40 replies to this topic

[jk..lsky]

Advertisements

สวัสดีครับ

 

เพิ่งมีโอกาสเดินทางกับสายการบินสวิส มาครับ เป็นสายการบินที่ผมมีโอกาสใช้บริการหลายครั้งแล้วเวลาเดินทางในยุโรป และก็รู้สึกประทับใจทุกครั้ง เพราะว่าหากจะเทียบกับบรรดาสายการบินยุโรปทั้งหลาย(ที่บริการเที่ยวบินในยุโรป)แล้ว ผมว่าสวิสเป็นสายการบินที่มีระดับการบริการค่อนข้างล้ำหน้ากว่าสายการบินอื่นๆ (แต่ก็อย่าเอามาเทียบกับแถบเอเชีย) ล่าสุดก็ได้รับการจัดอันดับเป็นสายการบินยอดเยี่ยมอันดับ 3 ของยุโรปจากสกายแทรกซ์ (รองจาก เตอร์กิช(อันนี้มันยุโรปปลอมๆนี่นา) และลุฟท์ฮันซา(สายการบินแม่ของสวิส))

 

ก็เลยอยากมาทำรีวิวให้ชมกันครับ พร้อมกับยกสโลแกนของสายการบินคือ Our sign is a promise มาเป็นชื่อรีวิวด้วย

 

อ้อ ทริปนี้เกิดจากภารกิจไปงาน Air14 งานแอร์โชว์ของที่กองทัพอากาศสวิตเซอร์แลนด์จัดขึ้น และปีนี้เป็นโอกาสพิเศษที่ ครบรอบ 100 ปีการบินกองทัพสวิสด้วย

 

การเดินทางจากกรุงเทพฯนั้นผมใช้บริการ Malaysia Airlines บินจาก กรุงเทพฯ ไป KL แล้วก็นั่ง A380 ของ MH ต่อไปยัง Paris CDG ครับ (เนื่องจาก MH ไม่มีจุดหมายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เลย ในยุโรปก็จะมี Paris Frankfurt Amsterdam และ London ครับ) 

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[jk..lsky]

ลงจากเครื่องเข้าสู่ Terminal 1 อันแสนดูสับสน (ก็จริง ๆ ไม่ค่อยน่าสับสนเท่าไร แต่ผมว่าดีไซน์มันดูสวยแต่ใช้งานยากและไม่ค่อยสะดวกสบาย) ก็ต้องผ่าน ตม. และรับกระเป๋าก่อนครับ

 

เนื่องจากว่าไฟลท์ของ SWISS ไม่ได้เช็คทรูมาจากกรุงเทพฯ ต้องมาเช็คอินอีกครั้งที่นี่

 

ทางเลื่อนในครอบแก้วที่ไขว้กันไปมาตรงกลางอาคารนี่สวยนะ แต่จริง ๆ แล้วไม่ค่อยสะดวกเลย ถ้าใครลากกระเป๋าจะรู้ว่าพื้นมันยุบๆ เป็นระยะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[jk..lsky]

รับกระเป๋าเสร็จ ก็ลงมาเช็คอินที่เคาเตอร์ของ SWISS สายการบิน SWISS (กลุ่ม Lufthansa ทั้งหมด) นั้นใช้ Terminal 1 ครับ

 

สำหรับเงื่อนไขการโหลดกระเป๋าสำหรับชั้นประหยัดของสวิส (บินในยุโรป) ก็คือ 1 ใบและไม่เกิน 23 กก. ครับ

เช็คอินเสร็จได้บอร์ดดิงพาสก็ไปเกท โดยที่ Terminal 1 ก็จะเป็นอาคารรูปทรงกลมที่ มีอาคาร Satellite เป็นบริวาร อยู่อีก 7 อาคารรอบๆ (อาคาร Satellite คือบริเวณเกทที่เอาไว้ให้เครื่องบินเทียบ) และก็จะมีทั้งส่วนที่เป็น นอกเชงเก้นและภายในเชงเก้น

 

ดังนั้นการเดินทางไปซูริคของเราจากปารีสนั้น เนื่องจากเดินทางในกลุ่มเชงเก้น เราได้ผ่าน ตม. ที่ปารีสแล้ว ก็ไม่ต้องผ่าน ตม.อีกแล้วครับ ไปที่เกทกันเลย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[jk..lsky]

เกทที่กลุ่ม LH ใช้จะเป็นเกท 60-68 หรืออยู่ที่ Satellite 6 นั่นเอง และก็จะมีเลาจน์ของ Lufthansa อยู่ด้วยครับ

 

แม้จะบินชั้นประหยัดแต่ก็ใช้สิทธิ Star Alliance Gold เข้าไปนั่งในเลาจน์

 

เลาจน์ไม่มีอะไรมากครับ ห้องอาบน้ำก็ไม่มี ของกินก็มีเล็กน้อยเบาๆ ตามประสาเลาจน์ในยุโรป เป็นมันทอด โคลคัท ขนมปัง แต่ก็ดีกว่าอยู่ที่เกทอันแสนแออัดและวุ่นวายของ CDG

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[jk..lsky]

บอร์ดดิงพาสครับ เลือกไฟลท์ต่อเป็น LX635 ไว้ออกตอน 11 โมง ทั้งๆ ที่เครื่องลงจาก KL มาตั้งแต่ประมาณ 7 โมง เลยมีเวลารอนานพอสมควร ตอนนี้ใกล้บอร์ดแล้วก็เลยกลับขึ้นมาที่หน้าเกท

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

เครื่องบินที่จะพาบินไปซูริคในวันนี้ เป็น แอร์บัส เอ319 ทะเบียน HB-IPT เข้ามาจอดรอแล้ว

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

เรียกขึ้นเครื่องละครับ หลังจากล่าช้าไปพอสมควรเพราะเครื่องเข้ามาช้าด้วย

 

ที่นั่งจะเหมือนกันหมดทุกแถวครับ แต่โซนหน้าๆ ที่เป็นชั้นธุรกิจ ก็จะเว้นที่นั่งตรงกลางไว้ แล้วมีผ้าปูรองศีรษะ เป็นเรื่องปรกติสำหรับสายการบินยุโรปที่ให้บริการชั้นธุรกิจบนเก้าอี้แบบเดียวกับชั้นประหยัดแต่เว้นแถว เพราะเที่ยวบินในภูมิภาคก็ไม่ได้ไกลมาก

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

เตรียมตัวออกเดินทาง(แต่ยังไม่ออกสักที) ก็มีการฉายวิดีโอสาธิตผ่านจอเหนือศีรษะ และก็ฉายภาพข้อมูลการเดินทางว่า การเดินทางจากปารีสไปซูริคนั้นเป็นระยะทางประมาณ 477 ไมล์ ใช้เวลาบินแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[jk..lsky]

จากที่ขึ้นมาหลายไฟลท์พอสมควร ลูกเรือของสวิสจะดูยิ้มแย้มขี้เล่น ร่าเริง เป็นกันเอง ผิดแตกต่างจากบรรดาสายการบินยุโรปอื่นๆ ทั่วไปที่เคยสัมผัส ดูมีความสุขกับการทำงานดี

 

เครื่องพร้อมออกเดินทางนานแล้วครับ แต่ก็ยังไม่ได้ออกสักทีเพราะว่าติดการจราจรที่หนาแน่นที่ปารีสอยู่

 

ลูกเรือก็เดลยเดินเอาชอคโกแลตมาแจกครับ เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของเที่ยวบินของสวิสคือต้องแจกชอคโกแลต บางทีก็แจกตอนเดินลงจากเครื่อง บางทีก็แจกหลังจากบริการขนมกับเครื่องดื่ม

 

ไฟลท์นี้เห็นว่ายังออกไม่ได้สักทีก็เลยเดินถือตะกร้ามาแจก จะหยิบหลายชิ้นก็ได้นะครับ แต่ว่าอยากบอกว่าให้รีบกันครับ เพราะถ้าเก็บไว้นานๆ จะละลาย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[jk..lsky]

นั่งหง่าวรอประมาณ 10 นาที (จริงๆ แอบหลับ) เครื่องบินก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากหลุมจอดที่ Terminal 1 ที่ปารีส ชาร์ลเดอโกลล์ สักที ผ่าน เอ380 ของการบินไทยด้วย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[jk..lsky]

แทกซี่ไป เทคออฟจากทางวิ่ง 27L ครับ เวลาวิ่งขึ้นเลยได้เห็น เทอร์มินัล 1 จากมุมสูงแบบนี้

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[jk..lsky]

สัญญาณรัดเข็มขัดดับลง ก็ได้เวลาของการบริการครับ

 

ตามประสาเที่ยวบินในยุโรปก็ไม่มีอะไรมาก ปรกติสายการบินอื่นๆ ที่ขึ้นก็จะมี ขนม 1 อย่างจะเลือกเอาว่าคาวหรือหวาน(คือชิพ ไม่ก็คุกกี้ เพรทเซล ) แล้วก็บรรดาเครื่องดื่ม

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[jk..lsky]

สำหรับเที่ยวบินนี้ก็เป็นขนมปังใส้เนย หนึ่งชิ้น (มันก็ดูมากกว่า ขนมซองๆ ที่สายอื่นชอบแจก) ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลายอย่าง ทั้งพวกแอลกอฮอลล์อย่างเบียร์ ไวน์ สปาร์กลิงไวน์ หรือ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ น้ำแร่แบบทั้งมีแกสและไม่มีแกส

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[jk..lsky]

นิตยสารบนเที่ยวบินและแคตาลอกสินค้า มีขายคาร์ทด้วยนะ

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

แวะไปเข้าห้องน้ำท้ายเครื่องครับ ผนังด้านหลังเครื่องเป็นแผนที่ยุโรป พร้อมมีรูปธงชาติสวิสอยู่ตรงที่ตำแหน่งของสวิตเซอร์แลนด์พอดี

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[jk..lsky]

อย่างที่เห็นในภาพคนไม่แน่นมากเท่าไรครับเที่ยวบินนี้ จอเหนือศีรษะก็แสดงข้อมูลการบินสลับกับข่าวสารของสายการบินตลอดเวลาครับ 

 

บินแค่ชั่วโมงเดียวก็เริ่มลดระดับลงสู่สนามบินซูริค

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[jk..lsky]

หลังจากบินวนเพื่อรอลงที่ซูริคอยู่พักใหญ่ เราก็ลงจอดทางรันเวย์ 14 ครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[jk..lsky]

เครื่องมาจอดเทียบคองคอร์ส A ครับซึ่งเป็นเกทสำหรับเที่ยวบินจากต้นทางในเชงเก้น 

 

ก็ลงจากเครื่องบอกลา เอ319 ลำนี้และเดินทางเข้าสู่ประเทศที่จัดอันดับว่า แพง ที่สุดในโลก (แต่สภาพคุณภาพชีวิตก็ดีมากเช่นกัน)

[jk..lsky]

เครื่องมาจอดเทียบคองคอร์ส A ครับซึ่งเป็นเกทสำหรับเที่ยวบินจากต้นทางในเชงเก้น 

 

ก็ลงจากเครื่องบอกลา เอ319 ลำนี้และเดินทางเข้าสู่ประเทศที่จัดอันดับว่า แพง ที่สุดในโลก (แต่สภาพคุณภาพชีวิตก็ดีมากเช่นกัน)

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[jk..lsky]

แม้สวิตเซอร์แลนด์จะอยู่ในกลุ่มเชงเก้น ทำให้เราไม่ต้องผ่าน ตม. แล้วแต่ว่า สวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป(อย่างที่ประเทศในเชงเก้นส่วนใหญ่เป็นกัน) นั่นแสดงว่าการนำสิ่งของต่าง ๆ เข้าสวิตอาจจะต้องผ่านศุลกากรครับ แม้ว่าจะเดินทางมากจากต้นทางในเชงเก้นก็ตาม

Attached Thumbnails

• 
•