จอดเทียบ Pier B ครับ มีลุฟท์ฮันซาเจ้าถิ่นจอดข้าง ๆ เอา 320 มาเจอ 380 กลายเป็นลำน้อยไปเลย
|
|
Posted 30 September 2013 - 02:00 AM
เนื่องจากต้องต่อเครื่องไปเบอร์ลิน ก็เลยยังไม่ต้องรับกระเป๋าที่นี่ (แต่ก็ต้องผ่าน ตม. ที่นี่นะครับ เพราะว่าเที่ยวบินต่อไปเป็นการเดินทางในกลุ่มเชงเก้นแล้ว)
เลยมาดูจอสักหน่อยว่าไฟลท์ต่อไปต้องไปเกทไหน ปรากฎว่าตั๋วที่จองไว้ เผื่อเวลาต่อเครื่องนานไปหน่อย (จริงๆ อยากเดินชมสนามบินแฟรงค์เฟิร์ท) เลยทำให้ยังไม่ขึ้นบนจอเลยครับ เกทก็ยังไม่ขึ้น แต่ก็พอเดาได้ว่าไฟลท์ในประเทศเยอรมนีและกลุ่มเชงเก้นของลุฟท์ฮันซาก็ใช้ Gate Zone A ของ Terminal 1 นี่แหละครับ
ก่อนจะผ่าน ตม. ก็เดินผ่านเคาเตอร์เซอร์วิสของลุฟทฮันซา ก็เลยมาปรินท์บอร์ดดิงพาสใหม่อีกทีที่นี่ละกัน (แม้จะได้มาแล้วตั้งแต่กรุงเทพฯ นะ เผื่อเกทจะขึ้น)
แต่ว่าเวลามาถึงยุโรปแล้ว จะเช็คอิน จะปรินท์บอร์ดดิงพาสนี่ ไม่ต้องคุยกะคนนะครับ ขั้นตอนพวกนี้ถ้าไม่ใช่บุคคลพิเศษ บินชั้นธุรกิจ ฯลฯ เชิญทำรายการด้วยตนเองผ่านตู้ Kiosk เลย
Posted 30 September 2013 - 02:07 AM
ผ่าน ตม. เรียบร้อย เข้าสู่เขตเชงเก้นแล้ว เราก็ต้องเดินไปยัง Gate A ซึ่งข้อเสียอย่างหนึ่งของการต่อเครื่องที่ Frankfurt คือ ถ้าบินมาด้วยสายการบินอื่น ๆ (ซึ่งมักจะจอด Gate แล้วต้องต่อ LH ไปในยุโรป ต้องเดินลอดใต้ลานจอด ข้ามไปยังฝั่ง Gate A ซึ่งไกลพอควร ยิ่งถ้าได้ Gate A ไกล ๆ เช่น A42 แบบนี้ ต้องเผื่อเวลาเดินหน่อยนะครับ
ทางเดินที่เห็นอยู่นี่ ลอดใต้ลานจอดและ taxiway ครับ มีเครื่องบินวิ่งอยู่เหนือหัวเรา
ในที่สุดก็มาโผล่ที่ Gate A เป็นดงของลุฟทฮันซา
Posted 30 September 2013 - 02:12 AM
ที่ยืนอยู่คือประมาณ Gate A1X ตรงนี้ จะเป็น Pier ยาวไปตั้งแต่ Gate A1-42 ส่วนที่เห็น 380 จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามนั่นคือส่วนที่เพิ่งขยายใหม่ของ Terminal 1 ของสนามบินนี้ครับ เป็น Gate A50-59 (หรือ Z50-59 ถ้าบินนอกเชงเก้น)
นี่ขนาดแค่ Gate A ด้วยกันยังแยกย่อยห่างกันขนาดนี้ แล้วใน Terminal 1 เนี่ยยังมี ฝั่ง Gate B (ที่เครื่องการบินไทยจะใช้) และ Gate C อีกนะครับ ทั้งหมดนี่อยู่ใน Terminal 1 นะ
แล้วสนามบินนี้ มี Terminal 2 อีกครับ ใช้สำหรับพวกสายการบินนอกกลุ่ม Star ทั้งหลาย
การต่อเครื่องที่ Frankfurt นี่ก็ต้องเผื่อเวลา เผื่อเดิน เผื่อหลงด้วยนะครับ หากใครไม่ได้เดินทางบ่อย ไม่คล่อง จะเหนื่อยหน่อย
Posted 30 September 2013 - 02:16 AM
เจอไฟลท์แล้ว LH180 ไป Berlin-Tegal ใช้เกท A16 (ตอนนี้ Berlin มี 2 สนามบินหลัก ๆ ครับ แต่อีกหน่อยจะย้ายไปรวมที่สนามบินใหม่ที่ยังเปิดใช้ไม่ได้เพราะสร้างยังไม่เสร็จ เงินหมดก่อน)
แต่อย่านิ่งนอนใจไปนะ ต้องคอยหมั่นตรวจสอบจอนี้ให้ดีนะครับ เพราะเกท เปลี่ยนได้เสมอ
มองดูร้านค้าในสนามบินแฟรงค์เฟิร์ทตรง Pier นี้สักเล็กน้อย มีร้านอาหารนิดหน่อย
Posted 30 September 2013 - 02:28 AM
บอร์ดดิงพาส ที่ปรินท์จากตู้ Kiosk อีกรอบ
อย่างที่บอกว่า บินในยุโรป ถ้าไม่ใช่ VIP หรือบินชั้นธุรกิจ หรือต้องมีการดูแลพิเศษ เช่นใช้วีลแชร์ จะไม่ได้พบปะกับมนุษย์มากนัก
แม้แต่เวลาขึ้นเครื่อง ตอนเรียกผู้โดยสารชั้นธุรกิจ บัตรทอง ฯลฯ จะเรียกแล้วมีคนมารับบอร์ดดิงพาสไปอ่านให้ครับ (ที่นี่เขาไม่ฉีกบอร์ดดิงพาสกันนะ แค่อ่านบาร์โค้ดก็พอ) แต่ถ้าเป็นผู้โดยสารชั้นประหยัดทั่วไป ก็สามารถบอร์ดดิงตัวเองได้ โดยการเอาบอร์ดดิงพาสไปแสกนกับเครื่องอ่านเอง แล้วประตูก็จะเปิด
Posted 30 September 2013 - 02:38 AM
เที่ยวบินภูมิภาคของสายการบินในยุโรปส่วนใหญ่ จะมีการให้บริการชั้นธุรกิจ แต่ว่าเครื่องบินนั้นจะจัดที่นั่งแบบเดียวกันทั้งลำ แต่ถ้าจะกันส่วนไหนเป็นชั้นธุรกิจ ก็จะใช้วิธีการเว้นที่นั่งตรงกลางไว้ เช่นบนตระกูล 737 320 ที่นั่งทั้งลำก็จัด 3-3 แต่ตอนหน้า ที่กันเป็นชั้นธุรกิจจะเว้นที่นั่งกลางไว้ไม่ขาย ซึ่งไทยสมายล์ก็นำคอนเซปนี้มาใช้ เพราะถือว่าเป็นเที่ยวบินในภูมิภาค บินใกล้ ๆ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เราชาวไทยไม่ต้องร้องตกใจ เพราะในยุโรปเป็นแบบนี้เกือบหมดครับ
Posted 30 September 2013 - 03:03 AM
หยิบนิตยสารออกมาจากหน้าที่นั่ง เล่มหนึ่งเป็นนิตยสารบนเที่ยวบิน อีกเล่มเป็นรายการสินค้า
เปิดดูสักหน่อยในนิตยสารของลุฟทฮันซา ฉบับนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับฝ่ายช่างในการดูแลเครื่องบินด้วยนะ เห็นนิตยสารของสายการบินหลายสายเหมือนกันที่พยายามใส่เนื้อหาเพื่อให้ผู้โดยสารที่มาอ่านเข้าใจการทำงานต่าง ๆ ของสายการบินมากขึ้น
ถ้าบ้านเรามีจะมีนิตยสารการบินดี ๆ ออกมาสักเล่ม ก็น่าจะดีใช่ไหมครับ
0 members, 0 guests, 0 anonymous users