ปราสาทตาพรหมมีต้นไม้อยู่ 2 พันธุ์ ต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดเรียกว่าต้นสะปงหรือภาษาไทยเรียกว่าต้นสำโรง เป้นไม้ยืนต้นเนื้ออ่อน รากของมันจะดูดน้ำจากใต้ดินเข้าลำต้นทำให้รากดูป่องพอง ส่วนพันธุ์ไม้อีกชนิดเป็นไม้เลื้อยขึ้นอยู่ตามหน้าบัน ทับหลังหรือตามตัวปราสาทและหลังคาลักษณะเป้นไม้พุ่ม ไม้ล้มลุก บ้างก็แห้งตายคาอยู่ บ้างก็ยังเขียวสดอยู่ซึ่งการกำเนิดของไม้เลื้อยนี้มาจากการที่นกมาขับถ่ายมูลที่มีเมล็ดของพันธุ์ไม้ทิ้งไว้ บริเวณใดของปราสาทที่มีตะไคร่น้ำที่ชุ่มชื้นก็สามารถทำให้เมล็ดพันธุ์เติบโตเป็นต้นดังที่เราเห็น ทั้งไม้เล็กและไม้ใหญ่ต่างเติบโตตามสภาวะที่เอื้ออำนวยรากของไม้ใหญ่ที่แทรกชอนไชไปบนแผ่นศิลาเพื่อจะหาที่ลงดินเกิดเป็นรูปทรงคล้ายหนวดปลาหมึกเกาะกุมองค์ปราสาททำให้ช่วยประคองยืดตัวปราสาทไม่ให้หักพังลงมาได้