102 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

เมื่อเดินพ้นกลุ่มอาคารออกมาหน่อยก็จะเจอท่าเรือ บริเวณนี้มีสนามหญ้าสำหรับปิคนิค พูดแล้วก็น่าปิคนิคจริง ๆ ค่ะ เพราะลมพัดมาเย็น ๆ อุณหภูมิประมาณ 26 องศาเซลเซียส ปูเสื่อนั่งรับลม จูงหมาเดินเล่น ทำกิจกรรมครอบครัว ในบ่ายวันอาทิตย์เช่นนี้แลดูจะเพลินดีไม่น้อย บวกกับทัศนียภาพที่เป็นแม่น้ำ มองไกลไปหน่อยก็จะเห็นกลุ่มเรือใบ มีฉากหลังเป็นสะพานข้ามแม่น้ำ และภูเขา เพียงแค่เดินผ่านชมที่นี่ก็ม่วนใจแล้วววว

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Ansan Starvillage

Ansan City, Gyeonggi-Do, Korea

สวนจัดแสดงไฟที่สวยที่สุดในเกาหลี “Ansan Starvillage” แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตเมืองอันซานค่ะ ใช้ไฟ LED นับล้านดวงมาเนรมิตพื้นที่ให้มีสีสันของแสงไฟสวยงามในยามค่ำคืน ตรงกับคำโปรโมทที่ว่า “The place where the stars will fall from the sky at night!”




แต่ในตอนที่ไปถึงนั้นฟ้ายังไม่มืดเลย เราก็เลยเดิน และชิมไอศครีมแถวนั้นกันไปก่อน

[ทีมข่าวHFLIGHT]

งานนี้เราได้ลิ้มรสอาหารเกาหลีมื้อแรกที่ร้านอาหารในสวนไฟแห่งนี้ค่ะ ด้วยเมนูชื่อดังอย่าง “Bulgogi” ที่ใช้เนื้อวัวตัดเป็นชิ้นพอดีคำ หมักซอส แล้วก็นำมาย่างบนกระทะรวมกับผักนานาชนิด ลักษณะก็คล้าย ๆ กับร้านหมูกระทะบ้านเรานี่ล่ะค่ะ ต่างที่พนักงานจะเดินมาเทเนื้อทั้งจานและผักทั้งจานลงบนเตาในคราวเดียวเลย เราก็มีหน้าที่คีบเนื้อบนเตามาทานค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เครื่องเคียงอื่น ๆ บนโต๊ะก็จะมีสลัดผัก ยำผัก ปอเปี๊ยะผักสด ผักดอง (กิมจิ) น้ำซุปต้มผัก เต้าหู้ทรงเครื่อง และที่ตามมาทีหลังสุดก็คือข้าวสวยค่ะ






อีกเมนูนึงก็คือ “Naengmyeong” เรียกง่าย ๆ ว่า “หมี่เย็น” ก็คือเส้นหมี่ในน้ำซุปเย็น ๆ อารมณ์ประมาณทานข้าวแช่ของไทยนี่ล่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

รับประทานเสร็จ ท้องฟ้าก็มือดลงพอดี ก็เลยที่เราจะได้เดินชมสวนไฟกันอย่างเพลิดเพลิน

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สวยงามมากจริง ๆ ค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เดินลอดซุ้มไฟต่าง ๆ










มีการจัดแสดงผลงานของ Vincent Van Gogh มากมาย ซึ่งแน่นอนว่าต้องมี “Van Gogh’s The Starry Night” อยู่ด้วยจึงจะตรงคอนเซปต์

[ทีมข่าวHFLIGHT]

นอกจากชมไฟแล้วที่นี่ก็ยังมีห้องนิทรรศการซึ่งเมื่อเดินเข้าไปก็จะพบว่าตนเองอยู่ในเขาวงกต สนุกยิ่งกว่าตรงที่ผนังทุกด้านเป็นกระจกค่ะ หันไปทางไหนก็เจอภาพสะท้อนซ้อนกันเป็นสิบชั้น แสงไฟก็คอยจะเปลี่ยนให้งุนงงกันเข้าไป โอ้ววว ว การเดินชนกัน เดินชนกระจก หรือมีมือเด็ก ๆ มาตะปบด้วยนึกว่าเราเป็นเพียงภาพสะท้อนในกระจก ถือเป็นเรื่องปกติค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ibis Hotels Suwon

Suwon City, Gyeonggi-Do, Koea

สองคืนแรกเราใช้บริการห้องพักขนาดกระทัดรัดของ ibis Hotels Suwon ค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Suwon Hwaseong Fortress

Suwon City, Gyeonggi-Do, Koea

สถาปัตยกรรมที่สร้างสรรค์และโดดเด่นอย่าง “ป้อมเมืองซูวอนฮวาซอง” แห่งนี้ถูกสร้างด้วยอิฐและหินเป็นแนวกำแพงยาวกว่า 5 กิโลเมตร ล้อมรอบพื้นที่เมืองซูวอน โดยพระราชดำริของพระเจ้าจองโจ กษัตริย์องค์ที่ 22 แห่งอาณาจักรโชซอน เพื่อเป็นที่ฝังศพของพระบิดาที่ถูกพระอัยยิกาสั่งลงโทษจนถึงแก่กรรมไม่ได้ขึ้นครองราชย์ และเพื่อสร้างซูวอนให้เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ ตัวป้อมมีอายุนานกว่า 200 ปี ในช่วงแรกคาดว่าการก่อสร้างจะต้องใช้ระยะเวลานานถึง 10 ปี แต่เมื่อได้รับเทคโนโลยีสมัยใหม่จากตะวันตกเข้ามาช่วยทำให้สร้างเสร็จภายในเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น แม้ป้อมจะเคยถูกทำลายไปเมื่อสมัยสงครามเกาหลีแต่ก็ได้รับการบูรณะขึ้นมาตามแบบแผนเดิมแทบจะไม่มีผิดเพี้ยน จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปีพ.ศ. 2540 ที่ผ่านมา

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สามารถใช้บริการรถรางหัวมังกรเพื่อชมความงามโดยรอบ หรือเลือกเดินชมด้วยตนเองก็ได้เช่นกันค่ะ ตลอดความยาวของป้อมจะมีจุดสำคัญให้ชมถึง 30 จุด หากจะเก็บให้ครบก็จะใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ก็เลยขอเก็บภาพจุดสำคัญบางส่วนมาให้ชม อย่างเช่น

สนามยิงธนู






กองบัญชาการใหญ่ (ฝั่งตะวันออก)




หอคอยสำหรับเฝ้าดูข้าศึก (ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ)




และแท่นยิงธนู (ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ)

[ทีมข่าวHFLIGHT]

และตลอดทางเดินก็จะพบช่องสำหรับส่องดูข้าศึก ช่องสำหรับเทหินร้อนออกไปภายนอก ภาชนะบรรจุหินเพื่อขว้างปาข้าศึก และปืนประจำอยู่ตามจุดต่าง ๆ อีกด้วย

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Hwaseong Haenggung Palace

Suwon City, Gyeonggi-Do, Koea

“พระราชวังฮวาซอง” ตั้งอยู่ภายในเขตป้อมซูวอน ฮวาซองค่ะ ก่อนจะเดินเข้าไปยังพื้นที่พระราชวังนั้นจะต้องผ่านลานด้านหน้าซึ่งจะมีแก๊งส์จักรยานทั้งเด็กและผู้ใหญ่ปั่นกันเป็นกิจกรรมยามว่าง




หน้าประตูทางเข้าก็จะมีการแสดงในเวลา 11.00 น. ของทุกวัน แต่ผู้เขียนเองก็อดชมเนื่องจากการแสดงนี้งดในวันจันทร์

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ส่วนในพื้นที่พระราชวังก็จะเปิดให้ชมทั้งห้องขันที ห้องนางใน จนถึงห้องประทับของกษัตริย์ ซึ่งก็เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์มามากมาย ที่ผู้เขียนพอจะคุ้นอยู่บ้างก็คือแดจังกีม และลีซาน

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ลักษณะของหลังคาจะแตกต่างกันตามยศศักดิ์






นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมให้เลือกทำอีกมากมายภายในพื้นที่แห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นการลองแต่งกายด้วยชุดฮันบก ชมนาฬิกาแดด ยิงธนู ทำขนม เพ้นท์ภาพ หรือร้อยสร้อยลูกปัด เป็นต้น

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เที่ยงแล้วค่ะ




มื้อนี้เรามารับประทาน “Suwon Galbi” กันค่ะ ซึ่งจะมีทั้งเนื้อและหมู เมื่อเนื้อสุกเราก็คีบเนื้อบนเตามารวมกับเครื่องเคียงต่าง ๆ ก่อนห่อด้วยผักกาด “ซังจู” และนำเข้าปากค่ะ






และนี่ก็คือ "กิมจิ" พระเอกของอาหารเกาหลีทุกมื้อค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Korean Folk Village

Yongin City, Gyeonggi-Do, Koea

ถ้าหากว่าคุณอยากสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของเกาหลี ก็ขอแนะนำให้รู้จักกับ “หมู่บ้านวัฒนธรรมเกาหลีโบราณ” แห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองยงอินค่ะ เมื่อเดินผ่านเข้ามาก็จะพบกับกลุ่มของบ้านเรือนโบราณตั้งแต่สมัยโชซอนเกือบ 300 หลัง แล้วก็ยังมีสถานีตำรวจ ร้านขายยา โรงตีเหล็ก เรือกสวนไร่นาของเกษตรกร และอีกมากมาย

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่การชมความต่างของ "บ้านชาวบ้าน" กับ "บ้านขุนนาง" ซึ่งสามารถแยกได้ด้วยลักษณะของหลังคา สีสัน และข้าวของเครื่องใช้


บ้านชาวบ้าน








บ้านขุนนาง






สถานที่แห่งนี้เป็นโลเคชั่นถ่ายทำละครมาแล้วจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นแดจังกึม, บัณฑิตหน้าใส หัวใจว้าวุ่น (SungKyunKwan Scandal), รวมทั้งยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว (Man from the star) เป็นต้น

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ระหว่างเดินชมก็จะมีจุดให้แวะทำกิจกรรม อย่างทำอาหาร ทำของใช้ หรือเขียนข้อความขอพร เป็นต้น เดิน ๆ ไปก็จะสวนกับชายบ้างหญิงบ้างที่แต่งกายย้อนยุคเป็นอาชีพหรือเอกลักษณ์ต่าง ๆ แสดงเป็นคนเมาหน้าแดงเดินโซเซก็มีนะคะ ...และยังค่ะ ยังไม่หมด ที่นี่ยังมีการแสดงอีกหลายชุด อาทิ ระบำพื้นบ้านชาวนา การแสดงไต่เชือก การละเล่นพื้นบ้าน หรือการแสดงร้องรำทำเพลงก็มีเหมือนกัน ส่วนเรื่องของอาหารหรือขนมโบราณก็ขอบอกว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด สรุปให้เลยว่าที่แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่มีชีวิตชีวา ได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินใจแบบ all in one เลยล่ะค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Everland

Yongin City, Gyeonggi-Do, Koea

 

แม้จะไม่มีดิสนีย์แลนด์ แต่เกาหลีก็มี “Everland” นะคะ และต้องบอกว่าที่นี่ไม่ธรรมดาเลยยยย ตั้งแต่เหตุผลในการสร้าง สถานที่สร้าง รวมถึงกิจกรรมล้านแปดที่อยู่บรรจุรวมกันในที่แห่งนี้ สวนสนุก Everland ก่อตั้งขึ้นโดยตระกูล SAMSUNG เมื่อคุณปู่อยากจะสร้างสวนสนุกเป็นของขวัญให้กับหลานชายคนแรก จึงได้ซื้อภูเขามาลูกหนึ่งและสร้างสวนสนุกท่ามกลางหุบเขานี้เลย โหววว ที่นี่จะเป็นจุดสร้างความสนุกสนานของเด็ก ๆ สถานที่ปล่อยแก่ของวัยกลาง ๆ หรือจะเป็นสถานที่เดินเล่นชมบรรยากาศสำหรับคนสูงวัยก็ได้ โดยสวนสนุกระดับโลกแห่งนี้ก็แบ่งได้เป็น 5 โซน

1) Global Fare ก็คือโซนแรกหลังจากที่ผ่านประตูทางเข้ามา เราก็จะพบกับ...

K-POP Hologram : ภายในจะจัดแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินเกาหลีในรูปแบบที่เสหมือนจริงมาก




Magic Tree : สูงถึง 13 เมตร ที่ใคร ๆ ก็ต้องหยุดแวะถ่ายรูปที่จุดนี้








และอีกมากมายของร้านค้าให้ช็อปปิ้ง รวมทั้ง LINE Friends Store ที่ผู้เขียนเองก็แวะเข้าไปชมถึง 2 รอบเลยยย