|
|
| ||||||||||
0
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 03:58 PM
ใกล้จะลงจอดแล้วครับ ไม่ค่อยเห็นไฟบ้านเรือนเท่าไหร่ เพราะที่นี่มีประชากรที่อาศัยอยู่ราว 2-3 แสนคนเท่านั้น ซึ่งแม้ว่าจะได้รับการสถาปนาให้เป็นเมืองหลวงมาตั้งแต่ปี 2548 แต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่อยู่ที่นี่จะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่ต้องโยกย้ายมาตามที่ตั้งของสถานที่ทำการรัฐซะมากกว่า
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 04:03 PM
ลงจอดอย่างนุ่มนวลในเวลา 18.50 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศพม่า ซึ่งช้ากว่าประเทศไทยราว 30 นาที
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 04:11 PM
ก่อนจะถึงหลุมจอด มีรถดับเพลิง 2 คันมารอต้อนรับด้วยพิธี Water Cannon Salute ที่จะฉีดน้ำเป็นสะพานโค้งให้เครื่องบินวิ่งลอดผ่านเนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ อาทิ เที่ยวบินปฐมฤกษ์ หรือเที่ยวบินสุดท้ายก่อนกัปตันเกษียณ
ปรกติเคยได้เห็นแต่จากข้างนอก นี่เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งอยู่ในเครื่องบินลำที่กำลังวิ่งผ่าน Water Cannon Salute แอบตื่นเต้นนิดหน่อยเหมือนกันครับ แต่น่าเสียดายที่มืดแล้วมองไม่ค่อยเห็น เลยถ่ายภาพมาได้เพียงแค่นี้ เป็นสายน้ำกำลังไหลผ่านกระจก 
ส่วนภาพล่าง หลังจากวิ่งผ่านมาแล้ว พอมองย้อนกลับไปก็จะเห็นสายน้ำที่ฉีดพุ่งขึ้นไปบนฟ้าเป็นเส้นขาวๆดังภาพครับ
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 04:14 PM
เตรียมตัวลงจากเครื่อง ATR-72
สำหรับผู้โดยสารจะใช้ประตูขึ้น-ลง ทางด้านหลังเครื่องบินเท่านั้นครับ ส่วนด้านหน้าจะไว้ใช้สำหรับขนถ่ายสัมภาระ ในเมื่อนั่งแถวแรกสุด ก็เลยต้องรอลงเป็นคนท้ายสุดไปโดยปริยายครับ
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 04:18 PM
มีพิธีต้อนรับกันอย่างสนุกสนานจากทางฝั่งพม่าครับ รำมารอรับกันถึงประตูเครื่องบินเลย และเมื่อลงมาแล้วก็จะได้รับพวงมาลัยดอกไม้คล้องคอเป็นที่ระลึกกันไปคนละหนึ่งพวง
ส่วนทีมนักบินและลูกเรือก็ลงมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้วยเช่นกัน
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 04:20 PM
HS-PGG หน้าอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานนานาชาติเนปิดอว์
เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2554 ต้องเรียกว่ายัง "ใหม่เอี่ยม" เลยทีเดียวครับ
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 04:29 PM
พอผ่าน ตม. มาแล้ว ก็มีงานเลี้ยงต้อนรับเล็กๆเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับผู้โดยสารที่เดินทางมาในเที่ยวบินปฐมฤกษ์ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของประเทศพม่ามาให้การต้อนรับคณะผู้บริหารของทางสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส
ก่อนหน้านี้สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินมาติดต่อส่วนราชการของประเทศพม่า หรือเดินทางมาท่องเที่ยวยังกรุงเนปิดอว์ จะต้องบินมาลงยังกรุงย่างกุ้ง หรือกรุงมัณฑะเลย์ ก่อนที่จะนั่งรถโดยสารอีกราว 4-5 ชั่วโมง หรือต่อเที่ยวบินภายในประเทศ เพื่อเดินทางมายังเนปิดอว์ แต่การเปิดเที่ยวบินตรงกรุงเทพ-เนปิดอว์ ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์นั้น จะช่วยผู้ที่ต้องการเดินทางมายังเนปิดอว์สามารถร่นละยะเวลาที่ต้องเสียไปจากเดินให้เหลือแค่เพียง 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ซึ่งถือได้ว่าง่ายและเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการเดินทางขึ้นเป็นอย่างมาก
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 04:32 PM
ลองมาดูในส่วนของสนามบินกันบ้างครับ ดูกว้างขวาง สะอาด และใหม่สุดๆ เพราะยังมีสายการบินมาใช้บริการน้อยอยู เก้าอี้นั่งบางตัวถึงขนาดยังไม่ได้แกะพลาสติกหุ้มออกเลย
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 04:35 PM
ป้ายบอกทางต่างๆจะมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาพม่ากำกับอยู่
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 04:39 PM
ห้องน้ำก็ยังใหม่
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 04:42 PM
บริเวณด้านหน้าครับ
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 04:48 PM
เดินมาขึ้นรถบัสที่จอดรออยู่หน้าอาคารผู้โดยสาร ก่อนจะมุ่งหน้าเข้าสู่ที่พักในค่ำคืนนี้
ในเนปิดอว์ค่อนข้างแบ่งพื้นที่ออกจากกันอย่างชัดเจน เช่น โซนที่ทำการรัฐบาล โซนโรงแรม โซนที่อยู่อาศัย อย่างโซนโรงแรมที่เราพักก็อยู่ไม่ห่างจากสนามบินมากนัก จะมีหลายสิบโรงแรมตั้งเรียงรายกันไป นั่งรถราว 10 นาทีก็ถึงแล้ว
การเดินทางในเนปิดอว์ถ้าหากไม่ได้มีรถยนต์ส่วนตัวแล้วค่อนข้างที่จะลำบากอยู่ซักนิดครับ เพราะยังไม่ค่อยมีรถประจำทางวิ่งเท่าไหร่ และถึงมีก็คงเป็นการยากสำหรับนักท่องเที่ยว ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือเหมารถและคนขับครับ มีให้เลือกทั้งรถเก๋ง รถตู้ โดยจะเลือกติดต่อผ่านทางโรงแรมที่พัก หรือบริษัททัวร์ก็ได้
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 04:55 PM
ถึงโรงแรม Aurem Hotel แล้วครับ แม้ว่าจะอิ่มมาจากบนเครื่องแล้ว แต่ก็ยังมีมื้อค่ำรออยู่อีกหนึ่งมื้อ
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 05:02 PM
หน้าตาห้องนอนครับ กว้างและสะอาดดี
พนักงานของโรงแรมที่นี่ส่วนใหญ่จะพูดภาษาอังกฤษได้อยู่แล้วครับ จึงไม่น่ากังวลในเรื่องของการสื่อสารเท่าไหร่ขณะพักอยู่ที่โรงแรม
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 05:04 PM
เช้าวันที่สอง หลังจากอิ่มท้องกับอาหารเช้าที่โรงแรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เราออกเดินทางไปยังเจดีย์อุปปตศานติ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเนปิดอว์ ที่ได้จำลองแบบมาจากมหาเจดีย์ชเวดากองในกรุงย่างกุ้ง
ในภาพนี่คือทางขึ้นครับ จริงๆจะเลือกเดินขึ้นบันไดก็ได้ แค่ว่าถ้าไม่อยากเหนื่อยก็ขึ้นลิฟท์เอาง่ายกว่า
สำหรับการเข้าชมเจดีย์อุปปตศานตินั้นไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด แค่แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ไม่สวมกางเกงขาสั้นหรือรองเท้าแตะเป็นอันใช้ได้ ส่วนผู้หญิงนั้นต้องนุ่งผ้าถุงในทุกกรณี แต่ถ้าใครไม่ได้เตรียมมา ตรงบริเวณทางขึ้นก็จะมีให้ยืมครับ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเช่นกัน พอลงกลับมาค่อยเอามาคืน
และที่สำคัญอีกประการคือ การเข้าชมวัดหรือสถานที่สำคัญทางศาสนาที่ต่างๆจะต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชมครับ ทางไกด์ก็เลยแนะนำให้ถอนรองเท้าเก็บเอาไว้บนรถและเดินทางเปล่าไปเลย พอตอนกลับมาไกด์ก็เตรียมผ้าเย็นเอาไว้ให้ใช้เช็ดเท้าทำความสะอาด บริการดีจริงๆ 
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 06:42 PM
ออกจากลิฟท์มาก็เจอทางเดินยาวตรงไปยังตัวเจดีย์อุปปตศานติ
ชาวพม่าเองก็ถอดรองเท้าและนุ่งผ้าถุงเวลาเข้าวัดกันเป็นเรื่องปรกติครับ
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 06:44 PM
ตัวเจดีย์ใหญ่มากครับ บริเวณยอดเป็นทองคำ มีความสูงถึง 99 เมตร หรือราว 325 ฟุต หรือมีขนาดเล็กกว่ามหาเจดีย์ชเวดากองเพียงแค่ 1 ฟุตเท่านั้น
เจดีย์อุปปตศานติได้รับการสร้างขึ้นตามความคิดของนายพลตาน ฉ่วย ที่ต้องการให้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้างคู่เมืองเฉกเช่นเดียวกับมหาเจดีย์ชเวดากองที่ย่างกุ้ง โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2550 และแล้วเสร็จเมื่อปี 2553
โดยเหตุที่พม่าย้ายเมืองหลวงมายังเนปิดอว์นั้นส่วนหนึ่งก็มาจากเรื่องของความสะดวกในการบริหารประเทศครับ เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งอยู่กึ่งกลางประเทศพอดี สะดวกในการเดินทางไปมาระหว่าง 2 เมืองใหญ่อย่างย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ โดยมีย่างกุ้งอยู่ทางทิศใต้ห่างออกไปราว 200 ไมล์ และมัณฑะเลย์อยู่ทางทิศเหนือห่างออกไปราว 166 ไมล์
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 06:47 PM
สิ่งที่ต่างไปจากมหาเจดีย์ชเวดากองอย่างหนึ่งก็คือ เราสามารถเดินเข้ามาชมภายในของเจดีย์ได้ครับ ทางเข้ามีทั้งหมด 4 ด้าน
แต่ละด้านก็จะมีองค์พระประจำอยู่ทั้ง 4 ทิศ
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 07:15 PM
หลังจากชมเจดีย์เสร็จ พอเดินลงมาก็จะมาเจอกับช้างเผือกครับ
พม่ามีชางเผือกทั้งหมดจำนวน 8 เชือกด้วยกัน แยกเป็น 3 เชือกอยู่ที่ย่างกุ้ง และอีก 5 เชือกอยู่ที่เนปิดอว์ ที่ชาวพม่าถือว่าเป็นสัตว์คู่บ้างคู่เมือง ช่วยเสริมสิริมงคลและเป็นสัญญาณแห่งความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ
สมาชิก Business Class
Posted 17 October 2013 - 07:32 PM
แวะพักเติมพลังมื้อกลางวันครับ ทริปนี้ส่วนใหญ่เป็นอาหารจีนเพราะน่าจะถูกปากคนไทยมากกว่าอาหารพม่า
ทานคู่กับ Myanmar เบียร์ท้องถิ่นชื่อดังของที่นี่ครับ
0 members, 0 guests, 0 anonymous users
| ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Galileo (แสดงผล waiting list) | ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Amadeus (เแสดงเฉพาะที่นั่งว่าง) | |
|
| ||
Community Forum Software by IP.Board 3.4.7
Licensed to: HFlight Co., Ltd.
