93 replies to this topic

[TtF]

Advertisements

สวัสดีครับ ออกตัวไว้ในรีวิวการบินไทย A380 Royal First กรุงเทพ-ปารีส ที่ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่เมื่อเทียบกับสายการบินห้าดาวเพื่อนบ้าน (goo.gl/OcsLL) วันนี้เลยขอนำเสนอรีวิวสิงคโปร์แอร์ไลน์สำหรับเปรียบเทียบ เผื่อวันนึงเราจะก้าวไปถึงจุดเดียวกับเขาครับ

เพื่อให้รอบด้าน ผมขอรวมหลายๆไฟลท์ไว้ในรีวิวเดียวกันไปเลย โดยขอให้เปรียบเทียบดังนี้ครับ

 

1.    ชั้นบริการเดียวกันคือ First Class ในเส้นทางไกลเทียบเคียงกัน (MUC-SIN vs BKK-CDG) บนเรื่องบินรุ่นเก่ากว่า (77W vs A380)

2.    เครื่องบินแบบเดียวกัน (A380) ในชั้นโดยสารรองลงมา (Business vs First) กับเส้นทางการบินที่สั้นกว่า (NRT-SIN vs BKK-CDG) แถมด้วย

3.    ชั้นบริการเดียวกันคือ First Class ในเส้นทางการบินที่ใกล้กว่า (SIN-HND vs BKK-CDG) บนเรื่องบินรุ่นเก่ากว่า (773 vs A380)

 

เชิญชมได้เลยครับ

Attached Thumbnails

• 

[TtF]

เราออกเดินทางจากท่าอากาศยานมิวนิกครับ เนื่องจากไม่ได้ใช้บริการชั้นหนึ่งของสายการบินเจ้าถิ่น Lufthansa จึงไม่สามารถใช้ Lufthansa First Lounge พร้อมบริการขับ Porsche ไปส่งถึงเครื่องได้ครับ ผมเคยรีวิวไว้แต่เป็นเส้นทางออกจากแฟรงเฟิร์ตครับ (goo.gl/OcsLL) แต่สามารถใช้บริการ Senator Lounge ในส่วนของ first class ได้ครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[TtF]

ข้างในคนค่อนข้างเยอะครับ ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ ชัดเจนว่าสู้เลาจ์การบินไทยที่สุวรรณภูมิไม่ได้สักนิดครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[TtF]

ถึงเวลาไปที่เกทกันดีกว่าครับ เครื่อง B777-300ER มารออยู่แล้ว พูดถึงเกทก็ขอบ่นเรื่อง boarding ที่สุวรรณภูมิหน่อยว่ามั่วมากๆครับ ไม่มีการกำหนดแถวที่ชัดเจน แถมที่ก็แคบเสียเหลือเกิน บินกี่ทีก็แบบนี้ไม่มีการปรับปรุงเลยครับ 

Attached Thumbnails

• 
• 

[TtF]

บรรยากาศในเคบินครับ ที่นั่งแบบ 1-2-1 เป็นเบาะหนังขนาดใหญ่มาก แม้จะใช้งานมาหลายปีแต่สภาพยังดีอยู่มากครับ คิดเอาเองว่าเพราะเบาะหนังดูแลง่ายกว่าเบาะผ้าหรือเปล่าครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 

[TtF]

สำรวจที่นั่งกันหน่อย ข้างซ้ายเป็นที่เก็บรีโมตกับปุ่มปรับเบาะซึ่งเรียบง่ายมากแต่เอาจริงๆว่านั่งไม่สบายเท่าไหร่ ข้างขวาเป็นที่วางแก้วน้ำและที่เก็บเอกสารประจำที่นั่งกับหูฟัง และก็มีช่องเก็บของครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[TtF]

รอบๆตัวมีอะไรบ้าง เริ่มจากเมนูอาหารใส่มาในซองหนัง ผ้าห่มที่มีตรา Givenchy หรา หูฟัง Bose ที่คุณภาพสมราคา ส่วนช่องเสียบหูฟังกับไฟอ่านหนังสือจะอยู่ข้างที่นั่งตรงด้านบนๆครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[TtF]

ไฟลท์ยาวๆแบบนี้มีแจกชุดนอนครับ เป็นของ Givenchy อีกเช่นกัน ส่วน Amenity kit เป็นของ Kiehl’s ครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[TtF]

ได้เวลาก็เปิดวีดีโอสาธิตความปลอดภัย แล้วก็ push back กันเลยครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[TtF]

การบริการเริ่มขึ้นจากพนักงานมาแนะนำตัวและชวนคุยนิดๆหน่อยๆเพื่อประเมินว่าระดับความเป็นส่วนตัวของเราแค่ไหนครับ โดยพนักงานจะเรียกเราด้วยนามสกุลทุกครั้ง อยากบอกว่าทุกครั้งที่บิน premium class ของ SQ พนักงานจะเรียกแบบนี้ทุกครั้งครับ บางคนอาจมองว่าเหมือนเป็นหุ่นยนต์ท่องมา แต่ผมว่ามันคือความคงที่สม่ำเสมอครับ ของการบินไทยนี่มีทุกรูปแบบตั้งแต่เรียกท่าน เรียกคุณตามด้วยชื่อ หรือบางครั้งก็เลี่ยงไม่เรียกอะไรเลยครับ คุยเสร็จพนักงานก็มารับออเดอร์เครื่องดื่มไป รับเป็นแชมเปญกับถั่วอุ่นๆมาครับ SQ มีความพิเศษเรื่องแชมเปญตรงที่มีทั้ง Dom Perignon และ Krug ให้เลือกครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[TtF]

เข้าสู่มื้ออาหารเที่ยงด้วยการเปิดโต๊ะ ซึ่งเลื่อนออกมาจากด้านหน้าครับ เรียกน้ำย่อยด้วย signature dish ของ SQ คือสะเต๊ะครับมีทั้งเนื้อไก่และเนื้อแกะ ผมชอบน้ำจิ้มครับอร่อยเข้มข้นดี

Attached Thumbnails

• 
• 

[TtF]

จากนั้นก็ได้เวลาปูโต๊ะ ชุดถ้วยชามของ SQ ที่ยอมรับเลยครับว่าสวยสุดยอด อยากจิ๊กลงมาสักชุดจริงๆ พนักงานทำงานกันเป็นทีมดีมากครับ คนนึงปูโต๊ะ คนนึงจัดโต๊ะ อีกคนเอาตะกร้าขนมปังมาให้เลือก อาจเพราะว่ามีผู้โดยสารแค่ 3 คนก็ได้มั้งครับ ทานขนมปังเสร็จก็ต่อด้วยคาเวียร์ครับ การจัดจานผมว่าดูดีกว่าการบินไทยนะครับ แถมเสิร์ฟพร้อม melba toast ซึ่งอร่อยกว่า blini เป็นไหนๆ แต่ก็อย่างว่า ความชอบส่วนตัวครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[TtF]

จากนั้นก็ตามด้วยซุปข้าวโพดหวานใส่ไก่กับสลัดผักสด อยากให้สังเกตอีกครั้งกับเครื่องถ้วยชามของ SQ ที่สวยจริงๆครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[TtF]

ต่อด้วยจานหลักครับ ของผมเป็น Extra virgin olive oil flavored lobster ครับ ส่วนของเพื่อนเป็นอาหารมาเลเซียชื่อ Nasi padang ไก่และแกะครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[TtF]

ปิดท้ายด้วยของหวานมีให้เลือกระหว่าง Chocolate tart with passionfruit sorbet กับ Crepe with vanilla sauce ครับ ตามด้วยผลไม้สารพัดอย่างที่มาเป็นตะกร้าและชอคโกแลตก่อนนอนครับ จริงๆมีบริการชีสและชากาแฟด้วย แต่อิ่มจนรับไม่ไหวแล้วครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[TtF]

หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนย้อยคล้อยยาน พนักงานจึงเสนอปูเตียงให้ที่ข้างๆครับ แม้ที่นอนจะไม่ตึงเปรี๊ยะเหมือนตามโรงแรม แต่สภาพก็มั่นใจได้ว่ายังไม่มีใครมาทดลองนอนครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[TtF]

ก่อนนอนไปเปลี่ยนชุดและแปรงฟันกันหน่อย ในห้องน้ำอะไรๆก็ดี แต่ไอ้พวกครีมพวกน้ำยาบ้วนปากนั่น มันดูเก่าๆเหลือๆยังไงก็ไม่รู้ครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[TtF]

นอนเด้งไปเด้งมาเป็นระยะ ตื่นอีกทีก็อยู่กลางอ่าวเบงกอลแล้วครับ ล้างหน้าล้างตาแล้วก็ทานมื้อเช้าต่อเลย เมนูที่ออกได้แก่ ผลไม้ ครัวซอง โยเกิร์ต แล้วก็ข้าวต้มลูกชิ้นกุ้งครับ หลังจากอาหารก็นั่งเพลินๆอีกเดี๋ยวเดียวก็ถึงสิงคโปร์แล้วครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[TtF]

เครื่องจอดที่ terminal 3 ครับ ได้ยินมาหลายที เพิ่งได้มีโอกาสมาใช้บริการ สวยงามตามที่ร่ำลือจริงๆ ทั้งพรมที่ดูสะอาดตา เพดานสูงโปร่งโล่งสบาย ทางเดินก็กว้างขวางครับ ลองดูจารูปเกทที่ถ่ายมาสิ

Attached Thumbnails

• 

[TtF]

ลงจากเครื่องก็เดินไปที่ SilverKris Lounge ครับ ข้างหน้าเลาจ์จะมีพนักงานเช็คบอร์ดดิ้งพาส เพราะถ้าไม่ได้บินด้วย SQ ก็ต้องไปใช้ KrisFlyer Gold Lounge ครับ เดินเข้าไปข้างในจะมีส่วนของ business กับ first แยกออกจากกัน ซึ่งก็จะมพนักงานขอดู boarding pass อีกที ก่อนจะพาไปข้างในสุดของ first class lounge เรียกว่า Private Room ซึ่งเข้าได้เฉพาะผู้โดยสาร first ของ SQ ครับ รูปล่างสุดเป็น first class lounge ธรรมดาครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
•