69 replies to this topic

[Marty]

Advertisements

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาว hflight ช่วงหลังปีใหม่ที่ผ่านมา review ต่าง ๆ แลดูเงียบ ๆ นะครับ ไม่ค่อยมีคนเขียนรีวิวเท่าไหร่เลย ไม่รู้คนกลัวเขียนรีวิวแล้วรีวิวหาย    หรือเพราะส่วนที่โชว์ updated post หายไปรึเปล่า   ยังไงฝาก admin พิจารณาปรับปรุงแก้ไขด้วยนะครับ 

 

เอาหล่ะเข้าเรื่อง มาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่า กับการบินไทย Royal Silk Class ขาไปลง Osaka-Kansai

 

วันนี้ (22 มี.ค. 2016) มาถึงสุวรรณภูมิตอน 2 ทุ่มนิด ๆ ก่อน flight ออกประมาณ 3 ชั่วโมงครับ บรรยากาศสุวรรณภูมิคืนนี้คึกคักเป็นปกติ

 

เช่นเคย TG Royal Silk Class - international flight ใช้แถว check-in B ตามปกติ 

 

 

[Marty]

เข้ามาแล้วมี check-in counter ว่างหลายที่ไม่ต้องรอ 

 

ทำ internet check-in มาก่อนแล้ว ใช้เวลา check-in 2-3 นาทีก็เสร็จเรียบร้อย boarding pass วันนี้ครับ 

[Marty]

วันนี้แถว security check ของ Royal Silk ไม่มีคิวผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว ส่วน immigration รอคิวเล็กน้อย 2-3 นาที

 

ผ่าน immigration มาแล้ว ลงบันไดเลื่อนเดินผ่าน Royal Silk Lounge-Concourse D เพื่อมาที่นี่ครับ Royal Orchid Spa

 

ตอนมาถึง สามารถเข้านวดได้ทันทีไม่มีคิว วันนี้เลือกนวด neck and shoulder ซึ่งจะว่าไปเรียกว่า upper body เลยดีกว่าเพราะหมอนวด นวดให้หมดตั้งแต่หนังศรีษะ แขน แผ่นหลังทั้งหมด เต็ม 30 นาที คุณภาพการนวดดีครับ ออกมาแล้วก็มีเครื่องดื่มชา/กาแฟ หรือน้ำผลไม้ เลือกน้ำแครอทไป แอบคิดไปว่าจะเป็นน้ำแครอทคั้นสดรึเปล่า แต่มันเป็นน้ำแครอทจาก Tipco อ่ะ (กินประจำ จำรสได้) แอบผิดหวังเล็กน้อย 

 

ห้องน้ำภายใน Royal Orchid Spa ครับ กระบวนการรับผู้โดยสารรวดเร็วดี รู้สึกตัวเองเหมือนเป็นวัตถุดิบในสายการผลิต มาถึงรีบพาเราไปห้องนวด นวดเสร็จรีบเชิญเราออกมา แต่ผมเดาว่าเขารีบเพื่อไม่ให้ผู้โดยสารรู้สึก awkward ว่าจะต้อง tip รึเปล่า เราจะควัก tip ให้หมอนวดก็หายตัวไปเรียบร้อยแล้ว 

[Marty]

ออกจาก Royal Orchid Spa แล้ว เนื่องจากวันนี้เครื่องออกจาก Gate A6 แล้วเบื่อ ๆ Royal Silk Lounge  เลยมาแวะใช้บริการ Singapore Airlines Silver Kris Lounge ที่ Concourse A

 

เข้ามาแล้ว counter บริการ ชา กาแฟ dimsum บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

[Marty]

เครื่องดื่มแอลกอฮอลต่าง ๆ 

 

sandwich และ pastry

 

ตู้แช่เครื่องดื่ม

[Marty]

ลืมถ่ายรูปบริเวณอาหารร้อนมา ถ่ายแต่ที่ตักมาแล้วมี ปลาผัดพริกไทยดำ แพนงหมู และผัดผัก อร่อยครับ   มี laksa ให้เลือกอีกอย่างนึงครับ แต่ไม่ได้หยิบมา

 

จะว่ากันตามจริงแล้วผมว่าในแง่อาหาร ก็ไม่ได้ดีกว่า Lounge ของการบินไทยซักเท่าไหร่ ผมว่าก็พอ ๆ กันนะ เพียงแต่ว่า TG เป็นเจ้าบ้าน ทำ lounge ใหญ่โต คนก็ expect ว่าควรมี choice ของอาหารให้เลือกมากกว่านี้ เทียบ TG lounge กับ SQ ที่สุวรรณภูมิดูสูสี แต่พอเทียบกับ Silverkris lounge ที่ Changi หรือ lounge ของหลายสายการบินที่ hub ของตัวเอง มันต่างกันฟ้ากับเหว เป็นเรื่องที่ผู้บริหาร TG จะต้องพิจารณาปรับปรุงจริง ๆ  

 

ทานอาหารคาวแล้ว จบด้วยสิ่งที่หลาย ๆ คนชื่นชอบของ lounge นี้ คือ Haagen Dazs ice cream ถ้วยจิ๋ว 

[Marty]

บรรยากาศภายใน lounge วันนี้ช่วงประมาณ 3 - 4 ทุ่มครับ เงียบ ๆ มีผู้ใช้บริการไม่มากเท่าไหร่

 

บรรยากาศภายในผมว่าเริ่มดูโทรม ๆ นิด ๆ แล้วครับ แต่ก็ยังดูโอเคกว่า Royal Silk Lounge-Concourse D ที่เดินแวะเข้าไปดูหน่อยนึง อันนั้นค่อนข้างโทรมมาก แต่ก็น่าเห็นใจ TG ถ้าจะปิด lounge ใหญ่เพื่อ renovate คงโดนคนด่าเยอะ เพราะปัจจุบันคนใช้บริการก็ค่อนข้างแน่นพอสมควร

 

โดยส่วนตัวแล้วถ้าเครื่องออกใกล้ ๆ คงจะเป็น lounge ที่ผมแวะมาใช้บริการ แต่ถ้าเครื่องออกไกล คงจะไม่ถ่อมา ผมว่าโดยรวม ๆ Royal Silk Lounge ของ TG ก็ยังโอเคอยู่

[Marty]

นั่งเล่น net ใน Silverkris lounge อยู่ซักพัก (wifi ใน lounge ค่อนข้างช้าทีเดียว ถึงแม้ผู้ใช้บริการจะไม่เยอะเท่าไหร่   ) ประมาณเกือบ ๆ ชั่วโมงก่อน flight ออกก็เดินไปที่ gate บรรยากาศใน concourse A วันนี้ครับ  

 

วันนี้ใช้ gate A6 ที่ปลายสุดของ Concourse A

[Marty]

เข้ามาในบริเวณ gate แล้ว ผู้โดยสารแน่นทีเดียว วันนี้ใช้ B747 ด้วย 

 

วันนี้เริ่ม boarding ช้ากว่าเวลาที่แจ้งบน boarding pass ประมาณ 10 นาที ตอน boarding ดูวุ่นวายเล็กน้อย เพราะบริเวณประตูขึ้นเครื่องค่อนข้างแคบ ผู้โดยสาร First และ Business ค่อนข้างรู้งานดี มานั่งคอยใกล้ๆ ประตูกัน เข้ามาใน jetbridge แล้ว

 

[Marty]

บริเวณใน jetbridge

 

ก่อนขึ้นเครื่อง

[Marty]

วันนี้เลือกที่นั่งบน upper deck ของ 747-400 ครับ

 

วันนี้เลือกที่นั่ง 16K ครับ window seat/emergency exit row ตอนแรกไม่ได้เลือกที่นั่งนี้ เห็นในระบบตอนจองเห็นที่นั่งนี้ว่าง จะเปลี่ยนมาก็เปลี่ยนไม่ได้ เข้าใจว่า TG block ไว้ให้ ผดส ROP Gold/Platinum แต่พอวัน check-in ผมที่ไม่มี status อะไรขอเปลี่ยนมาที่นั่งนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร

[Marty]

ชอบ upper deck ของ 747 มากที่ช่องเก็บของด้านข้างใหญ่มาก สามารถใส่ overnight/weekender bag ได้สบาย ๆ 

 

leg room ของ emergency exit row เหลือเฟือ ไม่มีปัญหาต้องก้าวข้ามผดส aisle seat เวลาออกมาเข้าห้องน้ำ ผมว่าถ้าไม่แคร์ว่าต้องดูจอ TV ใหญ่ ๆ ที่นั่งแถว 16 นี้น่าจะถือว่าดีที่สุดของ upper deck (มีคน comment ใน seatguru ว่าถ้านั่ง 16JK จะต้องนั่งหันหน้าเข้าหา crew seat ซึ่งมันอาจจะ 'awkward' แต่ผมโอเคนะ แป๊บเดียว ไม่มีปัญหาอะไร) อีกอย่างนึง flight ผมนี่กว่าพี่ ๆ ลูกเรือจะเข้ามานั่งตอนก่อน take-off ก็รอจนกระทั่งเครื่องมารอที่ runway กัปตันประกาศ 'cabin crew prepare for takeoff' แล้วถึงมานั่ง เรียกว่าแทบจะรัดเข็มขัดไม่ทัน takeoff กันทีเดียว คาดว่าลูกเรือ 747 คงจะทราบกระมังว่ามี ผดส comment ประเด็นนี้เลยพยายามมานั่งตรงนี้ให้ช้าที่สุด 

[Marty]

สิ่งของต่าง ๆ ที่วางไว้ที่ที่นั่งเรียบร้อยก่อนผดสขึ้นเครื่อง หูฟัง, amenity kit, slipper

 

safety card, sawasdee magazine, duty free catalogue

[Marty]

เนื่องจากเป็น flight กลางคืนสั้น ๆ (flight time 4 ชั่วโมงกว่า) เลยถือโอกาสเข้ามาเปลี่ยนชุดนอนเลย ระหว่างที่ยัง boarding ไม่เสร็จ lotion ของ Borghese และ น้ำหอมในห้องน้ำครับ

 

ก่อนเปลี่ยนชุดนอน

 

หลังเปลี่ยนชุดนอน เอาชุดนอน First Class ของ Etihad มาใช้ นอนสบาย 

[Marty]

ก่อนจะรีวิวต่อ ลงรายละเอียด flight information กันหน่อย

 

TG622 Thai Airways International

From: Bangkok Suvarnabhumi Airport (BKK)

To: Kansai International Airport, Osaka, Japan (KIX)

Schedule departure time: Tuesday 22 March 2016, 23:15 (GMT+7)

Schedule arrival time: Wednesday 23 March 2016, 06:25 (GMT+9)

Flight duration: 5 hours 10 minutes

Aircraft: Boeing 747-400

Gate: A6

Seat number : 16K

 

วันนี้ pushback late เล็กน้อยประมาณ 10 นาที กัปตันแจ้งว่ามีผดสมาขึ้นเครื่องไม่ทัน จึงจำเป็นต้องนำกระเป๋าออก บริเวณภายในสนามบินหลัง pushback  ออกมาแล้วครับ

 

อาคาร terminal หลังจากนี้ไม่กล้าหยิบ iphone ออกมาถ่ายรูปต่อตอน takeoff เพราะกลัวพี่ ๆ ลูกเรือที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันจะดุ 

[Marty]

take-off ไปซักครู่ สัญญาณไฟรัดเข็มขัดดับลง จึงนำ PTV ออกมาจาก armrest ได้ และ PTV จะเล็กกว่าที่นั่งอื่น ๆ เล็กน้อย ซึ่งถือเป็นข้อเสียของที่นั่ง emergency exit row แต่ผมโอเคนะเทียบกับ leg room ที่ได้ไม่มีปัญหา แล้ว flight สั้น ๆ ดึก ๆ แบบนี้ ขอนอนให้มากที่สุดดีกว่า

 

ตัวอย่างหนังใหม่ของเดือนนี้ครับ

 

เลือกดู concert ของคุณปู่ Eric Clapton 

[Marty]

สัญญาณรัดเข็มขัดดับลงแล้ว พี่ ๆ ลูกเรือเริ่มบริการเครื่องดื่ม รับ sparkling water ครับ (ผมไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล ครับ)

 

รายละเอียด menu ของ flight นี้ ภาษาไทย

 

ภาษาอังกฤษ

[Marty]

Wine list 

 

รายละเอียดเครื่องดื่มอื่น

[Marty]

หลังจากนั้นไม่นานเป็นบริการอาหารว่างก่อนนอนครับ

 

'ข้าวเหนียวญี่ปุ่นหน้าปลาแองโชวี่และพริกไทยญี่ปุ่น' ดู plain plain ธรรมดา ๆ แต่อร่อยครับ

 

pudding ที่มาด้วยก็อร่อยมากครับ 

[Marty]

พี่ ๆ ลูกเรือทำงานกันได้คล่องมากครับ คงคุ้นเคยกับผดส flight ลักษณะนี้ดีอยู่แล้วว่า ผดส คงอยากรีบกินรีบนอน พี่ ๆ สามารถเสิร์ฟและเก็บถาดกลับ ปิดไฟ cabin พร้อมนอนโดยใช้เวลาไม่ถึง 40 นาทีหลังจาก takeoff

 

สำหรับที่นั่ง Business Class บน TG 747 ยังเป็น angle seat อยู่ซึ่งเตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนแล้วว่าคงนอนไม่สบายเท่าไหร่ ซึ่งผมก็โอเคสำหรับ flight time ประมาณนี้ แต่ถ้าบินนาน ๆ ไป australia หรือ europe หล่ะก็ไม่เด็ดขาด 

 

สรุปพลิกซ้าย พลิกขวา นอนหลับไปได้ประมาณชั่วโมงครื่งครับ ก่อนเครื่อง landing ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง พี่ ๆ ลูกเรือก็เริ่มบริการอาหารเช้า ตอนนั้น บินเลย Taiwan เข้าเขต Okinawa แล้ว