281 replies to this topic

[Silentnight4148]

Advertisements

ที่บริเวณนี้มีก้อนน้ำแข็งลอยอยู่มากมายทำให้ผมนึกถึง Jökulsárlón ของ Iceland เลยครับ ไม่เหมือนซะทีเดียวแต่ก็คล้ายๆกันครับ

 

อากาศก็ครึ้มๆอีกแล้วครับ เอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆครับกับทวีปนี้

 

[Silentnight4148]

หลังจากลง Zodiac แล้วก็ตะลุยทะเลน้ำแข็ง

 

[Silentnight4148]

แถมมีหาดเล็กๆเหมือน Jökulsárlón ย่อส่วนลงมาเลย (ทรายไม่เป็นสีดำเหมือนที่นู่น) แต่ที่นี่มีชีวิตชีวากว่ามากเพราะเจ้าพวก ที่นี่มี Gentoo Penguin เหล่านี้

 

[Silentnight4148]

บางก็รวมตัวกันลงไปแช่น้ำ

 

[Silentnight4148]

เดินเล่นอวดโฉมริมชายทะเลอย่างสบายใจ

 

[Silentnight4148]

มาดูเจ้าสามตัวนี้บนฝั่งบ้าง 

 

[Silentnight4148]

ตามโปรแกรมต่อไปก็ คือ ล่องเรือไปตาม Wilhemina Bay ซึ่งเป็นอ่าวที่ล้อมรอบด้วยภูเขาไฟสีดำแล้วปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลน ช่วงนี้ก็ Cruising ก็ชมวิวไปเรื่อยๆ

 

[Silentnight4148]

ภูเขาคล้ายๆครีบฉลามล่องไปตามสายเมฆ

 

[Silentnight4148]

ระหว่างนี้ก็มีไอศกรีมมาเปิดบริการที่บริเวณหัวเรือด้วย

 

[Silentnight4148]

ไอศกรีมบนขอบเรือ กินไปดูวิวไป ไอติมไม่ละลาย ฟินครับ

 

[Silentnight4148]

ช่วงจากนี้ไปผมต้องออกจาก Antarctica Mainland แล้วครับ

 

[Silentnight4148]

ยามเย็นก็ชมพระอาทิตย์ส่งแสงสีส้ม

 

[Silentnight4148]

ก้อนน้ำแข็งเวลากระทบกับแสงอาทิตย์อัสดง ดูเหงาๆชอบกล นี่ผมต้องกลับแล้วเหรอนี่

 

[Silentnight4148]

มีเจ้า Humpback Whales โผล่มากล่าวซาโยนาระด้วยครับ นี่แหละครับเสน่ห์ของ Antarctica ที่ผมไม่มีวันลืมเลย 

 

[Silentnight4148]

ที่ Pub ก็มีการเต้นกันสนุกสนานขนาดที่ออกมาเต้นข้างนอกเป็นขบวนเลยครับ

 

[Silentnight4148]

เป้าหมายรองสุดท้ายคือ Whalers Bays บน Deception Island ตั้งอยู่ในหมู่เกาะ South Shatland Islands ตัวเกาะมีลักษณะคล้ายรูปเกือกม้าและยังเป็นเกาะที่ภูเขาไฟยังคุกครุ่นอยู่ ว่ากันตรงๆมันคือปากปล่องภูเขาไฟดีๆนั้นเอง ซึ่งมีภูมิทัศน์แปลกตากว่าส่วนอื่นๆ ทำให้ผมนึกถึง Iceland อีกแล้วครับ เพราะลักษณะทางภูมิประเทศเหมือนคล้ายๆกันมาก 

 

[Silentnight4148]

Deception Island เป็นเกาะที่มีประวัติยาวนาน ถูกค้นพบตั้งแต่ปี 1820 นู่นครับ เป็นเกาะที่ไม่ค่อยมีลมพายุและน้ำแข็ง จึงถูกใช้เป็นฐานในการล่าปลาวาฬและแมวน้ำจนแทบจะสูญพันธุ์ในเวลาเพียง 2 – 3 ปีเท่านั้น ต่อมาทีมนักสำรวจชาวอังกฤษก็ได้เกาะนี้ใช้เป็นสถานที่ทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์จนมีรายงานล่าสุดว่าโดนภูเขาไฟระเบิดเมื่อปี 1842 ต่อมาช่วงปี 1904 การล่าปราวาฬก็บูมขึ้นมาอีกครั้ง เกาะ Deception Island ก็ถูกนำกลับมาเป็นฐานที่มั่นในการทำอุตสาหกรรมปลาวาฬอีกครั้ง ช่วงที่บูมๆนั้นเกาะแห่งนี้มีคนอาศัยอยู่หลายร้อยคนและมีเรือถึง 13 ลำ ซึ่งผลิตเยอะจนล้นตลาดจนทำให้เกาะแห่งต้องปิดฉากการล่าปลาวาฬอย่างถาวรในปี 1931 ต่อมาปี 1944 ก็มีการเข้าสร้างสถานีวิจัยทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงมีลานบินบนเกาะแห่งนี้อีกด้วย จนกระทั้งภูเขาไฟเกิดการระเบิดหลายครั้งในช่วงปี 1960 – 1970 และรุนแรงที่สุดเมื่อสิงหาคม 1970 ซึ่งทำให้โดนทำลายราบและทำให้เกาะนี้ปิดตัวลงไป จนปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และมี Whalers Bays เป็น Historic Site or Monument (HSM-71) ผมเล่ามาซะยาวเลย ว่าแล้วก็เข้าไปชมบรรยากาศเกาะนี้กันเลยครับ เรือสามารถแล่นเข้าได้ช่องทางเดียวเรียกว่า Neptune's Bellows อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ที่อ่าวนี้มีแต่ซากครับ

 

[Silentnight4148]

นอกจากซากอาคารต่างๆแล้ว ยังมีซากเรืออีกด้วย ถ้าสังเกตด้านหลังจะเห็นเป็นช่องเขามีชื่อว่า Neptune’s Window

 

[Silentnight4148]

ผมเดินขึ้นไปชมวิวที่ Neptune’s Window ก็จะเห็น Whalers Bays ทั้งอ่าวเลยครับ

 

[Silentnight4148]

เจ้า Shinstrap Penguin คู่นี้น่ารักมากครับ เดินคู่กันและดูแลกันและกันมาพักใหญ่แล้ว