72 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

ลองของใหม่เอี่ยม!! บินไฟลท์แรกกับ Airbus A320neo ลำแรกของไทยแอร์เอเชีย

เรื่องและภาพ JK..LSKY

 

 

กลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย ถือเป็นหนึ่งในลูกค้าเครื่องบินตระกูลทางเดินเดี่ยว เอ320 รายใหญ่ทึ่สุดของแอร์บัส โดยมียอดสั่งเครื่องบิน เอ320 ถึงจำนวน 575 ลำในจำนวนนี้ได้ส่งมอบไปแล้วเป็น เอ320ซีโอ หรือรุ่นเครื่องยนต์ปัจจุบัน (A320ceo - current engine option) จำนวน 171 ลำ และอีกจำนวน 404 ลำนั้นเป็นตระกูล เอ320นีโอ (A320neo - new engine option)หรือเอ320 รุ่นใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์แบบใหม่ซึ่งมีการออกแบบใหม่ให้ประหยัดพลังงานลงได้มาก

กลุ่มแอร์เอเชียก็ถือเป็นสายการบินแรกในเอเชียแปซิฟิคที่เป็นผู้ปฏิบัติการด้วยเครื่องบินแบบ เอ320นีโอ ซึ่ง เอ320นีโอลำแรกของแอร์เอเชียได้ส่งมอบให้กับ แอร์เอเชีย มาเลเซีย เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา และทีมข่าว HFLIGHT ก็ได้รายงานข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว

สำหรับประเทศไทยนั้น ไทยแอร์เอเชีย นั้นก็รับมอบ เอ320นีโอลำแรก ตามมาติด ๆ โดยเครื่องบิน เอ320นีโอลำแรกของไทยแอร์เอเชีย นั้นจดทะเบียน HS-BBX ได้มีเที่ยวบินส่งมอบจากโรงงานแอร์บัสที่ตูลุส มาถึงท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่าน และเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2559 นี้เองเครื่องบินลำนี้ ซึ่งถือเป็นเครื่องบิน เอ320 ลำที่ 50 ของฝูงบินไทยแอร์เอเชียด้วยนั้น ก็ได้ออกทำการบินเที่ยวบินพาณิชย์เที่ยวบินแรกแล้ว ถือเป็นเอ320นีโอลำแรกของไทยแอร์เอเชีย และของประเทศไทยที่ได้ให้บริการแก่ผู้โดยสาร

ทีมข่าวHFLIGHT เองมีโอกาสเดินทางในเที่ยวบินแรกที่เครื่องบินลำนี้ให้บริการ นั่นก็คือ FD3443 จากดอนเมือง สู่เชียงใหม่ ตามไปชมกันและทำความรู้จัก กับ เอ320นีโอกันครับ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เริ่มต้นการเดินทางกันเลย FD3443 ของเราจากดอนเมืองไปเชียงใหม่นั้น มีกำหนดออกเดินทางเวลา 08.20 น. โดยจะไปถึงเชียงใหม่ตอน 09.40 น.

เราก็มาถึงสนามบินกันตั้งแต่ประมาณ 6 โมงเศษ ๆ ที่เคาเตอร์สนามบินคนไม่เยอะเท่าไรในเวลานี้แล้ว แต่ว่าเพื่อความรวดเร็วขึ้นไปอีก ก็เดินไปใช้บริการตู้เช็คอินด้วยตนเอง (Kiosk Check-in) กด ๆ จิ้ม ๆ ข้อมูลลงไป ก็ได้บอร์ดดิงพาสมาเรียบร้อยก็มุ่งตรงไปยังห้องผู้โดยสารขาออก ไปผ่านด่าน X-Ray ได้เลย

Attached Thumbnails

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

วันนี้เราใช้ Gate 74 ในการเดินทางกับเที่ยวบิน FD3443

แต่ว่าเราขอเดินเลยทางลง Gate 71-78 ซึ่งเป็นบัสเกทด้านล่างไปก่อน เพราะว่า เราจะขอพาไปลองใช้บริการ The Coral Executive Lounge ซึ่งเป็นบริการห้องรับรองพิเศษที่สนามบินดอนเมืองกันก่อน (ที่รีบมาสนามบิน รีบเช็คอินอย่างรวดเร็วก็เพราะแบบนี้แหละ จะได้มีเวลาเข้าเลาจน์นาน ๆ ไง)

โดย The Coral Executive Lounge นั้นอยู่ระหว่างทางเดินจาก Pier 4 ไป Pier 5 ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาทีจากจุดตรวจสัมภาระที่ทางเข้าห้องผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ถึงแล้ว The Coral Executive Lounge ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง

ห้องรับรองพิเศษนี้ ผู้ถือบัตร Priority Pass สามารถใช้บริการได้นะ ไม่ว่าจะบินด้วยสายการบินอะไร เป็นอีกหนึ่งบริการที่มีในสนามบินดอนเมือง หลายคนอาจคิดว่าดอนเมืองเป็นสนามบินโลวคอสต์ ไม่ค่อยมีบริการมีอะไรเท่าสุวรรณภูมิ แต่ว่าตอนนี้มีเลาจน์แล้ว บิน Low Cost ก็มานั่งพักผ่อนใช้บริการกันให้สบายก่อนบินได้

สำหรับผู้โดยสารที่ไม่ได้เป็นสมาชิก Priority Pass หรือว่าบัตรอื่น ๆ ที่จะเข้าใช้บริการได้ ก็สามารถจ่ายเงินเป็นรายครั้งเพื่อเข้าใช้บริการได้เช่นกัน โดยอัตราปรกติ อยู่ที่ 1,000 บาท แต่ว่าตอนนี้ทางเลาจน์ก็มีโปรโมชันกับพันธมิตรอื่น ๆ เช่น ถ้ามี Baggage Tag ของ AirAsia มาแสดง ลดค่าใช้บริการ 30% เป็นผู้ใช้ AIS ใช้พอยท์แลกใช้บริการฟรี (250 พอยท์) หรือหากพอยท์ไม่พอ ก็กดโค้ดรับส่วนลด 30 เปอร์เซ็นต์ หรือถ้าเป็น AIS Serenade สามารถใช้บริการได้ในราคาเพียง 350 บาท จากปรกติ 1000 บาท เป็นต้น

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ในเลาจน์ก็จะมีบริการอาหาร ทั้งอาหารหนัก ๆ เป็นข้าว สปาเก็ตตี้ อาหารร้อน หรืออาหารว่างพวกแซนด์วิช ขนม สลัด เบเกอรี่ คุ้กกี้ ของหวาน ฯลฯ แล้วก็เครื่องดื่มทั้งร้อนเย็น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชา กาแฟ ชานี่มีซุ้มของ Twinings เลยนะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แล้วก็มีพื้นที่ให้นั่งพักสบาย ๆ มีทั้งแบบโซฟา แบบเก้าอี้นวม มีแบบโต๊ะรับประทานอาหาร แล้วก็มีบริการฟรีไวไฟ มีบริการนวดไทย 15 นาที (ศีรษะ คอ บ่า ไหล่) และมีห้องน้ำในเลาจน์ด้วยนะครับ

เอาเป็นว่ารีวิวนี้เป็นรีวิวเครื่องบินใหม่ ให้ชมเลาจน์แบบนิด ๆ หน่อย ๆ ก่อนเดี๋ยวเราขอทำรีวิวเลาจน์แยกต่างหากอีกทีนะครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

มัวเพลิดเพลินในเลาจน์นานไปจะไม่ดี เดี๋ยวจะตกเครื่อง อดบินเครื่องบินใหม่ ก็เลยเดินออกเลี้ยวกลับมาทาง Bus Gate 71-78 เดินลงไปทางนี้ ลงไปถึงได้ไม่นานก็เริ่มมีการเรียกขึ้นเครื่องเที่ยวบินของเราพอดี FD3443 จากดอนเมืองสู่เชียงใหม่

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ขึ้นรถบัส จากเกท 74 แล้วรถของเราก็ค่อย ๆ พาวิ่งมายังลานจอดเครื่องบินทางทิศเหนือของสนามบิน ทำให้เราสังเกตเห็น Airbus A320neo ลำใหม่ป้ายแดงของไทยแอร์เอเชีย จอดแฝงตัวอยู่ท่ามกลางฝูงบินมากมายของสายการบิน

แต่ว่าจะมีจุดสังเกตนะ นอกจากทะเบียน HS-BBX ที่ใช้บอกว่าลำนี้คือเครื่องบินลำล่าสุดที่เป็น เอ320นีโอแล้ว ยังจะมีลายพิเศษที่เขียนว่า A320NEO ติดไว้ที่ลำตัวเครื่องบินด้านท้ายด้วย

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

รถบัสก็พาผู้โดยสารของ FD3343 มาส่งที่หน้าเครื่อง Airbus A320neo ลำนี้ HS-BBX จริง ๆ ด้วยไม่ผิดเพี้ยน

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สำหรับ Airbus A320neo หรือ New Engine Option ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามีความพิเศษคือเป็นทางเลือกรุ่นเครื่องบินในตระกูล เอ320 ที่จะใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่แทนเครื่องยนต์แบบเดิม ผสานไปกับการใช้ปลายปีแบบชาร์กเล็ท(ซึ่งแอร์บัสได้เปิดตัวและนำไปติดตั้งไว้บนเครื่องบินไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว)

โดยเครื่องยนต์รุ่นใหม่ นั้นก็คือเทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงได้ดีขึ้น จาก เอ320รุ่นแรก ๆและรุ่นเครื่องยนต์ปัจจุบัน (A320ceo) โดยเครื่องยนต์จะมีขนาดใหญ่ขึ้น(แต่มีประสิทธิภาพดีกว่า ใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่า)

ปัจจุบันมีเครื่องยนต์สองรุ่นที่สายการบินสามารถเลือกใช้ได้บนตระกูล เอ320นีโอ ได้แก่ CFM International LEAP-1A หรือ Pratt & Whitney PW1100G ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของใบพัด 78 นิ้วและ 81 นิ้วตามลำดับ

เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เดิมของตระกูล เอ320 ได้แก่ CFM International CFM56-5B มีขนาด 68.3 นิ้ว (1.73 m) หรือ IAE V2500A5 มีขนาด 63.5 นิ้ว

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สำหรับฝูงบิน เอ320นีโอของกลุ่มแอร์เอเชียนั้น เลือกใช้เครื่องยนต์ CFM International Leap-1A หน้าตาก็เป็นดังภาพ หากสังเกตเทียบกับลำอื่น ๆ ในฝูงของแอร์เอเชียจะพบว่าเครื่องยนต์ของ เอ320นีโอ ขนาดใหญ่กว่า

ด้วยประสิทธิภาพเครื่องยนต์ใหม่นี้ทำให้เครื่องบินอัตราการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงถึง ร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับ เอ320 รุ่นเดิม (แต่แอร์บัสมีเป้าหมายว่าจะพัฒนาให้ลดลงได้ถึงร้อยละ 20 ภายในปี 2020) หรือมีพิสัยการบินเพิ่มขึ้นจากพิสัยตามระวางปรกติ (Typical Payload)6100 ก.ม. เป็น 6500 ก.ม.

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

นอกเหนือจากเครื่องยนต์ใหม่(และปลายปีกชาร์กเล็ท)แล้ว สิ่งที่มาพร้อมกับ เอ320นีโอ ของไทยแอร์เอเชียลำนี้ก็คือ ที่นั่งในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้นจาก 180 ที่นั่งเป็น 186 ที่นั่ง ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้วิธีการจัดห้องโดยสารแบบใหม่ที่นำเสนอโดยแอร์บัส เรียกว่า Airbus Space-Flex

ซึ่งปรับตำแหน่งห้องน้ำและครัวท้ายเครื่องใหม่ ทำให้มีพื้นที่เหลือในการใส่ที่นั่งเพิ่มขึ้น สายการบินก็เลยสามารถใส่ที่นั่งเพิ่มขึ้นได้อีก 1 แถว โดยไม่ต้องลดระยะห่างระหว่างแถว(Pitch)ลง

อย่างไรก็ตามการจัดห้องโดยสารแบบ Airbus Space-Flex นี้ไม่จำเป็นต้องใช้กับห้องโดยสารบน เอ320นีโอเท่านั้น เครื่องบินเอ320ซีโอหรือที่ใช้ในปัจจุบันก็สามารถนำไปปรับห้องโดยสารโดยใช้ Airbus Spece-Flex ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายสายการบินนำการจัดห้องโดยสารแบบนี้ไปใช้กับเครื่องบินเอ320ซีโอบ้างแล้ว เช่น กลุ่มลุฟท์ฮันซา สายการบินอีซี่เจ็ท เป็นต้น

และสำหรับความจุที่นั่งสูงสุดที่ทางแอร์บัสได้ยื่นให้หน่วยงานกำกับดูแลด้านการบิน(EASA)รับรองให้ติดตั้งบน เอ320นีโอได้นั้นคือ 195 ที่นั่ง ดังนั้นแล้ว ความจุ 186 ที่นั่งของกลุ่มแอร์เอเชียนี่ก็ยังถือว่าไม่ได้ถึงขั้นเต็มพิกัดที่ห้องโดยสารจะจุได้

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

มานั่งประจำที่ (แถวที่ 15) เตรียมตัวออกเดินทาง หลังจากรอผู้โดยสารให้ขึ้นเครื่องจนครบ ตอนนี้เติมน้ำมันอยู่สัญญาณรัดเข็มขัดเลยยังไม่ติดครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ได้เวลาออกเดินทางเครื่องบินถูกดันถอยจากหลุมไปบน taxiway ก่อนที่รถดันและพนักงานภาคพื้นจะส่งสัญญาณว่าเรียบร้อยพร้อมออกเดินทาง

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แทกซี่ไปยันรันเวย์ครับ ระหว่างทางก็ผ่านบรรดาเพื่อน ๆ ร่วมสายการบินที่เป็น เอ320ซีโอ รุ่นเดิม

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แล้วเราก็บินขึ้นจากดอนเมืองมุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ ด้วยพลังของเครื่องยนต์ CFM Leap-1A

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เลี้ยวโค้งผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ขึ้นเหนือ

ไม่นานนักสัญญาณรัดเข็มขัดก็ดับลง

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แต่ว่าเที่ยวบินนี้เรานั่งติดหน้าต่าง แล้วมีผู้โดยสารนั่งข้าง ๆ ทั้งสองที่นั่งเลย เลยลุกไปถ่ายที่นั่งแถวที่ 32 ที่เพิ่มมากับห้องน้ำและครัวด้านหลังแบบใหม่ไม่สะดวก เดี๋ยวรอเครื่องลงจะขอเดินไปถ่ายมาให้อีกทีนะครับ

ตอนนี้ดู Safety Card ไปก่อน ยืนยันว่าวันนี้เราอยู่บนเครื่อง A320neo

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ลูกเรือเดินให้บริการ อาหาร Pre-book ก่อน ก่อนจะเริ่มขายอาหาร ว่าจะลองกินของหวานจานใหม่เป็น เป็น Chocolate Ball กับ Rasberry Sauce ไส้เค้กเนย ดูน่ากินดี แต่ว่าบนเที่ยวบินนี้ไม่มีเลยอด นั่งจ๋อยดูปีกเครื่องบินไปพลางแทนละกัน

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

บินแค่ชั่วโมงเดียว ไม่นานนักเครื่องก็ลดระดับเตรียมลงที่สนามบินเชียงใหม่ ที่เห็นเส้นขาว ๆ ไหลจากข้างเครื่องยนต์ มาเหนือปีกนั้นไม่ใช่ลูกเล่นของเครื่องยนต์ใหม่แต่อย่างใด แต่เป็นกระแสอากาศที่ไหลจากด้านหน้าและด้านใต้ของปีกผ่านไปยังด้านเหนือของปี ที่เรามองเห็นการไหลของมันเพราะมีความชื้นหรือละอองน้ำแล้วควบแน่นจนเรามองเห็นด้วยตาได้พอดี เครื่องบินลำอื่นก็มองเห็นได้ถ้าสภาวะอากาศในขณะนั้นมีความชื้นและอุณหภูมิพอเหมาะนะ ลองสังเกตกันดู

Attached Thumbnails

• 
• 
•