่าวHFLIGHT]

กัปตัน อภิลักษณ์ เพิ่มผล หัวหน้านักบินประจำฝูงบินโบอิ้ง 787 ได้เปิดเผยกับทีมข่าวHFLIGHT ว่า พื้นฐานของเครื่องบินแบบโบอิ้ง 787 มีการใช้เทคโนโลยีที่ต่อยอดมาจากเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777 ซึ่งส่วนที่มีการเพิ่มเติมขึ้นมาอาทิเช่นภายในห้องนักบินมี Head-Up Display ที่มีประโยชน์คือเป็นจอแสดงข้อมูลที่ติดตั้งอยู่ในช่วงระดับสายตาของนักบิน ทำให้นักบินสามารถรับข้อมูลที่จำเป็นพร้อมกับเห็นสนามบินที่อยู่เบื้องหน้าได้ การที่ไม่ต้องละสายตาจากภาพเบื้องหน้านี้นอกจากจะช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นแล้วยังถือเป็นการเพิ่มเติมความปลอดภัยในการทำการบินอีกส่วนหนึ่ง

ทางด้านห้องโดยสารมีการเพิ่มความสะดวกของสำหรับผู้โดยสารที่เด่นชัดในเรื่องระบบปรับความดันและความชื้น ซึ่งโดยทั่วไปการเดินทางไกล เป็นะระยะเวลานาน บนเครื่องบินรุ่นก่อนจะทำให้ผู้โดยสารเกิดอาการอ่อนล้า แต่ในเครื่องบินรุ่นนี้ซึ่งทำจากวัสดุเป็นคอมโพสิทที่มีคุณสมบัติสามารถยืดขยายได้มากขึ้น จึงทำให้ความกดอากาศต่ำกว่า ยกตัวอย่างที่การบินที่ระดับความสูงช่วง 35,000-37,000 ฟุต หากเป็นเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777 จะมีการปรับความดันเหมือนอยู่ที่ 7,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล แต่สำหรับโบอิ้ง 787 จะต่ำกว่าอยู่ที่ระดับ 6,000 ฟุต หรือต่ำกว่าบนยอดดอยอินทนนท์ ที่แม้จะบินนานกว่า 10 ชั่วโมงก็ไม่ทำให้เกิดอาการล้า มีการปรับความความชื้นสูงที่ช่วยไม่ทำให้เกิดสภาวะผิวแห้ง นอกจากนี้มีในส่วนของกระจกที่สามารถปรับระดับความสว่างได้มากถึง 5 ระดับ โดยระดับที่มืดสุดผู้โดยสารยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ภายนอกได้

สำหรับความแตกต่างระหว่างเครื่องบินแบบโบอิ้ง 787-9 ที่การบินไทยรับเข้ามาประจำการใหม่หลังจากที่มีการนำ 787-8 มาให้บริการเมื่อ 3 ปีที่แล้วนั้น ก็คือความยาวของตัวเครื่องที่ยืดออกไป 6 เมตร (แต่ระยะกางปีกเท่าเดิม) ทำให้สามารถจุผู้โดยสารเพิ่มขึ้นได้อีก 34 ที่นั่ง นั่นคือเพิ่ม 6 ที่นั่งในชั้นธุรกิจ และ 28 ที่นั่งในชั้นประหยัด และนอกจากนี้โบอิ้ง 787-9 ยังมีความอ่อนตัวที่จะทำให้การบินไทยสามารถจัดเครื่องมาทำการบินได้เหมาะสมกับเส้นทางและฤดูกาลได้มากขึ้น กล่าวคือการบินไทยสามารถนำ โบอิ้ง 787-9 มาทำการบินในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวสู่เส้นทางที่ในปกติทำการบินด้วยเครื่องที่มีที่นั่งจำนวนมากกว่าอย่าง โบอิ้ง 777 หรือแอร์บัส เอ350 ได้ การนำเครื่องบินที่มีจำนวนที่นั่งพอดีกับความต้องการเดินทางถือเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายของบริษัทลงได้ โดย โบอิ้ง 787-9 มีพิสัยบินไกลกว่า โบอิ้ง 787-8 ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร หรือจาก 14,000 กิโลเมตร เป็น 15,000 กิโลเมตร

 

คู่มือความปลอดภัยเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ ลำแรกนี้ การบินไทยจะนำมาทำการบินเส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ-ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 23-30 กันยายน 2560 และเส้นทาง กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม-15 พฤศจิกายน 2560 หลังจากการส่งมอบเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ ลำที่ 2 ประมาณเดือนตุลาคมนี้ การบินไทยจะนำทั้ง 2 ลำ มาทำการบินเส้นทาง กรุงเทพฯ-โอ๊กแลนด์ และกรุงเทพฯ-ไทเป เริ่ม 16 พฤศจิกายน 2560
 

พื้นที่ครัวท้ายเครื่อง

ห้องน้ำ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ห้องพักลูกเรือบนเครื่องบิน

 

ห้องพักลูกเรือบนเครื่องบิน