55 replies to this topic

[แมวเหม็น]

Advertisements

สวัสดีครับ วันนี้ จขกท. ขออนุญาต มารีวิว Malaysia Airlines ไปญี่ปุ่น กันครับ

Attached Thumbnails

• 

[แมวเหม็น]

ตอนที่รู้ตัวว่าจะต้องเดินทางเลยลองหาข้อมูลดูว่าสายการบินไหนน่าสนใจบ้าง เพราะโจทย์ของ จขกท.
คือ ไม่ชอบบินกลางคืน นอนแป๊บเดียว แล้วถึงเช้าที่นู่นแล้วออกลุยต่อ
แต่ครั้น ถ้าจะบินตรงแต่ Flight เช้า ต้องมาสนามบินแต่ไก่โห่ ก็ ... ไม่ใช่แนว จขกท. อยู่ดี
ทีเเรกเลยเล็งไปที่ SQ หรือ Singapore Airlines เพราะมีโปรไปกลับ 15,xxx THB แต่แทบไม่ได้ Mile สำหรับ Economy Class ของ Singapore Airlines
เลยลองเทียบเคียงกับ Malaysia Airlines ดู พบว่าเอ๊ะ เพิ่มเงินอีกนิดในราคาที่รับได้ แต่ได้บิน Business Class นะ
แถมได้ไมล์กับ Enrich ของ Malaysia Airlines แบบเต็มๆ ว่าแล้วก็ไม่รอช้าเช็คราคาปุ๊บ เห็นราคาแบบนี้ 24,xxx THB ออกตั๋วทันทีแบบไม่คิด

 

[แมวเหม็น]

แต่ ... จนมาถึงขั้นตอนการเลือกที่นั่ง จขกท. มาเอะใจผังที่นั่ง (สำหรับ Business Class เลือกที่นั่งฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย) ว่าทำไมเป็นเบาะเดี่ยว เลยพักหน้าจอไปลองหาข้อมูลมา พบว่า Malaysia Airlines ได้มีการเปิดตัว New Business Class ใหม่ มีเพียง 27 ที่นั่ง เก๋ไก๋ จริงๆ

 

[แมวเหม็น]

ซึ่งก็พบว่า เที่ยวบินของ จขกท. MH070 วันที่ จขกท. เดินทาง ได้ Business Class ตัวใหม่เรียบร้อยแล้ว

 

[แมวเหม็น]

แต่เดี๋ยวก่อน  ***ช่วงนี้มีสาระ***  หากใครเดินทางคนเดียว แล้วอยากมี Space เพิ่มขึ้น จขกท. ขอแนะนำให้ท่านเลือกที่นั่ง 4K และ 6K ไม่แนะนำให้นั่ง 1K เพราะอยู่ด้านหน้าสุด ลูกเรือจะทำงานที่ครัวด้านหน้า และ มีคนเดินเปิดผ้าม่านเข้าออกตลอดเวลา ดังนั้นท่านอาจจะถูกรบกวนขณะพักผ่อนได้ครับ 


 

เอาละครับ .... ดึงเช็งกันมาเยอะแล้ว งั้นเรามาเริ่มเดินทางกันเลยดีกว่า จขกท. มาจาก พิษณุโลก แต่ ... Flight จากพิษณุโลก มี AirAsia 09.30 ตอนเช้า และ เที่ยวค่ำ 19.05 น. ส่วน NOK AIR มีให้เลือก 2 เที่ยว คือ 08.00 น. และ 15.05 น. ซึ่ง .... หากมาตอนเช้า  OMG!! มาเตร็ดเตร่แต่เช้า แลดูจะไม่งาม หากจะเลือก NOK AIR Flight DD8407 ตอน 15.05 น. ก็ไม่มีอะไรจะรับประกันอีกว่าจะไม่มี accident เกิดขึ้น เพราะ จขกท. ต้องต่อรถจากดอนเมืองมาสุวรรณภูมิอีก 

ดังนั้น จขกท. จึง ปิ๊งไอเดีย ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในมือให้เป็นประโยชน์ ไหว้วานคุณผู้ชายที่บ้านขับรถไปส่งที่สนามบินสุโขทัยแล้วกัน ขึ้นจากสุโขทัย ไปยัง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเลยแล้วกัน กับ Bangkok Airways ครับ แต่ก่อนอื่นหากมีเวลา หรือ check in เสร็จ จขกท. ขอแนะนำให้แวะทานก๋วยเตี๋ยวลานบิน ในสนามบินสุโขทัยก่อนแล้วกันนะครับ ส้มตำก็ดี คอหมูย่างก็อร่อย ... หอม อร่อย ร้อนๆ ในราคาย่อมเยาว์

 

[แมวเหม็น]

อ้อ ลืมบอกไป ในสนามบินมีสวนสัตว์ และ พวกศูนย์ศึกษาการเกษตร แนวเกษตรอินทรีย์ ด้วยนะครับ ถ้าใครสนใจ ถึงจะไม่ได้มาขึ้นเครื่องบิน ก็สามารถเข้ามาเที่ยวชมในท่าอากาศยานสุโขทัยได้ครับ เสาร์ อาทิตย์ มีคนมาเที่ยวกันพอสมควรเลยล่ะ 

อิ่มเสร็จ เราก็ออกเดินทาง สุโขทัย - กรุงเทพฯ Flight PG210 เวลา 15.15 น. ใช้เวลาบินเพียง 1 ชั่วโมง นิดๆ กำหนดถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 16.20 น. แหม วันนั้นโชคดี ตรงเวลา บินไปกับ ATR พาเพลิน 

 

 

[แมวเหม็น]

บนเที่ยวบิน ณ ตอนบ่ายสาม Bangkok Airways บริการท่านด้วย ข้าวเหนียวเป็ดย่าง

 

 

[แมวเหม็น]

ทานอิ่มๆ นั่งชมวิวแป๊บเดียว .... Bangkok Airways ก็ได้นำท่านมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

 

[แมวเหม็น]

เนื่องจากตั๋วซื้อแบบแยก Bangkok Airways กับ Malaysia Airlines ณ ท่าอากาศยานสุโขทัยไม่มีศุลกากรรวมถึงตรวจคนเข้าเมือง
ดังนั้น เมื่อถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เราต้องเดินออกมารับกระเป๋า และ ขึ้นไปชั้น 4 เพื่อไปเช็คอิน Malaysia Airlines ตามปกติ 

 

[แมวเหม็น]

หลังจากนั้นก็ผ่าน ตรวจคนเข้าเมืองตามปกติผ่านช่องทางพิเศษ แล้วก็พุ่งไปยังเลาจน์ ...
จริงๆ เลาจน์ Malaysia Airlines ให้ไปใช้คือเลาจน์ CIP ซึ่ง ..
ในความเห็น จขกท. ที่เคยได้สัมผัสมา คิดว่ามันก็ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ OK เท่าไหร่ ดังนั้น
จขกท. เลยเดินไปใช้เลาจน์ของ Cathay Pacific ครับ เนื่องจาก Malaysia Airlines เป็นแกงค์ OneWorld
ดังนั้น เราสามารถใช้เลาจน์ด้วยกันได้ครับ
เลาจน์ Cathay Pacific ที่นี่ดำเนินการโดย Plaza Platinum นะครับ 

 

 

 

 

 

 

[แมวเหม็น]

แต่ ... เนื่องจาก Flight จขกท. ออกตั้งเกือบ 2 ทุ่ม แต่ว่า เลาจน์ของ Cathay Pacific ปิดให้บริการราวๆ หกโมงกว่า
( ณ ตอนที่ จขกท. โดนเชิญให้ออกมาเนื่องจากจะปิดให้บริการประมาณ 18.15 น.) ก็เลย ไหนๆ ก็ไหนๆ ไปนั่งรอขำๆ ในเลาจน์ CIP ก็ได้ ... ครับ 
แนะนำอีกนิด ส่วนใหญ่ Malaysia Airlines มักจะจอดแถวๆ gate F H G ระแวกๆ นี้ สำหรับเลาจน์ CIP ที่คิดว่าโอเคที่สุดคือเลาจน์ใหญ่ อยู่แถวๆ gate G2 นะครับ 

 

 

 

 
ซึ่ง .... มันไม่ค่อยมีอะไรเลยจริงๆ 
จขกท. เลยแค่กดน้ำส้ม กับ ชิมแยมโรล 1 ชิ้น ซึ่งรสชาติ ก็ ... ธรรมดาๆ

 

[แมวเหม็น]

นั่งเล่น อยู่พักใหญ่ๆ เบื่อมาก คนพลุกพล่าน ส่วนใหญ่มีแต่แขก เนื่องจาก Flight แขกออกเวลาไล่ๆ กัน ใกล้เวลาแล้วก็เดินไปรอที่ gate ดีกว่า 

 

สำหรับชั้นธุรกิจบอร์ดดิ้งเป็นคนแรกๆ ครับ เชิญเลยๆ 

 

 
บริการผ้าร้อน 

 

 
และ เครื่องดื่มต้อนรับ ... แน่นอนครับ เครื่องดื่มแนะนำ Malaysia Airlines คือ น้ำฝรั่งสีชมพู 

 

[แมวเหม็น]

ระะหว่างบอร์ดดิ้งก็เปิดดูเมนูไปพลางๆ Flight สั้นๆ อย่าง กรงเทพฯ - กัวลาลัมเปอร์ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมาก พร้อมกับ เครื่องดื่มให้เลือก ในการบริการลูกเรือจะยังไม่ได้ มารับออเดอร์ในทันทีนะครับ จะออกมาเป็นรถเข็นพร้อมกับบริการทีเดียวเลย
แอบแนะนำนิดนึง เครื่องดื่ม Signature Drink ของ MH หรือ Malaysia Airlines อีกอย่างนึงคือ ชาชักร้อนๆ ครับ ในเมนูจะเขียนว่า Teh Tarik
เวลาออเดอร์กับลูกเรือ บอกว่า (ขออนุญาตสะกดแบบบ้านๆ เพื่อให้อ่านง่ายๆ)  เต - ท่าา .. ริ๊ค ครับ 

 

 

[แมวเหม็น]

และก่อนออกเดินทางมีการเปิด VDO สาธิตความปลอดภัย 

 

 

 

หรือ ใครสนใจ สามารถลองดูได้จาก VDO นี้ครับ 

 

[แมวเหม็น]

หลังจาก Take Off ได้ซักพักลูกเรือก็เริ่มบริการอาหารครับ สำหรับการบริการลูกเรือจะออกรถเข็นมาเลย พร้อมกับให้เราเลือกครับ ว่าอยากทานอะไร 

จขกท. ยังอิ่มมาจากเลาจน์ Cathay เลยเลือกเมนู Seafood และ เครื่องดื่มแค่ Sparking Water + เลม่อนฝาน 1 ชิ้น 

 

 

ส่วน Flight สั้นๆ กว่าจะทานเสร็จ เนื่องจาก จขกท. เคี้ยวเอื้อง -*- จริงๆ บน 737-800 ลำนี้ มี IFE ด้วย ก็เลย ไม่ทันได้เล่นอะไร 

 

 
ช่วงลดระดับใกล้ถึงผ่านตึกแฝดด้วยนะ

 

[แมวเหม็น]

เพียง 1 ชั่วโมง 55 นาที MH781 ก็มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ สำหรับ Malaysia Airlines ใช้ที่ KLIA นะครับ 

 

 
เอิ่มมม ... โดยปกติ ส่วนใหญ่ Flight ที่ใช้เครื่อง Boeing 737-800 จะใช้ Main Terminal แล้วเดินสวยๆ ไปผ่าน ตม. หรือ หากต่อเครื่องใน Regional ที่ใช้เครื่อง Boeing 737-800 บิน สามารถเดินเปลี่ยนเครื่องได้เลย ไม่ต้องต่อรถไฟให้วุ่นวาย

 

 

แต่ ... วันนั้นเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ทราบ เครื่องของ จขกท. จอดที่ Satellite  
 
ปล. จขกท. ชอบเสียง ปิ้งๆๆๆ ก่อนประกาศที่สนามบิน KLIA นะ ฟังแล้ว ใสๆ อิอิ เก๋ดี

 

[แมวเหม็น]

จริงๆ หากจะบินต่อไปญี่ปุ่นใคืนนั้นเลยก็ย่อมได้ครับ แต่ จขกท. ไม่ปลื้ม กับการนอนแบบไม่อิ่ม แล้วถึงเช้าตรู่ ฝ่าฟันผู้คนเข้าเมืองอีก จขกท.เลยเลือกอีกแบบ คือ แวะพักนอนที่ KL 1 คืน Flight จขกท. ที่จะบินต่อไปญี่ปุ่น เป็นเช้าวันรุ่งขึ้น ดังนั้นจึงขอออกไปนอนโรงแรมเองด้านนอกครับ ก็รับกระเป๋า และ ผ่าน ตม. ตามปกติ 

 

 
สำหรับโรงแรม ทางสายการบินไม่มีให้นะครับต้องจัดหาเอง โรงแรมในสนามบินที่แบบไม่ลำบากนักหลักๆ มีอยู่ 3-4 เจ้าครับ จขกท. ขอยกตัวอย่างบางอันแล้วกันครับ ได้แก่ 

1. Sama Sama Transit Hotel อันนั้น คือ นอนที่  Satellite  เลยครับ ไม่ต้องผ่าน ตม. โรงแรมจะอยู่แถวๆ gate C5 ชั้นบน หากนอนเกิน 6 ชม. ท่านจะพบกับราคาที่อลังการ 

2. Sama Sama คุ้นๆ ว่าเดิมคือ Pan Pacific Hotel อันนั้นราคาอลังการสุด วันที่ จขกท. ไป คือ ตกคืนละ 3,8xx THB 
3. Tune Hotel KLIA 2 อันนี้ต้องแอบงก แบบ จขกท. อิอิ และต้องต่อรถไฟ ลากกระเป๋าไปยัง KLIA 2 เพราะมีห้องเป็นสัดส่วน และ ราคา เบาๆ วันที่ จขกท. จองไป คือ คืนละ 1500 THB โดยประมาณครับ และ ได้แต้ม Big Point อั้ยย่ะ!! 
 
และ 4 สุดท้าย คือ The Container Hotel อันนี้ออกแนวๆ โรงแรมแบบแคปซูล ครับ ราคาเพียงแค่ 1,000 บาท/คืน

 

เอาล่ะ ... อย่างที่บอก จขกท. เลือก Tune Hotel KLIA2 ดังนั้น เราต้องลำบากนิดหน่อย คือ ขึ้นรถไฟไป 1 สถานี ในราคา 2RM ใช้เวลาเพียงแค่ 2 นาที แต่อีตอนรอรถนี่สิคุณ!!! รถมันไม่ได้มาตลอด สำหรับคนที่ต่อเครื่องข้าม Terminal อาจพังได้ เพราะ ตม. คนเยอะ และ กว่าจะมารอรถไฟ 

 

[แมวเหม็น]

โรงแรม Tune Hotel KLIA2 ออกจากรถไฟ เลี้ยวขวา ลงมาข้างล่าง แล้วเดินตามป้ายไปเรื่อยๆ ไม่ยากครับ หากใครสงสัย หรือ มึนๆ งงๆ แนะนำ ถามที่เคาว์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ด้านหน้า gate ได้เลยครับ 

 

 

เข็นกระเป๋ามาเรื่อยๆ 

 

 

และ .... เมื่อมาถึงจุดเช็คอิน ก็ต้องอ้าปากค้าง คุณพระ!!! 

 

เดินทางมาเหนื่อย จะเที่ยงคืนแล้ว อยากเข้าห้องจะแย่ ตายแล้วววววว คิวช่างยาวอะไรเช่นนี้ ตายๆๆๆๆ ต่อคิวยังกับรับกุญแจห้องพักฟรี ณ จุดนี้ นึกแว๊บขึ้นมาในหัวทันที ไม่น่างกเลย เหนื่อยแล้ว ณ จุดนั้น จขกท. อยากเพิ่มตัง 1500 มากกก ได้นอน Sama Sama Hotel ออก ตม. รับกระเป็าปุ๊บ มีรถกอล์ฟมารับสวยๆ เลยนะคุณ

 

[แมวเหม็น]

ทีแรกนึกว่าจะต้องยืนขาเเข็ง แต่ .. ปรากฎว่าทำงานกันไวดีครับ ยืนแค่ประมาณ 5-10 นาที ก็ถึงคิวเช็คอิน 

 

 

ห้องเบอร์สวย (มั้ง) แบบเข้าข้างตัวเอง 555+ 

 

 

สภาพห้อง โอเค ดูดี สมราคา 1,500 บาท รู้สึกว่าจะเกินความคาดหวัง มีผ้าเช็ดตัว แอร์ อุปกรณ์อาบน้ำ และ ทีวีพร้อม 

 

 

 

ห้องน้ำก็ดูดี มีแยกส่วนเปียก ส่วนแห้ง 

 

[แมวเหม็น]

ข้อควรระวังอีกข้อ โปรดอย่าหลงระเริงว่าได้นอนแค่คืนละ 1500 THB คือ!! 

ขีดเส้นใต้ตัวหนาๆ .... Tune Hotel KLIA2 ไม่มีบริการโทรปลุก!! 

เนื่องจากไม่มีบริการโทรศัพท์ในห้อง ดังนั้น ดูแลตัวเองนะจ๊ะ ผู้เดินทางทั้งหลาย จขกท. Flight ต่อไป เวลา 10.50 น. 
เลยตื่น 07.15 (06.15 บ้านเรา)  check out และ เริ่มออกเดินทางจากโรงแรมเวลา 08.00 น. 

ปล. ตอน Check out เพียงแค่ คืนคีย์การ์ด เป็นอันจบพิธี แล้วก็เช่นเคย ต่อรถไฟกลับไปยัง KLIA Main Terminal ใช้เวลาเพียงแค่ 2 นาที แต่ตอนรอรถนี่สิคุณ พังๆๆ 2 RM จ่ายไป สวยๆ