Jump to content



 
จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองรถเช่า
แผนกบริการลูกค้า โทร 02-3737-555 จันทร์ - เสาร์ 09.00-18.00น.

 

ค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวและการบินในเอชไฟล์ท เชิญด้านล่างนี้

หน้าแรก | เว็บบอร์ดรีวิว | จองตั๋วเครื่องบิน | จองโรงแรม | เที่ยวต่างประเทศ | เที่ยวในประเทศ | ลงโฆษณา

ม่วนซื่นอิสานใต้...ตามรอยอารยะธรรมเขมรค่ะ

เที่ยวในประเทศ การเดินทาง

  • Please log in to reply
36 replies to this topic

#1 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

 


Posted 17 March 2014 - 05:39 PM

Advertisements

ทริปนี้เป็นการเที่ยวอิสานครั้งแรกของครอบครัวน้องแก้มด้วยค่ะ

 

 

แก้ไขหัวข้อ "ม่วนซื่นอิสานใต้...ตามรอยอารยะธรรมขอมค่ะ"

 

ทุกๆ คนสนุกสนาน ตื่นเต้นมากมายเลยค่ะ โดยเฉพาะตัวน้องแก้มเองค่ะ 

ซื่นมื่นกับทัวร์เต็มๆ วัน...

ตามอารยะธรรมขอม ศึกษาศิลปะและวัฒนธรรม

วัดขุนก้อง + วัดเขาอังคาร + ปราสาทหินเมืองต่ำ + ปราสาทหินพนมรุ้ง

 

จุดประสงค์ของทริปนี้

น้องแก้มจะมาชมปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ตก

สาดส่องพาดผ่านประตูทั้ง 15 บาน ที่ปราสาทหินเขาพนมรุ้งค่ะ

 

ซึ่งจะเกิดขึ้นปีละ 4 ครั้งดังนี้ค่ะ

ครั้งที่ 1 : พระอาทิตย์ตก วันที่ 4-6 มี.ค. 57 *** น้องแก้มมาชมค่ะ *** 

ครั้งที่ 2 : พระอาทิตย์ขึ้น วันที่ 1-5 เม.ย. 57

ครั้งที่ 3 : พระอาทิตย์ขึ้น วันที่ 8-10 ก.ย. 57 

ครั้งที่ 4 : พระอาทิตย์ตก วันที่ 5-8 ต.ค. 57

 

เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศในวันนั้นๆ ด้วยนะคะ 

 

แต่น้องแก้มจะได้เห็นหรือเปล่าน้อ? มาติดตามกับน้องแก้มกันค่ะ...

 

1394607754-aaa1-o.jpg





Advertisements

#2 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 07:37 PM

วันนี้เป็นรายการทัวร์ตามรอยอารยะธรรมของเต็มๆ วันเลยค่ะ

 

สนุกสนานสุดๆ เลยค่ะ น้องแก้มน้องกานต์สู้เต็มที่เลยค่ะ 

 

น้องแก้มพักอยู่ที่โรงแรมพนมรุ้งปุรี ใกล้กับ “วัดขุนก้อง” นิดเดียวเองค่ะ

 

09.00 น.   ตื่นเช้ามารับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมค่ะ

10.00 น.   ล้อหมุนออกมาจากโรงแรมนิดเดียว 500 เมตร 

และเป็นทางผ่านอยู่แล้ว 

น้องแก้มเลยไม่พลาดที่จะมาแวะชมวัด ไหว้พระขอพรค่ะ

 

แต่วัดแรกเป็นวัดไทยพุทธนะคะ

 

วัดขุนก้องเป็นวัดราษฎร์เก่าแก่วัดหนึ่งในอำเภอนางรอง 
สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2150 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2260 
ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มระหว่างทุ่งนากับหมู่บ้าน 
ห่างจากตัวอำเภอไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 2 กิโลเมตร อ
ยู่ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง อาณาเขตติดต่อ ด้านหน้าทิศเหนือจดทุ่งนา 
และลำนางรอง ทิศใต้จดทางหลวงสายโชคชัย-เดชอุดม ทิศตะวั
นตกจดถนนสรรพกิจโกศล และหมู่บ้านนางรอง 
ทิศตะวันออกจดลำนางรอง มีเนื้อที่ 25 ไร่ 2 งาน 82 ตารางวา
       
สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี 
โดย “ขุนกอง” ซึ่งเป็นนายทหารผู้ควบคุมเสบียงตอนที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช 
และสมเด็จพระเอกาทศรถ ขณะที่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ 
ได้ยกกองทัพไปปราบเขมร ได้มาตั้งทัพพักอยู่ในเมืองนางรองเป็นผู้สร้างขึ้นแ
ละเรียกว่า “วัดขุนกอง” 
เมื่อกาลเวลาล่วงมานานเข้าชื่อเรียกวัดก็เพี้ยนมาเป็น “วัดขุนก้อง” 
แต่บัดนั้นมาจนถึงบัดนี้ 
วัดนี้สร้างมาก่อนพระราชบัญญัติลักษณะปกครองสงฆ์ ร.ศ. 121 
ประกาศใช้มีอายุยาวนานถึงปัจจุบันเป็นเวลา 405 ปี
 
 

ประวัติด้านนอกอุโบสถกับด้านในวัดไม่เหมือนกันค่ะ 

น้องแก้มเลยเก็บรูปมาฝากทั้ง 2 ประวัติเลยค่ะ

1394608001-1-o.jpg

 

1394608019-22-o.jpg

 

ด้านหลังของอุโบสถค่ะ

ถนนตรงนี้จะตัดผ่านไปยังถนนสายหลักที่มาจากโรงแรมค่ะ

1394608229-2-o.jpg

 

หลังคาเป็นโครงสร้างไม้ แกะสลักสวยงามค่ะ 

สมัยก่อนมุงด้วยแฝก หญ้าคา สังกะสี และปัจจุบันใช้ไม้แทนค่ะ 

1394608286-22-o.jpg

 

มีพระพุทธรูปไว้กราบไหว้บูชาค่ะ

มองขึ้นไปบนหลังคาจะเห็นโครงสร้างที่มุงหลังคาด้วยไม้ค่ะ

1394608362-3-o.jpg

 

 

 

ใบเสมาหน้าทางเข้าอุโบสถแกะสลักสวยงามเลยค่ะ 

1394608549-33-o.jpg

 

 

ประตูกำแพงโบสถ์ทิศใต้

ได้มีการปั้นรูปทหาร 2 นาย ซึ่งเรียกว่า "เจ้าขุน ซ้าย-ขวา" 

เป็นทหารโบราณยืนหันหน้าเข้าหากันเสมือนเป็นทหารเฝ้ายาม

เพื่อป้องกันเมืองจากอริราชศัตรูเนื่องจากรอบบริเวณวัดเป็นคูเมืองทั้งหมด

1394608592-4-o.jpg

 

 

 

สมัยก่อนการปั้นทหารใช้ปูน ทรายผสมกับน้ำมันยาง 

แต่รูปปั้นทหารเจ้าขุนขวาแขนซ้ายได้แตกหักเสียหาย 

ซึ่งเดิมจะไม่มีการซ่อมเพราะต้องการให้คงไว้ซึ่งของเดิมที่มีมาแต่อดีต 

แต่ปัจจุบันได้บูรณะใหม่แล้วค่ะ 

1394608629-5-o.jpg



#3 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:07 PM

ประตูกำแพงฝั่งขวา 
จะมีรูปปั้นของพญาครุฑประจำอยู่ทั้ง 2 ฝั่งประตูค่ะ
1394608716-6-o.jpg
 
 
 
และใต้ฐานพญาครุฑ จะแกะสลักพระแม่ธรณีบีบมวยผมค่ะ
1394608748-7-o.jpg
 
 
 
ช่องหน้าต่าง 2 ฝั่งด้านซ้าย และขวา คล้ายป้อมส่องปืนเลยค่ะ
1394608789-8-o.jpg
 
 
 
หรือเป็นช่องสำหรับจุดเทียน? แต่ปัจจุบันช่องหน้าต่างนี้เอาไว้ตั้งจุดเทียนค่ะ
1394608830-9-o.jpg
 
 
 
มองจากด้านฝั่งขวาของอุโบสถ 

จะเห็นแนวอิฐโบราณด้านล่างที่ทรุดโทรมตามกาลเวลา 

ไม่ได้มีการบูรณะ เพื่อคงสภาพเดิมๆ ไว้ค่ะ 

 

1394608964-52-o.jpg

 

 

 

ภาพสวย ๆ ของ  “อุโบสถของวัดขุนก้อง” ค่ะ 

สวยงามตามแบบฉบับโบราณสถานจริงๆ ค่ะ

1394609029-10-o.jpg



#4 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:11 PM

11.00 น.          ออกเดินทางไปเยี่ยมยาม ภูเขาไฟพระอังคาร 

 

ณ บ้านเจริญสุข ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ 

 

ซึ่งห่างจากพนมรุ้งเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้นค่ะ

แต่ก่อนเดินทางไปเยี่ยมชม “วัดเขาอังคาร” 

น้องแก้มแวะชมหมู่บ้านเจริญสุข เพื่อดู “การย้อมเส้นด้ายจาก “ภูอัคนี หรือ ดินภูเขาไฟ” 

และชม "การทอผ้า การปั่นด้าย” ที่หมู่บ้านกันก่อนค่ะ

 

ขับรถผ่านเข้ามาเลยหมู่บ้านมาแล้วเกือบถึงวัดเขาอังคารแล้วค่ะ 

เจอทุ่งนาที่มีตอฟางเข้าหนาแน่นเลยค่ะ 

ดินที่นี่ดีมากๆ เพราะว่าเป็นดินดำ ดินภูเขาไฟค่ะ แร่ธาตุสารอาหารเยอะมากๆ ค่ะ 

เคยเห็นแต่ตอฟางข้าวที่ห่างๆ ค่ะ ไม่เคยเห็นหนาแน่นแบบนี้เลยค่ะ 

ว่าแล้วก็ต้องย้อนกลับไปที่หมู่บ้านค่ะ  

1394613897-1-o.jpg

 

 

 

ในหมู่บ้าน ชาวบ้านส่วนใหญ่จะเลี้ยงควาย เพื่อทำนาขาว 

เราจะเห็นมีคอกควายค่ะ มีฟางข้าวสูง ๆ เก็บไว้ให้ควายหม่ำ ๆ กันค่ะ 

ส่วนในคอกควายก็จะมีขี้ควายหนาประมาณ 1 ฟุต 

 

 

1394613958-2-o.jpg

 

 

ถึงที่ทำการหมู่บ้านแล้วค่ะ...แต่น้องแก้มมาเก้อค่ะ 

เพราะว่าวันนี้แม่บ้านเค้าไปเตรียมงานขึ้นเขาพนมรุ้งกันค่ะ

เลยไม่ได้เห็นการย้อมเส้นไหมจากหินภูเขาไฟเลยค่ะ

1394613996-3-o.jpg

 

 

 

 น้องแก้มเลยแวะมาดูการทอผ้าตามบ้านกันดีกว่าค่ะ

“กี่ทอผ้า” ที่นี่ทำกับแบบง่ายๆ ค่ะ มีบางส่วนเป็นไม้ บางส่วนเป็นท่อพลาสติกค่ะ 

ทุกบ้านจะมีงานแบ่งกันทำตามความสามารถพิเศษของตนเอง

และทำงานอยู่ใต้ถุนบ้านค่ะ  

 

อย่างบ้านนี้ ก็ทอผ้าพันคอค่ะ

1394614038-4-o.jpg

 

 

น้องกานต์ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกค่ะ

1394614058-5-o.jpg

 

 

 

แวะมาบ้านคุณยายอายุ 70 กว่า ๆ ว่าง ๆ ก็นั่งปั่นด้ายทั้งวันเลยค่ะ 

บอกว่าสนุกดี มีงานทำจะได้ไม่เหงา อุปกรณ์ปั่นด้ายก็ภูมิปัญญาของยายล้วนๆ เลยค่ะ 

มีแค่ไม้ไผ่ ไม้หน้า3 เก่าๆ เชือกไนล่อน ตะปูนิดหน่อย 

 

เวลายายปั่นด้ายทีนึงเครื่องจักรยังอายเลยค่ะ (แค่มือดึงเชือก วงล้อ 2 วงวิ่งฉิวเหมือนใช้ไฟฟ้าเลยจ้า) 

 

1394614118-6-o.jpg



#5 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:13 PM

น้องแก้มขอลัดภาพเอามาจากงานที่เขาพนมรุ้งค่ะ ...

เดี๋ยวจะไม่ได้เห็นว่าหน้าตาผ้าที่ทอออกมามีสีแบบไหน 

น้องแก้มตามมาดูวิธีการทำจนได้ค่ะ เจอหัวหน้ากลุ่มแม่บ้านบนเขาพนมรุ้งนี่เองค่ะ 

วันนี้มาออกงานขายสินค้าของแม่บ้านที่เขาพนมรุ้งนี่เองค่ะ 

สีที่ย้อมออกมาจะเป็น “สีอิฐ” แบบนี้เลยค่ะ สวยงามมากๆ ค่ะ 

1394614177-7-o.jpg

 

 

 

 

เนื้อผ้าใช้เส้นด้ายฝ้ายย้อมออกมาจะได้สีของผ้าจะเป็นสีอิฐค่ะ 

ที่เห็นอยู่นี้เป็นผ้าพันคอค่ะ ตรงปลายจะฟั่นเป็นเกลียวค่ะ 

1394614204-8-o.jpg

 

 

 

การแสดงสินค้าจะตั้งอยู่ด้านหลังปราสาทฝั่งซ้ายของประตูทางเข้าค่ะ

1394614241-9-o.jpg



#6 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:21 PM

สนุกสนานเพลิดเพลินกับการดูการทอผ้า 

และปั่นด้ายแล้วก็เดินทางมาที่เขาพระอังคาร 

เพื่อชม “วัดเขาอังคาร” กันต่อค่ะ แต่ระหว่างทางมาก็เจอการระเบิดหินภูเขากันยกใหญ่เลยค่ะ

 มีกองภูเขาหินที่ระเบิดแล้วเท่าๆ ภูเขาย่อมๆ 

และส่วนที่ระเบิดแล้วก็เป็นแอ่งน้ำแทนค่ะ (แอบเสียดาย) 

ทางเข้าหมู่บ้านก็จะมีรถบรรทุกหินเข้าออกกันไม่ขาดสายเลยค่ะ 

ทำให้ฝุ่นคลุ้งตลบแทบไม่เห็นทางเลยค่ะ 

ไม่รู้ว่าวันไหนภูเขาพระอังคารจะทลายลงมาน้อ?

 

 วัดเขาพระอังคาร บ้านเจริญสุข ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ 

เป็นวัดที่สร้างมานานในยุคที่ขอมเรืองอำนาจแถวนี้ น่าจะสร้างในยุคเดียวกันกับปราสาทหินเขาพนมรุ้ง

 ส่วนสถาบัตยกรรมสิ่งก่อสร้างที่เห็นในวัดปัจจุบัน 

ส่วนใหญ่สร้างใหม่ทับของเก่า ตัววัดตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 ก.ม. 

ตั้งอยู่บนยอดเขาพระอังคารซึ่งสูงประมาณ 320 เมตรจากระดับน้ำทะเล 

มีโบสถ์ที่ประยุกต์จากสถาปัตยกรรมหลายสมัย 

ดูสวยงามแปลกตา เป็นวัดที่สวยงามใหญ่โตแห่งหนึ่งของบุรีรัมย์ มีโบสถ์ ศาลา และอาคารต่างๆ

 

- เป็นวัดที่สร้างเลียนแบบสถาปัตยกรรมสมัยต่างๆ หลายรูปแบบงดงาม แปลกตาและน่าสนใจยิ่ง ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังและเรื่องราวพุทธชาดกเป็นภาษาอังกฤษด้วย บริเวณวัดเป็นปากปล่องภูเขาไฟคาดว่าเคยเป็นที่ตั้งของโบราณสถานสมัยทวารวดีเพราะเสมาหินแกะสลักสมัยดังกล่าวหลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก

 

- เขาอังคารเป็นภูเขาไฟที่ดับแล้วอีกลูกหนึ่งในบุรีรัมย์ อยู่ในเขตอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ห่างจากปราสาทพนมรุ้ง 20กิโลเมตร โดยลงมาจากพนมรุ้ง ถึงบ้านตาเป็กแล้วเลี้ยวซ้ายมาตามทางที่จะไปละหานทรายประมาณ 13 กิโลเมตรแล้วเลี้ยวขวาเข้าทางลูกรังอีกประมาณ 7 กิโลเมตรพบโบราณสถานเก่าแก่ และใบเสมาหินทรายสมัยทวารวดีสำคัญหลายชิ้น

 

ตำนานเขาอังคาร

 

-                   ภูเขาพระอังคาร เดิมชื่อ ภูเขาลอย เหตุที่เรียกว่าภูเขาพระอังคาร เพราะตามประวัติลายแทงธาตุพนม กล่าวไว้ว่า เมื่อ พ.ศ. ๘ ได้มีพญาทั้ง ๕ ได้นำพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้าไปบรรจุที่พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม โดยมีพระมหากัสสปะเถระและพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ เป็นประธาน อีกพวกหนึ่งได้นำพระอังคารธาตุของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานบรรจุไว้บนภูเขาลอย ตามประวัติว่าตามที่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่ปรินิพพานแล้วที่เมืองกุสินารา หลังจากถวายพระเพลิงพระบรมศพแล้ว โทณพราหมณ์ได้แจกพระธาตุไป ๘ พระนครแล้ว อยู่มามีเมือง ๆ หนึ่งไปขอพระธาตุทีหลังเขาพอดีพระธาตุได้แจกไปหมดแล้ว โทณพราห์มจึงเอาทะนานทองตวงเอาธาตุพระอังคาร (ขี้เถ้า) ให้มา เมื่อได้พระอังคารธาตุจึงได้เดินทางกลับมาทางทิศอิสานใต้ พอถึงภูเขาลูกนึงคือภูเขาลอย มีรูปลักษณะสวยงามรูปร่างเหมือนรูปพญาครุฑนอนคว่ำหน้า จึงมีความคิดว่าน่าจะนำพระอังคารธาตุบรรจุไว้ที่แห่งนี้เมื่อลงความเห็นเป็นอันเดียวกันแล้ว จึงได้สร้างสถานที่บรรจุพระอังคารธาตุไว้ที่ไหล่ข้างซ้ายของพญาครุฑ และเปลี่ยนชื่อภูเขาลอยเป็นภูเขาพระอังคาร ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา (ตำนานก็คือตำนาน ยึดถือจริง ๆ ไม่ได้)
 

 

ลักษณะทั่วไป

-ลักษณะทั่วไปภูเขาพระอังคารเขาพระอังคารเป็นประเภทเนินลาวาบซอลท์ปากกรวยภูเขา เกิดจากการประทุของภูเขาไฟ มีปากปล่องใหญ่อยู่ที่เขากระดูก และมีปากปล่องเล็กอีกหลายแห่ง การประทุของภูเขาไฟเกิดขึ้นในยุคควอเทอร์นารีหรือประมาณ ๗๐๐,๐๐๐ ปีมาแล้ว ซากภูเขาไฟถ้ามองระยะไกลจะมีลักษณะเป็นเนินเขาแผ่กว้างเป็นแนวยาวเหนือใต้ ถ้ามองจากที่สูงจะเห็นเป็นรูปคล้ายพญาครุฑที่กำลังกระพือปีกหรือคว่ำหน้า หันหัวไปทางทิศใต้มีขุนเขาเขียวขจี คือหมู่บ้าน ถาวร อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนที่ลำตัวที่ต้นปีกซ้ายคือที่โบราณวัตถุและพระอังคารธาตุของพระพุทธเจ้า มีปีกซ้ายเป็นเนินเขายื่นไปทางทิศตะวันออก คือหมู่บ้านเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนหางยื่นไปทางทิศเหนือทางบ้านสวายสอ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ภูเขาพระอังคารมียอดสูง ๓๓๑ เมตร จากระดับน้ำทะเล ปกคลุมพื้นที่ประมาณ ๙๐ ตารางกิโลเมตร
 

 

 

ความสำคัญของภูเขาพระอังคาร
-เป็นแหล่งศึกษาด้านธรณีวิทยาเกี่ยวกับภูเขาไฟและมีความสำคัญกี่ยวกับโบราณคดี ยังมีทรัพยากรหินที่สำคัญ ทรัพยากรป่าไม้หลากหลายพันธุ์ รวมทั้งยังเป็นแหล่งศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ศาสนา และวิวัฒนาการในการสร้าศาสนสถานด้วยน้ำมือมนุษย์อย่างแท้จริง ในสมัยโบราณของบรรพบุรุษของชาวอิสานใต้

 

 

น้องแก้มได้ข้อมูลจากชาวบ้านด้วยว่าทุกๆ ปีจะมีกิจกรรมประจำปีคือ “เก็บเห็ดบนเขาพระอังคาร” รอบๆ เขาจะมีต้นไม้ ใบไม้ทับถมกันหนาแน่น ทำให้เกิดเห็ดหลากหลายชนิดเลยค่ะ แต่จะมีกิจกรรมช่วงหน้าฝนเท่านั้นแพราะว่าช่วงนั้นเห็นกำลังผลิดอกออกผลกันมากมายเลยค่ะ แต่อยากร่วมกิจกรรมต้องติดตามข่าวสารค่ะ เพราะว่าทางหมู่บ้านจะแจ้งข่าวกิจกรรมนี้อีกทีนึงค่ะ

 

 

รูปโบสถ์มองจากทิศใต้ มี 3 ยอด (ทรงแปลกไม่มีช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์) 

1394632987-10-o.jpg

 

 

พระพุทธรูปปางมารวิชัย 109 รูปรอบอุโบสถ

1394633073-102-o.jpg

 

 

 

พระอังคารธาตุประดิษฐานไว้บนอุโบสถ 

และพระพุทธรูปปางมารวิชัยรอบอีก 109 องค์ 

ตัวอุโบสถมีพระพุทธรูปบนหลังคารายรอบ 

ทรวดทรงอุโบสถแปลกแตกต่างไปจากอุโบสถทั่วไป 

กึ่งเมืองในจินตนาการและปราสาทของฝรั่งมังค่า ศิลปะปูนปั้นงดงาม 

วางตั้งไว้แต่ละจุดอย่างน่าทึ่งในความมานะพยายามของผู้สร้าง 

ซึ่งไม่มีประวัติกล่าวถึงแต่อย่างใด

1394633138-11-o.jpg

 

 

 

ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังและเรื่องราวพุทธชาดกเป็นภาษาอังกฤษด้วยค่ะ

1394633167-12-o.jpg

 

 

 

ใบเสมาอายุพันปี เป็นเสมาหินสมัยทวาราวดี  

1394633296-14-o.jpg

 

 

เดินมาฝั่งทิศตะวันตกจะเห็นมณฑปที่ประดิษฐานพระคันธาราษฎร์ และพระพุทธบาทจำลองค่ะ

1394633328-142-o.jpg

 

 

 

1394633369-143-o.jpg

 

 

 

น้องแก้มน้องกานต์กราบนมัสการ "พระคันธารราษฎร์และพระพุทธบาทจำลอง " 

ประดิษฐานอยู่ในมณฑปฝั่งทิศตะวันตกของโบสถ์ค่ะ

1394633394-15-o.jpg

 

 

 

วิหารใหญ่วิจิตรงดงามค่ะ  มีบันไดนาคด้วยค่ะ

ถ้ามาช่วงฝนจะมีต้นไม้เขียวชอุ่มรอบๆ เลยค่ะ

1394633464-16-o.jpg

 

 

 

ภายในวิหารมีพระพุทธรูปประดิษฐานให้กราบไหว้สักการบูชาด้วยค่ะ

1394633500-162-o.jpg



#7 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:23 PM

องมาจากทิศเหนือจะเห็นวิหารอยู่อยู่ทางขวา 

และ มณฑปทางซ้ายมือที่ประดิษฐาน  

พระคันธารราษฎร์และพระพุทธบาทจำลองค่ะ 

1394633532-17-o.jpg

 

 

 

อีกมุมนึงมองอุโบสถจะเห็นวิหาร ช่วงนี้ฤดูร้อน เราก็จะเห็นต้นไม้ทิ้งใบ เหลือแต่กิ่งก้านสาขา 

ก็เป็นความสวยงามอีกบรรยากาศนึงค่ะ 

1394633605-18-o.jpg

 

 

 

ด้านหลังพระตำหนักศักดิ์สิทธิ์ “เสด็จปู่ วิริยะเมฆ”  

มีใบเสมาพันปีประดิษฐานอยู่ด้วยค่ะ

1394633666-182-o.jpg

 

 

 

วันนี้แดดแรงก็จริงค่ะ 

แต่อากาศบนเขาพระอังคารตรงนี้มีลมพัดเย็นสบายๆ เลยค่ะ 

น้องแก้มเลยเดินเล่นนานเลยจ้า

น้องแก้มฝากภาพสวยๆ ของวัดเขาพระอังคารให้ชมเต็มๆ กันค่ะ 

1394633709-19-o.jpg



#8 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:26 PM

14.00 น.          วันนี้น้องแก้มหม่ำอาหารกลางวันช้าไปหน่อยค่ะ 

หลังจากหม่ำอาหารแล้วก็เดินทางต่อไปที่ “ปราสาทหินเมืองต่ำ” 

เดินเล่นชมปราสาทขอมกันต่อค่ะ

 

น้องแก้มขอเล่าอย่างเป็นทางการเลยนะคะ 

เผื่อว่าเพื่อนๆ อยากจะได้ข้อมูลเต็มๆ กันค่ะ

 

ปราสาทเมืองต่ำหรือปราสาทหินเมืองต่ำ

ตั้งอยู่ที่ตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ 

ห่างจากปราสาทหินที่สวยงามและมีชื่อเสียงอีกแห่งนึง 

คือ ปราสาทหินเขาพนมรุ้ง เพียงแค่ 8 กิโลเมตร.

 

ปราสาทเมืองต่ำหรือปราสาทหินเมืองต่ำ

 เป็นศาสนสถานที่สร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาฮินดู 

สัณนิษฐานว่าคงสร้างขึ้นเพื่อถวายพระศิวะ 

มีลักษณะเป็นศาสนสถานประจำเมืองหรือประจำชุมชน

 จากการศึกษาทางโบราณคดีพบว่า 

มีการตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณ

นละแวกนี้เป็นชุมชนขนาดใหญ่หลายชุมชน เช่น ชุมชนโคกเมือง

 

ตำแหน่งที่ตั้งของปราสาทเมืองต่ำ 

อยู่บนเส้นทางอารยธรรมขอม (เขมร) 

จากเมืองพระนครในประเทศกัมพูชา (เสียมเรียบ) 

ขึ้นสู่ทางเหนือผ่านเทือกเขาพนมดงรัก ผ่านกลุ่มปราสาทตาเมือน 

จังหวัดสุรินทร์ ผ่านปราสาทเมืองต่ำ สู่ปราสาทหินเขาพนมรุ้ง 

ไปสู่ยังปราสาทหินพิมาย จังหวัดนครราชสีมา 

อาจกล่าวได้ว่าชุมชนโบราณที่ปราสาทเมืองต่ำมี

ความสัมพันธ์กับชุมชนโบราณใกล้เคียงบนเส้นทางอารยธรรมขอม

จากเมืองพระนคร สู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย



#9 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:27 PM

ก่อนเช้าชมก็มาซื้อบัตรเข้าชมกันก่อนค่ะ

น้องแก้มเลือกซื้อบัตรรวมเข้าชม 2 แห่งค่ะ = 30 บาทค่ะ (ประหยัด 10 บาทค่ะ)

 

เวลาทำการ 06.00 – 18.00 น. ทุกวัน

ไม่เว้นวันหยุดราชการหรือนักขัตฤกษ์

 

อัตราค่าธรรมเนียมเข้าชม (1 แห่ง)

ชาวไทย 20 บาท

ต่างชาติ 100 บาท

1394633879-1jpeg-o.jpg



#10 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:29 PM

น้องกานต์ซื้อตั๋วเข้าชมแล้ว  

วันนี้น้องกานต์นำชมปราสาทกับพ่อแม่ค่ะ ... ส่วนน้องแก้มนอนสลบอยู่ในรถค่ะ 

1394633953-1-o.jpg

 

อากาศร้อนรึป่าว น้องกานต์ไม่สนใจ ขอเที่ยวชมปราสาทหินเมืองต่ำครับ

1394634085-12-o.jpg

 

เดินเข้ามาจะเจอไกด์รุ่นเยาว์นั่งคอยอยู่ค่ะ น้องคนนี้อยู่ ม. 3 ค่ะ  

อุดหนุนให้น้องมีงานทำด้วยนะคะ ทิปให้กำลังใจตามอัธยาศัยค่ะ

1394634219-2-o.jpg



#11 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:32 PM

สมเด็จพระเทพพระรัตน์ราชสุดาฯ 

เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดเมื่อวันจันทร์ที่ 10 พ.ย. 2550

เป็นโบราณสถานปราสาทเมืองต่ำค่ะ

 

1394634245-3-o.jpg

 

 

น้องกานต์กับซุ้มประตู หรือ โคปุระขนาดใหญ่ค่ะ

1394634286-4-o.jpg



#12 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:34 PM

น้องกานต์เดินผ่านซุ้มประตูเข้ามาแล้วค่ะ  

จะเห็นกำแพงแก้วบนสันกำแพงแก้วประดับด้วยบราลี 

กึ่งกลางกำแพงแก้วมีซุ้มประตูหรือโคปุระขนาดใหญ่ ก่อด้วยหินทรายค่ะ   

1394634313-5-o.jpg

 

 

ระเบียงคด เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะ

เป็นห้องแคบๆ ยาวๆ ล้อมรอบกลุ่มปราสาทอิฐ 

และบรรณาลัย มีแผนผังเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าก่อด้วยหินทราย 

กว้างประมาณ 2 เมตรต่อกันโดยรอบแต่ไม่สามารถเดินทะลุได้ถึงกันตลอดค่ะ  

ห้องด้านข้างทำเป็นหน้าต่างประดับด้วยลูกมะหวดค่ะ

1394634398-6-o.jpg

 

 

 

กลุ่มปราสาทอิฐ … เป็นอาคารสำคัญที่สุดสร้างอยู่ตรงกลางของแผนผัง

ที่ใช้ประดิษฐานรูปเคารพและประกอบพิธีบวงสรวงเทพเจ้า

ประกอบด้วยปราสาทอิฐ 5 องค์ ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกัน 

องค์ปราสาทก่อด้วยอิฐเรียงกันเป็น 2 แถว แถ้วหน้า 3 องค์ 

และแถวหลัง 2 องค์ กลุ่มปราสาทอิฐ 5 องค์นี้

แสดงสัญลักษณ์แทนเขาพระสุเมรุศูนย์กลางจักรวาล

 

ปราสาทประธาน น่าจะเป็นที่ประดิษฐาน “ศิวลึงค์” 

ซึ่งพบขณะขุดแต่งโบราณสถาน 

จึงสันนิษฐานว่าเทวสถานแห่งนี้สร้างขึ้นเนื่องในศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกายค่ะ 

และคงมีการนับถือเทพเจ้าองค์อื่นๆ ควบคู่ไปด้วย 

เช่น พระนารายณ์ พระอินทร์ และพระคเณช เป็นต้นค่ะ

 

(ปัจจุบันศิวลึงค์นำไปโชว์ไว้ที่พิพิธภัณฑ์ทางขึ้นเขาพนมรุ้งค่ะ)

1394634434-7-o.jpg



#13 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:37 PM

บรรณาลัย หรือ หอเก็บรักษาคัมภีร์ 

หรือ หนังสือสำคัญทางศาสนา อาจใช้เป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพทางศาสนาด้วยค่ะ 

มี 2 หลังทั้งฝั่งซ้ายและขวาค่ะ สร้างด้วยอิฐบนฐานศิลาแลง 

ผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตั้งอยู่กล้ากลุ่มประสาทอิฐ 

หันหน้าเข้าหาปราสาทประธานค่ะ

1394634464-8-o.jpg



#14 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:43 PM

ปราสาทบริวารแถวหลังองค์ด้านทิศเหนือค่ะ

1394634489-9-o.jpg

 

 

จำหลักภาพพระกฤษณะ ประทับอยู่ท่ามกลางเหล่าผู้เลี้ยงโค 

พระกฤษณะเป็นอวตารปางหนึ่งของพระนารายณ์ 

พระกฤษณะได้สั่งให้คนเลี้ยงโคระงับพิธีบูชาพระอินทร์ 

ฝ่ายพระอินทร์ทรงพิโรธจึงบันดาลให้พายุกรวดทรายตกลงมาใส่หมู่บ้านคนเลี้ยงโค 

พระกฤษณะจึงยกเขาโควรรธนะขึ้น

ป้องกันพายุกรวดทรายปกป้องเหล่าคนเลี้ยงโค

1394634516-10-o.jpg

 

 

การกำหนดอายุของปราสาทพิจารณาจากลวดลายบนทับหลัง 

ซึ่งจัดอยุ่ในสิลปะแบบคลังบาปวน   ซึ่งเจ้าศิลปะประเภทนี้ จะมีลวดลายที่สำคัญคือ

หน้ากาลคายท่อนพวงมาลัยอยู่กึ่งกลางด้านล่าง หน้ากาลมีลิ้นเป็นสามเหลี่ยม มีมือมายึดท่อนพวงมาลัย มีภาพเล่าเรื่องเล็ก ๆ อยู่เหนือหน้ากาล เหนือท่อนพวงมาลัยเป็นลายใบไม้หรือลายกระหนกม้วนออกทั้งสองข้าง  

(ดูรูปข้างบนประกอบนะคะ)

ซึ่งเจ้าใต้ท่อนพวงมาลัยนี้ เป็นลายใบไม้ม้วน 

โดยแบ่งเป็น  2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีลายเฟื่องอุบะมาแบ่งท่อนพวงมาลัยออกเป็นสี่ส่วน 

 

จะจัดเป็นสมัยคลัง (ดังรูปนี้ค่ะ) 



#15 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:47 PM

ปราสาทบริวารแถวหน้าองค์ด้านทิศเหนือ

1394634547-11-o.jpg

 

 

ทับหลังปราสาทบริวารแถวหน้าองค์ด้านทิศเหนือ 

จำหลักภาพพระศิวะปางอุมามเหศวร 

พระศิวะประทับนั่งในท่ามหาราชลีลาบนหลังโคนนทิ

 พระหัตถ์ขวาถือตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายตะกองกอดพระอุมามเหสี 

ด้านล่างโคนนทิมีหน้ากาลใช้มือทั้งสองจับสิงห์ข้างละตัว 

 

คายท่อนพวงมาลัยออกมารูปแบบศิลปะของแบบปาปวนค่ะ

1394634572-12-o.jpg



#16 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:50 PM

ซุ้มประตูบรรณาลัย

1394634599-13-o.jpg

 

 

ทับหลังชิ้นนี้สันนิษฐานว่าเดิมอยู่ที่มุขมณฑปปราสาทประธาน 

 

จำหลักภาพซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นเหตุการณ์ตอนที่ท้าวหิมวันต์ (หิมาลัย) ถวายนางปารพตี (อุมา) 

พระธิดาแด่พระศิวะ พระศิวะประทับนั่งท่าลลิตาสนะ (นั่งห้อยพระบาทขวา ขาซ้ายงอพับไว้)  

บนบัลลังค์เหนือหน้ากาล พระหัตถ์ขวาถือดอกบัว 

ด้านขวามีท้าวหิมวันต์กำลังถวายนางปารพตี 

พระหัตถ์ซ้ายของนางจับท่อนพระบาทขวาของพระศิวะ 

 

รูปแบบศิลปะขอมแบบปาปวนราวครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 16 

1394634626-14-o.jpg



#17 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:50 PM

แม่จ๋า...ข้อมูลเยอะจริงจัง น้องกานต์ขอพักเอาแรงก่อนนะครับ Zzzzz

อารายกันจ๊ะน้องกานต์ เก็บแรงขึ้นเขาพนมรุ้งหรอคะ? 

1394634645-15-o.jpg



#18 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 08:59 PM

นนี้ชอบทับหลังตรงนี้เป็นพิเศษค่ะ ไม่ค่อยมีใครพูดถึงค่ะ

 

“เกียรติมุข หรือหน้ากาล” ที่แปลว่ากาลเวลา 

กลืนกินกาลเวลาและทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งตัวของมันเองค่ะ

 

เป็นลวดลายปูนปั้นที่ใช้ประดับซุ้มหน้าบันของโบราณสถาน

 โดยทั่วไปมักทำคู่กับลายมังกร โดยทำลายมักรออกมาทั้งสองข้างของเกียรติมุข 

ลักษณะของเกียรติมุขจะทำเป็นรูปหน้ายักษ์ปนหน้าสิงห์ 

หรือใบหน้าของอสูรที่ดุร้าย คิ้วขมวด นัยน์ตากลม และถลน 

ปากกว้างเห็นฟันและเขี้ยว ไม่มีฟันล่าง 

ไม่มีลำตัว มีแขนออกมาจากด้านข้างของศีรษะ

 

คติความเชื่อเกี่ยวกับเกียรติมุข ได้รับความนิยมอย่างมากในอินเดีย 

กำเนิดขึ้นมาจากศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู 

ซึ่งนับถือพระศิวะหรือพระอิศวรเป็นเทพชั้นสูง 

ใช้เป็นสิ่งประดับตามเทวสถานและพุทธสถาน 

เพื่อแสดงความเป็นเกียรติและเป็นมงคล 

และขจัดสิ่งชั่วร้ายต่างๆ มิให้เข้ามาสู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณภายใน

 

ที่มาของเกียรติมุข เข้าใจว่ากำเนิดในประเทศอินเดียก่อน 

ตามตำนานเล่าว่าพระศิวะเป็นเทพที่มีดวงตาที่สาม 

อยู่ที่พระนลาฏ(หน้าผาก)ซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงมาก

เมื่อพระศิวะโกรธกริ้วแล้วเผลอลืมตานี้ขึ้นมาวันหนึ่งมีอสูรจอมเจ้าชู้ตนหนึ่งนามว่า”ราหู” 

มาขอเข้าเฝ้าพระศิวะที่เขาไกรลาศ แล้วทูลขอพระนางศรีอุมาเทวี 

พระชายาของพระศิวะเทพไปเป็นภรรยา ยังความโกรธกริ้วให้แก่พระศิวะยิ่งนัก 

ด้วยเป็นที่รู้กันว่าทรงทั้งรัก ทั้งหวงพระศรีอุมาเทวีดั่งดวงใจ 

แต่เจ้าอสูรที่หน้าตาดั่งกเฬวราก(ซากศพ) ดันทะลึ่งมาขอกล่องดวงใจไปดื้อๆ

 

ความแค้นเคืองทำให้พระศิวะเผลอลืมตาที่สามขึ้น 

บังเกิดเป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัว

และมีท่าทางที่หิวโหยออกมาด้วย ตั้งท่าจะขย้ำอสูรราหูเป็นอาหารเสียให้ได้ 

อสูรราหูตกใจสุดขีด รีบเข้าไปอ้อนวอนศิวะเทพ

ขอไว้ชีวิตที่ได้ทำล่วงเกิน เพียงแต่ขออย่าให้เจ้าสัตว์ประหลาดนี้กัดกินข้าเลย

 

 

สมัยโบราณถือว่าหน้ากาลนี้เป็นสัญลักษณ์ของเวลาที่กินทุกสิ่งแม้แต่ตัวเอง 
รวมทั้งเป็นผู้ที่คอยดูแลฝูงปศุสัตว์เนื่องจากพระศิวะได้รับการยกย่องเป็นปศุบดี 
ผู้เป็นใหญ่ในฝูงสัตว์ หน้ากาลอันเปรียบเสมือนบุตรของพระองค์
คงจะมีฤทธิ์ปกป้องสัตว์เลี้ยงได้ 
ลายหน้ากาลนี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในเทวสถานของฮินดู 
และนิยมสร้างกันอย่างแพร่หลายในอินโดนีเซีย
 
ในประเทศไทย สันนิษฐานว่า เกียรติมุขคงแพร่เข้ามาในสมัยทวารวดีและศรีวิชัย 
โดยได้พบหลายแห่ง เช่น ที่ปราสาทหินพิมาย จังหวัดนครราชสีมา 
ที่เจดีย์วัดป่าสัก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย 
ทำเป็นรูปประดับลายกาบที่เชิงซุ้มเจดีย์ 
สำหรับที่สุโขทัย พบที่ทำเป็นลายประดับยอดซุ้มหน้าบัน วัดมหาธาตุ เมืองเก่าสุโขทัย
1394634756-16-o.jpg
 
 
ตรงนี้เองทำให้นึกถึงตัวเองว่ากาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วไม่เคยคอยใคร 

เหมือนมี “หน้ากาล” ตัวนี้คอยกลืนกินไปตลอดเวลา 

ว่าแล้วก็กระเตง ๆ ลูก ๆ เที่ยวทั่วไทยไปเรื่อยๆ ดีกว่าค่ะ

 พอเค้าโตขึ้นแล้วคงไม่เที่ยวกันพ่อแม่แล้วค่ะ 

คงเหลือไว้เพียงแค่เรา 2 ตายาย ....



#19 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 09:06 PM

บัวยอด...เป็นบัวประดับยอดของปราสาทบนสุดค่ะ 

แกะสลักด้วยกลีบบัวทำด้วยหินทราย 

ชั้นแรกเป็นรูปกลับบัวบาน ตรงกลางเป็นรูปกลีบบัวซ้อนกันขึ้นไป 2 ชั้น

โดยแต่เดิมคงมีนภศูลสำริดปักอยู่บนสุดค่ะ 

 

อันนี้ไม่สมบูรณ์เลยวางตั้งไว้ตรงพื้นค่ะ 

ส่วนอันที่สมบูรณ์จะเก็บไว้บนยอดปราสาทประธานที่ปราสาทเขาพนมรุ้งค่ะ 

(ถ้าไปที่ปราสาทเขาพนมรุ้งอย่าลืมดูนะคะ)  

1394634786-17-o.jpg

 

 

สระน้ำด้านหลังฝั่งซ้าย

1394634843-18-o.jpg

 

 

 

บันไดท่าน้ำลงสู่สระน้ำค่ะ

1394634876-19-o.jpg

 

 

พญานาคห้าเศียรที่มุมขอบสระน้ำค่ะ ส่วนใหญ่จะไม่สมบูรณ์ค่ะ

1394634926-20-o.jpg



#20 korrakot

korrakot

    สมาชิกนั่งรถตุ๊กตุ๊ก

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

Posted 17 March 2014 - 09:08 PM

น้องกานต์ตื่นแล้วครับป๋ม 

 

ตรงนี้เป็นทางลงสู่สระน้ำค่ะ (สระน้ำฝั่งขวาด้านหน้าค่ะ)

1394634963-21-o.jpg

 

 

วันนี้น้องกานต์สนุกสนาน ประทับใจกับปราสาทหินเมืองต่ำมากๆ เลยครับ 

ศิลปะงดงาม แลดูอบอุ่น สถานที่กว้างขวางร่มรื่น ลมพัดเย็นๆ สบายตาดีครับ 

 

 

อาจจะเป็นเพราะว่ามีสระน้ำรอบตัวปราสาทกระมังครับ

1394635073-22-o.jpg






0 user(s) are reading this topic

0 members, 0 guests, 0 anonymous users

ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Galileo (แสดงผล waiting list)     ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Amadeus (เแสดงเฉพาะที่นั่งว่าง)
   
    ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนก ตั๋วเครื่องบิน โทร 02-3737-555 / จันทร์ - ศุกร์ 09.00~18.00 น. // เสาร์ 09.00-16.00 น.