|
|
Posted 09 December 2016 - 12:44 PM
การแบ่งพื้นที่จัดแสดง
- หอคำหลวง เป็นส่วนจัดแสดงที่ส่วนตัวเรารู้สึกว่าสำคัญและสวยงามที่สุด เพราะนอกจากที่ภายนอกอาคารเราจะเห็นเป็นสถาปัตยกรรมล้านนางดงามแล้ว ภายในก็ได้จัดแสดงพระอัจฉริยภาพทางด้านการเกษตรของกษัตริย์นักการเกษตรเอกของโลก นั่นคือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรีของไทย
- สวนไทย จัดแสดงสวนเขตร้อนชื้น สวนกล้วยไม้ อาคารเรือนกระจก อาคารพืชเขตหนาว อาคารพืชไร้ดิน และหมู่บ้านสี่ภาค เป็นต้น
- สวนนานาชาติ จัดแสดงสวนที่มีเอกลักษณ์ของหลากหลายประเทศในเอเชีย และบางส่วนจากยุโรป
- สวนที่ภาครัฐและเอกชนร่วมจัดแสดง ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 19 สวน
- อื่น ๆ เช่น อาณาจักรโลกแมลง และหอประชุมนิทรรศการ เป็นต้น
ผู้เข้าชมสามารถชมส่วนต่าง ๆ ได้โดยการเดิน หรือเช่าจักรยานปั่นชมสวน (ค่าบริการ 60 บาท / ครั้ง / คัน /คน) หรือใช้บริการรถราง (ค่าบริการ 20 บาท / คน) ก็ได้ค่ะ สำหรับอย่างหลังสุดนั้นคือทางเลือกของเราในครั้งนี้ ...บนรถรางเราจะได้ฟังผู้บรรยายให้ความรู้ถึงส่วนต่าง ๆ ที่รถรางผ่าน รวมทั้งรถจะจอดตรงตามป้ายต่าง ๆ เพื่อให้เราแวะเข้าชมจุดที่เราต้องการได้ เมื่อชมเสร็จเราก็สามารถมารอโบกรถรางคันถัดไปที่แล่นผ่านมาเพื่อไปยังจุดอื่นต่อ โดยรถรางจะมีคิวออกจากสถานีแรกทุก ๆ 15 นาที
Posted 09 December 2016 - 01:10 PM
ก่อนเข้าสู่ที่พัก เรามีโอกาสได้แวะมายังร้านกาแฟขึ้นชื่อที่เรามักจะได้เห็นตามรีวิวหรือได้ยินกันบ่อย ๆ จากเพื่อนฝูงที่เดินทางมาเชียงใหม่ นั่นก็คือ "ริสเทรตโตแล็ป" (Ristr8to Lab)
เมนูในร้านที่น่าสนใจมีอยู่ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ชื่อเมนูหลายอย่างดูจะมีความแปล่ง ๆ อยู่บ้างแต่ก็ช่วยสร้างเอกลักษณ์ของร้านใช้ได้เลย
Posted 09 December 2016 - 01:56 PM
ที่นี่คอกาแฟก็คงจะสมใจสำหรับรสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นหอมของกาแฟ แต่สำหรับตัวเราในครั้งนี้ขอเลือกเป็นเมนูนี้ที่เรียกง่าย ๆ ว่า "โกโก้ร้อน" แล้วกันนน ...จริง ๆ แล้วบาริสต้าเจ้าของร้านเค้าก็มีชื่อเสียงอยู่นะคะจากความสามารถด้าน Latte Art อันดับที่ 6 ของโลก และรางวัลการันตีอีกมากมาย แต่ร้าน Ristr8to เนี่ยได้ข่าวว่าเปิดแล้วถึง 3 สาขา และวันนี้เราก็มาในสาขาที่เค้าไม่อยู่ จึงไม่ได้เจอเจ้าของร้านคนนั้น แต่ก็มีลาเต้อาร์ทงาม ๆ บนเครื่องดื่มกรุ่น ๆ รสชาติดีให้ชมค่ะ
ร้านนี้จะเชื่อมติดกับร้านเบเกอรี่ที่มีเมนูน่าสนใจอย่างสโคนรสชาติต่าง ๆ และเค้กลาวา เป็นต้น อย่างเช่นในจานนี้ก็จะมี Matcha Scone ที่มาพร้อมกับครีม และ Cranberry Scone ที่มากับถั่วแดงกวน
Posted 09 December 2016 - 02:11 PM
ที่พักในคืนแรกของเราก็คือ "Holiday Inn" ซึ่งตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำปิงจากสถานที่ที่เราเที่ยวกันมาเมื่อสักครู่นี้ อยู่แถว ๆ วัดเกตการาม อยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาล มีสถานีขนส่งอยู่ใกล้ ๆ และยังเป็นย่านตลาดที่มีของกินน่าอร่อยอยู่หลายอย่างเลย
...และนี่คือบรรยากาศในห้องพักค่ะ
Posted 09 December 2016 - 02:21 PM
โถงทางเดินตรงข้ามประตูเข้าห้องเรา มองผ่านหน้าต่างออกไปก็จะเห็นเป็นวิวเมือง (ทางทิศตะวันออก)
ยามเย็นกับบรรยากาศที่มองลงไปยังถนนเบื้องล่าง ลองดูต้นไม้ที่เรียงแถวอยู่ตรงริมถนนสิคะ ดูสูงใหญ่มากเลยใช่มั้ย คนท้องที่บอกว่าเป็นต้นไม่เก่าแก่ที่เชียงใหม่อนุรักษ์ไว้นั่นเองค่ะ
และตอนเช้ากับวิวเมืองที่มีเทือกเขาทอดตัวยาวเป็นฉากหลัง
Posted 09 December 2016 - 03:41 PM
สำหรับโปรแกรมวันที่สองที่เราจะได้รีวิวให้ชมกันต่อจากนี้ก็คือจุดหมายอันเป็นไฮไลท์หลักของการเดินทางมายังเชียงใหม่ในครั้งนี้ นั่นก็คือการเดินทางที่ต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง กับระยะทางเกือบ 200 กิโลเมตรจากตัวเมืองเชียงใหม่ขึ้นสู่ดอยอ่างขาง ในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เพื่อเยี่ยมชม "สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง" ที่เรารู้จักกันในฐานะ "โครงการหลวงแห่งแรก" นั่นเองค่ะ
ซึ่งหลังจากที่ชาวคณะได้ตกลงกันใหม่ ก็มีข้อสรุปว่าเราจะออกเดินทางจากที่พักกันในเวลา 7 โมงเช้า (จากกำหนดการเดิมที่ระบุว่า 9 โมง) ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่าจะดีค่ะ เพราะนับเวลาแล้วเราคงได้ไปถึงดอยอ่างขางก่อนเที่ยง และแอบคิดว่าหมอกช่วงสายก็คงจะมีให้เห็นอยู่บ้าง
และสิ่งที่เป็นจริงก็คือเราได้เจอหมอกค่ะ โดยเฉพาะในระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดดอยที่เป็นทางลาดชันและมีเลี้ยวแบบศอกพับศอกงอกันหลายจุด แถมในบางจุดที่เป็นจุดอับนั้นหมอกก็ลงหนามากจนทัศนวิสัยในการขับรถไม่ดีเลย ฉะนั้นในช่วงที่ไม่ใช่ช่วงพีคและรถขับห่าง ๆ กันแบบเกือบมองไม่เห็นรถคันหน้าแบบนี้การมากับคนชำนาญเส้นทางเราถือว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์มาก แต่แม้ว่าเส้นทางจะโค้งเยอะ น่าตื่นเต้น และเสี่ยงต่อการเมารถแต่ตัวถนนนั้นดีมากค่ะ หายห่วง
Posted 09 December 2016 - 04:11 PM
ไปไหนกันต่อดีน้าาา
มาตรงนี้ดีกว่า มาทำกิจกรรมหยอดเมล็ดพันธุ์ผักกันค่ะ แต่ก่อนอื่นต้องเดินผ่านซุ้มซาโยเต้ หรือมะระหวาน หรือที่เราคุ้นกันในชื่อ "ฟักแม้ว" นี่เข้าไปก่อน มะระหวานนี่อร่อยนะคะ ทานสดก็กรอบดี ลวกทานกับน้ำพริกก็ใช้ได้ แหม่ะ เห็นผลสดที่ต้นแล้วอยากจะเด็ดกลับบ้านจัง
0 members, 1 guests, 0 anonymous users