127 replies to this topic

[Marty]

Advertisements

Hflight กลับมาแล้ว หวังว่าเขียนรีวิวเสร็จ รีวิวคงไม่หายสาบสูญไปไหนนะ     เพิ่งไป Europe กับ Etihad และ Alitalia ในชั้น Business และ First Class มา มาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่า 

 

เย็นวันอังคารที่ 22 กันยา ด้วยความที่กลัวรถติดจัดเลยรีบออกจากบ้านตั้งแต่ 4 โมงเย็นเพื่อมา check-in ไฟลท์ 2 ทุ่มครึ่ง แต่รถแทบไม่ติดเลย ถึงสนามบินภายในครึ่งชั่วโมงจากสุขุมวิท 31 มาถึงสุวรรณภูมิก่อนเครื่องออก 4 ชั่วโมงเต็ม สำหรับ Etihad ใช้เคาน์เตอร์เช็คอิน Q ครับ ถ้าจำไม่ผิดประตู 7 จะใกล้ที่สุด

 

มาถึงแล้วไม่ต้องรอคิวเลยสำหรับ Business Class 

 

สำหรับ Economy ก็ไม่ต้องรอคิวนานมาก flight ก่อน flight ผม (6.20pm) ก็เช็คอินกันเกือบเสร็จแล้ว flight ถัดมาคนก็ยังไม่ค่อยมา check-in เท่าไหร่

[Marty]

ได้มาแล้วครับ Boarding pass สำหรับ sector ที่ 1 จากกรุงเทพไปอาบูดาบี และ sector ที่ 2 จาก อาบูดาบี ไป ปารีส

 

Lounge invitation โดย Etihad ใช้ Royal Silk/Royal Orchid Lounge ที่กรุงเทพ พร้อม Premium Lane สำหรับ ตม. และ security

[Marty]

แถวคิว ตม. ของช่องธรรมดาช่วง 5 โมงเย็นตอนนี้ คิวไม่เยอะเท่าไหร่ ส่วนของ Premium Lane ก็ไม่มีคิวเช่นกันครับ

 

เข้ามาแล้วก็ไป Lounge กันเลยดีกว่า เนื่องจากวันนี้ใช้ Gate E3 เลยมาใช้บริการ lounge การบินไทยที่ Concourse E ซึ่งผมยังไม่เคยใช้บริการเลย (เคยใช้แต่ที่ Concourse C และ D) ซึ่งที่ Concourse E มีให้เลือกใช้ทั้ง Royal Silk และ Royal Orchid Lounge ผมสงสัยมานานแล้วว่า Lounge 2 อันนี้มันต่างกันยังไง เลยลองแวะเข้าไปดูใน Royal Orchid Lounge ดีกว่า

[Marty]

เข้ามาแล้ว มาดูรายละเอียดกัน เริ่มด้วย เครื่องดื่มแอลกอฮอลต่าง ๆ (โพสต์รูปแบบนี้จะผิดกฎหมายมั๊ยเนี่ย  )

 

เครื่องทำกาแฟ

[Marty]

ของกินต่าง ๆ เริ่มด้วย pastry และ ติ่มซำ

 

เค้กชอกโกแลตกับพาย (มั๊ง)

 

แซนด์วิช สลัด และผลไม้

[Marty]

ข้าวต้มมัด

 

เครื่องดื่มต่าง ๆ 

 

คอมพิวเตอร์

[Marty]

ชั้นวางนิตยสารต่าง ๆ 

 

สำรวจเรียบร้อยแล้ว คำถามคือกับข้าวอยู่ไหน เลยถามเจ้าหน้าที่ในนั้นว่าจะมีกับข้าวหรือไม่ เลยได้คำตอบว่า Royal Orchid Lounge จะไม่มีกับข้าว จุดประสงค์คือต้องการให้ lounge เงียบ ๆ สำหรับคนที่ต้องการความสงบ คนไม่พลุกพล่าน ถ้าจะทานข้าวต้องไป Royal Silk lounge เราก็ อ้อ มันต่างกันอย่างนี้นี่เอง เลยรีบขอ lounge invitation คืน แล้วย้ายไป Royal Silk lounge ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน 

 

[Marty]

เข้ามาแล้ว บรรยากาศบริเวณที่จัดอาหาร/เครื่องดื่มครับ

 

กับข้าววันนี้มีไก่กระเทียม ข้าวสวย

 

แล้วก็เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว (มังสวิรัติมีแต่ไข่ไม่มีเนื้อสัตว์)

[Marty]

อาหารอย่างอื่นก็คล้าย ๆ กับที่มีอยู่ใน Royal Orchid Lounge ครับ

 

 

มี chicken tikka (ชั้นล่าง) ด้วยแต่ไม่ได้ลองทาน

[Marty]

มีกับข้าวให้กินเท่าที่เห็น เพราะฉะนั้นเลือกไม่ได้ต้องกินตามมีตามเกิด   ตักมาตามภาพครับ แต่ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นคนทานง่ายอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา กินไปไก่หมดยังเหลือข้าวกับผัดซีอิ๊วอยู่เลยตักไก่เพิ่มนิดหน่อย 

 

รับเครื่องดื่มเป็น Coke light

 

กับข้าวรสชาติใช้ได้ครับ ทานจนหมดเกลี้ยง มีกับข้าวให้เลือกไม่เยอะ แต่ยังใช้วัตถุดิบคุณภาพดีอยู่ ข้าวหอมมะลิคุณภาพดี อกไก่/สันในไก่เนื้อนุ่มไม่มีมัน ผัดไม่มันเท่าไหร่ ชอบครับ   แต่ผัดซีอิ๊วผัดมันไปนิดนึง

[Marty]

Lounge บรรยากาศมองเห็นวิว airside ของสนามบิน

 

บรรยากาศภายใน lounge ตอนเข้ามาคนค่อนข้างแน่นพอสมควร แต่ก็พอมีที่ให้เลือกบ้างครับ ไม่ถึงกับหาที่ไม่ได้

 

นั่งไปซักพักพอ flight ต่าง ๆ เริ่ม board กัน lounge ก็เริ่มโล่งขึ้น คนที่ใช้บริการเล้าจ์การบินไทยมาเป็นระยะ คงสังเกตุได้ว่าที่นั่งจะเล็กลง คงจะปรับเพื่อให้สามารถบรรจุคนได้มากขึ้น

 

ถ้าสังเกตุจากรูปข้างล่างที่นั่งจะใหญ่กว่า (เอารูปมาจาก website การบินไทย) ไม่รู้ว่าที่ concourse C และ D ที่นั่งยังหน้าตาแบบนี้รึเปล่า ไม่ได้ไปใช้บริการนานแล้วเหมือนกัน แต่ที่ Royal Orchid lounge ที่เข้าไปตอนต้นยังหน้าตาแบบนี้อยู่ (คนก็โล่ง ๆ แบบนี้ด้วย  )

[Marty]

แวะไปเข้าห้องน้ำก่อนเดินไป gate สะอาดสะอ้านเป็นระเบียบดีครับ 

 

 

[Marty]

ก่อนเวลา boarding บน boarding pass ประมาณ 15 นาทีก็เดินไป gate ครับ จะได้ขึ้นคนแรก ๆ แล้วได้ถ่ายรูป cabin โล่ง ๆ วันนี้ใช้ gate E3 ครับ

 

มีคนมานั่งพอประมาณอยู่แล้ว เท่าที่จำได้เริ่ม boarding ตรงเวลาเรียกผู้โดยสาร Business class ก่อนตามที่ควรจะเป็น

[Marty]

ลง flight information กันหน่อย

 

EY401 Etihad Airways

From: Bangkok Suvarnabhumi Airport (BKK)

To: Abu Dhabi Airport (AUH) Terminal 1

Schedule departure time: Tuesday 22 September 2015, 20:35 (GMT+7)

Schedule arrival time: Wednesday 23 September 2015, 00:05 (GMT+4)

Flight duration: 6 hours 30 minutes

Aircraft: Boeing 777-300ER

Gate: E3

Seat number : 7A

 

เข้ามาแล้วครับ Business class cabin

 

วางที่นั่งแบบ staggered seat 1-2-1 มีที่นั่ง Business class ทั้งหมด 7 แถว 28 ที่นั่งครับ

 

seat map ของเครื่องบินรุ่นนี้ที่ Etihad นำมาใช้บนเที่ยวบินนี้ครับ เป็น high density configuration มี 2 ชั้นโดยสาร (ไม่มี first class) วางที่นั่ง Business class 28 ที่นั่ง Economy วางที่นั่งแบบ 3-4-3 รวม 384 ที่นั่ง รวมที่นั่งทั้งหด 412 ที่นั่ง 

[Marty]

ที่นั่งของผมวันนี้ครับ 7A เป็น Window seat

 

Etihad ใช้ที่นั่ง Business class บน 777 (รวมถึง 330 และ 340 ด้วย) รุ่น Soltys ของ EADS Sogerma เหมือนที่การบินไทยใช้บน 380 และ 777-300ER ครับ

มาถึงมีหมอน หูฟัง และขวดน้ำวางอยู่แล้ว

 

พร้อมด้วยผ้าห่ม Amenity kit และ menu วางอยู่บน ottoman

[Marty]

เข้ามาแล้วมีลูกเรือเข้ามาแนะนำตัวแล้วถามว่าต้องการดื่มเครื่องดื่มอะไรดี ผมตอบกลับไปว่าขอ sparkling water 

ต้องขออภัยด้วยนะครับ ที่ดื่มอะไรน่าเบื่อ   เนื่องจากผมไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลเลย แล้วช่วงนี้พยายามเลี่ยงอะไรที่เป็นน้ำตาล ๆ หวาน ๆ เลยรับเป็น sparkling water แทน ถ้าใครไม่เคยทาน รสชาติคล้าย ๆ soda ครับ แต่ซ่าน้อยกว่า

 

ปรับ tray วางแก้วเครื่องดื่ม leg room เกินพอ

 

ลูกเรือน้ำผ้าร้อนมาให้ แต่ไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ 

[Marty]

สำรวจที่นั่งกันต่อ เอกสารโปรโมท Abu Dhabi Grand Prix, Duty free catalogue, In-flight magazine

 

Entertainment guide, safety card

[Marty]

เท่าที่จำได้ push back ตรงเวลาครับ

 

take-off แล้วครับ

 

บรรยากาศกรุงเทพยามราตรี

[Marty]

พอสัญญาณรัดเข็มขัดดับลง ลูกเรือก็เริ่มให้บริการเครื่องดื่มและ snack ครับ รับเป็นน้ำ carrot 100% ผมชอบมากครับ สำหรับคนที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลแบบผม ถ้าสายการบินไหนมีน้ำผลไม้อย่างอื่นที่ไม่ใช่ orange/apple/tomato จะชอบมาก ส่วน nut mix ประกอบด้วย almond และ cashew ซึ่งอุ่นร้อนมา อร่อยมากครับ 

 

ลองมาดูเมนูกัน ในเมนูบอกว่าเป็น 'dine anytime' แต่ลองมาดูความเป็นจริงกันว่ามันจะเป็นยังไง 

[Marty]

เริ่มด้วยส่วนของอาหารครับ 'All-Day' menu

 

'A la carte' menu