21 replies to this topic

[Lovely_Love]

Advertisements

สวัสดีครับ

วันนี้ผมจะมารีวิวสายการบินในกลุ่มแอร์เอเชียกันครับ

 

ตัวเลือกในการเดินทางกลับหาดใหญ่มีไม่มากครับ

สายการบินที่ออกตั๋วใบเดียวจากซิดนีย์ถึงหาดใหญ่ได้ก็มีอยู่ 3 สายการบิน (เมื่อก่อนจะจองแยก)

1. Thai Airways 

2. AirAsia Group

3. Scoot + Tigerair

เปรียบเทียบ 3 สายการบินนี้นะครับ

1. Thai Airways ข้อดีคือบินวันเดียวถึงหาดใหญ่ (บินเช้าถึงดึก) ข้อเสียคือราคาสูง

2. AirAsia Group ข้อดีคือมีเที่ยวบินที่ออกจากซิดนีย์ตอนดึก

3. Scoot + Tigerair ข้อดีคือบินกับ 787 ข้อเสียคือต้องค้างที่สิงคโปร์ 1 คืน+เว็บไซต์ที่มีข้อจำกัดในเรื่องการจอง

โดยส่วนตัวยังไม่เคยบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ครับเลยอยากลอง

 

มาเริ่มกันที่ Counter Check-in ที่สนามบินซิดนีย์ครับ แถวเช็คอินจะอยู่ปลายสุดของอาคารครับ (แถว K)

จะมี Bag Drop 2 Counter + Check-in 4 Counter + Priority 1 Counter

แต่ตอนเปิดให้เช็คอินก็เหลือ 2 Counter สำหรับ Check-in และ 4 Counter สำหรับ Bag Drop อาจจะเป็นเพราะเสาของอาคารที่กั้นอยู่เลยทำให้เป็นแบบนี้ครับ (แม้ว่าตรงหน้าจอจะยังคงเป็นแบบเดิม)

ผมไปถึงสนามบินตอน 18.00 เนื่องจากเพื่อนไม่มีเวลาไปส่งหลังจากนี้ครับเลยต้องไปเร็วหน่อย แต่ Counter Check-in เปิด 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบินครับเลยได้แต่ต่อแถวรอครับ

 

จากนั้นก็มาดูหน้าจออีกรอบ จะเห็นได้ว่ามีเที่ยวบินไม่มากที่บินออกจากซิดนีย์ในช่วงค่ำก่อนจะถึง Curfew ของสนามบิน ( 23.00 - 6.00)

 

ก่อนเข้าไปก็กินข้าวเย็นก่อนครับ แล้วก็ผ่านตม.ซึ่งเป็น Autogate (เสียเวลาตรงนี้น้อยมาก)

 

จากนั้นก็เดินเล่นไปทั่วอาคาร มาเจอ SkyTeam Lounge 

 

ข้างๆกันมี American Express Lounge

 

China Eastern Airlines A330 (ขออภัยสำหรับภาพสะท้อนครับ เนื่องจากเป็นช่วงค่ำเลยถ่ายรูปภายนอกได้ไม่ดีนัก)

 

 

[Lovely_Love]

Emirates A380-800 บินไปกรุงเทพ + Jetstar A320

 

2X Emirates A380-800 (ลำนึงมาจาก Christchurch อีกลำเตรียมบินไปกรุงเทพ)

 

China Eastern Airlines A330

 

Qatar Airways A380-800 (เห็นมั๊ยเอ่ย)

 

ถ่ายไปเรื่อย (เท่าที่จะถ่ายได้)

China Eastern Airlines A330 + Emirates A380-800

 

จากนั้นก็เดินไปที่เกทก็ผ่าน Etihad Airways Lounge

[Lovely_Love]

ANA B787-9 เตรียมไป Tokyo Haneda Airport

 

ได้ Boarding Pass 2 ใบ

 

จากนั้นมาดูจอแสดงเกทกันอีกรอบ จะเห็นได้ว่ายังไม่บอร์ดกัน

 

วันนี้ได้นั่งเครื่องบินลายพิเศษ ลาย Malaysia, Truly Asia ที่มีรูปตึกแฝดบนหาง

 

จากนั้นก็เรียกบอร์ดขึ้นเครื่องที่เกท 60

[Lovely_Love]

ก่อนเข้างวง

 

พยายามถ่ายเครื่องบินอีกรอบ

 

นั่งประจำที่ เกทข้างๆมี ANA B787-9 จอดอยู่

 

Seat Pitch ที่รู้สึกว่าแคบมากสำหรับเที่ยวบินระยะยาว

 

ANA B787-9 เตรียม Push Back

 

หลังจาก ANA B787-9 ถอยออกไปก็เจอ Singapore Airlines B777-300ER จอดค้างคืนที่ซิดนีย์เพื่อทำการบินในช่วงเช้า เที่ยวบิน SQ 212

[Lovely_Love]

จากนั้นเครื่อง Push Back แล้วก็แท็กซี่ไปยังรันเวย์ ก็เจอ Qantas B747-400 ที่บินไป Tokyo Haneda Airport

 

เห็น Qatar Airways A380-800 มั๊ยเอ่ย (พยายามถ่ายเนอะ)

 

เตรียม Line Up เพื่อ Take Off และเป็นครั้งแรกที่บินออกจากซิดนีย์โดยใช้รันเวย์ฝั่งนี้ (16R จากเหนือลงใต้)

 

Flight Details

Flight No: D7 221

Seat: 9K (Quiet Zone)

Departure Time (Actual Departure Time): 21:40 (21:52)

Arrival Time (Actual Arrival Time): 03:15 (02:43)

Date: 16/11/2016

Aircraft Registration: 9M-XXF

 

หลังจากเครื่องบินๆขึ้นก็ถ่ายรูปพระจันทร์ก่อนเลย (ช่วงพระจันทร์ขึ้นมาใหม่ตอนอยู่ที่สนามบินดวงใหญ่มากๆ วันนั้นเลยมากจากวัน Super Moon เพียงแค่ 2 วัน)

 

จากนั้นก็หลับๆตื่นๆ (พยายามหาท่านอน) แต่ก็หลับได้ไม่สนิท แม้จะครองคนเดียว 3 ที่ ซึ่งตอนนั้นรู้สึกได้ว่าที่นั่งค่อนข้างแคบ (ขนาดเราเป็นคนผอมนะเนี่ย)

พอนอนไม่หลับก็ลุกไปสำรวจห้องน้ำซะหน่อย (ทางเดินก็ค่อนข้างแคบ)

[Lovely_Love]

บินผ่านเมืองด้านล่าง

 

พอนอนไม่หลับก็เริ่มค้นกระเป๋าหน้า

 

ยืนยันว่าบินกับ A330-300

 

ก่อนเครื่องลงประมาณ 1 ชม 30 นาที แอร์ก็เริ่มขายอาหารรอบสอง (รอบแรกหลังจากเครื่องขึ้น)

เราก็จองเป็นแพ็คเกจที่รวมอาหารไว้แล้ว (Value Pack) แต่ต้องมาลุ้นว่าแอร์จะให้อะไรเรากิน

ก็ได้เป็น Pak Nasser's Nasi Lemak ชื่อดังของสายการบินพร้อมน้ำเปล่า (แอบตกใจเพราะกล่องข้าวมันเล็กมาก)

 

เปิดออกมาดูกัน (อาหารมื้อนี้อร่อยสมชื่อจริงๆแต่ให้น้อยไปหน่อย)

 

แผงบน

 

จากนั้นก็ลงจอดที่สนามบิน Kuala Lumpur ฝั่งตะวันออกของ KLIA (32R)

แท็กซี่กันนานแน่นอนครับ ยังดีที่ช่วงนั้นไม่ค่อยมีเครื่องบินขึ้นลงเลยเร็วหน่อย

Malaysia Airlines B737-800

 

 

[Lovely_Love]

ฝนตกตอนลงจอดแต่ตอนแท็กซี่ไม่ตกแล้ว

 

จากนั้นก็เทียบงวงฝั่งตะวันออกสุดของอาคาร เดินออกจากเครื่องบิน แล้วก็พยายามถ่ายเครื่องบินอีกรอบ

 

เดินออกมาจากงวงก็ไม่มีป้ายบอกว่าให้เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ผู้โดยสารหลายคนก็งงครับ ส่วนเราก็เลี้ยวขวาไปถ่ายรูปเครื่องบินอีกรอบ

 

เดินไปเรื่อยๆครับ งงกับการยกพื้นสูงเพื่อทำทางเลื่อนมากครับ

 

พอมาถึงจุดกึ่งกลางก็จะมี Transfer Area สำหรับผู้โดยสารที่ต่อเครื่องครับ (จะมีอีกจุดนึงหลังจากข้ามฝั่งไปยังอาคารหลัก)

สำหรับผมก็เตรียมเดินออกไปฝั่งขาเข้าเพราะว่ามีญาติมารับไปพักผ่อนครับ

 

ก่อนขึ้น Sky Bridge ก็จะมีหน้าจอบอกครับว่ารับกระเป๋าสายพานไหน

[Lovely_Love]

ไปขึ้นดอยกันครับ

 

เครื่องบินจอดกันเรียงราย

 

ลงจาก Sky Bridge ก็ผ่านตม.ครับ เข้ามาเลเซียไม่ต้องกรอกใบตม.ครับ (เมื่อก่อนเคยมี)

จากนั้นมาดูว่าเที่ยวบินเราต้องรับกระเป๋าที่สายพานไหน

ส่วนกระเป๋าของผมก็จะถูก Transfer เพื่อรอเที่ยวบินกลับหาดใหญ่ครับ ซึ่งทางสายการบินจะจัดการให้

 

มารอดูครับว่าทางสายการบินใช้เวลานานมั๊ยเพื่อส่งกระเป๋ากลับคืน

 

[Lovely_Love]

KLIA2 มี 10 สายพานครับ โดยที่สายพานแรกๆจะเป็นสายพานสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศครับ

 

มีจุดจำหน่ายตั๋วรถไฟสำหรับเข้าเมืองด้วยครับ สามารถซื้อจากตรงนี้ได้เลย (ไม่รู้ว่าที่สุวรรณภูมิมีแบบนี้รึเปล่า)

 

ผู้โดยสารรอกระเป๋าค่อนข้างนานครับ แต่ก็ไม่นานเท่าที่ผมเคยเจอที่ซิดนีย์ครับ

จากนั้นก็ออกสู่ภายนอกครับ

 

ญาติผมจะมารับตอน 7 โมงเช้า ผมก็ต้องหาที่พักผ่อนสักหน่อยครับ

เลยเดินสำรวจอาคารกันหน่อยครับ

ทางเชื่อมระหว่าง Gateway@KLIA2 กับ KLIA2 จะมีจุดชมเครื่องบินครับ แต่จะเห็นเครื่องบินแค่ครึ่งนึงของ Pier J (Domestic), K/L (Domestic/International)

เจอหางแดงจอดเต็มไปหมด มี Cebu Pacific ที่ไม่เข้าพวกด้วยครับ

 

Headquarter ของ AirAsia รึเปล่า

 

[Lovely_Love]

มาเดินดูฝั่งเช็คอินครับ ซึ่งแถว V เป็นแถวสำหรับ Bag Drop ของเที่ยวบินที่บินไปประเทศไทยและอีกหลายประเทศครับ คนเยอะมากครับ (ขนาดเป็นช่วงเช้ามืดนะเนี่ย)

 

ขึ้นไปด้านบนครับ ด้านบนนี้จะมีเก้าอี้ว่างมากมายสำหรับพักผ่อนครับ เลยใช้จุดนี้นอนรอญาติครับ

 

จากนั้นญาติก็พาเข้าเมืองเพื่อไปพักผ่อนที่บ้านของเขาและพาไปกินข้าวเที่ยงครับ ก่อนจะกลับมาส่งที่สนามบิน

 

พอมาถึงสนามบินก็ต้องมาดูจอแสดงเที่ยวบินขาออก

 

แล้วก็มาดูจอแสดงเที่ยวบินขาเข้า ก็รู้ว่าเครื่องบินที่มารับเราจะมาถึงตอน 15.15

 

แอบแวะมาดูเครื่องบินสักหน่อยครับ มีหางแดงลายแปลกๆเยอะเลยครับ (ลาย Expedia)

[Lovely_Love]

ซูมไปถึง KLIA ก็เห็น Malaysia Airlines A380-800 2 ลำจอดอยู่

 

เปลี่ยนมาถ่ายอีกฝั่ง เจอลาย Asean Basketball league

 

มาดูจอแสดงเที่ยวบินขาออกขนาดใหญ่อีกรอบ (ทำให้คิดถึง Flip Board ที่ Changi T2 มากๆ)

 

ซูมหาเที่ยวบินของเราก็จะรู้ว่า Check-in แถว V เกท Q5

 

ที่นี้เราควรจะเช็คอินกับเครื่องก่อนครับ ก่อนที่จะไป Drop กระเป๋า

[Lovely_Love]

Bag Drop แถว V ครับ คนไม่เยอะเท่าไหร่

 

เข้าไปผ่านตม.กันครับ

 

หลังจากผ่านตม.ก็เจอด่านสแกนกระเป๋าครับ (ไม่รู้ว่าทำไมด่านนี้ไม่ตั้งเป็นด่านสแกนกระเป๋าและคนไปเลย ด้านในจะได้ไม่ต้องอีกด่าน)

จากนั้นก็ผ่านดง Duty Free

 

ไปขึ้น Sky Bridge กันครับ

ลำนี้เป็นลาย Skytrax รึเปล่า

[Lovely_Love]

ถ่ายไปเรื่อย

 

ซูมครับ เจอหางแดงที่เป็นเครื่องขาวทั้งลำ

 

แล้วก็เจอหางแดงลาย GE

 

หางแดงเต็มไปหมด

 

มีโมเดลเครื่องบินของแอร์เอเชียตั้งอยู่ที่ Sky Bridge ครับ

[Lovely_Love]

ด้านบนเป็นฝั่งขาเข้า สนามบินแห่งนี้ดีไซน์ได้แปลกมากครับ ผู้โดยสารขาออกอยู่ด้านล่างผู้โดยสารขาเข้าอยู่ด้านบนจนถึงอาคารหลักถึงจะกลับมาเป็นแบบทั่วไป

 

ลาย Skytrax + ลายทั่วไป + ลาย GE

 

ซูมไปถึง KLIA เห็นปลาวาฬของพี่มาเลย์จอดอยู่ลำนึง

 

แอร์เอเชียลายขาวสะอาด

 

พอมาถึงอีกฝั่งก็จะเจอ AirAsia Red Lounge ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ

 

มาเช็คเกทอีกรอบ

[Lovely_Love]

อันนี้น่าจะเป็น Hotel + Lounge

 

Malindo Air Executive Lounge ยังไม่ถูกรื้ออกไปแม้สายการบินจะย้ายกลับไปที่ KLIA แล้วก็ตาม

 

จากนั้นก็ลงดอยครับ

 

มี Movie Lounge ด้วย

 

เดินเข้าไปก็จะเห็น AirAsia X ลายพิเศษในโอกาสบินไป Australia 9 ปี (อยากนั่งลำนี้บ้าง)

 

จากนั้นก็มี AirAsia X ลายปกติจอดเรียงราย ส่วนเครื่องบินที่มาส่งเราตอนเช้าก็บินออกไปแล้ว

[Lovely_Love]

มีที่เล่นสำหรับเด็กด้วยครับ

 

มาส่องเครื่องบินอีกฝั่งบ้าง

 

มี Sport Lounge ด้วยครับ

 

ลานจอดเครื่องบินใหญ่สามารถรองรับเครื่องบิน B747-400 หรือเล็กกว่านั้น

 

ส่วนลานจอดเครื่องบินขนาดเล็กสามารถรองรับเครื่องบิน A321 หรือเล็กกว่านั้น

 

เดินไปถึงปลาย Pier Q กันเลยครับ เพื่อหาจุดบริการน้ำดื่มซึ่งมีน้อยมาก (ตั้งไว้ตรงหน้าห้องน้ำแรกแล้วก็เว้นไว้ เดินมาตรงห้องน้ำที่ 3 จึงจะเจออีกจุด)

 

เกทของเรา

[Lovely_Love]

อีกสักรูป

 

เนื่องจากด้านในเกทเราคนเยอะมาก เลยหาเกทว่างๆนั่ง โดยที่เกทนี้มีเครื่องบิน AirAsia X จอดอยู่

 

ต้องกะเวลาเองนะครับ พอถึงเวลาก็เดินไปที่เกทเราเพื่อขึ้นเครื่องบินกัน (ขึ้นเครื่องเป็นคนท้ายๆ)

 

งวงกระจกแบบนี้ ชอบมากมาย อยากให้ที่หาดใหญ่,สุวรรณภูมิมีงวงกระจกแบบนี้บ้าง

 

เจอหางแดงลาย Line

 

หางแดงทั้งนั้น

 

จากนั้นเครื่องของเราก็ Push Back แล้วก็แท็กซี่ไปที่รันเวย์ครับ

 

[Lovely_Love]

ซูม ATC ฝั่ง KLIA 

 

ลำนี้ก็สัญชาติไทยเตรียมบินกลับดอนเมืองครับ

 

Flight Details

Flight No: FD 461

Departure Time (Actual Departure Time): 15:40 (15:51)

Arrival Time (Actual Arrival Time): 16:05 (15:43)

Date: 17/11/2016

Aircraft Registration: HS-ABM

 

เจอ A320NEO ลำแรกของ AirAsia Group ด้วย

 

Seat Pitch + พี่ปอยครับ แหะๆ

 

แผงบน + โฆษณาพี่ปอย (อีกแล้ว)

 

ค้นกระเป๋าหน้าครับ

[Lovely_Love]

ยืนยันว่าเป็น A320-200

 

แอร์ก็มาเดินแจกอาหารสำหรับคนที่จองล่วงหน้า จากนั้นก็ขายอาหารต่อ

ได้รับแซนวิช + น้ำเปล่า

 

จากนั้นไม่นานก็ลงจอดที่สนามบินหาดใหญ่ครับ นับเป็นเที่ยวบินที่สั้นมาก

ลงมาก็เจอหางแดงลายคาราบาว

 

Thai Lion Air B737-800

 

Thai Smile A320-200

 

เครื่องของเราก็แท็กซี่ไปจอดที่เกทที่ 4 ครับ

 

ซูมหางแดงลายคาราบาว

[Lovely_Love]

มาจอดข้างๆ Thai Smile

 

พึ่งเคยเห็นรถเติมน้ำมันเครื่องบินที่สนามบินหาดใหญ่

 

ขอบคุณที่มาส่งนะ

 

จากนั้นก็เดินลงบันไดไปชั้น 1 ครับ (วันนั้นบันไดเลื่อนไม่เปิดใช้งาน)

ลงมาถึงก็ผ่านตม.อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีผู้โดยสารชาวไทยน้อยมาก (บนเครื่องบินมีทั้งชาวจีน+มาเลเซีย+แขก ไฟร์ทนี้ค่อนข้างจะวุ่นวายครับ แอร์ต้องประกาศเป็นภาษาจีนบ่อยๆ)

แล้วก็มารับกระเป๋า

 

เป็นอันจบรีวิวครับ

โดยส่วนตัวคิดว่า AirAsia X เบาะแคบไปครับ ถ้าจะบินไฟร์ทกลางคืนกับสายการบินนี้อีกก็ต้องคิดหนักแล้วครับ

ส่วนไทยแอร์เอเชียก็ทำได้ดีตามมาตรฐานที่เคยนั่งครับ

เดือนนี้ผมจะเดินทางกับ Emirates EK 384 + EK 385   BKK - HKG - BKK

เดี๊ยวจะมารีวิวให้ครับ

ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ขอบคุณที่ติดตามชมครับ