73 replies to this topic

[spras77]

Advertisements

อิหร่านไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เรา "ถูกทำให้รับรู้ " มา  มิตรภาพที่ล้นเหลือระหว่างเดินทาง, ความสวยงามของหมุดหมายปลายทางที่รออยู่, ความสงบ-ปลอดภัยและ ความอุดมสมบูรณ์ล้วนเป็นเสน่ห์ที่สร้างประสบการณ์ที่ล้ำค่าของการเดินทาง "ที่สุดแสนพิเศษ" พร้อมหนึ่งเรื่องเล่าในอีกพันหนึ่งราตรีที่ เตหะราน-อิหร่าน

ร่วมทักทาย เรียนรู้และคุ้นเคยกับเพื่อนใหม่ในดินแดนเปอร์เซีย - อิหร่านกันน่ะครับ  

 

 

https://youtu.be/IiK-sxe1mCA

[spras77]

ทริปนี้ชวนเดินทางสู่อาณาจักรเก่าแก่รุ่มรวยอารยธรรมแห่งหนึ่งของโลก " อาณาจักรเปอร์เซีย " ความยิ่งใหญ่ของดินแดนและผู้คนแถบนี้ ได้ทิ้งร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองและความมหัศจรรย์ เอาไว้ให้เราได้เข้าไปสัมผัสมากมายครับ


การเดินทางในครั้งนี้ เราได้รับโอกาสจาก KTC World ในโครงการ KTC Real Team ครั้งที่ 45 ซึ่งสนับสนุนการเดินทางโดยสายการบิน Mahan Air และที่พักโดย บริษัท World Explorer เอเจนซี่มืออาชีพช่วยสำรองที่พัก Parsian Enghelab ในเตหะรานที่ช่วยเดินทางไปในแต่ละแห่งได้อย่างสะดวก ใกล้จุดเชื่อมต่อ Metro หลายสาย ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร


ทริปนี้เราจะเน้นการเดินทางท่องเที่ยวในเตหะราน และพื้นที่โดยรอบที่สามารถเดินทางได้เองอย่างสะดวกและปลอดภัย ติดตามการเดินทางมาด้วยกันน่ะครับ

[spras77]

การเดินทางและการเตรียมตัวของทริปนี้สู่ สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน (Islamic Republic of Iran) ของเรานั้นมีเวลาไม่มาก ภายหลังทราบข่าวจาก KTC World ก็ต้องรีบทำการบ้านและแผนการเดินทางทันทีครับ


" ... ไม่กลัวเหรอ... ปลอดภัยไหม "
" ... เค้ารบกันอยู่น่ะ ... ดูในหนังในข่าวสิ ... "
"... ร้อนไหม ร้อนน่ะ มีแต่ทะเลทราย ..."
"... มีอะไรกินไหม จะกินได้เหรอ ..."
" ... ไปมาจะสะดวกเหรอ เค้าไม่พูดภาษาอังกฤษเลยไม่ใช่เหรอ ... "



ใช่ครับ เสียงส่วนใหญ่ของคนที่รู้จักและหวังดีกับเรา เค้ากังวลอย่างนั้นจริงๆ แต่อิหร่านและชาว IRANIAN สำหรับเรานั้น ถูกเติมจากมิตรสหายที่รู้จักชอบพอในอัธยาศัยกันมานานแล้ว ไม่ได้น่ากลัวแต่อัธยาศัยดีมากๆและยิ่งมั่นใจเมื่อได้รับข้อมูลจากคนไทยที่ไปทำธุรกิจ ใช้ชีวิตและท่องเที่ยวอิหร่านอย่างพี่สุนันทา วุฐิสกุล ในทริปที่ได้โอกาสร่วมเดินทางยาวๆในแอฟริกาเหนือกับพี่เค้า

" อิหร่าน .... ต้องหาโอกาสไปให้ได้น่ะ  "  คำทิ้งท้ายกึ่งเชิญชวนและท้าทายให้เราได้ไปเรียนรู้ก่อนจากกัน เมื่อโอกาสมาถึงเราก็ไม่รอช้าเตรียมตัวและเตรียมข้อมูลพร้อมเดินทางในต้นเดือน กรกฎาคม ทันที แน่นอนว่าอาจจะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีน่าสนใจในการเดินทางท่องเที่ยวอิหร่าน แต่ก็ต้องลองครับ


สนามบินในเตหะราน อิหร่านจะมี 2 แห่งคือ สนามบินอิหม่ามโคไมนี่ Tehran Imam Khomeini International Airport - IKA ซึ่งเป็นสนามบินสำหรับไฟล์ทต่างประเทศ และสนามบินเมห์ราบัด Mehrabad International Airport - THR สำหรับการบินในประเทศอิหร่านครับและต่างประเทศจากตะวันออกกลางบางเที่ยวบิน นอกจากนี้มีสนามบินนานาชาติในเมืองใหญ่ๆอีกหลายแห่งที่สายการบิน Mahan Air บินไปลงครอบคลุมทั่วประเทสครับ  ทริปนี้เราจะใช้บริการสายการบิน Mahan Air สายการบินเอกชนชื่อดังและขนาดใหญ่ของอิหร่านครับ

 

 

การเดินทาง
การเดินทางสู่เตหะรานนั้น ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมงครับ และเวลาที่อิหร่านจะช้ากว่ากรุงเทพฯประมาณ 3 ชั่วโมง ปัจจุบันมีสายการบินหลายสายที่บินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิ - BKK สู่ สนามบินเตหะราน - IKA สำหรับ Mahan Air เป็นสายการบินขนาดใหญ่แบบ Full service ของประเทศอิหร่าน

มีบริการบินไปประเทศสำคัญหลายแห่ง ที่สำคัญการเปิดเส้นทางบินเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์และรองรับความต้องการของลูกค้า นักธุรกิจและนักเดินทางท่องเที่ยว จากกรุงทพฯ สู่เตหะราน โดยตรงครับ ซึ่งวันที่เดินทางไปนั้น ชาวอิหร่านเต็มลำเลย แสดงให้เห็นว่า เมืองไทย เป็นปลายทางยอดนิยมมากของชาวอิหร่าน ในการเดินทางมาท่อเงที่ยวและพักผ่อน และในรูทนั้นก็มีชาวไทยจำนวนไม่น้อยที่เดินทางไปท่องเที่ยวครับ


สำหรับในประเทศไทย  เราสามารถจองบัตรโดยสาร ได้โดยตรงที่ 02 231 6961 วันจันทร์-วันศุกร์ 09:00-17:00 และ วันเสาร์ 09:00-12:30
http://www.mahan.aero/en/contact
https://www.facebook...hanairthailand/

นอกจากนี้เราสามารถจองบัตรโดยสาร กรณีต้องการเดินทางในประเทศอิหร่านด้วยสายการบิน Mahan Air ได้ด้วยครับ สะดวกมากๆ


รวมถึงการเลือกที่นั่งตามอัธยาศัยและการ Online Check in สำหรับการบินในประเทศ

[spras77]

ในเทอร์มินอลของสุวรรณภูมิฯ สายการบิน Mahan อยู่ที่ ROW S


จะเปิดให้ Check in ราวๆ 19.00 น.ครับและ Boarding 22.30 น.ซึ่งดูเหมือนมีเวลาเยอะเลยครับ

เรามาถึงก่อนเวลาเล็กน้อยคนยังโล่งเลย  มีคุณพี่เจ้าหน้าที่ของ Mahan Air แจ้งว่าประมาณ 19.00 น.ครับแต่ให้ดีเอากระเป๋าใส่รถเข็นมาจองที่ไว้ก่อนก็ได้จะได้ Check in ได้เร็วขึ้นเพราะนักท่องเที่ยวจะต่อคิวเยอะมาก ซึ่งพอ 19.00 น.ก็เป็นจริงอย่างที่คาดครับ คนเพียบและแถวยาวมากๆ


แต่ทุกคนยิ้มแย้มครับ ส่วนใหญ่เป็นชาวอิหร่าน ทั้งสูงอายุและมาเป็นแบบครอบครัว

แต่ไม่นานเราก็ได้ check in ครับ เจ้าหน้าที่จะสอบถามและขอดู visa เข้าอิหร่านครับ เราแจ้งไปว่าจะทำ VOA  ที่สนามบินแล้วเราก็เข้า Gate เลยสำหรับ Mahan Air เที่ยวบินไปเตหะรานจะอยู่ gate ที่ F2A

[spras77]

พร้อมเดินทางครับ

ไปนั่งพักและเตรียมตัวนั่งๆนอนๆกันยาว7 ชั่วโมงกันครับ

โซน gate F2A สะดวกสบายและค่อนข้างสงบ เหมาสำหรับนอนสักงีบครับ




จวนได้เวลาครับ เริ่มเห็นเพื่อนร่วมไฟล์ทเดียวกันหนาตาขึ้น

[spras77]

เลือกที่นั่งริมหน้าต่างครับ ค่อนข้างสะดวกเพียงแค่แจ้งเจ้าหน้าที่ บริเวณ check in  ก็เรียบร้อยนั่งนอนกันไปยาวๆสำหรับคืนนี้ จะถึงเตหะรานประมาณตี 3 ( เวลาท้องถิ่น-เตหะราน ) เป็นเครื่องแบบ AIRBUS 340

[spras77]

บริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฟาร์ซีครับ



หลังเครื่อง Take off สักพักก็ให้บริการเครื่องดื่มและอาหารครับ  มื้อแรกสำหรับอาหารแบบอิหร่านซึ่งจะมีให้เลือก 2 เมนูคือ เนื้อ Beef หรือ ไก่ chicken
แล้วก็ได้เวลานอนกันยาวๆครับ ค่อนข้างสบายเลยทีเดียวครับสำหรับ economy class เผลอหลับไปราวๆ 4 ชั่วโมงบนเครื่องอากาศค่อนข้างเย็นครับ เตรียมเสื้อผ้าที่ยืดหยุ่นและทำให้ร่างกายอบอุ่นตลอดการเดินทาง จะช่วยให้เราสดชื่นนอนได้เพียงพอพร้อมท่องเที่ยวทันทีครับ

มื้อที่ 2 จะถูกปลุกประมาณตี 1 หรือก่อน landing ประมาณ 1 ชั่วโมงครับ / แม้จะงัวเงียตื่นขึ้นมามื้อนี้รสชาดถูกปากขึ้นมาอีกนิด ( กำลังปรับตัวครับ)

ไม่นานก็ถึงสนามบิน IKA แล้ว ที่นี่เราไม่ต้องกรอกเอกสารเข้าเมืองครับ เราเตรียมทำ visa on arrival ก่อนเข้า ตม.เท่านั้น มองไกลๆเจอหางแดงจอดเทียบงวงช้าง เราถึงเตหะรานแล้วครับ ประมาณตี 3 เวลาของอิหร่าน

บริการ Airport bus  เข้าตัวอาคาร

[spras77]

Visa on Arrival - VOA

คนไทยเดินทางมาเที่ยวอิหร่านยังต้องขอ visa ครับ ตอนนี้สะดวกมากไม่ต้องขอล่วงหน้าครับ( แต่ขอมาก่อนก็ได้ ถ้าต้องการ) เราสามารถมาขอได้ที่ช่องทางขออนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองของอิหร่านได้เลย - visa section

ลงจากเครื่องแล้วก็เดินตามทางมาเรื่อยๆครับ

เข้ามาในอาคาร A visa section อยู่ทางซ้ายข้างหน้าเรา


เอกสาร/หลักฐานที่ต้องเตรียมสำหรับยื่น
1.เอกสารจองบัตรโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ( Travel iterinary ) ของสายการบิน
2.เอกสารจองที่พัก
3.แผนการเดินทางท่องเที่ยว  เป็นภาษาอังกฤษ
4.หนังสือเดินทาง

ทั้งหมดผมเตรียมไปล่วงหน้าครบถ้วน แต่ปรากฏว่าพอไปถึงแล้วไม่ใช้เอกสารสักอย่างเดียว ยื่นแต่หนังสือเดินทางเท่านั้นครับ


ขั้นตอนที่ 1 เดินไปซื้อประกันที่เคาท์เตอร์ขายประกัน ราคา 16 USD ( บางครั้ง จนท.ประกันภัยฯจะให้เอกสารแบบฟอร์มสำหรับขอ visa เลย

ขั้นตอนที่ 2 กรอกข้อมูลลงในแบบฟอร์มขอวีซ่า แลกเงินที่ธนาคารและชำระค่า visa ราคา 86 USD หรือ 75 EUR


ขั้นตอนที่ 3 หลังจากจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ธนาคารเรียบร้อยแล้ว ก็นำมายื่นที่ visa section พร้อมหนังสือเดินทาง แล้วรอเรียกชื่อครับ ( ถ้าคนไม่เยอะใช้เวลาประมาณ 30 นาที

แต่....ผมใช้เวลา 3 ชั่วโมงครับ แม้ว่าคนที่ต้อง visa ที่มาใน flight เดียวกันจะไม่มาก แต่ปรากฎว่าช่วงเวลาตี 3 นั้นเป็นเวลาที่เครื่องลงหนาแน่นและมีสายการบินทยอยเข้าประเทศอิหร่านจำนวนมาก ทั้งกรุ๊ปทัวร์ นักท่องเที่ยวและคนที่มาทำงาน


ปรากฏว่าเราเจอกรุ๊ปทัวร์จากเพื่อนบ้านแผ่นดินใหญ่เข้าไป เลยทำให้ขั้นตอนทำงาน จนท.ชาวอิหร่านรวนและสะดุดไปหมด ( มี จนท.ทำเพียง 2 คนและทำหลายหน้าที่และมีหลายขั้นตอนกว่าจะเสร็จ )

สรุปคือ ตอนนี้ทางอิหร่านกำลังพัฒนากระบวนการทำงาน VOA  ครับ ถ้าเจอกรุ๊ปทัวร์ซ้อนเข้าไป 2-3 กลุ่มก็จะเกิดการ delay เกิน 1 ชั่วโมงแน่นอนและที่สำคัญ เราต้องยื่นเอกสารให้ จนท. visa section เองให้ถึงมือครับ อย่าให้ จนท.ประกันอีกเคาท์เตอร์รวมๆส่งให้ เพราะจะเป็นเหตุให้เกิดความล่าช้า

ในที่สุด VOA  เข้าอิหร่านสำหรับเราก็สำเร็จในเวลา 3 ชั่วโมงในราคาประมาณ 3,xxx บาทหรือ 35 usd ครับ

[spras77]

เข้าแถวรอเข้าเมืองครับ ส่วนนี้สบายมากมาย คนอิหร่านและประเทศอิหร่านยินดีต้อนรับคนไทยมากๆครับ

ช่วงที่รอ visa เลยได้มีโอกาสคุยกับน้องๆคนไทย ที่มาเที่ยวอิหร่านและเค้ามีแผนจะไปเมืองอื่นด้วย เลยได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน และเจอคนสิงคโปร์ , รัสเซีย ที่ต้องใช้เวลารอนานพอๆกัน โชคดีที่เรามาถึงแต่เช้า และไม่รีบหรือมีแผนที่ต้องเร่งด่วนอะไร


ต่อไปเราจะไปรับกระเป๋าครับ ( ลุ้นครับว่ากระเป๋าจะยังอยู่หรือไม่เพราะ เราติดอยู่ที่ทำวีซ่านานเลยทีเดียว

กระเป๋าเราถูกยกลงจากสายพานแล้วครับ และมี จนท.ช่วยดูแลให้จนกว่าเราจะมารับกระเป๋า เท่าที่ดูยังเหลืออีกจำนวนหนึ่ง คงติดกันอยู่ที่ visa section





จัดการเรื่อง sim โทรศัพท์สำหรับติดต่อและใช้งาน internet ครับ มีร้าน sim โทรศัพท์ให้บริการหลายแห่งเราเลือกใช้บริการเจ้านี้ครับ เพราะมีข้อมูลว่า เร็วแรง ( แต่ใช้แล้วในตัวเมืองค่อนข้างช้ามากๆครับ พอนอกเมืองกลับรวดเร็ว )

ใช้หนังสือเดินทางยื่นสำหรับลงทะเบียนครับ

เราแลกเงินมาจากเมืองไทยแล้ว

[spras77]

ออกจากสนามบินประมาณ 06.00 น.เราเลือกใช้บริการ Airport Taxi ซึ่งราคา 750,000 เรียล - IRR หรือราว 750 บาทสำหรับเข้าเตหะราน ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินโคมัยนีประมาณ 1 ชั่วโมงหรือราว  60 กิโลเมตร


เรามุ่งหน้าเข้าตัวเมือง กล่อมด้วยเสียงเพลงบรรเลงเบาๆบนรถ ชวนเพลิดเพลินบรรยากาศโดยรอบ นอกตัวเมืองค่อนข้างแปลกตา


ผ่านอนุสรณ์สถานของท่านอายุตุลลอฮ์ โคมัยนีสุสานของบุคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญท่านหนึ่งในประวัติศาสตร์ของชาวอิหร่าน


เกือบชั่วโมงเราก็เริ่มเข้าสู่พื้นที่เขตเมือง วันที่เรามาถึงเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ รถเลยไม่ติดมากแบบที่คิด

[spras77]

ที่พักในเตหะราน Parsian Enghelab Hotel

ที่พักเราตั้งอยู่บนถนน Taleghani การจองที่พักในอิหร่าน ปัจจุบันยังมีข้อจำกัดบางประการ ยังไม่สามารถจองและจ่ายเงิน online เหมือนเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ แต่ก็ยังพอมีอยู่บ้างประปราย

สำหรับทริปนี้ บ.world explorer ได้จัดการจองที่พักให้กับเรา ทำให้เรามีเวลาไปวางแผนการเดินทางและจัดเตรียมของสำหรับทริปนี้ สามารถติดต่อโทรศัพท์ : 02-631-3448  http://www.worldexplorer.co.th/th อีเมล์ : worldexplorerthailand@gmail.com


Parsian Enghelab Hotel เป็นโรงแรมหรูขนาด 4  ดาวและมีสาขาต่างๆครอบคลุมทั่วประเทศ



บริการต่างๆที่มีของโรงแรมนั้นครอบคลุมและพนักงานใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้ดีมาก


เราเราตั้งใจจะมาฝากกระเป๋าไว้ก่อนเพราะมาถึงเช้ายังไม่สามารถ check in ได้ครับ ( ราวๆ 14.00 น.)


ห้องพักมาตรฐาน บรรยากาศดีและอบอุ่น

[spras77]

บริการชาและเครื่องดื่ม


ภายในห้องน้ำและสุขภัณฑ์

น้ำไหลแรงมากครับ



ที่สำคัญเป็นโรงแรมที่มีจุดเด่นนอกเหนือจากการบริการที่ดีและเป็นมิตรแล้วก็คือ ทำเลที่ตั้ง ซึ่งสะดวกในการเดินทางไปจุดต่างๆได้อย่างสะดวก ง่ายดาย และเชื่อมโยงไปจุดต่างๆได้ง่ายทั้งทาง Metro , BRT , TAXI  และใกล้ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าอีกด้วย จึงเป้นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจในการมาท่องที่ยวเตหะราน อิหร่าน

[spras77]

การเดินทาง โดย Tehran's Metro

เราเดินทางไปจุดต่างๆและสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ด้วย Metro  เป็นหลักและมีสลับกับ BRT  และ Taxi บ้างตามจุดต่างๆที่ Metro เข้าไปไม่ถึง ซึ่งถือว่าสะดวกมากๆและเกินที่เราคิดไว้

การเดินทางท่องเที่ยวในเตหะรานด้วยตนเองนั้นถือว่าง่ายและสะดวกมาก ค่าเดินทางเที่ยวละ 5,000 เรียลตลอดสาย ดังนั้นระยะทางใกล้ไกล ก็ราคาเดียวคือ 5 บาทครับซึ่งถือเป็นสวัสดิการทางสังคมของประเทศ ที่จัดสรรให้ประชาชนในประเทศได้ใช้บริการกันอย่างสะดวกสบาย


เพื่อความสะดวกในการเดินทางสามารถติดต่อที่ช่อง Kredit card เพื่อซื้อ EZpay card ในราคา 50,000 เรียลที่สามารถใช้เดินทางได้ 10 ครั้ง และสามารถใช้ร่วมกับรถ BRT  หรือรถเมล์โดยสารได้อีกด้วย ( ไม่มีค่ามัดจำบัตร , เงินที่จ่ายก็เป็นค่าโดยสารเต็มราคาครับ )

ถ้าเงินในบัตรหมดก็สามารถเติมเงินได้เหมือนบัตรต่างของรถไฟฟ้าของเราหรือประเทศต่างๆครับ



หรือถ้าไม่สะดวกอยากซื้อเป็นครั้งๆไปก็ไม่ยากอะไรครับ ติดต่อที่ช่อง ticket ได้โดยตรงเลยเช่นกันแต่ ช่วงชั่วโมงเร่งด่วนอาจจะต้องและเข้าคิวหน่อย

[spras77]

Metro เป็นการบริการถไฟสาธารณะทั้งบนดินและใต้ดิน เชื่อมต่อกัน ปัจจุบันมีทั้งหมด 7 สาย บางสายกำลังก่อนสร้างและบางสถานียังไม่เปิดให้บริการครับ ส่วนมากแหล่งท่องเที่ยวมักจะอยู่บนสายสีแดง หรือ LINE 1  เป็นหลัก


ในระบบ Metro ถือเป็นพื้นที่อ่อนไหวครับ จริงๆเค้าห้ามถ่ายภาพผมโดน จนท.เรียกเข้าไปพบใน office เพื่อชี้แจงว่าในระบบจะถ่ายภาพไม่ได้และขอให้ลบภาพดังกล่าวออกจาก memory card แต่ จนท.ชี้แจงด้วยนำเสียงสุภาพ ลงท้ายด้วย welcome  welcome ทุกครั้ง ซึ่งช่วงหลังๆผมก็มักจะเลี่ยงถ่ายภาพในระบบโดยเฉพาะบริเวณขายบัตรโดยสาร ซึ่งถ้าหากไม่แน่ใจผมจะเดินไปถาม จนท.ของ Metro โดยตรงเลยครับว่าสามารถถ่ายภาพบริเวณดังกล่าวได้หรือ


การเข้าออกก็เพียงแตะบัตรโดยสารบริเวณที่มี barcode เท่านั้นครับ โดยแตะเพียงขาเข้าในระบบเท่านั้น ส่วนขาออกจากระบบ เพียงเดินเข้าไปในประตูก็จะเปิดอัตโนมัติ ไม่ต้องแตะบัตรซ้ำ

ที่นี่ จนท.ไม่ได้เคร่งครัดอะไรมากในการเข้าระบบ ไม่มีตรวจกระเป๋า, ไม่มีเป่านกหวีดไล่คนที่ยืนล้ำเส้น, ไม่มี จนท.หลายคนยืนเป็นจุดเพื่อคอยบอกสิ่งที่ควรปฏิบัติพื้นฐาน ด้วยความที่รัฐบาลอิหร่านจัดให้ระบบขนส่งมวลชนเป็นสวัสดิการให้คนในชาติ ดังนั้น จนท.จึงมักอนุญาตให้คนขาดโอกาสในสังคม สามารถเข้าใช้บริการ Metro ได้โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงิน(เงินเข้าไปในระบบได้เลย)

ดังนั้นผู้คนจึงหลากหลายและจำนวนมาก

[spras77]

Metro จะแบ่งตู้รถไฟเป็นแบบรวมและตู้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ในรถไฟฟ้าถือเป็นสีสันที่น่าสนใจครับ เพราะจะมีคนเดินขายสินค้าต่างๆ ซึ่งก็มีคนซื้อกันจำนวนหนึ่ง

สินค้าบางชิ้นต้องก็มีสาธิตให้ลูกค้าบนรถไฟฟ้าดูด้วยครับ

และตอนนี้รถไฟรุ่นใหม่ จะมีป้ายสัญญานบอกสถานีต่างๆและเสียงประกาศเป็นภาษาอังกฤษด้วยครับ ทำให้ไม่ยากลำบากเหมือนช่วงแรกๆที่เริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวมาเยือน

รถไฟรุ่นใหม่



รถไฟรุ่นเก่า

[spras77]

พระราชวังโกเลสตาน (Golestan Palace)

วังแห่งนี้รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “พระราชวังแห่งดอกไม้หรือวังสวนกุหลาบ "

การเดินทาง : ลงสถานี Panzdah-e Khodad สายสีแดงซึ่งจะใกล้ Grand Bazaar เมื่อขึ้นมาจะเห็น Grand Bazaar อยู่ทางขวาส่วนทางซ้ายจะเป็นเส้นเดินไปทางเข้าสู่ Golestan Palace  
เวลาทำการ : ตั้งแต่ 09:00 น. – 18:00 น. (ปิดขายบัตรตอน 15:00 น.)
ค่าใช้จ่าย :  ค่าผ่านประตู 150,000 เรียล (ค่าแรกเข้า)และส่วนที่น่าสนใจจะคิดค่าเข้าชมต่างหาก ตามที่เราต้องการครับ ( ถ้าเข้าชมทุกพื้นที่จะเสียค่าใช้จ่าย 940,000 เรียล หรือ ประมาณ 940 บาท)

เราใช้บริการ BRT ฝั่งตรงข้ามโรงแรมมาลงที่สถานี Talenghani ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานฑูตอเมริกา(เก่า) เราอ่านภาษาฟาร์ซีไม่ออก แต่คาดว่าจะนั่งสายสีแดง เพื่อต่อไปลงสถานี Metro

รอสักพักรถก็มาครับ วันนี้เป็นรถรุ่นเก่า ค่ารถถูกกว่าเล็กน้อย ( ขึ้นมานั่งก่อน ตอนจะลงค่อยแตะบัตร EZycard)


ลงสถานี Talenhani ข้างสถานฑูตเก่าอเมริกา


ข้ามไปสถานี Metro

[spras77]

แต่ละสถานีจะมีงานศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละสถานี





พระราชวังกุหลาบนี้เคยรุ่งเรืองมาก่อนเมื่อราว 200 ปีที่แล้วในฐานะ "พระราชวังหลวง" แห่งราชวงศ์ Ghajar ในช่วงปี ค.ศ. 1779-1921 จนมาถึงราชวงศ์สุดท้ายที่ประทับที่นี่คือราวงศ์ปาห์เลวี- Pahlavi Dynasty ระหว่างปี ค.ศ. 1921-1979

ขึ้นจากสถานีมา จะเจอ Grand Bazar อยู่ขวามือ แต่เราหันทางซ้ายและเดินมาตามทางร่มรื่นเพื่อเข้าพระราชวัง

[spras77]

การเข้าชมภายในนั้น จะต้องซื้อบัตรในราคาเริ่มต้นคนละ 150,000 เรียลแล้วก็สามารถเดินเข้าไปเที่ยวชมได้เลย



แต่ถ้าต้องการเข้าชมในส่วนอื่นจะต้องชำระเพิ่มในช่วงทางเข้าให้เรียบร้อยครับเดินผ่านประตูเข้าไปจะเห็นพบอาคารห้องโถงใหญ่ ที่พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์ใช้ออกว่าราชการ ที่เรียกว่า ตำหนักหินอ่อน (Marble Palace) วังแห่งนี้มีรูปลักษณ์แบบโบราณและคลาสสิกสไตล์ยุโรป ซึ่งเป็นแม่แบบการผสมผสานศิลปะตกแต่งแบบยุโรปเข้ากับสไตล์เปอร์เซี่ยน จนกลายเป็นต้นกำเนิดศิลปะสมัยใหม่ของอิหร่าน โดยองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปีค.ศ. 2013




ตำหนักหินอ่อนมีลักษณะเป็นบัลลังก์ที่ประทับ ตั้งอยู่กลางห้องโถงที่ทำมาจากหินอ่อนดี โดยนำหินอ่อนที่มีชื่อเสียงและล้ำค่าสีเหลืองนวลมาจากเมือง Yazd มาแกะสลักตกแต่งด้วยการกระจก บัลลังค์หินอ่อนนี้ถือว่าเป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของพระราชวังวางบนระเบียงขนาดใหญ่

[spras77]

ห้องพักสำหรับช่วงฤดูร้อน Karim Khani Nook

บนิเวณนี้ถูกใช้สำหรับเป็นห้องในช่วงฤดูร้อน โดยระบบทำความเย็นพิเศษจะสูบน้ำจากระบบใต้ดิน ลำธารลงไปในบ่อขนาดเล็กภายในห้อง และระบบนี้ยังใช้ในอีกหลายห้องในช่วงฤดูร้อน


การมีโอกาสได้เสด็จประพาสยุโรป ทำให้รับแนวคิดการสร้างตำหนักแบบนีโอคลาสสิกของยุโรปติดมาด้วย และตำหนักอื่นที่เป็นแบบโบราณนั้นมีจุดเด่นของสถาปัตยกรรมคือผนังภายในและภายนอกกรุด้วยแผ่นกระเบื้องหรือเซรามิกสีและลวดลายต่างๆ เน้นสีสันจัดจ้านแบบตะวันออก



อิหร่านขึ้นชื่อเรื่ององค์ความรู้ที่สะสมมาตั้งแต่โบราณในรเรื่องระบบน้ำใต้ดิน ที่แม้จะเป็นพื้นที่ทะเลทราย แห้งแล้งแต่ก็มีทางน้ำใต้ดินและมีระบบคลองในการทดน้ำกลับมาใช้หมุนเวียน



ในอาคารหลังนี้จะมีหินอ่อนที่ถูกแกะสลักเป็นรูปเหมือนจริงของกษัตริย์ NasserAl-Din Shah บริเวณนี้เคยมีบ่อน้ำพุขนาดเล็กอยู่ตรงกลางของระเบียงนี้ และมุมนี้ก็เป็นมุมโปรดของกษัตริย์องค์นี้เช่นกัน







จากตำหนักหินอ่อน เมื่อเดินตามแนวอาคารพระราชวังที่จัดวางเป็นรูปตัวยู ที่รอบตัวอาคารร่มรื่นด้วยไม้ยืนต้นไม้ดอกไม้ประดับ จนลืมความเชื่อเดิมๆถึงความแห้งแล้ง สมกับชื่อของพระราชวังที่แปลว่าสวนดอกไม้

[spras77]

โถงใหญ่ Main Hall – Brilliant Hall
ภายในโถงใหญ่นี้ อนุญ่ตให้เข้าชมได้แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพครับ ที่นี่ถูกตกแต่งประดับด้วยงานกระจกของช่างฝีมือชาวอิหร่าน งานกระจกตัดเหลี่ยมคล้ายเพชรและโคมไฟห้อยระย้าของที่นี่มีความโดดเด่นและมีชื่อเสียงมากและภายในมีสิ่งของเครื่องใช้โบราณจากมิตรประเทศต่างๆรวมถึงภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยยาห์ข่าน (Sani OL Molk)  โซนนี้มีถ่ายภาพไม่ได้แต่ไม่ควีพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ ความวิจิตรในแบบต้นฉบับ ที่หาใครทำเหมือนได้ยากอยู่ในโซนนี้ครับ



ถัดมาของส่วนกลางเป็นอาคารสูง 5 ชั้น ซึ่งเมื่อ 200 กว่าปีที่แล้วถือเป็นตึกที่สูงที่สุดในอาณาจักรเปอร์เซีย


โดยตึกสูงหลังนี้คือตำหนักในของเหล่าสนมกำนัลและบริวารนับร้อยที่อาศัยอยู่ที่นี่อย่างหรูหราเต็มไปด้วยบรรยากาศที่สนุกสนานครื้นเครงในช่วงราชวงศ์กอญัรและราชวงศ์ปาห์เลวี กระทั่งหลายคนเรียกตึกหลังนี้ว่า ฮาเร็ม

ตอบกลับ

0

0

spras77
30 กรกฎาคม เวลา 20:57 น.

 

ความคิดเห็นที่ 18

 

รัฐบาลหลังการปฏิวัติของอายะตุลลอฮ์ โคมัยนี มีแนวคิดที่จะลดฐานะของพระราชวังทุกแห่งในประเทศอิหร่านลง โดยต้องการให้เป็นเพียงพิพิธภัณฑ์ธรรมดาเท่านั้น ที่ดำเนินไปพร้อมกับการล่มสลายของระบอบกษัตริย์ที่ปกครองอาณาจักรแห่งนี้ยาวนานถึง 2,000 กว่าปี เนื่องจากว่าระบอบกษัตริย์และราชวงศ์ต่างๆของอิหร่านนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความฟุ่มเฟือย