73 replies to this topic

[spras77]

Advertisements

ใช้เวลาอยู่ราวๆเกือบ 3 ชั่วโมงเราก็กลับเดินลงไปข้างล่าง ตอนนี้เริ่มค่ำแล้ว ( แต่ที่นี่ 1 ทุ่มแสงยังแรงอยู่มากๆ) และคนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ที่นี่มักเป็นแหล่งร้านอาหารมื้อค่ำยอดนิยมของชาวอิหร่านด้วยเช่นกัน


เพื่อนร่วมทาง รอบนี้มาพร้อมน้ำอัดลมแพ๊คใหญ่

ร้านอาหารหลายร้านเริ่มคึกคัก


ร้านอาหาร ร้านค้า กาแฟ ชา เครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศครีมมีหลายแบบให้เลือกเลือกได้ตามต้องการครับ

[spras77]

บรรยากาศการจับจ่าย พักผ่อนช่วงเย็นก็เริ่มสนุกสนานกันอีกครั้ง คนอิหร่านชอบยิ้มและอัธยาศัยดี ยิ่งที่นี่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกันมาก คนที่นี่ก็สนุกสนานตามไปด้วย

[spras77]

เดินลงมาถึงรูปปั้นนักปีนเขา ก็แสดงว่าเรามาถึงเชิงเขาแล้วครับ


การกลับเข้าเมืองเพื่อไปสถานี metro เราสามารถเรียก taxi ไปส่งก็ได้ หรือจะรอรถตู้ที่ขึ้นมาส่งคนก็ได้ครับ ยืนรอที่จุดเดิมที่เราลงรถตู้ครับ แต่รอบนี้สำหรับเราใช้บริการ taxi ครับ





รถเราเราไล่ลงเนินเขาไปเรื่อยๆ ผ่านชุมชน ผ่านเมือง ราวๆ 15 นาทีก็ถึงสถานี metro ครับ


เรากลับเข้าเมืองกันครับ

[spras77]

รอบนี้เรามาลงที่สถานี Meyda -e Vali Asr ครับ สถานีนี้เป็นสถานีใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลาง จตุรัส Valiasr ย่านการค้า ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหาร ผู้คนจับจ่ายใช้สอยกันคึกคักเกือบทั้งวันคืน ครับ


บรรยากาศราว 3 ทุ่ม(เวลาท้องถิ่น)ครับ


ย่านร้านค้า ห้างสรรพสินค้ายังไม่ปิดครับ (ราวๆ4ทุ่มครึ่ง) display หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง





ตระเวณเดินซื้อและดูของจนเหนื่อยก็ขอนั่งร้านนี้กันครับ ร้าน fast food ประเภทไก่ทอด น้องๆเจ้าของร้านอัธยาศัยดีทีเดียว เค้าบอกว่าคนไทย คนจีนชอบมานั่งที่ร้านเต้ากันบ่อยๆแล้วก็เอารูปที่ถ่ายกับคนไทยหลายกลุ่มหลายคณะให้เราดู  ร้านนี้ปิดค่อนข้างดึกเหมาะสำหรับมานั่งจิบชา กาแฟรอคุณผู้หญิง ระหว่างที่เธอไปเดิน shopping แถบนี้ครับ



จากย่าน Valiasr Square ไปโรงแรมของเราก็ไม่ไกลแล้วครับ เดินไปเรื่อยๆผ่านร้านค้าต่างๆแป๊บเดียวก็ถึง  วันนี้มีหลายเรื่องที่ประทับใจ อยู่ในความทรงจำมากมายทั้ง มิตรภาพของผู้คน ความยิ่งใหญ่ของวิทยาการของชนชาติเปอร์เซีย ที่สั่งสมและส่งต่อกันมา ความสวยงามของสถาปัตยกรรมแปลกตาที่ได้เห็นสายสัมพันธ์ของชาติเราที่ผูกพันธ์แน่นแฟ้นกันมาอย่างยาวนาน จนรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความผปลอดภัย ความเป็นมิตรเมื่ออยู่ท่ามกลางชาวอิหร่าน ไม่เหมือนความรู้สึกในครั้งแรก ก่อนที่จะมาเยือนอิหร่าน

[spras77]

เช้านี้หลังจากทักทาย Ali เพื่อนของเราที่มีหน้าที่เป็นเชฟย่างแผ่นแป้ง Naan และจัดการมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว


เรามีแผนจะเดินทางไปนอกเมืองเตหะรานอีกครั้งครับ คราวนี้ใช้บริการ BRT  ไปลงสถานี Talenghani เหมือนเดิม


ตู้รับบริจาคโดยองค์กรการกุศลทางศาสนา ที่นี่มีตู้รับบริจาคติดตั้งอยู่ทั่วไป เราจะเห็นการบริจาคสนับสนุนเพื่อนร่วมชาติในโอกาสต่างๆมากมาย รวมถึงการบริจาคอาหาร ขนมเล็กๆน้อย โดยการนำมารวมกันในถาดบริเวณ Bazaar ซ฿ึ่งวันนี้เราคงมีโอกาสได้เห็นครับ

จอดรถใช้ระบบจอดเหรียญตามเวลาที่จะจอด  และที่นี่ระบบน้ำ ไฟฟ้า แก๊สส่วนใหญ่ลงใต้ดินหมดเหมือนประเทศต่างๆที่พัฒนาแล้ว


ซึ่งถ้าพูดในแง่คุณภาพชีวิตคนในเมืองหลวง ก็แทบจะเรียกได้ว่าสวัสดิการทางสังคม คุณภาพชีวิตดีกว่าหลายๆประเทศและบางมุมอาจจะดีกว่าบ้านเราเยอะมาก โดยเฉพาะในแง่ความปลอดภัยต่อร่างกายและทรัพย์สิน แต่อย่างไรก็ตามคนรุ่นใหม่ๆในอิหร่าน วัยรุ่น คนทำงานหลายคนที่มีโอกาสได้พูดคุยด้วย เค้ามักจะหาโอกาสแลกเปลี่ยความเป็นไปและการปกครองของบ้านเมืองเค้าไปด้วยในตัว



เรามาลงที่ป้าย BRT ใกล้สถานฑูตอเมกาอีกครั้งครับ


 

[spras77]

ที่นี่ยังเหลือร่องรอยความทรงจำในช่วงปฏิวัติอิสลาม  1979 ที่มีบุกสถานทูตจับเจ้าหน้าที่ะชาวอเมริกันในอิหร่านเป็นตัวประกัน เพื่อเรียกร้องให้ส่งตัวอดีตกษัตริย์ชาห์ ปาห์เลวี (Shah Pahlavi) ที่ลี้ภัยไปอยู่อเมริกาให้กลับมารับโทษที่อิหร่าน




และกลายเป็นจุดเริ่มของความสัมพันธ์ที่ขัดแย้งกันอเมริกาและอิหร่าน ทำให้อิหร่านโดนตัดขาดจากชาวโลกส่วนมากมาจนถึงเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา


ปัจจุบันสถานทูตอเมริกา(เก่า)ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์และมีการวดภาพศิลปะบนกำแพงรั้วที่สะท้อนความคิดความรู้สึกของชาวอิหร่านส่วนหนึ่งต่ออเมริกาอย่างชัดเจน

[spras77]

จาก Taleghani เราจะไปลง Shahr- e ray สายสีแดงเช่นเดียวกันครับ


[img]https://f.ptcdn.info...ou1jwxkoil7ooof

ใช้เวลานั่งกันยาวๆเกินครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียวเพราะต้องออกๆไปนอกเมืองมาก จะผ่านทั้งใต้ดินและวิ่งขึ้นบนดิน เห็นสภาพเตหะรานเขตชายเมืองและนอกเมืองหลวงครับ




นั่งชมบรรยากาศรอบข้างและสีสันการค้าขายบน Metro ไม่นานก็ถึงครับสถานี Shahr -e ray



ที่สถานีนี้นี่เองเป้นครั้งแรกตั้งแต่มาถึงอิหร่านที่ จนท.เรียกและแจ้งขอให้ลบภาพ ที่ได้ถ่ายไว้ในสถานีรถไฟ

ผมก็เข้าใจในทันที ด้วยความเผลอเรอและเคยชิน จนลืมตระหนักเรื่องนี้ไป ซึ่งโดยทั่วไปพื้นที่เหล่านี้เค้าถือเป้นพื้นที่อ่นไหว หลายประเทศไม่อนุญาต เท่าที่มีข้อมูลระบุว่าในยามสงคราม พื้นที่หลบภัยดีๆของชาวเมืองคือในสถานีรถไฟใต้ดินนี่เอง  ซึ่งผมก็ได้ลบและขอโทษ จนท.เค้าไปครับ แต่ที่ได้รับกลับมาคือน้ำเสียงและท่าทางที่ดูเค้าเกรงใจเรา และเหมือนพยายามบอกว่า ไม่เป็นไร welcome welcome แต่ก็ขอให้ลบภาพนั้นเถิด ....


เราเดินออกมาด้านหน้า ฝั่งซ้ายมือจะเป้นบริการ Taxi ขวามือจะเป็น BRT   เราเลือกใช้บริการ Taxi ครับราคา 50,000 เรียล


ไม่นานก็มาจอดที่หน้า Bazaar ครับใช่ครับวันนี้เรามาที่นี่กัน

[spras77]

Shah-Abdol-Azim Shrine

การเดินทาง:  นั่งรถไฟใต้ดินสายสีแดงมาลงที่สถานี Shehr-e-Ray แล้วนั่ง taxi อีก 10-15 นาที ค่า Taxi  50,000 เรียล
Shah-Abdol-Azim Shrine เป็นมัสยิดเก่าแก่และสำคัญมากในกรุงเตหะรานตั้งอยู่ที่เมือง Rey ภายในจะเป็นสุสานของ Abdul Azim ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 5 ของ Hasan ibn Ali อดีตผู้นำทางศาสนาคนสำคัญของศาสนาอิสลาม

Taxi มาจอดส่งเราที่หน้า Bazaar แล้วเราก็เดินตรงผ่านเข้าไปสู่ Mosque

โซนด้านหน้าจะเป็นเครื่องเทศ เมล็ดธัญพืชแห้งต่างๆ จำนวนมาก สัมผัสแรกที่เดินเข้าไปคือ กลิ่นที่หอมอบอวลคล้ายตลาดเครื่องเทศขนาดใหญ่ ที่นี่คนท้องถิ่นนิยมมาซื้อของจำนวนมากครับ





Mosque ที่นี่มีระเบียบที่เคร่งครัดครับ ห้ามนำกระเป๋าเข้าไป ต้องฝากกระเป๋าไว้กับ จนท.ที่มีห้องรับฝากกระเป๋าเฉพาะ สำหรับผ็หญิงสามารถนำกระเป๋าถือเข้าไปได้ และต้องสวม Chador ตลอดที่อยู่ใน Mosque เค้ามีให้ยืมครับ ( แต่ถ้าใครมาแล้วกลัวได้ภาพไม่สวย เพราะ Chador ที่ให้ยืมอาจจะไม่ถูกใจ ก็ลองเตรียมมาล่วงหน้า หรือซื้อที่หน้า Bazaar ก่อนเข้ามาได้เลยครับ )

[spras77]

ในส่วนที่ฝากกระเป๋า จะต้องแลกบัตรทิ้งไว้ด้วย สำหรับเราใช้สำเนาหนังสือเดินทางยื่นแทน เพราะตัวจริงทางโรงแรมขอเก็บไว้
ทางเข้า จะต้องแยกชายหญิง ครับ สำหรับคุณผู้หญิงถ้าสวม ชาดอว์ไม่เป็นจะมี จนท.ผู้หญิงสอนให้ทางห้องทางเข้า ส่วนผู้ชายเดินเข้ามาได้เลย

ที่นี่กว้างใหญ่โดพอสมควรครับ

บริเวณทางเดินมีป้ายชื่อ และภาพบริเวณพื้นทางเข้ามัสยิด

เท่าที่ค้นข้อมูลพบว่า เป็นป้ายชื่อของผู้เสียชีวิตและนำมาฝังไว้ที่นี่ครับ

มัสยิดนี้มีความสวยงาม ไม่แพ้ที่ใดด้วยสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในด้วยกระจกและมีซุ้มโค้งประตูหน้าที่ประดับด้วยกระจกสวยๆ งามละเอียด นอกจากนี้ถ้ามองไปอีกด้านนึงของมัสยิดจะมีหอนาฬิกาที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม

[spras77]

ภายในของที่นี่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพครับ และต้องถอดและฝากรองเท้าก่อนเข้าไปข้างใน โดยภายในก็ตกแต่งด้วยกระจกและโคมระย้าที่สวยงาม( ภาพจาก อินเตอร์เนต) ซึ่งเมื่อเทียบกับที่พระราชวังกุหลาบก็ได้อรมณ์วิจิตรสวยงามคล้ายกันเลยครับ  

[spras77]

ก่อนเข้ามัสยิดคนที่นี่จะต้องทำความสะอาดล้างมือ ล้างเท้าและบ้วนปากให้สะอาดก่อนเพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อสถานที่ครับ

[spras77]

เราออกมาจากมัสยิดด้วยความสุขใจและตะลึงในความงดงามไม่แพ้ที่ใดที่เคยไปเยือนมา ไปรับกระเป๋ษคืนและไม่ลืมที่จะขอบคุณ จนท.ของมัสยิด ที่ช่วยดูแลและอำนวยความสะดวก แนะนำขั้นตอนต่างๆและพาเราเข้าไปชมภายใน

บ่าย 2 แล้วก็ได้เวลามื้อเที่ยงแบบคนที่นี่ครับ ด้านหน้ามัสยิดมีหลายร้านน่าสนใจ วันนี้เราจะลองคาบับเนื้อและไก่แบบอิหร่านดูครับ

มีให้เลือกนั่งทางด้านล่างชั้นใต้ดินหรือข้างบนภายในร้าน

มีหลายเมนูในเลือก



เพียงเลือกและชำระเงินทางด้านหน้าที่เคาเตอร์ เดี๋ยวพนักงานก็ยกมาให้ครับ

เราเลือกทานคู่กับข้าว ด้านบนมีเนยส่งกลิ่นหอม

ข้าวของอิหร่าน จะร่วน แต่นุ่มและหอมเฉพาะตัว บางคนบอกว่าคือข้าวบาสมาติ แต่หลายคนบอกว่าเป้นพันธุ์ข้าวท้องถิ่นของที่นี่ รสชาติดีและเนื้อที่ย่างพอดีและนุ่มไม่มีกลิ่นคาวเลยครับ ซึ่งจะทานคู่กับมะเขือเทศ พริกย่างพร้อมเครื่องเคียงคือผักสดจานใหญ่  ราคารวมๆ 2 ชุด ประมาณ 140 บาทรวมเครื่องดื่มครับ

[spras77]

แวะเดินเล่น Shah-Abdol-Azim Bazaarกันสักเล็กน้อยก่อนเดินทางกลับครับ

Shah-Abdol-Azim Bazaar
ถ้าใครพลาดซื้อของที่ Grand Bazaar ที่นี่ยังมีโอกาสได้จับจ่ายใช้เงินเรียลครับ สินค้ามีหลากหลายทั้งของพื้นเมืองเฉพาะน่าสนใจราคาไม่แพง


ภายในตลาดโซนด้านหลัง


ร้านขายแผ่นแป้งและขนมปัง มีคนต่อคิว เข้าแถวซื้อเยอะมาก


ที่ตลาดแห่งนี้จะมีถาดใส่ขนมหน้าร้านค้า สำหรับคนที่ซื้อแล้วต้องการแบ่งให้คนอื่นๆได้รับประทานด้วย ถือเป้นบริจาคอย่างหนึ่งซึ่งมักจะมีชาวอิหร่านหมุนเวียน ผลัดกันนำขนม มาเติมอยู่ตลอดเวลาครับ

[spras77]

สินค้ามีให้เลือกมากมายในหลายรูปแบบครับ


ชากุหลาบ น่ำหอมกุหลาบและผลิตภัณฑ์จากกุหลาบ สินค้าขึ้นชื่อของอิหร่านก้สามารถหาได้จากที่นี่ครับ

[spras77]

ยาโบราณแผนดั้งเดิมของอิหร่านก็มีหลายร้านที่นี่




กลีบดอกแบบแห้ง และ Rocky candy


ของที่ระลึกต่างๆ

[spras77]

ไปมาเราใช้เวลาทั้งที่มัสยิดและที่ Bazaar กันนานอย่างเต็มที่และสนุกสนานครับ ขากลับเราก็ใช้บริการ Taxi เช่นเดิมให้กลับไปส่งที่สถานี Metro จริงๆสามารถใช้บริการรถเมล็ BRT  ได้แต่ใช้เวลาค่อนข้างนานครับ

[spras77]

Tabiate bridge  

การเดินทาง : ลงสถานี Shahid Haqqani station

ที่สถานีนี้สร้างความตื่นเต้นเล็กๆให้กับเรา เพราะเมื่อขึ้นมาจากสถานีก็พบกับทหารยืนถือปืนเต็มไปหมด จากการที่เราถูกเรียกตรวจที่สถานี Shar e ray และห้ามให้ถ่ายภาพแล้ว เราก็เริ่มระมัดระวังตังมากยิ่งขึ้น การจะถ่ายภาพใด ก็จะต้องแน่ใจว่าไม่ใช่เป็นพื้นที่อ่อนไหว หรือถ้าให้มั่นใจก้จะถาม จนท.เลย แต่ที่นี่ทหารเต็มไปหมดครับ จนเราเกิดความสงสัย


ใช่ครับสถานีนี้อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์อาวุธและกองกำลังป้องกันประเทศ ด้านนอกสถานีเราจะเห็นจรวดขนาดใหญ่ตั้งแสดงอยุ่ริมรั้ว ( แต่เราไม่กล้สยกกล้องขึ้นมาครับ เลยได้แต่ค้นภาพจากอินเตอร์เนตมาให้ดูแทน )






คือถ้าบ้านเราภาพเหล่านี้ในที่ชุมชน สาธารณะอาจดูเป็นเรื่องไม่คุ้นตา แต่ที่นี่อาจเป็นเรื่องปกติครับ รวมถึงการโฆษณษเกี่ยวกับอาวุธเหล่านี้ในที่สาธารณะย่านการค้าด้วย  เดินจากสถานี Metro ขึ้นมาก็ลัดเลาขึ้นเนินไปตามทางเดินครับ

[spras77]

ไม่นานเราก็เห็นสะพานขนาดใหญ่รูปทรงแปลกตาอยู่ข้างหน้าครับ

[spras77]

จากจุดนี้เราสามารถมองเห็นอิหร่านในแบบ Panorama ได้ชัดเจน

ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่ง Land Mark ที่สำคัญของเตหะรานยุคใหม่





ที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในวิทยาการและความสามารถของคนอิหร่าน สะพาน Tabiat ในภาษาเปอร์เซียนหมายถึงสะพานธรรมชาติ  ที่นี่เป็นสะพานคนข้ามที่ใหญ่ที่สุดในเตหะรานที่เชื่อมสวนสาธารณะสองแห่งและสร้างคร่อมทางด่วนซาฮิด โมดาร์เรส

[spras77]

ออกแบบโดยต้องการให้ผู้คนได้พักผ่อนกับวิวทิวทัศน์และใช้ความคิด มากกว่าแค่เดินข้ามไปเฉยๆ ตัวสะพานได้รับรางวัลสาขาสถาปัตยกรรมมากมาย