เตรียมตัวก่อนแพ็คกระเป๋า
แต่ก็เอาเถอะไหนๆ ก็ตัดสินใจไปแล้ว ก็ลองมาวางแผนการเดินทางกันสักหน่อย
เริ่มด้วยวันเดินทางที่กำหนดไว้วันที่ 2-8 กุมภาพันธ์ 2556
ส่วนที่เที่ยวก็หาเอง ทั้งจาก Internet และหนังสือท่องเที่ยวเนปาล 2 เล่ม จากพี่ๆ ผู้มีอุปการคุณที่ซื้อมาให้ศึกษาอีก 2 เล่ม อ่านจนหนำใจกันเลยทีเดียว ใช้เวลาเตรียมตัวเองทั้งหมดหลายเดือนสุดท้ายแผนท่องเที่ยวก็สำเร็จ
ส่วนที่พักก็ search จาก comment ต่างๆ ในหลายๆ เว็บบางแห่งก็จองผ่าน Agoda บางแห่งก็ Booking.com และบางแห่งก็จองตรงกับโรงแรม
เรื่องการเดินทางก็เจอกับบริษัท Blue Mountain Travel โดยเหมารถทั้งหมด 6 วันพร้อมคนขับ ไปทั่วเนปาลเลย เริ่มตั้งแต่ Kathmandu-Bhaktapur-Nargakot-Kurintar-Chitwan National Park-Aabu Khaireni-Dumre-Demauli-Kotre-Pokhara-Kathmandu ค่ารถรวมน้ำมัน รวมที่พักคนขับ อาหารคนขับ 339 USD หรือประมาณ 10,170 บาท ถือว่าถูกมากเลยครับ
ที่ Blue Mountain Travel ก็เสนอทัวร์ Everest Express คือบินดูยอด Everest แบบไม่ต้องปีน ราคาอยู่ที่ 155USD (4,650 บาท) ต่อ 1 ชั่วโมง คิดดูแล้วก็คุ้ม เพราะครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ชม Everest แบบใกล้ๆ แต่หากซื้อตั๋วผ่านสายการบินเองโดยตรงก็จะต้องเสียภาษีรวมแล้ว 182USD
ส่วนเรื่องเงินก็ต้องแลกเป็น USD ไปก่อนและไปแลกเป็นเงิน NPR ที่ย่าน Thamel เพื่อใช้จ่ายในประเทศอีกครั้ง คิดกลับไปกลับมาแล้ว 1 เนปาลรูปี เท่ากับ 30 สตางค์
วีซ่าเนปาล ขอไม่ยากเลย เพียงแต่นำพาสปอร์ตที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน ไปพร้อมกับรูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 1 ใบ
พื้นหลังสีอ่อน และกรอก Application form ไปยื่นที่สถานทูตเนปาลประจำประเทศไทย ซอยปรีดี พนมยงค์ (ถนนสุขุมวิท 71) ตรงข้ามกับห้างMax Value ถ้ามาด้วย BTS ให้ลงสถานีพระโขนง และต่อรถมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ ก็ได้ หรือถ้าจะประหยัดก็ให้มารถเมล์สาย 22, 71, 133, 501 ลงป้ายรถเมล์ติดกับสถานทูตเลย วีซ่าเนปาลมีแบบเดียวคือ Multiple Entry สามารถเข้าออกได้หลายครั้งหากวีซ่ายังไม่หมดอายุ โดยอัตราค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าแตกต่างตามจำนวนวันดังนี้
15 วัน – 875 บาท
30 วัน – 1,400 บาท
90 วัน - 3,500 บาท
เรื่องการจัดกระเป๋าก็แล้วแต่ว่าจะไปช่วงไหน ช่วงที่ผมไปยังคงหนาวอยู่อุณหภูมิช่วงกลางวันอยู่ระหว่าง 12-17 องศาแต่กลางคืนลดลงต่ำสุดเกือบ 0 องศา ก็ต้องเตรียมเสื้อหนาๆ ไปหลายตัวแต่ไม่ถึงขั้นใช้ลองจอน
ส่วนในฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม อุณหภูมิอาจสูงสุดถึงประมาณ 35 องศา
และฤดูมรสุมประมาณเดือนมิถุนายน-สิงหาคมก็ฝนตกชุกเนื่องจากพื้นที่เป็นป่าเขา ส่วนฤดูใบไม้ร่วมเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน-ธันวาคม อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 7-28 องศา ดังนั้นฤดูท่องเที่ยวที่น่าไปเยือนเนปาลคือช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะเห็นใบไม้เปลี่ยนสีก่อนที่จะร่วง ส่วนฤดูหนาวอยู่ช่วงธันวาคม-กุมภาพันธ์ และอากาศจะหนาวมากเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ต้องขออภัยที่เกริ่นมาซะยืดยาวยังไม่เห็นรูปเลย เพราะอยากให้ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับผู้ที่อยากจะไปเนปาลได้เตรียมตัวกันคร่าวๆ นะครับ
มาเริ่มเดินทางกันเลยดีกว่า