55 replies to this topic

[peter]

Advertisements

รีวิวสายการบินสำหรับทริปนี้

9W2345 Delhi to Leh 10Sept2013 & 9W2346 Leh to Delhi 25Sept2013 by Jet Airways 

9w063 Bangkok to Delhi 7Sept2013 & 9w064 Delhi to Bangkok 25Sept2013 by Jet Airways 

 

7-9 ก.ย. 2556 พวกเราเดินทางไปเที่ยวกัน 3 คน 10-15 ก.ย. 2556 มีเพื่อน 3 คน มาสบทบที่ Delhi และ เดินทางไปเที่ยว Leh ด้วยกัน 6 คน  แต่ 14 ก.ย. 2556 มีสองคนเดินทางกลับ Delhi ก่อนเพราะแพ้ความสูง  วันแรกที่ออกจากสนามบินก็เจอแขกโกงด่านแรก  จนมาเจอขบวนการโกงบันลือโลกที่สถานีรถไฟ โปรดติดตามชมได้เลยครับ

----------->Start
7 ก.ย. 2556 Bangkok to Delhi บ่ายเที่ยว Indian gate เย็นเดินทางไป Agra โดยรถไฟ พักที่ Tourist Rest House 472RS นอนกัน 3 คน
8 ก.ย. 2556 Taj Mahal, The Agra Fort พักที่ Tourist Rest House 472RS นอนกัน 3 คน
9 ก.ย. 2556 Agra to Delhi โดยรถไฟ เย็นเที่ยว Akshardham Temple complex พักที่ Sun shine hotel ห้องละ 800 Rs
----------->End
10 ก.ย. 2556 Delhi to Leh บ่ายเที่ยว Confluence of indus river and zanskar river,Likir monastery,Basgo Castle,Spituk Monastery
11 ก.ย. 2556 9:30 ออกเดินทางไป  Pangong Lake ผ่านหุบเขาคดเคี้ยวมากมาย ข้าม  Chang La Pass5360m. เที่ยว Pangong Lake ค้างเต๊นบ้านหลังละ 2000รูปี รวมอาหารเย็นและเช้า
12 ก.ย. 2556 9:30 ออกเดินทางกลับ Leh ระหว่างทางแวะเที่ยว Hemis Monastery,Thiksey Monastery,Shey Palace,Stok Palace
14 ก.ย. 2556 เช้าขี่อูฐ Hundar Village เดินทางกลับ Leh ระหว่างทางแวะเที่ยว Diskit Monastery,Leh Palace,Shanti Stupa นอนที่ Padma Guesthouse 800RS(400บาท)
15 ก.ย. 2556 น้องๆ เดินทางกลับกทม.แต่เช้า ผมย้ายมาพักคนเดียวที่ Olden Guest house ห้องละ 400 RS(200บาท)
16 ก.ย. 2556 คุณลุง Nawang เอาบัตรเชิญให้ผมไปงาน  Inaugural ceremuny of the 2nd international fe stival of buddhist heritage of Ladakh ทหารและตำรวจเพียบ ก่อนเข้างานต้องผ่านการตรวจเอ็กซ์เรย์  มีพระภิกษุจากประเทศต่างๆ เช่น ไทย เวียดนาม เยอรมัน มาเลเซีย เนปาล ฯลฯ  โดยมีรัฐมนตรีของแคว้น มาร่วมด้วย ตอนแรกจะมีพระแต่ละประเทศขึ้นมาพูด (รู้สึกง่วงนอนมาก) แต่พอถึงตอนที่เชิญพระภิกษูณีจากเนปาล (แถวแรกคนที่สองนับจากซ้าย) มาร้องเพลงสวดมนต์ของเนปาล คนตรบมือกันทั้งห้องประชุม นอกจากนั้นมีการแสดงพื้นเมืองของเผ่าต่างๆ  ระบำหน้ากาก และ การเชิดสิงห์โตของทิเบต 
17 ก.ย. 2556 Leh to Kargil พัก Crown Hotel 300RS (150บาท)
18 ก.ย. 2556  Padum เที่ยวชม Karsha Monastery,Nunnery Monastry,Zangla,Stongdey พัก Ibex hotel 350รูปี (175บาท) 
19 ก.ย. 2556  Kargil พัก Crown Hotel 300RS (150บาท)
20 ก.ย. 2556 Leh
21 ก.ย. 2556 Leh
22 ก.ย. 2556 Chhams Performance (Mask Dance) at Chowkhang Vihara
23 ก.ย. 2556 Archery & Cultural programme at Sheynam community hall Leh
24 ก.ย. 2556 Leh
25 ก.ย. 2556 เดินทางกลับ ไทย

 

 

ติดตามได้ที่แฟนเพจ Backpacker by Peter / น้าเตอร์ท่องโลก เพราะโลกยังมีสิ่งแปลกใหม่น่าค้นหาอยู่ตลอดเวลา ผมจึงต้องออกเดินทางเพื่อแสวงหาประสบการณ์แปลกใหม่ในหลายรูปแบบ เดินป่า ปีนเขา ท่องเที่ยวธรรมชาติ วัฒนธรรม และนำสิ่งเหล่านั้นกลับมาแบ่งปันผ่านผลงานภาพถ่ายให้กับเพื่อนๆที่มีหัวใจรักการเดินทางเช่นเดียวกัน เพจนี้ต้องการที่จะนำเสนอข้อมูลจากประสบการณ์การเดินทางด้วยตนของผม ที่ดำเนินการเองในทุกขั้นตอน เพราะต้องการเข้าถึงและสัมผัส อย่างลึกซึ้งและผมเชื่อว่าสีสันของการเดินทางไม่ได้เกิดขึ้น ณ ตรงจุดหมายปลายทางเท่านั้นแต่ยังรวมถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดในระหว่างการเดินทาง

 

Taj Mahal

The Agra Fort

[peter]

Tourist Visa for India

1. แบบฟอร์มออนไลน์คำร้องขอวีซ่าอินเดียที่กรอกข้อมูลครบถ้วน แบบฟอร์ม https://indianvisaon...dianVisaReg.jsp เป็นเว็บของสถานทูตอินเดีย
2. หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน และต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า
3. สำเนาหนังสือเดินทาง 2 ชุด
4. รูปถ่ายสี ด้านหลังเป็นสีขาว ไม่มีกรอบ ขนาด 2นิ้ว x 2นิ้ว จำนวน 1 รูป
5. ผู้ที่ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย ต้องแสดงสำเนาใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย (Thai Work Permit) ใบถิ่นที่อยู่ (Residence Permit)
6. สำเนาบัตรประชาชน พร้อมเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้อง 1 ชุด
7. สำเนาสูติบัตร (สำหรับเด็กที่ยังไม่ถึงวัยทำบัตรประชาชน)
8. ใบจองโรงแรม (สำคัญ)
9. ใบจองตั๋วเครื่องบิน ถ้ามีบินในประเทศก็เอาไปด้วย (สำคัญ)
10. โปรแกรมการท่องเที่ยว วันที่เท่าไร ไปไหนบ้าง 
11.กรณีมอบให้เพื่อนไปยื่นให้ จะต้องสำเนาบัตรประชาชนของเพื่อนเพิ่มอีก 1 ชุด ต่อ 1 เล่มพาสปอร์ต
คืนพาสปอร์ตทางไปรษณีย์เท่านั้น ให้เรากรอกที่อยู่หน้าซองเอง เสียค่าบริการไปทั้งหมด 2,075 บาท รายละเอียดตามนี้
- Visa Fee : THB 1700
- Sp Cat. Charges : THB 70
- Misc. Charges : THB 0
- Service Charge : THB 15
- SMS : THB 60
- Courier : THB 230 

ยื่นกับศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าประเทศอินเดีย อยู่ใกล้คลองแสนแสบ
Indian Visa and Passport Application Centre ( IVS GLOBAL Pvt. Ltd.)
อาคาร 253 อโศก ชั้น 22 ถนนสุขุมวิท สุขุมวิทซอย 21 
แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 (ใกล้กับโรงพยาบาลจักษุรัตนิน)
โทรศัพท์ : 02-6641200 โทรสาร : 02-6641201
อีเมล์ : infothai@ivsglobal.in
เว็บไซต์ : http://www.indiavisathai.com/ (อยากให้ทุกคนเข้าไปอ่านรายละเอียดในนี้อีกครั้ง)
การเดินทาง ลงจาก BTS อโศก เดินไปตามถนนอโศกมนตรีไปจนเกือบถึงคลองแสนแสบ 15 นาที อาคาร 253 อยู่ซ้ายมือ หรือ นั่งวินมอเตอร์ไซค์ 20 บาท

หมายเหตุ 
1.No. of Entries ให้ใส่ Double และ Period of Visa ใส่ 6 Months เพราะ ตอนผมไปยื่นพิมพ์ Single และ 3 Months เจ้าหน้าที่ ต้องแก้ไขเอกสารให้ผมใหม่ และ เสียเงินสำหรับแก้ไขเอกสาร 175 บาท เพราะ สำหรับคนไทยไม่มี Single และ ไม่มี 3 Months แต่ตอนกรอกฟอร์มออนไลน์มีให้เลือก เจ้าหน้าที่บอกผมว่ามีคนกรอกผิดเป็นจำนวนมาก
2.พาสปอร์ตข้าราชการ ไม่ต้องขอวีซ่าอยู่ได้ 30วัน แต่ถ้าต้องการอยู่มากกว่านั้น ต้องไปทำพาสปอร์ตใหม่เล่มแดงเท่านั้น

 

[peter]

การจองตั๋วเครื่องบินแนะนำให้จองแบบ multi city ราคาตั๋วจะถูกกว่าแยกจองที่ละขา

[peter]

จองตั๋วรถไฟผ่าน www.Cleartrip.com  ตัวอย่างตั๋วที่ผ่านการยืนยันว่ามีที่นั่งแน่นอนคือ นาย peter11 ตู้ A1  เลขที่นั่ง 34 เตียงบน  ขบวนที่ 12920 สาย Malwa express

[peter]

ตัวอย่างตั๋วที่เป็น Waitlisted ต้องนำตั๋วใบนี้ไปที่เคาเตอร์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ระบุตำแหน่งที่นั่งก่อน  ซึ่งเป็นที่มาของขบวนการโกงบันลือโลก

[peter]

7 ก.ย. 2556 ก่อนขึ้นเครื่องบินก็แวะรับประทานอาหารและเครื่องดืมชูกำลังฟรีที่ king power platinum lounge บัตร 1 ใบ นำเพือนและผู้ถือบัตรเข้าได้ทั้งหมด 3 คน ทานคนเดียวครับ เบียร์หยิบดืมได้ไม่จำกัด ยกเว้น ซีวาส แบล็ก บรั่นดี คาร์มูส มาร์ตินี ฯลฯ ได้ 1 ช๊อตเพียวๆ โจ๊กไก่อร่อยมาก อยากทานราดหน้าทะเลกุ้งสุดไม่มี 

[peter]

เที่ยวบิน 9w63  8:40 Bangkok โดย Boeing 737-800

[peter]

ผ่านน่านฟ้าสนามบินดอนเมือง

[peter]

11:20 Delhi ใช้เวลาเดินทาง 4ชม. 10 นาที  ปรับเวลาที่ Delhi ช้ากว่าเมืองไทย 1ชม. 30นาที  จอดคู่กับ 787-8 Dreamliner Air India   ไปรับกระเป๋าสายพาน 13

[peter]

นั่งรถไฟ Airport Express เข้าตัวเมืองมาลงที่สถานี Delhi ค่าโดยสาร 150รูปี (75บาท)ก่อนเดินทางมาอินเดียก็อ่านผ่านตามาบ้างเกี่ยวกับกลโกงต่างๆ ก็เจอด่านแรกเลยครับ ผมจ่ายเงินซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่สาวคนหนึ่ง 200 รูปี เธอทอนมาเหรียญมาให้ 4 เหรียญๆละ 10 รูปี ไม่ได้นับเดินออกจากเคาเตอร์มาได้สักพักก็หยิบเหรียญขึ้นมาดูซึ่งดูใหม่เอียมสวยงาม ก็แอะใจทำไมมีแค่ 4 เหรียญ ขาดไป 1 เหรียญ ผมก็บอกน้องๆ ให้นับเงินถอนทุกคน ปรากฏว่าน้องคนหนึ่งจ่ายไป 1000 รูปี ทอนมา 750 รูปปีหายไป 100 รูปี ก็ต้องเดินกลับไปที่เคาเตอร์ว่าทอนเงินไม่ครบ เจ้าหน้าที่ก็คืนเงินให้ทันทีโดยไม่ซักถามอะไรเลย ซี่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่คนนี้ก็แนะนำเส้นทางการนั่งรถไฟฟ้าไปยังที่ต่างๆ ให้พวกเราฟัง 

[peter]

ออกจากขบวน Airport Express ขึ้นมาด้านบนออกจากตัวอาคารข้ามถนนเพื่อที่จะไปเปลี่ยนขึ้นอีกขบวน เพื่อไป india gate

[peter]

รถไฟใต้ดินที่อินเดีย ที่นี่เค้าเรียกว่า Metro Bus จากสถานี New Delhi ไปสถานี Central Secretariat ไปเที่ยว india gate ค่าโดยสาร 10รูปี (5บาท)  ต่อคิวซื้อตั๋วคนแน่นมาก (สามารถรวมกันซื้อตั๋วได้)  ต้องแบกเป้เดินเที่ยวเพราะคืนนี้เราไม่ได้ค้างคืนที่ delhi

[peter]

แล้วแบกเป้อันแสนหนักเดินเท้าไปอีก 2 กม. อากาศร้อนมาก แวะซื้อน้ำดืมระหว่างทางเดิน  น้ำดืมที่อินเดียถูกมากขวดใหญ่ 20RS 10บาท

[peter]

ระหว่างทางแวะถ่ายรูป กรรมกรใช้แรงงาน ชายหญิงปรับพื้นสนามหญ้า

[peter]

India Gate หรือประตูสู่อินเดี วันนี้เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เดินเข้าไปข้างใน  

[peter]

India Gate หรือประตูเมืองอินเดีย เป็นสิ่งก่อสร้างมีลักษณะคล้ายคลึง L’ Arc de Triomphe ของฝรั่งเศส แต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสาวรีย์ให้กับทหารผ่านศึก ในการรบสำคัญของอินเดีย

โดยได้จารึกรายชื่อของทหารที่เสียชีวิตในสนามรบจำนวน 13,516 คน ที่พลีชีวิตในสงครามชายแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือ และสงครามอัฟกานครั้งที่ 3

ทหารอินเดีย จำนวน 60,000 นาย ที่เสียชีวิตในสงครามโลก ครั้งที่ 1 สำหรับด้านบนของ India Gate นั้น เป็นอนุสรณ์แด่ทหารนิรนาม

สร้างด้วยหินทรายสีแดงเช่นเดียวกับสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่นิยมใช้หินทรายสีแดงสร้างในอินเดีย มีความสูงถึง 42.3 เมตร ส่วนโค้งของซุ้มประตู กว้าง 9.1 เมตร สูง 22.8 เมตร ตรงกลางระหว่างประตูมีกระถางหินทรายแดงขนาดใหญ่ จุดไฟลุกโชนไม่เคยดับมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2475 มีนายทหารคอยอยู่เวรยามทำความเคารพดวงวิญญาณอันมีเกียรติของผู้จากไปตลอดเวลา 

รอบ ๆ India Gate นั้น เป็นสวนสาธารณะเพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ

[peter]

ถ่ายรูปเสร็จก็นั่งรถสามล้อ 80รูปี หาอาหารทานแถวย่าน Rajiv Chowk ที่มีห้างสรรพสินค้า หิวมาก มันไปส่งที่ไหนก็ไม่รู้สภาพไม่เหมือนย่านธุรกิจ จะให้พวกเราลง ผมก็บอกไปว่าให้ไปส่งใกล้สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้แหล่งอาหาร ถ้าอย่างนั้นจะไม่ลงและไม่จ่ายเงินในที่สุดก็ขับไปอีก 3 กม. ลงใกล้สถานีรถไฟฟ้า ก็เจอคนอินเดียเข้ามาแนะนำร้านอาหารและเชิญเราเข้าไปในตึกแถวเพื่อขายทัวร์ จึงตัดสินใจนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่ Rajiv Chowk 8รูปี (4บาท) เป็นย่านธุรกิจ มีร้านอาหารฟาสฟู๊ตจำนวนมาก 

17:30 รีบไปสถานีรถไฟ Delhi เพื่อเดินทางมา Agra ซึ่งได้ทำการจองตั๋วผ่าน Cleartrip จากเมืองไทย และนำ eticket ที่เป็น waitlisted ของน้องคนหนึ่ง มา verify เพื่อระบุตำแหน่งที่นั่ง กับทางสถานีรถไฟก่อน ปรากฏว่ามีนักต้มตุ่นแต่งตัวเหมือนเจ้าหน้ารถไฟเข้ามาดู eticket พวกเรา และบอกว่าจะต้องไป verify ตั๋วที่ Connought press พวกเราก็ต้องนั่งสามล้อเครื่อง 90 รูปี เดินทางไปที่นั้น 

ระหว่างทางที่นักต้มตุ่นขับรถสามล้อเครื่องเดินทางไป Verify ตั๋วที่แรก โดนตำรวจเรียกให้หยุดและยึดใบขับขึ่นักต้มตุ่น และ บอกให้พวกเราไปโรงพัก พวกผมไม่กล้าที่จะไปโรงพักคิดว่าเป็นตำรวจปลอม และ อาจโดนหลอกอีก เลยโวยวายว่าไม่ไป จะไป Verify ตั๋วเท่านั้นเพราะใกล้เวลาที่รถไฟจะออกแล้ว ตอนหลังกลับมาทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เลยสรุปว่าตำรวจต้องการที่จะช่วยเหลือพวกเรา และคิดว่าพวกเรากำลังโดยหลอก โดยเสนอให้ไปที่โรงพัก แต่เนื่องจากพวกเราเร่งรีบ และคิดในแง่ลบทุุกด้าน ซื่งก่อนหน้านี้ก็โดนหลอกมาบ้างแต่ก็แก้ไขสถานการณ์ไปได้ด้วยดี

ตำรวจก็ยึดใบขับขึ่คนขับสามล้อเครื่องและปล่อยให้มันมาส่งที่ Tourist information ที่แรก พบกับนักต้มตุ่นสวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่บอกให้ยกเลิก eticket ใบนี้แล้วจองใหม่ เพราะ คนต่างชาติไม่สามารถจองผ่านเวปนี้ได้ พวกผมก็รู้ทันที่ว่าโดนหลอกก็รีบเดินทางไปสถานีรถไฟทันที ขณะที่เดินออกจากตึกแถวก็มี หน้าม้าขับสามร้อยเครื่องบอกพวกเราว่าสถานที่เรามาติดต่อเป็นนักต้มตุ่น แนะนำให้เราไปที่ Tourist information อีกที่หนึ่งซึ่งเป็นของรัฐบาล เพื่อไป verify ตั๋วอีกครั้ง พวกเราก็เชื่ออีกรอบรีบนั่งรถโดยสารไปทันที สรุปว่าก็เป็นทีมงานนักต้มตุ่นเหมือนกัน ให้ยกเลิกตั๋ว เพื่อซื้อตั๋วใหม่ และใกล้ที่รถไฟจะออกแล้ว พวกผมก็ตัดสินใจมาที่สถานีรถไฟเลยและตั้งใจจะคุยกับเจ้าหน้าที่ ที่อยู่ในเคาเตอร์ขายตั๋วเท่านั้น จะไม่คุยกับบุคคลใดก็ตามที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือ ปรากฏว่าก็มีคนแต่งชุดเจ้าหน้าที่มาขอดูตั๋วผมอีก และ บังคับขู่เข็นให้ผมเดินตามมันไปอีกที่หนึ่งพยายามชูบัตรเจ้าหน้าที่ให้ดู แต่ผมก็ไม่สนใจ ต่อคิวเพื่อคุยกับเจ้าหน้าที่หลังเคาร์เตอร์เท่านั้น พอถึงคิวผมเจ้าหน้าที่หลังเคาร์เตอร์ผู้หญิงก็ลุกเดินไปที่อื่นไม่สนใจ ผมจึงตัดสินใจไปต่อคิวอีกแถวหนึ่ง จนเจ้าหน้าที่รับตั๋วไป verify ผ่านไปได้ด้วยดีโดยไม่มีปัญหาอะไรเลย จึงรีบเขาไปในชานชลาเพื่อรอรถต่อรถไฟเดินทางไป Agra

เจ้าหน้าที่รถไฟที่นั่งอยู่่หลังเคาร์เตอร์ขายตั๋วเห็นเหตุการ์ณ ทุกอย่าง นั่งเฉย เงียบ ไม่พูดอะไรเลย ปล่อยให้พวกนี้ทำมาหากินกันออกหน้าออกตา หลังจากที่ผม verify ตั๋ว waitlistedให้น้องคนหนึ่งเสร็จ พวกมันยังลอยหน้าลอยตาบอกว่าไปขึ้นรถไฟตรงช่องนั้นนะ แล้วมันเห็นเหยื่อรายใหม่มันก็ตะโกนบอกทีมงานของมันให้ไปหาเหยื่อรายใหม่ทันที ตอนนี้กลัวกับคำถามที่ว่า คุณมาจากประเทศอะไรมาก เพราคนที่ถามคำถามนี้แทบทุกคนเป็นนักต้มตุ่น

ไป Agra ถึงเวลา 22:40 ใช้เวลา 3ชม. 20 นาที และที่สำคัญจะไม่มีประกาศใดๆ ทั้งสิ้นว่าขณะนี้ถึงสถานีอะไรแล้ว ไม่กล้านอนหลับสักงีบ กลัวจะเลยสถานี Arga วันนี้เจอเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ที่ค่อยลุ้นว่าจะโดนโกงอย่างไรบ้าง แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี 

[peter]

พวกเรานอนที่ Tourist rest house คืนละ 372บาท/ห้อง  นอนเพิ่มอีกคน เพิ่มอีก 50 บาท

[peter]

8 ก.ย. 2556 อาหารเช้าราคาถูกกว่าเมืองไทยมากๆ

[peter]

10:00 น. เดินทางไป Taj Mahal โดยรถสามล้อเครื่อง 100 รูปี  50บาท นั่งกันสามคน