|
|
Posted 19 March 2017 - 04:33 PM
Posted 19 March 2017 - 04:35 PM
พระธาตุเจดีย์วัดผ้าขาวป้าน มีลักษณะที่รวบรวมเอาลักษณะต่าง ๆ ของพระธาตุเจดีย์ที่มีมาแต่เดิมเข้าไว้ในองค์เดียวกัน จึงเกิดเป็นลักษณะพระธาตุเจดีย์อีกแบบหนึ่งขึ้นกล่าวคือ ส่วนฐานท่อนล่างทำเป็นฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสสามชั้นลดหลั่นกันขึ้นไป ย่อมุมไม้ 20 ถัดมาเป็นแท่งสี่เหลี่ยมทึบแบบวัดพระบวชแต่ย่อมุมมากกว่า เป็นย่อมุไม้ 20 ไป ต่อจากนั้นจึงเป็นส่วนกลางนี้ก็ย่อมุมไม้ 20 อีกเช่นกัน ส่วนบนเป็นเจดีย์ทรง 16 เหลี่ยม มีทองจังโกหุ้มตลอด
Posted 19 March 2017 - 04:41 PM
จากนั้นเราก็ไปต่อที่วัดพระธาตุผาเงาครับ
วัดนี้มาจากชื่อของพระธาตุผาเงาที่ตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ คำว่าผาเงาก็คือ เงาของก้อนผา (ก้อนหิน) หินก้อนนี้มีลักษณะสูงใหญ่คล้ายรูปทรงเจดีย์และทำให้ร่มเงาได้ดีมาก ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า “พระธาตุผาเงา” ความจริงก่อนที่จะย้ายวัดมาที่นี่ เดิมมีชื่อว่า “วัดสบคำ” ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโขง ฝั่งน้ำได้พังทลายลง ทำให้บริเวณ ของวัดพัดพังลงใต้น้ำโขงเกือบหมดวัด คณะศรัทธาจึงได้ย้ายวัดไปอยู่ที่ใหม่บนเนินเขา ซึ่งไม่ไกลจากวัดเดิม
Posted 19 March 2017 - 04:43 PM
Posted 19 March 2017 - 04:46 PM
จากนั้นเราไปชมหอพระไตรปิฎกเฉลิมพระเกียรติ หลังจากไหว้พระในวิหารแล้วเดินมาอีกด้านหนึ่งตรงกันกับหน้าวิหารเราจะมองเห็นซุ้มหลังคาแบบล้านนาที่สวยงาม ซ่อนหอไตรไว้ด้านหลัง หอไตรหลังนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2550 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา
Posted 19 March 2017 - 04:50 PM
Posted 19 March 2017 - 04:51 PM
ภายในเมืองพบโบราณสถานสำคัญแห่งหนึ่ง แต่เดิมเคยเรียกกันว่า เจดีย์พระธาตุบำเหมือดเชียงแสนน้อย ต่อมาเปลี่ยนเป็นเรียกเจดีย์พระธาตุสองพี่น้อง คงเนื่องมาจากมีเจดีย์สององค์ตั้งอยู่ใกล้กัน โบราณสถานแห่งนี้ไม่ปรากฏหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรทางด้านประวัติการก่อสร้างโดยตรงรูปแบบของสถาปัตยกรรมองค์พี่เป็นเจดีย์ทรงปราสาทห้ายอด อันมีแบบแผนเดียวกันกับเจดีย์ประธานวัดป่าสัก เมืองเชียงแสน เจดีย์องค์นี้ถูกกำหนดอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 19 หลักฐานทางด้านศิลปกรรมและด้านโบราณคดี แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์กับการตั้งเมืองเชียงแสน อันสอดคล้องกับเรื่องราวในพงศาวดารที่กล่าวถึงพญาแสนภูได้เดินทางล่องมาตามลำน้ำกก ถึงลำน้ำโขงและตั้งมั่นเอาชัยที่เวียงเปิกสา ก่อนเดินทางเข้าเมืองเชียงแสน รวมถึงเรื่องเล่าที่ว่าเจดีย์องค์นี้อาจเป็นเจดีย์ที่บรรจุอัฐิของพญาคำฟูและพระยาแสนภู จึงได้กลายเป็นพระธาตุสองพี่น้องหรือเจดีย์สองพี่น้อง
Posted 19 March 2017 - 04:58 PM
พระธาตุเจดีย์หลวง สูงถึง 88 เมตร มีฐานกว้าง 24 เมตร เป็นพระเจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเชียงแสน นอกจากพระเจดีย์หลวงแล้ว ยังมีพระวิหารเก่าแก่อีกมากซึ่งพังทลายเกือบหมดแล้ว และเจดีย์แบบต่างๆ อีก 4 องค์ โบราณสถานแห่งนี้แม้ว่าจะปรักหักพังไปมากแล้ว แต่ได้รับการบูรณะเป็นอย่างดีให้สมกับเป็นวัดที่สำคัญของเมืองหิรัญนครเงินยาง ในสมัยอาณาจักรล้านนาไทย
Posted 19 March 2017 - 05:00 PM
ภายในวิหารวัดพระธาตุเจดีย์หลวง พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่บนฐานยกสูงขึ้นไป ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยศิลปะแบบชาวเหนือ มีบันไดขึ้นลงทั้ง 2 ข้าง พระพุทธรูปบนฐานที่ยกสูงขึ้นไปนั้นมีหลวงพ่อเชียงแสน สิงห์ ๑ ประดิษฐานเป็นองค์ประธาน และด้านบน พระพุทธอุโฆษ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ประดิษฐานเบื้องหน้าองค์หลวงพ่อเชียงแสนสิงห์ ๑
Posted 19 March 2017 - 05:03 PM
Posted 19 March 2017 - 05:04 PM
Posted 19 March 2017 - 05:08 PM
Posted 19 March 2017 - 05:09 PM
เจดีย์ประธานเป็นเจดีย์ทรงปราสาท ยอดทรงระฆังแบบห้ายอด ที่ฐานเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปสลับกับรูปเทวดาส่วนกลางเป็น เรือนธาตุ ที่ซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปทั้งสี่ด้าน ส่วนยอดเป็นองค์ระฆัง มีเจดีย์องค์เล็กประดับอยู่ที่มุมทั้งสี่ เจดีย์วัดป่าสักยังเป็นเจดีย์ที่คงสภาพสมบูรณ์ที่สุดในเมืองโบราณเชียงแสน และเป็นเจดีย์ที่มีความงดงามมากที่สุดองค์หนึ่งในกลุ่มศิลปะล้านนา ลวดลายที่ประดับอยู่บนองค์เจดีย์สะท้อนให้เห็น ถึงการพัฒนาศิลปะและโครงสร้าง ทางศิลปะล้านนา โดยผสมผสานศิลปะสุโขทัย พุกาม และหริภุญไชย เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะและเป็นต้นเค้าวิวัฒนาการของเจดีย์เรือนธาตุศิลปะ ล้านนา
0 members, 0 guests, 0 anonymous users
ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Galileo (แสดงผล waiting list) | ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Amadeus (เแสดงเฉพาะที่นั่งว่าง) | |
ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนก ตั๋วเครื่องบิน โทร 02-3737-555 / จันทร์ - ศุกร์ 09.00~18.00 น. // เสาร์ 09.00-16.00 น. |