35 replies to this topic

[beebisbiz]

Advertisements

ก็คงต้องออกตัวแบบหลายๆรีวิวก่อนนะครับว่าติดตามเป็นแฟน Hflight มาร่วมสิบปี เคยคิดจะรีวิวก็หลายทีอยู่ แต่ก็มีเหตุนู้นนี้ก็เลยไม่ได้รีวิว (ส่วนใหญ่เหตุขี้เกียจกะเหตุเขินไม่กล้าถ่ายรูปบนเครื่องเยอะเลยไม่มี material มารีวิว) มาคราวนี้เริ่มแก่แล้วก็เลยอยากลองทำอะไรใหม่ๆมั่ง เลยขอใช้โอกาสนี้รีวีวเส้นทางที่ไม่เคยมีใครรีวิว (เท่าที่เข้าใจนะครับ)

 

ตอนนี้มาเรียนอยู่ที่ออสเตรเลียได้เกือบปี แล้วก่อนหน้ามาเรียน ผมทำงานแล้วทำให้ต้องเดินทางไปกลับไทย- ออสเตรเลียบ่อยๆ..ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ก็จะหาตั๋วถูกๆเดินทางทั้ง Full service carriers และ low cost carriers ทุกเจ้าที่บินเส้นนี้ ซึ่งมาตรฐานมักจะไปตกที่ 18,000 บาทนิดๆกับ Malaysia Airlines โดยคำนึงถึงการรวมอาหาร สัมภาระ เวลาเดินทาง ความสบายต่างๆ ทั้งนี้รู้สึกว่าประสบการณ์ตัวเองเดินทางไปกลับไทยออสเตรเลียนี่โชกโชนมาก (ใครอยากถามข้อมูลเพิ่มเติมยินดีหลังไมค์)

 

ทีนี้ช่วงเดือนกุมภาที่ผ่านจำต้องกลับไปทำธุระที่ไทย ก่อนหน้านั้นเลยนั่นเช็คตั๋วราคาถูกทุกทาง ทั้งเว็บตั๋วนักเรียน เว็บเทียบราคาต่างๆ ก็ไม่เจออันไหนถูกแบบถูกใจซักที ตอนแรกเกือบจะได้บินกับ Royal Brunei เพราะมีโปรถูกแสนถูก แต่ก็ขี้เกียจถ่อไปขึ้นที่ Melbourne จนกระทั่งวันนึงขณะที่กำลังอู้จากการอ่านหนังสือก็กดไปเจอในเว็บ Kayak ตั๋วของ Cathay Pacific คิดเป็นเงินไทยราคาไปกลับไม่ถึง 670 AUD (18,000 บาท) ราคานี้Air Asia X ก็ทำไม่ได้ Scoot หรือ Jet Star ฮึ! อย่าหวังเลย ขยี้ตาอยู่สองครั้ง กดดูให้แน่ใจว่าราคานั้นเป็น Australian dollars ไม่ใช่ US จากนั้นจึงรีบกดจองอย่างรวดเร็ว

 

 

Attached Thumbnails

• 

[beebisbiz]

ปุ๊บปั๊บได้ตั๋วมาอย่างไว แม้จะเดินทางยาวนานถึง 16 ชม.กว่าเราก็ยอมเพราะตั๋วถูกจริงอะไรจริง (ปกติซิดนีย์-กรุงเทพ แค่ 8 ชั่วโมงก็อยู่แล้ว)

 

ก็ลองกดๆดูนี่ดูนั้น ก็เห็นว่า booking management ของ CX ทำไว้สะดวกและ user friendly ดี ผมเองก็มีนิสัยชอบสั่งอาหารพิเศษเพราะปกติมักจะได้ก่อนคนอื่น ครานี้ก็เลยลองกดสั่งอาหารพิเศษบ้าง  leg นี้จึงสั่งเป็น low lactose meal เหมาะสำหรับคนที่ชอบมีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารที่มีส่วนประกอบของนม (และสั่ง Low fat/Low calorie สำหรับ leg จากฮ่องกงมา กทม.)

 

ตอนเช็คอินเจ้าหน้าที่แอบงงว่ารหัส NLML นี้คืออาหารอะไรเพราะเค้าไม่ค่อยเคยเห็น
 

Attached Thumbnails

• 

[beebisbiz]

วาร์ปจากตอนได้ตั๋วมาถึงเช็คอิน ก็เช็คอินออนไลน์มาแล้ว เลือกที่นั่งท้ายสุด เพราะเป็นคนชอบนั่งท้ายๆ หนึ่งคือปลอดภัย (ตามสถิติที่เชื่อเอง) และสองห่างไกลคน ไม่ต้องมีคนเดินมาเข้าห้องน้ำผ่านไปมา (Config ของเครื่องรุ่นนี้ ท้ายลำไม่มีห้องน้ำ)

 

ทั้งนี้เนื่องจาก station นี้บังคับว่าต้องมาออก boarding pass ที่สนามบินไม่สามารถ self-print  ก็เลยต้องมาออก boarding pass ตามนั้น

ที่สนามบิน Sydney Kingsford Smith นั้น Cathay Pacific จะอยู่ Row แรกสุดทางซ้ายมือเมื่อหันเข้าหน้าเข้าสนามบิน ซึ่งจะอยู่ Row เดียวกับ United

ตอนไปถึงสนามบิน คนไม่เยอะเท่าไหร่ แทบไม่รอเลยก็ได้บัตรขึ้นเครื่องมารวมถึง leg จากฮ่องกงมากรุงเทพด้วย

Attached Thumbnails

• 

[beebisbiz]

เนื่องจากไม่ได้ตื่นเต้นมากบสนามบินนี้เลยไม่ได้เดินดูอะไรมากรอบนี้  แต่จุดที่ผมชอบที่สุดของสนามบินซิดนีย์ของกระจกใสบานใหญ่โซนร้านอาหารจะสามารถมองเห็น Departure ได้ และเราก็จะเห็นเครื่องบินผ่านไปมา บางทีเวลามีเวลาเยอะผมก็จะมานั่งกินขนมฆ่าเวลาพลางดูเครื่องบินด้วย

อันนี้ไม่ใช่วิวจากรอบนี้นะครับ แต่เป็นรอบอื่นที่มานั่งดูแล้วเห็น retro livery ของการบินไทยของเรา

Attached Thumbnails

• 

[beebisbiz]

จากนั้นก็เดินเข้ามายัง immigration ซึ่งผมก็ประหลาดใจหลังจากที่ไม่ได้เดินทางออกนอกออสเตรเลียมาหลายเดือน ตอนนี้ immigration ขาออกของออสเตรเลียทำเป็น auto gate ไปเรียบร้อยแล้ว 100 % สำหรับทั้งคนชาติและคนต่างด้าวซึ่งส่งผลให้พิธีตรวจคนออกเมืองเป็นไปอย่างรวดเร็วมากมากจากเดิม

 

รูปนี้ไม่ชัดต้องแอบถ่ายมาเพราะ Border Force ที่นี่ดุมาก ถ้าโดนจับได้ว่าถ่ายชัดๆอาจจะโดนเฉ่งได้ครับ

Attached Thumbnails

• 

[beebisbiz]

ผ่านพิธีออกเมืองมาเวร็จ ก็เดินไม่สบตา Duty Free ไปดูเครื่องบินระหว่างรอขึ้นเครื่องตัวเอง ก็พบ A380 ของ China Southern

Attached Thumbnails

• 

[beebisbiz]

มุ่งหน้าไปประตูทางออกหมายเลข 37 ของเราก็พบเครื่องบินลำนี้ที่จะพาเราออกเดินทางไปฮ่องกง ทะเบียน B-LAG รับมอบมาเมื่อปี 2007 อายุอานาม 8.3 ปีครับ ข้างหลังมีแควนตัสกำลังเทคออฟอยู่ แต่จำไม่ได้ว่าไปไหน

 

วันนี้ขอบอกเลยว่าตื่นเต้นเพราะจริงๆแล้วไม่เคยขึ้น CX มาก่อน    อันนี้ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ยอมเสียเวลาชีวตถึง 16 ชม. (แม้ว่าโดนหลักการแล้วจะถือว่าไม่เสียเวลา เพราะเราได้เวลาคืนมาอีก 4 ชั่วโมงเมื่อกลับถึงไทย)

Attached Thumbnails

• 

[beebisbiz]

เดินดูเครื่องบินไปมาไม่นานก็ใกล้เวลาเรียกขึ้นเครื่องครับ ยังไม่ทันมีประกาศใดๆ แถวก็ยาวขนาดนี้ซะแล้ว ถือเป็นมาตรฐานการปฏิบัติตัวของผู้โดยสารทั่วโลกเลยนะครับ แหะๆ

ไฟล์ทนี้ไม่ค่อยเห็นฝรั่งครับ ส่วนใหญ่ผมจะได้ยินแต่ภาษาจีนคุยกัน

Attached Thumbnails

• 

[beebisbiz]

ตัดฉับมาถึงตอนเดินเข้าเครื่องนะครับ ก็ต้องผ่านโซนอีโค่โซนแรกเพราะผมอยู่ท้ายสุด โกลาหลเป็นปกติเล็กน้อยถึงปานกลาง

Attached Thumbnails

• 

[beebisbiz]

ผังที่นั่งของผมวันนี้ก็ตามภาพจากความเอื้อเฝื้อของ seatguru นะครับ อย่างที่เห็นว่า 75A นั้นท้ายสุด แถมในเว็บให้สีแดงเพราะว่าใกล้กับ Galley จึงอาจทำให้มีการรบกวนบ่อย แต่ส่วนตัวผมว่าโอเคอยู่นะครับ ส่วน seat pitch 32" นี่ถือว่าพออ้อมแอ้มไปได้สำหรับคนสูง 182 อย่างผม

Attached Thumbnails

• 
• 

[beebisbiz]

สำรวจอุปกรณ์ในกระเป่าหน้าที่นั่ง

Magazine ของ CX ชื่อ Discovery

Duty free magazine

Safety Card

Headphones

ทุกอย่างยังอยู่ในถุงใหม่เอี่ยมไม่ได้แกะครับ

Attached Thumbnails

• 

[beebisbiz]

เมนูอาหารก็แจกไว้แล้วแต่แรกในกระเป๋าหน้าที่นั่ง ก็ดูเล่นๆไปเพราะผมสั่งอาหารพิเศษไว้ รอลุ้นเอาว่าของเราจะเป็นอะไร

Attached Thumbnails

• 

[beebisbiz]

นี่ก็หน้าตาส่วนประกอบของ inflight entertainment ครับ ซึ่งผมชอบการออกแบบนะครับ มีชั้นวางให้ใส่ของจุกจิกได้ ก็ใส่มือถือกะขวดน้ำเล็กๆซึ่งแจกพร้อมอาหารได้ครับ
ส่วนผมลองเสียบสายบูเอสบีดู ปรากฎว่าช่องเสียบหลวมครับต้องเอามือดันไว้ไฟถึงจะเข้า ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะทำไงดี เพราะอยากชาร์จโทรศัพท์พนักงานต้อนรับเดินมาเตือนว่าให้ถอดออกก่อนจนกว่าจะไต่ระดับครับ อันนี้ก็เป็นมาตรฐานความปลอยภัยของสายการบินที่จะให้ผู้โดยสารปฏิบัติครับ ผมก็ว่านอนสอนง่าย เอาออกโดยดุษฏี

อันนี้จากหน้าจอ flight path ยังอยู่ที่ซิดนีย์นะครับ

Attached Thumbnails

• 

[beebisbiz]

จากนั้นก็พุชแบคครับ พุชแบคช้ากว่ากำหนดประมาณ 10นาที
สำหรับรายละเอียดการเดินทางในการเดินทางครั้งนี้มีดังนี้ครับ

 

Flight: CX162 SYD-HKG

Date: 19 Feb 2016

Scheduled Departure time: 11.25am

Actual Departure Time: 11:50am

Scheduled Arrival time: 17.50pm

Actual Arrival time:18:05p,

Travel class: Ecomomy

Seat: 75A

Aircraft: A300-300 (33K) Three class

Registration: B-LAG

 

เส้นทางการบินสนับสนุนโดย Flightaware ครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[beebisbiz]

พอสัญญาณรัดเข็มขัดดับลง ผทก็จัดแจงเสียบสาย USB อีกครับ ซึ่งก็ต้องแก้ปัญหาที่สายเสียบไม่แน่นอีก ก็เลยลงเอยด้วยการแก้ปัญหาแบบลูกทุ่งๆ ลองเอาทิชชูมาเสียบดันไว้ ปรากฎว่าเวิร์คครับ ฮ่าๆ

 

ในส่วนของหน้าจอ PTV นั้นถือว่าออกแบบมาทัดเทียมนานาอารยเทคโนโลยีเลยทีเดียว เป็นระบบสัมผัส thermal touch จากความร้อนที่นิ้วมือ ไม่ใช่แบบ capactive ที่เน้นแรงกด ทำให้ไม่ต้องใช้กำลังเยอะครับ แตะเบาๆก็ไหลลื่นทีเดียว

 

สำหรับการปรับหน้าจอ ตอนแรกแอบบงงๆว่าทำไง ปรากฏถึงบางอ้อตอนหลังว่าให้แตะรูปวงกลมตรงกลางด้านล่าง ก็จะปรากฏ options ต่างๆดังภาพครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[beebisbiz]

พอไต่ระดับได้ ก็เริ่มหนาวครับ เลยแกะผ้าห่มออกมา ปรากฎว่าผมค่อนข้างชอบผ้าห่มของ CX นะครับ textile ค่อนข้างดี เป็นเหมือนเส้นด้ายพันๆกัน ไม่ใช่เป็นผ้าผืนๆ หนาและสัมผัสนุ่มครับ

จากนั้นก็แกะโต๊ะหน้าที่นั่งซึ่งเป็นแบบที่สามารถพับครึ่งได้ออกมารอเครื่องดิ่มที่จะเสิร์ฟก่อน โต๊ะหน้าที่นั่งนี้ค่อนข้างสกปรกเล็กน้อยตามภาพครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[beebisbiz]

จากนั้นก็มีการเสิร์ฟเครื่องดิ่มกับถั่วลิสงทานเล่น ทางผมก็ขอรับไวน์ขาวมานั่งจิบชิวๆครับ
ส่วนตัวแล้วชอบดีไซน์ก้วของ CX ครับ ออกแบบมาสวย ดูดีมีชาติตระกูล

Attached Thumbnails

• 
• 

[beebisbiz]

จากนั้นก็เริ่มมีการอุ่นอาหารกลิ่นหอมฉุย ตัวผมซึ่งสั่งอาหารพิเศษมาก็แอบหัวเราะในใจว่าฮึ!จะได้อาหารก่อนคนอื่น

ในความเป็นจริงของไฟล์ทนี้ ปรากฎว่ามิใช่ครับ ผมได้รับอาหารคนท้ายๆ หนำซ้ำ แม้ลูกเรือจะได้มาคอนเฟิร์มอาหารกับผมตั้งแต่ตอนแรกแล้ว แต่การสื่อสารในทีมยังไม่ค่อยดี ทำให้ตอนแรกมีคนมาเสริ์ฟมนูปกติกับผมครับ แต่สักพัก Inflight Service Manager (ชุดสีดำ) ต้องมาขอโทษและเปลี่ยนให้ ผมจึงได้ low lactose meal มาครับ

อาหารที่ได้รับก็เป็นข้าวสวยกับ chicken minestrone สลัด balsamic vinegar แล้วก็ fruit salad ครับ แล้วก็จะมี soy milk แยกมา พร้อมกับ margarine ค่อนข้างต่างกับ choiceปกติ แอบน้อยใจเพราะดูไม่อร่อยเท่า แถมได้ช้าพอๆกัน ผิดแผนเสียหายมาก

 

ส่วนตัวชอบ cutlery ของ CX นะครับ ออกแบบมาสวยดี จับถนัดมือด้วย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[beebisbiz]

หลังจากอาหารเรียบร้อยแล้วก็เริ่มสำรวจซ้ายขวาหน้าหลังนะครับ ข้างหลังที่นั่งผมจะเป็นแกลลี่ทันทีเลย ถือว่าแกลลี่ค่อนข้างใหญ่ เพราะไม่มีพื้นทีี่ของห้องน้ำครับ
จากนั้นก็เดินขึ้นไปสำรวจห้องน้ำที่กลางลำครับ ห้องน้ำก็ค่อนข้างเบสิคครับ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[beebisbiz]

อันนี้มองออกไปนอกหน้าต่าง ถ้าเห็นพื้นที่สีแดงๆเยอะๆแบบนี้ที่ออสเตรเลีย ก็แปลว่าอยู่แถบๆกลางๆประเทศนะครับ เพราะเป็นพื้นที่ที่ดินมีส่วนประกอบของเหล็กอยู่เยอะ ทำปฏิกริยากับอากาศจึงเกิดอาการเหมือนขึ้นสนิม (รีวิวอันต่อไปที่ผมตั้งใจจะทำคือทริปที่เดินทางมายัง Uluru หรือ Ayers Rock ครับ ซึ่งขณะที่กำลังโพสรีวิวฉบับนี้อยู่ผมก็อยู่ที่นี่พอดีครับ)

Attached Thumbnails

•