พอขึ้นไปถึงจุดสุดยอด เฮ้ย!! ไม่ใช่...จุดชมวิว ภาพเทือกเขาหิมาลัยก็มาตระหง่านอยู่ตรงหน้าประมาณว่าอยากจะเอามือเอื้อมไปจับหิมะเลยทีเดียว (เว่อไปป่ะ) และแล้วเทือกเขาหางปลา มัจฉาปุชเร ก็เผยโฉมมาแบบแว่บไปแว่บมา เนื่องจากมีเมฆฝน และหมอกมาก ทำให้ช่วงใดที่นางโผล่ออกมา บรรดานักท่องเที่ยวก็กดชัตเตอร์กันไม่ยั้ง
โอ้โห!! สวยมากเลย ผมกับเพื่อนพูดกันได้แค่นี้ พร้อมกับสัมผัสกับอากาศเย็นและบริสุทธิ์สดชื่นมากด้วย แต่ก็อยากจะแนะนำให้มองมุมเงยๆ ไว้นะครับ เพราะหากมองต่ำๆ ล่างๆ จะเจอขยะจากบรรดานักท่องเที่ยวไร้จรรยาบรรณมาโปรยไว้ทั่วเลย แถมบางจุดเดินผ่านก็มีกลิ่นฉุนจากฉี่ปะทะจมูกเล่นเอาแทบอาเจียนด้วย อันนี้ถือว่าทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวเสียหมด
และเจ้าไกด์ของผม เห็นว่าผมกับเพื่อนดื่มด่ำกับบรรยากาศเทือกเขาหิมาลัยกันมากๆ he ก็เลยนำเสนอกิจกรรม Adventure แบบใหม่คือ พารามอเตอร์ ประมาณว่าร่อนจากยอดเขาสรังกอตลงไปในเมือง น่าสนใจไหม จะได้เห็นวิวเทือกเขาแบบใกล้ชิดด้วย เพราะจะบินไปใกล้ๆ และเห็นวิวทั่วเมืองโพคาราเลย สนนราคา 8000 บาทต่อคน
เอ่อ...ขอบคุณมากครับ ผมเกรงว่าผมอาจจะไปดูภูเขาแบบใกล้ชิดเกินไปครับ ชิดจนหน้าไปแนบกับหน้าผาหน่ะครับ ไม่เอาดีกว่า และอีกอย่างแพงด้วย ครึ่งหนึ่งของค่าตั๋วกลับกรุงเทพฯ เลยนะนั่น ....