40 replies to this topic

[conductor]

Advertisements

สวัสดีครับ รีวิวนี้เป็นรีวิวไฟลท์ขากลับจากกรุงเทพไปซิดนีย์ซึ่งผมเดินทางในชั้นธุรกิจ

 

ส่วนรีวิวขามานั้นผมทำไว้เสร็จแล้ว 

http://www.hflight.n...class/?p=346043

 

เริ่มกันที่ Check-in Row N

 

Boarding pass

 

[conductor]

เนื่องจากเดินทางในชั้นธุรกิจบน QF ซึ่งเป็นสมาชิกสายการบินเครือ Oneworld ผู้โดยสารจึงสามารถใช้เลาจน์ของ BA CX ซึ่งเป็นสมาชิก Oneworld และสามารถใช้เลาจน์ EK เพราะเป็นพันธมิตรกับ QF 

นอกจากนี้ ถ้าผู้โดยสารเป็น Oneworld Emerald ผู้โดยสารก็สามารถใช้เลาจน์เหล่านี้ได้เช่นกัน แม้ว่าจะเดินทางในชั้นประหยัดก็ตาม

เนื่องจากผมเคยใช้เลาจน์ชั้นธุรกิจของ QF แล้ว และได้ข่าวว่าเลาจน์ CX เพิ่งเปิดไม่นานหลังจากที่ปิดปรับปรุงใหญ่ และผมหาเลาจน์ BA ไม่เจอ (ผมเข้าใจว่า BA ใช้เลาจน์ของ QF แต่คราวนี้ผมไม่เห็นป้าย BA ติดหน้าเลาจน์ QF นะครับ) ผมจึงตั้งใจมาลองใช้เลาจน์ของ CX เต็มที่

 

พอผ่าน ตม ก็เลี้ยวขวา เดินไป Concourse G ครับ เลาจน์ CX ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ตรงข้ามกับเลาจน์ QF

 

ทางเข้าสวยดี

[conductor]

เดินผ่านพนักงานต้อนรับเข้ามาจะเจอโถงของว่าง

 

อาหารว่างจำพวกสลัด ขนมปัง Canape 

 

[conductor]

ของว่างและเครื่องดื่มต่าง ๆ 

 

 

 

[conductor]

เลี้ยวไปทางซ้ายจะเป็นห้องทานอาหาร The Noodle Bar

 

 

[conductor]

เดินไปทางขวาซึ่งโซนที่นั่ง โซฟาหนังสวยๆ ดูดี นั่งสบาย กระจายอยู่ทั่วบริเวณ 

 

[conductor]

โซนที่นั่ง เก้าอีกนั่งสบายทุกตัวครับ เลือกไม่ถูกเลยนั่งตัวไหนดี

 

 

[conductor]

สุดท้ายเลือกที่นั่งริมกระจก (ที่ไม่ค่อยจะเห็นเครื่องบินชัดเจนอะไร แต่ก็ดีกว่าไม่เห็นเลย)

 

เป็นเก้าอี้ตัวโต หนังสีดำ นุ่มมาก ชอบตรงที่มีที่ชาร์จไฟกระจายทุกที่นั่งและซ่อนไว้อย่างดี

 

เฟอร์นิเจอร์เป็นของ Republic of Fritz Hansen ซึ่งแพงมาก

 

ผ่านโซนอาหารว่างกลางเลาจน์

 

 

[conductor]

มีอาหารให้เลือกสั่งมากมายที่ The Noodle Bar มีเกี๊ยวกุ้งที่อร่อยที่สุดในประเทศไทย  มีผัดไทยที่ทรงเครื่องแบบหนักๆ จัดมาเต็มๆ กุ้งแห้ง ถั่วป่น เพราะต้องปรุงทีละจาน ผัดไทยจึงมาร้อนๆ ควันฉุยๆ หอมๆ เส้นนุ่ม กินอร่อย ไม่ได้แต่มาแบบเส้นชืดๆ ติดกันเป็นก้อนๆ เหมือนเลาจน์ทั่วไป ผมเลยจัดไปสอง

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 

[conductor]

อิ่มมากแล้วเดินกลับไปที่นั่ง ผ่านบาร์เครื่องดื่ม

 

เมนูเครื่องดื่ม

[conductor]

เลาจน์นี้ไม่มีห้องอาบน้ำ มีแต่ห้องสุขาเท่านั้น ซึ่งก็ดูสมเหตุสมผลดี 

 

[conductor]

เหลือเวลาสิบห้านาทีก่อนบอร์ด ผมก็เดินเข้าเลาจน์ควอนตัส คนเยอะพอสมควร ไม่มีโต๊ะนั่งว่าง ๆ เลย

คนออสเตรเลียนทั้งชั้นธุรกิจ ชั้นประหยัดเข้ามานั่งดื่มไวน์ ดื่มเบียร์กันอย่างเอาจริงเอาจัง 

ผมพนันว่าหลายคนคงไม่ทราบว่าตัวเองเข้าเลาจน์ของคาเธ่ย์ที่อยู่ตรงข้ามได้

 

[conductor]

บอร์ดที่ G3 หน้าเกตมีพนักงานมาตรวจกระเป๋า ตามปกติของไฟลท์ไปออส

ผมไปไม่ทันช่วงที่ให้ชั้นธุรกิจกับ QFF บอร์ดก่อน เลยต้องต่อคิวครับ เพราะไม่มีแถวแยกให้เหมือนที่ซิดนีย์

 

[conductor]

เดินเข้ามาในเครื่องเจอ Business Suite นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมเดินทางกับควอนตัสเส้นทางนี้ แล้วโชคดีได้ใช้ A333 ที่ปรับปรุงชั้นธุรกิจแล้ว โอกาสที่จะเจอเครื่องซึ่งมีที่นั่งแบบเก่าในเส้นทางนี้ มีสูงกว่า เนื่องจากเครื่องที่ปรับปรุงใหม่ยังมีไม่มากครับ ควอนตัสก็เอาไปบินสลับกับเส้นทางอื่นๆ ด้วย

 

วันนี้ผมนั่ง 2K ซึ่งเป็นที่นั่งริมหน้าต่างฝั่งขวา และเก้าอี้จัดวางติดหน้าต่าง มีผนัง suite กั้นระหว่างทางเดินและที่นั่ง ที่นั่งแถวคู่นี้แม้ว่าจะดูมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า แต่ก็มีข้อด้อยคือมีที่เก็บของน้อยกว่าที่นั่งแถวเลขคี่

 

ผมเคยนั่ง 4A เมื่อทริปที่แล้ว คราวนี้ผมเลยพยายามเลือกที่นั่งริมหน้าต่างเลขคี่ แต่มันเต็มครับ 

 

 

ชั้นธุรกิจเดิมวางแบบ 2-2-2 ส่วนรุ่นที่ปรับปรุงแล้ววางแบบ 1-2-1 

ที่นั่งปรับนอนราบได้เกือบ 180 องศา (ประมาณ 177 องศา)

[conductor]

ดูรายละเอียดที่นั่งกันต่อ

แอบดูแถวหน้า

 

หน้าจอทีวีระบบสัมผัสที่ไม่ติดขัด ไม่ต้องใช้ความพยายามในการถูหน้าจอเหมือนหน้าจอสัมผัสของเอมิเรตส์ B773 ชั้นธุรกิจ

 

ที่วางเท้า

 

ที่วางของข้างๆ

[conductor]

หูฟัง วางรอไว้อย่างเรียบร้อย

 

ระบบควบคุมที่นั่ง ซึ่งใช้ง่ายและมีโหมดให้เลือกมากมาย

 

รายการความบันเทิงภาพยนต์

 

แนะนำการใช้ที่นั่ง (เนื่องจากที่นั่งมันใหม่มาก พนักงานบนเครื่องก็ยังจำรายละเอียดไม่ค่อยได้ครับ)

 

Amenity kit ชุดนอนนุ่มๆ และถุงเท้าสำหรับใช้ในเคบิน

 

 

[conductor]

เดินสำรวจเครื่องครับ

Galley หลังชั้นธุรกิจ

 

เดินไปถึงท้ายเคบินชั้นประหยัดส่วนหน้า ทางขวามือของเครื่อง จะเป็นที่พักผ่อนระหว่างไฟลท์ของพนักงาน แถว 40-41 

 

ถ้าเดินทางชั้นประหยัดครั้งต่อไป ผมจะเลือกแถว 39 ครับ

[conductor]

Galley ท้ายลำ

 

ลังไวน์

 

มองย้อนไปในเคบิน

 

ห้องน้ำ

[conductor]

จะเห็นว่าที่นั่งชั้นประหยัด 5 แถวสุดท้ายจัดแบบ 2-3-2 โดยเริ่มตั้งแต่แถว 56 เพราะท้ายเครื่องบินที่สอบแคบลงครับ ที่นั่ง 56D, F ซึ่งเป็นที่นั่งที่ผมเลือกตอนขามากรุงเทพ เพราะมีที่ยืดขามากกว่าที่นั่งอื่นๆ และความน่าจะเป็นที่คนนั่งตรงกลางจะข้ามไปห้องน้ำก็มีเพียง 0.5 ต่างจากที่นั่งติดทางเดินอื่นที่ต้องทีคนข้ามแน่นอน 100% แต่ทั้งนี้ จอทีวีจะเอียง ๆ หน่อย ไม่ตรงกับลำตัวของเราเหมือนที่นั่งอื่นๆ ก็แลกกันไป ข้อดีข้อเสีย

 

แต่หลังจากนี้ไปผมจะเลือกที่นั่ง 39 J K เพราะอยู่หน้าที่นั่งพักของลูกเรือครับ

 

function ของที่เก็บของ จอทีวี ผมชอบตรงที่ชาร์จ USB อยู่ใต้จอและมีกระเป๋าตาข่ายใส่มือถืออย่างเป็นระเบียบครับ

 

บางคนถามว่าทำไมไม่นั่ง Emergency exit row ผมถ่ายมาให้ดูนะครับ จะเห็นว่าที่นั่ง A และ K แทนที่จะยืดขาได้ กลับยืดไม่ได้เต็มที่เพราะติดประตูทางออก จึงต้องวางขาทับกันและเบี่ยงมาหน้าที่นั่งข้าง ๆ ส่วนที่นั่ง B และ J ก็มักต้องเผชิญกับผู้โดยสารที่เดินมารอเข้าห้องน้ำ เดินมายืดแข้งขาหน้าที่นั่งตลอดทั้งไฟลท์

 

แถมถ้าจะเลือก Emergency exit บน QF ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกต่างหาก เว้นเสียแต่ว่าคุณจะเป็น Platinum one 

สรุปแล้ว ถ้าบิน QF A333 ผมไม่แนะนำให้นั่ง Emergency exit row ครับ

 

 

เดินกลับมาข้างหน้าเครื่องไปเข้าห้องน้ำของชั้นธุรกิจครับ

 

แล้วก็ถ่ายจากข้างหน้าเข้าไปในเคบินธุรกิจ

 

 

[conductor]

กลับมาถึงที่นั่ง พนักงานก็รอบริการอาหารเย็นครับ

เริ่มที่แชมเปญ

 

QF เสิร์ฟอาหารมาในถาดนะครับ เหมือนกับสายการบินอื่น ๆ ส่วนมาก

 

ซูมครับ