Jump to content



 
จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองรถเช่า
แผนกบริการลูกค้า โทร 02-3737-555 จันทร์ - เสาร์ 09.00-18.00น.

 

ค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวและการบินในเอชไฟล์ท เชิญด้านล่างนี้

หน้าแรก | เว็บบอร์ดรีวิว | จองตั๋วเครื่องบิน | จองโรงแรม | เที่ยวต่างประเทศ | เที่ยวในประเทศ | ลงโฆษณา

Midfield Satellite Building 1 of Suvarnabhumi Airport Phase 2 development.

Suvarnabhumi Suvarnabhumi Airport สนามบินสุวรรณภูมิ สุวรรณภูมิ

  • Please log in to reply
76 replies to this topic

#21 bangkokguy

bangkokguy

    สมาชิก waiting list

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 159 posts

 


Posted 19 April 2013 - 07:43 AM

Advertisements

อันนี้เห็นด้วยครับ ปัญหาต่างๆของสุวรรณภูมิตอนนี้มีมากจริงๆ ทั้งขาเข้าและขาออก เพราะเฟส 2 เกิดขึ้นช้ากว่าที่ควรจะเป็นมากๆ เพราะด้วยนโยบายต่างๆที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของภาครัฐ และความพร้อมของตัวทอท.เองด้วย

เฟส 2 ณ ปัจจุบัน คงต้องดูที่ความต้องการหลักน่ะครับ เพราะแต่ละส่วนน้ันมีการออกแบบและสร้างตามความต้องการของสุวรรณภูมิ เริ่มจาก

อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 อาคารนี้หลักๆคืออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารและสายการบิน ให้สามารถจอดเครื่องแบบประชิดอาคารได้ ซึ่งจากเดิมมีอยู่แค่ 51 ทางออก และถูกแบ่งไปใช้เป็นภายในประประเทศถึง 11 ทางออก แต่ตอนหลังมีการปรับปรุงให้สามารถเปลี่ยนมาใช้สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศได้ ภายหลังหมดเที่ยวบินภายในประเทศ แต่ในภาพรวมก็น้อยอยู่ดี ซึ่งทำให้ผู้โดยสารและสายการบินต้องใช้ลานจอดกลางแจ้งแทน ซึ่งไม่สะดวก ด้วยเหตุนี้เลยมีการสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 แทน ซึ่งมีช่องจอดถึง 28 ช่อง ครึ่งเป็น 54% จากของเดิม ซึ่งทำให้ภาพรวมในอนาคตเมื่อเสร็จ สุวรรณภูมิจะมีช่องจอดประชิดอาคารถึง 79 ช่อง โดยส่วนนี้จะช่วยรองรับเครื่องบินให้มีที่จอดได้มากขึ้น (ในตอนนี้บางช่วงเวลามีปัญหาช่องจอดไม่พอ)

ส่วนการขยายอาคารผู้โดยสารด้านตะวันออกนั้น ตอนนี้ยังมีข้อมูลที่ไม่ตรงกันอยู่ เช่น ขนาดของอาคาร เพราะในเวปทอท.ลงไว้แค่ 14,580 ตารางเมตร แต่ในข่าวๆหลายๆข่าวลงไว้ถึง 60,000 ตารางเมตร ซึ่งดูสมเหตุสมผลกว่า เมื่อเทียบกับขนาดอาคารในปัจจุบันที่มีขนาดใหย่กว่า 5แสนตารางเมตร http://www.thanonlin...#38;Itemid=448

รวมถึงข้อมูลจาก ผลการประชุม คณะกรรมาธกิ ารการท่องเที่ยวและกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ ๓๓ วันพฤหสั บดีที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ http://www.parliamen...วบินภายในประเทศ ซึ่งตรงกับสิ่งที่เคยได้ยินมาคือ จะปรับปรุงอาคารหลักให้เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมด โดยเพิ่มพื้นที่ตรงหนังสือเดินทางและตัวสัมภาระอีก 1 จุด (น่าจะเป็นบริเวณเดิมของเที่ยวบินในประเทศ) เพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น และรองรับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (โซนทิศตะวันออกสำหรับโซน A B C และ D โซนกลางสำหรับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และโซนตะวันตกสำหรับ D E F และ G เป็นต้น)

ซึ่งส่วนต่อขยายนั้นเหมือนจะมีขนาดใหญ่กว่าแบบเดิม เพราะแบบเดิมที่เคยได้ยินมานั้นจะเป็นช่วงเสาที่สร้างไว้แต่ยังไม่ได้ใช้ทั้งสองข้างของอาคารหลัก แต่จากข่าวเก่าๆในการขยายนั้นจะต้องรื้อศูนย์อาหารในส่วนเที่ยวบินภายในประเทศออกด้วย เลยคิดว่า น่าจะมีขนาดใหญ่กว่าแบบเดิม และทางเข้าออกระหว่างอาคารผู้โดยสารกับอาคารเทียบเครื่องบิน น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจจะตรงเข้าไปคอนคอร์ด A โดยตรงเลย ไม่ต้องผ่านคอนคอร์ด D แบบทุกวันนี้ โดยการแยกเที่ยวบินภายในประเทศออกไปนั้น น่าจะช่วยให้ขีดความสามารถของอาคารหลักมีสูงขึ้น ทั้งเคาเตอร์เช๊คอิน สายพานรับกระเป๋า และพื้นที่โดยรอบ

และในส่วนโถงรอผู้โดยสารเข้า หรือ arrival hall นั้นมีปัญหาจริง ทั้งจากการออกแบบที่มีพื้นที่น้อยเกินไป รวมถึงการจัดการที่ดูแล้วไม่เหมาะสม คือกั้นเป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับผู้โดยสาร ซึ่งทำให้บริเวณรอของคนมารับน้อยลงไปอีก ทางแก้คงแก้ได้เฉพาะเรื่องการบริหารจัดการ เพราะในตัวโครงสร้างคงแก้ลำบาก

ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ได้รับจริงๆ เลยครับ

 

แค่พิจารณาว่า ส่วนอาคารผู้โดยสารอย่างที่บอก คือถ้าเพิ่มเนื้อที่อีก 60,000 ตาราเมตร จากอาคารหลักที่มี 500,000 ตารางเมตร คือเพิ่มแค่ 10 กว่าเปอร์เซนต์เอง แล้วต้องเฉลี่ยออกไปอีก 5-6 ชั้น (รวมใต้ดิน) คิดว่า ไม่น่าจะเพียงพอแน่นอน ถ้าเผื่อผู้มีอำนาจได้อ่านหรือเข้าใจ อยากให้เพิ่มเนื้อที่ขึ้นอีก

 

arrival hall มีปัญหาหนักจริงๆ เท่าที่ดู ถ้าเป็นไปได้ ควรต้องย้ายเคานเตอร์ต่างๆ ออกไปจะช่วยพื้นที่ ส่วนการบริการต่างๆที่เคาน์เตอร์เดิม ถ้าจะขยายออกด้านข้างๆ ควรจะออกแบบไว้ เช่น พื้นที่คืนภาษี หรือว่าเคาน์เตอร์สายการบินต่างๆ ที่ควรเพิ่มพื้นที่ให้มากขึ้น หรืออาจจะเพิ่มชั้นขึ้นไปอีก

 

ส่วนอาคารเทียบเครื่องบิน คราวนี้ ถ้าหากจะออกแบบส่วนพื้นที่ช๊อปปิ้ง ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสร้างรายได้ อันที่จริง อยากจะบอกว่า ให้ไปเอาแบบห้างสรรพสินค้ามาเลย อย่างมาเลเซีย ที่มีอาคารรอง เขาก็มีพื้นที่นี้ ผมคิดว่า คนไทยทำได้ดีกว่าแน่นอนในแง่ห้างสรรพสินค้า ออกแบบให้เต็มที่ไม่ใช่ออกแบบแบบกั๊ก ๆ พอเอาร้านค้ามาใส่แน่นขนัดไปหมด หรืออกแบบร้านให้มีเนื้อที่น้อยเกินไป อย่างร้านอาหารบริเวณระหว่างผู้โดยสารขาเข้ากับขาออก ผมมีความรู้สึกว่าร้านมันตื้นไป ถ้าร้านลึกกว่านี้ อาจจะได้ปริมาณร้านค้ามากกว่านี้ เพราะร้านส่วนใหญ่ออกในแนวหน้ากว้าง แต่ตื้น

 

เหมือนอย่างส่วนที่เทียบเครื่องบิน เราต้องเดินไกลมาก ๆ มีแต่ร้านค้า เพลินๆ ก็ดี เหมือนกัน แต่ถ้าเร่งรีบจะรู้สึกว่ามันไกลไปไหม ถ้าอยากให้ร้านค้ามีเนื้อที่เยอะ น่าจะออกแบบให้ร้านค้าขยายไปในแนวทางลึก จะได้เพิ่มจำนวนร้านค้าได้ แล้วไม่ต้องเดินแบบสาหัสแบบนั้น

 

ส่วนตัวอยากให้เพิ่มร้านค้าประเภทร้านนั่งพัก เช่น อินเตอร์เนตคาเฟ่ หรือโรงแรมประเภทเดย์รูม หรือว่าอาจจะเป็นcapsule หรือเป็นโรงหนัง โรงละครไปเลย (เช่นอาจจะเอาคาบาเร่ต์ไทยไปเลย เพราะว่าจริงๆ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศมาก)หรือร้านสปาไทย ซึ่งน่าจะเป็นจุดขายที่ดีของประเทศ สำหรับคนที่รอต่อเครื่องจะได้มีอะไรทำ ไม่ใช่มายึดเก้าอี้ เป็นที่นอน  บางทีมันก็ดูไม่ดี แล้วแทนที่เราจะได้หาได้รายได้จากผู้โดยสารเหล่านี้





Advertisements

#22 Uronohan

Uronohan

    สมาชิก Premium Economy

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPip
  • 965 posts

Posted 19 April 2013 - 09:28 AM

อีกนิดและกัน แถมให้ แม้ไม่อยู่ในเฟส 2 แต่เป็นโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ คือ 

 

อาคารปฏิบัติการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระเปลี่ยนเที่ยวบิน หรืออาคารคัดแยกสัมภาระเปลี่ยนเที่ยวบิน ซึ่งจะเป็นการช่วยให้สนามบินสุวรรณภูมิสามารถลดระยะเวลาในการเปลี่ยนเที่ยวบิน จากปัจจุบัน 90  เหลือเพียง 60 นาที โดยสร้างอยู่บนโครงสร้างของอุโมงค์ เชื่อมต่ออาคารผู้โดยสารหลักกับอาคารเทียบเครื่องบินรอง

 

อ้างอิง http://www.ryt9.com/s/tpd/1340230

 

Transfer+Baggage+Terminal.jpg

 

อ้างอิง http://suparchitect....e-terminal.html

 

 

Terminal นี้ทำงานยังหรือครับ Baggage Transfer ???



#23 Ethanol

Ethanol

    สมาชิก Economy Class

  • Premium Members
  • 883 posts

Posted 19 April 2013 - 01:12 PM

^
^
สงสัยอันนี้แหละมั้ง ที่กำลังขึ้นเป็นโครงเหล็กกลางลานจอดที่เห็น

#24 kaewmaloon

kaewmaloon

    สมาชิก waiting list

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 164 posts
  • LocationChiang Mai - Lampang

Posted 19 April 2013 - 05:03 PM

ส่วนนี่น่าจะทางลงเชื่อมกับ รถไฟฟ้าด่านล่างนะ

Attached Thumbnails

  • terminal2.jpg

  • UsuallyTheBest likes this

#25 Ben_BEnz

Ben_BEnz

    สมาชิกกำลังเช็คอิน

  • Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 456 posts

Posted 20 April 2013 - 12:23 AM

Terminal นี้ทำงานยังหรือครับ Baggage Transfer ???

 

ถ้าจากข่าวก็ตามนี้เลยครับ ""การคัดแยกสัมภาระของผู้โดยสารเปลี่ยนเครื่องที่มาใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น สัมภาระทั้งหมด จะถูกส่งเข้าสู่ระบบคัดแยกสัมภาระหลัก และถูกรวมกับสัมภาระของผู้โดยสารปกติ ทำ ให้เกิดความล่าช้าในการขนสัม ภาระของผู้โดยสารเปลี่ยนเครื่อง" นายชัชชาติกล่าว"

 

แต่ถ้าอธิบายอย่างง่ายๆก็น่าจะเป็นการแยกสัมภาระของผู้โดยสารเปลี่ยนเครื่องมาจัดการแยกเที่ยวบินต่อไปที่อาคารนี้แทน แทนการนำไปแยกรวมกับสัมภาระอื่นๆของผู้โดยสารที่ไม่ได้ต่อเครื่องใต้อาคารผู้โดยสารหลัก ซึ่งเสียเวลาและไม่สะดวกเนื่องจากสัมภาระเยอะอยู่แล้ว คงประมาณนี้อะครับ



#26 Ben_BEnz

Ben_BEnz

    สมาชิกกำลังเช็คอิน

  • Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 456 posts

Posted 20 April 2013 - 12:31 AM

ส่วนนี่น่าจะทางลงเชื่อมกับ รถไฟฟ้าด่านล่างนะ

 

ใช่ครับ เป็นทางลงไปสู่ APM ของอาคารหลัก ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างทางออก D4 และ D5

 

ภายนอกคืออาคารรูปกึ่งครึ่งวงกลม 

 

เครดิต http://s70.photobuck...e20055.jpg.html

Attached Thumbnails

  • 591Picture20055.jpg


#27 Ben_BEnz

Ben_BEnz

    สมาชิกกำลังเช็คอิน

  • Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 456 posts

Posted 20 April 2013 - 12:47 AM

ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ได้รับจริงๆ เลยครับ

 

แค่พิจารณาว่า ส่วนอาคารผู้โดยสารอย่างที่บอก คือถ้าเพิ่มเนื้อที่อีก 60,000 ตาราเมตร จากอาคารหลักที่มี 500,000 ตารางเมตร คือเพิ่มแค่ 10 กว่าเปอร์เซนต์เอง แล้วต้องเฉลี่ยออกไปอีก 5-6 ชั้น (รวมใต้ดิน) คิดว่า ไม่น่าจะเพียงพอแน่นอน ถ้าเผื่อผู้มีอำนาจได้อ่านหรือเข้าใจ อยากให้เพิ่มเนื้อที่ขึ้นอีก

 

arrival hall มีปัญหาหนักจริงๆ เท่าที่ดู ถ้าเป็นไปได้ ควรต้องย้ายเคานเตอร์ต่างๆ ออกไปจะช่วยพื้นที่ ส่วนการบริการต่างๆที่เคาน์เตอร์เดิม ถ้าจะขยายออกด้านข้างๆ ควรจะออกแบบไว้ เช่น พื้นที่คืนภาษี หรือว่าเคาน์เตอร์สายการบินต่างๆ ที่ควรเพิ่มพื้นที่ให้มากขึ้น หรืออาจจะเพิ่มชั้นขึ้นไปอีก

 

ส่วนอาคารเทียบเครื่องบิน คราวนี้ ถ้าหากจะออกแบบส่วนพื้นที่ช๊อปปิ้ง ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสร้างรายได้ อันที่จริง อยากจะบอกว่า ให้ไปเอาแบบห้างสรรพสินค้ามาเลย อย่างมาเลเซีย ที่มีอาคารรอง เขาก็มีพื้นที่นี้ ผมคิดว่า คนไทยทำได้ดีกว่าแน่นอนในแง่ห้างสรรพสินค้า ออกแบบให้เต็มที่ไม่ใช่ออกแบบแบบกั๊ก ๆ พอเอาร้านค้ามาใส่แน่นขนัดไปหมด หรืออกแบบร้านให้มีเนื้อที่น้อยเกินไป อย่างร้านอาหารบริเวณระหว่างผู้โดยสารขาเข้ากับขาออก ผมมีความรู้สึกว่าร้านมันตื้นไป ถ้าร้านลึกกว่านี้ อาจจะได้ปริมาณร้านค้ามากกว่านี้ เพราะร้านส่วนใหญ่ออกในแนวหน้ากว้าง แต่ตื้น

 

เหมือนอย่างส่วนที่เทียบเครื่องบิน เราต้องเดินไกลมาก ๆ มีแต่ร้านค้า เพลินๆ ก็ดี เหมือนกัน แต่ถ้าเร่งรีบจะรู้สึกว่ามันไกลไปไหม ถ้าอยากให้ร้านค้ามีเนื้อที่เยอะ น่าจะออกแบบให้ร้านค้าขยายไปในแนวทางลึก จะได้เพิ่มจำนวนร้านค้าได้ แล้วไม่ต้องเดินแบบสาหัสแบบนั้น

 

ส่วนตัวอยากให้เพิ่มร้านค้าประเภทร้านนั่งพัก เช่น อินเตอร์เนตคาเฟ่ หรือโรงแรมประเภทเดย์รูม หรือว่าอาจจะเป็นcapsule หรือเป็นโรงหนัง โรงละครไปเลย (เช่นอาจจะเอาคาบาเร่ต์ไทยไปเลย เพราะว่าจริงๆ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศมาก)หรือร้านสปาไทย ซึ่งน่าจะเป็นจุดขายที่ดีของประเทศ สำหรับคนที่รอต่อเครื่องจะได้มีอะไรทำ ไม่ใช่มายึดเก้าอี้ เป็นที่นอน  บางทีมันก็ดูไม่ดี แล้วแทนที่เราจะได้หาได้รายได้จากผู้โดยสารเหล่านี้

 

อันนี้คงต้องรอดูงานออกแบบและแผนผังอะครับ เพราะกลุ่มที่ปรึกษาพึ่งได้งานไป แต่ส่วนตัวคิดว่าภาพรวมน่าจะออกมาดีในระดับนึงเลยทีเดียว เพราะมีอเฟส 1 เป็นกรณีศึกษาให้ดูอยู่แล้วว่ามีปัญหาตรงไหนบ้าง งานออกแบบครั้งนี้น่าจะแก้ปัญหาต่างๆได้เกือบหมด



#28 bangkokguy

bangkokguy

    สมาชิก waiting list

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 159 posts

Posted 20 April 2013 - 04:52 PM

ดูสะพานเทียบเครื่องแบบ 2 ชั้น แปลก ๆ มั้ยครับ

 

คือมีเป็นชั้นสองยื่นออกมา แต่มีบันไดเลื่อนขึ้นไป เพื่อเป็นขาออกที่ชั้นสอง ถ้ามองดูการใช้สอยสะพานที่เทียบกับเครื่องมันควรจะยกขึ้นไปเทียบที่ชั้นสอง (ซึ่งก็ไม่น่าจะใช่)  ดูแล้ว งง ๆ กับการออกแบบ เพราะว่าส่วนที่ยื่นออกมา ถ้าสะพานมันไม่ยกตัวไปเทียบ มันก็เปล่าประโยชน์เลยนะครับนั่นหน่ะ เพราะว่าถ้าดูจากภาพ คือภายในจะมีบันไดเลื่อนอยู่แล้ว คือ จากชั้นล่าง มีบันไดเลื่อนขึ้นชั้นบนได้ โดยอันที่จริง ไม่ต้องเป็นสองชั้นแบบนั้น หรือว่าผมเข้าใจอะไรผิด



#29 likeaboss

likeaboss

    สมาชิกปั่นจักรยาน

  • Members
  • Pip
  • 32 posts

Posted 20 April 2013 - 06:23 PM

ดูสะพานเทียบเครื่องแบบ 2 ชั้น แปลก ๆ มั้ยครับ

 

คือมีเป็นชั้นสองยื่นออกมา แต่มีบันไดเลื่อนขึ้นไป เพื่อเป็นขาออกที่ชั้นสอง ถ้ามองดูการใช้สอยสะพานที่เทียบกับเครื่องมันควรจะยกขึ้นไปเทียบที่ชั้นสอง (ซึ่งก็ไม่น่าจะใช่)  ดูแล้ว งง ๆ กับการออกแบบ เพราะว่าส่วนที่ยื่นออกมา ถ้าสะพานมันไม่ยกตัวไปเทียบ มันก็เปล่าประโยชน์เลยนะครับนั่นหน่ะ เพราะว่าถ้าดูจากภาพ คือภายในจะมีบันไดเลื่อนอยู่แล้ว คือ จากชั้นล่าง มีบันไดเลื่อนขึ้นชั้นบนได้ โดยอันที่จริง ไม่ต้องเป็นสองชั้นแบบนั้น หรือว่าผมเข้าใจอะไรผิด

 

ส่วนตัวคิดว่าด้านบนนี่สำหรับ Departure แต่ต้องลงมาขึ้นเครื่องที่ด้านล่าง  ส่วนด้านล่างนี่น่าจะ Arrival + Transit อย่างเดียว ส่วนบันไดเลื่อนน่าจะเฉพาะลง ห้ามขึ้น 



#30 nutnano

nutnano

    สมาชิก Economy Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 843 posts
  • LocationSARL Phaya Thai Station

Posted 20 April 2013 - 06:40 PM

ดูสะพานเทียบเครื่องแบบ 2 ชั้น แปลก ๆ มั้ยครับ

 

คือมีเป็นชั้นสองยื่นออกมา แต่มีบันไดเลื่อนขึ้นไป เพื่อเป็นขาออกที่ชั้นสอง ถ้ามองดูการใช้สอยสะพานที่เทียบกับเครื่องมันควรจะยกขึ้นไปเทียบที่ชั้นสอง (ซึ่งก็ไม่น่าจะใช่)  ดูแล้ว งง ๆ กับการออกแบบ เพราะว่าส่วนที่ยื่นออกมา ถ้าสะพานมันไม่ยกตัวไปเทียบ มันก็เปล่าประโยชน์เลยนะครับนั่นหน่ะ เพราะว่าถ้าดูจากภาพ คือภายในจะมีบันไดเลื่อนอยู่แล้ว คือ จากชั้นล่าง มีบันไดเลื่อนขึ้นชั้นบนได้ โดยอันที่จริง ไม่ต้องเป็นสองชั้นแบบนั้น หรือว่าผมเข้าใจอะไรผิด

 

ไม่แปลก! ชั้น 2 เป็นชั้นของ Arrival ชั้น 3 คือ Departure ซึ่งแบบเดิมที่ใช้ทุกวันนี้ก็เป็นแบบเดียวกัน เพียงแต่ที่แบบปัจจุบันในอาคารเดิมมีเพียงชั้นเดียวคือ Departure Passenger ลงมาสู่ชั้น 2 ตั้งแต่ในอาคารแล้ว หรือพูดง่ายๆ คือ Departure Lounge อยู่ชั้น 2

 

แต่แบบใหม่จะทำคล้ายๆ ของ Inchoen คือ Departure Lounge อยู่ชั้น 3 และ Arrival อยู่ชั้น 2 โดย เมื่อเข้าเกท ผดส. จะลงบันไดเลื่อนตรงส่วนที่ยื่นออกไปแทน ซึ่งการทำแบบนี้ จะสะดวกสำหรับเครื่อง A380 มาก เพราะใช้การ Boarding 2 ชั้น ซึ่งถ้าเป็นแบบเดิม ผดส. Upper Deck จะต้องเดินขึ้น ซึ่งไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่


  • Ben_BEnz likes this

#31 lovetofly

lovetofly

    สมาชิก Economy Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 589 posts

Posted 20 April 2013 - 07:41 PM

อยากให้มี tram



#32 Uronohan

Uronohan

    สมาชิก Premium Economy

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPip
  • 965 posts

Posted 20 April 2013 - 08:00 PM

ใช่ครับ เป็นทางลงไปสู่ APM ของอาคารหลัก ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างทางออก D4 และ D5

 

ภายนอกคืออาคารรูปกึ่งครึ่งวงกลม 

 

เครดิต http://s70.photobuck...e20055.jpg.html

อันนี้ตอนทำครั้งแรกเขาทำมาเพื่อ APM เลยหรือครับ  หรือว่าเพื่งจะสร้างงง แต่ผมเห็นมันอยู่ตั้งนานแล้วนะครับ แต่ก่อนมันเป็นอะไรครับ 



#33 Ben_BEnz

Ben_BEnz

    สมาชิกกำลังเช็คอิน

  • Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 456 posts

Posted 20 April 2013 - 10:49 PM

อันนี้ตอนทำครั้งแรกเขาทำมาเพื่อ APM เลยหรือครับ  หรือว่าเพื่งจะสร้างงง แต่ผมเห็นมันอยู่ตั้งนานแล้วนะครับ แต่ก่อนมันเป็นอะไรครับ 

 

สร้างไว้ตั้งแต่ตอนแรกแล้วครับ เพื่อเป็นทางลงไปยัง APM แต่ปิดไว้เนื่องจากยังไม่ใช้ รวมถึงอุโมงค์ลอดในระยะแรกด้วยที่มีการขุดรอไว้แล้ว



#34 bangkokguy

bangkokguy

    สมาชิก waiting list

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 159 posts

Posted 21 April 2013 - 06:16 AM

ไม่แปลก! ชั้น 2 เป็นชั้นของ Arrival ชั้น 3 คือ Departure ซึ่งแบบเดิมที่ใช้ทุกวันนี้ก็เป็นแบบเดียวกัน เพียงแต่ที่แบบปัจจุบันในอาคารเดิมมีเพียงชั้นเดียวคือ Departure Passenger ลงมาสู่ชั้น 2 ตั้งแต่ในอาคารแล้ว หรือพูดง่ายๆ คือ Departure Lounge อยู่ชั้น 2

 

แต่แบบใหม่จะทำคล้ายๆ ของ Inchoen คือ Departure Lounge อยู่ชั้น 3 และ Arrival อยู่ชั้น 2 โดย เมื่อเข้าเกท ผดส. จะลงบันไดเลื่อนตรงส่วนที่ยื่นออกไปแทน ซึ่งการทำแบบนี้ จะสะดวกสำหรับเครื่อง A380 มาก เพราะใช้การ Boarding 2 ชั้น ซึ่งถ้าเป็นแบบเดิม ผดส. Upper Deck จะต้องเดินขึ้น ซึ่งไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่

คือเข้าใจหน่ะครับ แต่ว่า ที่ยื่นๆ ออกมาชั้นสองหน่ะ เอาเข้าจริง คนก็แค่เดินผ่านจากเครื่องที่ชั้นล่างแล้วขึ้นบันไดเลื่อนไปทางออก ชั้นสองส่วนที่เป็นกล่องเหลี่ยมๆ นั่นจะทำไปเพื่ออะไร ผมยังสงสัยอยู่  ก็ตัดทิ้งไปได้ไหม แล้วก็ให้คนเดินชั้นล่างเหมือนเดิม เพราะก็ต้องออกมาจากเครื่องชั้นล่าง แล้วเดินขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นไปขาออกที่ชั้นสามก็เท่านั้น ถ้ายิ่งไม่ได้เดินออกมาขึ้นเครื่องตรงชั้นสามนี้ (กลับเข้าเครื่องที่ชั้นสอง) ก็ไม่เห็นต้องทำเป็นกล่องสี่เหลี่ยมกระจกขนานกับชั้นสองหรือทำยาวขนาดนี้(ตรงชั้นสองอาจจะทำออกมาแค่เท่าที่ถึงบันใดเลื่อน)หรือเปล่าครับ

 

ปล.ผมมองภาพแล้วเขียนอาจจะดูงงๆ หรือเปล่าไม่รู้



#35 bangkokguy

bangkokguy

    สมาชิก waiting list

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 159 posts

Posted 21 April 2013 - 06:33 AM

มองในแง่การออกแบบ ถ้าเราทำบันไดเลื่อนประชิดอาคารหลักมากกว่านี้ ส่วนกล่องกระจกสองชั้นที่ยื่นออกมาจะมีขนาดลดลง แล้วส่วนชั้นสามนั่นอาจจะไม่จำเป็นหรือว่าขยายอาคารหลักไปเลย จะได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่า ขณะที่อาคารที่สร้างเป็นกล่องกระจกนั้น ถึงเวลาจริง จะบริหารจัดการยาก อีกทั้งเป็นอาคารกระจกแบบเต็มๆ ทำความสะอาดอะไรเอาเข้าจริงยากกว่าอาคารหลัก ขณะที่ถ้าขยายขนาดอาคารหลัก จะได้พื้นที่ใช้สอยมากขึ้น สามารถสร้างร้านหรือพื้นที่พักคอยที่ใหญ่โตขึ้นดีกว่า

 

เพราะดูจากการออกแบบอาคารจะโป่งๆ ตรงกลาง เพื่อรองรับรถไฟ apm แต่จะเรียว ๆ ยาว ๆ ออกไป ทำให้อาคารมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเล็กลง อันนี้ อาจจะต้องการให้สร้างอาคารแท่งๆ นี่่แหล่ะ ส่วนตัวอยากให้อาคารขนาดใหญ่ขึ้นอีกนิด เพิ่มเนื้อที่ใช้สอยให้เพียงพอ อย่าทำแบบอาคารผู้โดยสารเดิม พอถึงเวลาเอาร้านค้ามาลงจนแน่นขนัดไปหมดเลย เพราะอาคารใหม่ ส่วนตรงนี้น่าจะเป็นส่วนที่ลงทุนสูงสุด อย่าบอกว่าไม่มีร้านค้า เพราะว่า จะทำให้กลายเป็นอาคารที่จะมีค่าเพียงแค่เป็นที่จอดเครื่องบิน ซึ่งทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มได้น้อยกว่าการออกแบบให้มีอรรถประโยชน์เพิ่มเติมในแง่การบริการด้วย อีกทั้งถ้าทำแบบนี้ แสดงว่าปริมาณคนจะเยอะที่ชั้นสอง เพราะคนที่ออกจากเครื่องขึ้นชั้นสาม ก็ต้องวนกลับเข้ามาเข้าเครื่องที่ชั้นสอง รวมกับคนที่จะเข้าเครื่องที่มาจากอาคารหลักคือชั้นสอง แสดงว่าชั้นสองคนจะเยอะมาก ขณะที่ชั้นสามจะไม่ค่อยมีคน เพราะมีแต่ขาออกเท่านั้น ยังไม่นับว่า แล้วคนจะขึ้นรถ apm กลับอาคารหลักเนี่ย จะมีบริการเฉพาะที่ชั้นสองใช่หรือไม่



#36 Ben_BEnz

Ben_BEnz

    สมาชิกกำลังเช็คอิน

  • Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 456 posts

Posted 21 April 2013 - 07:57 AM

ขออธิบายหน่อยนะครับ เพื่อไม่ให้เข้าใจผิด จริงๆอธิบายใต้ภาพไปแล้ว แต่อาจไม่ชัดเจน

 

รูปแบบอาคาร SAT-1 หรืออาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 นั้น มีทั้งหมด 5 ชั้น ได้แก่

ชั้นกึ่งใต้ดิน สำหรับ APM

ชั้น 1 สำหรับเจ้าหน้าที่ต่างๆปฏิบัติงาน

ชั้น 2 สำหรับผู้โดยสารขาเข้าเท่านั้น! เป็นพื้นที่โถงขาเข้า สำหรับผู้โดยสารขาเข้าและใช้เดินไปตรงกลางอาคารเพื่อลงไปยัง APM

ชั้น 3 สำหรับผู้โดยสารขาออกเท่านั้น! เป็นพื้นที่โถงรอขึ้นเครื่องเป็นหลัก และอาจมีร้านค้าต่างๆให้บริการบ้าง ไม่มากไม่น้อย ตามที่บริษัทศึกษาและออกแบบไว้

ชั้น 4 พื้นที่ส่วนอำนวยความสะดวกต่างๆสำหรับผู้โดยสารขาออกเท่านั้น! เช่น ห้องรับรองสายการบิน ร้านค้าต่างๆ แต่จะมีเฉพาะตรงกลางๆของอาคาร

 

จากข้างบน ง่ายๆจะเหมือนสุวรรณภูมิทุกวันนี้ คือผู้โดยสารขาเข้าและขาออกจะไม่เจอกัน แยกกันอย่างชัดเจน ยกเว้นผู้โดยสารต่อเครื่อง สำหรับผู้โดยสารเปลี่ยนเที่ยวบิน ไม่แน่ใจว่าต้องไปที่อาคารหลักหรือไม่ แต่ส่วนตัวคิดว่าใช่

 

เส้นทางสำหรับผู้โดยสารขาออกนะครับ ลงจากชั้น 4 อาคารหลักมายัง APM เพื่อไปยังอาคาร SAT-1 และขึ้นจากชั้นกึ่งใต้ดินที่เป็นชานชาลาของ APM ตรงมายังชั้น 3 ซึ่งเป็นส่วนของโถงรอขึ้นเครื่อง ถึงจุดนี้ก็แล้วแต่ผู้โดยสารว่าจะใช้บริการร้านค้าหรือเปล่า หรือจะตรงไปยังทางออกเลยก็แล้วแต่ และเมื่อถึงเวลาบอร์ด ก็เดินออกจากอาคารมายังส่วนเทียบเครื่องบิน ลงบันไดเลื่อนมาชั้น 2 เพื่อเข้างวงเข้าสู่เครื่องบิน เป็นอันจบ

 

เส้นทางสำหรับผู้โดยสารขาเข้านะครับ ออกจากเครื่องบินแล้วเดินตรงเข้าสู่ชั้น 2 ของอาคาร SAT-1 เท่านั้น และเดินมาตรงกลางอาคาร เพื่อลงสู่ชั้นกึ่งใต้ดินเพื่อใช้ APM มายังอาคารหลัก คร่าวๆประมาณนี้

 

ส่วนเหตุผลว่าทำไมส่วนที่ยื่นออกมานั้นต้องมี 2 ชั้น ก็เพื่อใช้สำหรับวางบันไดเลื่อนและลิฟท์ เนื่องจากสะดวกและประหยัดเนื้อที่กว่าไปวางไว้ในอาคาร และถามว่าทำให้เล็กลงได้ไหม? น่าจะยาก เพราะถ้าดูดีๆ บริเวณที่ยื่นมานั้นมีเสาเพียงจุดเดียวคือปลายอาคารที่เชื่อมต่อกับงวง ซึ่งเหมาะสมสำหรับวางลิฟท์ที่สุด และไม่ชัวร์ว่าเพื่อให้ลิฟท์สามารถเชื่อมกับชั้น 1 หรือเปล่า

 

และที่อาคารมีขนาดตรงกลางที่กว้างกว่าส่วนปลาย เพราะเป็นส่วนที่มีร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ และตรงปลายไม่มีความจำเป็นเลยมีเล็กลง ตามความเหมาะสม และถ้าสังเกตดูเหมือนอาคาร SAT-1 จะมีขนาดหน้าตัดที่กว้างกว่าอาคารเดิม (Concord) 

 

และการที่แยกชั้นขาออกและขาเข้า ออกจากกันนั้น ส่วนหนึ่งเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย และเพื่องานสถาปัตยธรรม ให้มีความเป็นสัดส่วนกัน และสามารถเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานอย่างห้องน้ำลงไปได้ดีกว่าเดิม เช่นขนาดและจำนวน เป้นต้น

 

แต่ส่วนที่นั่งบริเวณทางออกแต่ละทางออกนั้น ไม่แน่ใจว่าจะยังคงแบบเดิม ที่แยกเป็นสัดส่วน ทางออกใครทางออกมัน หรือว่านั่งรวมกัน ตรงนี้คงต้องรอดูแบบอีกทีนึง ส่วนนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แตกต่างกันออกไป 


  • nutnano likes this

#37 nutnano

nutnano

    สมาชิก Economy Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 843 posts
  • LocationSARL Phaya Thai Station

Posted 21 April 2013 - 03:01 PM

คือเข้าใจหน่ะครับ แต่ว่า ที่ยื่นๆ ออกมาชั้นสองหน่ะ เอาเข้าจริง คนก็แค่เดินผ่านจากเครื่องที่ชั้นล่างแล้วขึ้นบันไดเลื่อนไปทางออก ชั้นสองส่วนที่เป็นกล่องเหลี่ยมๆ นั่นจะทำไปเพื่ออะไร ผมยังสงสัยอยู่  ก็ตัดทิ้งไปได้ไหม แล้วก็ให้คนเดินชั้นล่างเหมือนเดิม เพราะก็ต้องออกมาจากเครื่องชั้นล่าง แล้วเดินขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นไปขาออกที่ชั้นสามก็เท่านั้น ถ้ายิ่งไม่ได้เดินออกมาขึ้นเครื่องตรงชั้นสามนี้ (กลับเข้าเครื่องที่ชั้นสอง) ก็ไม่เห็นต้องทำเป็นกล่องสี่เหลี่ยมกระจกขนานกับชั้นสองหรือทำยาวขนาดนี้(ตรงชั้นสองอาจจะทำออกมาแค่เท่าที่ถึงบันใดเลื่อน)หรือเปล่าครับ

 

ปล.ผมมองภาพแล้วเขียนอาจจะดูงงๆ หรือเปล่าไม่รู้

 

 

มองในแง่การออกแบบ ถ้าเราทำบันไดเลื่อนประชิดอาคารหลักมากกว่านี้ ส่วนกล่องกระจกสองชั้นที่ยื่นออกมาจะมีขนาดลดลง แล้วส่วนชั้นสามนั่นอาจจะไม่จำเป็นหรือว่าขยายอาคารหลักไปเลย จะได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่า ขณะที่อาคารที่สร้างเป็นกล่องกระจกนั้น ถึงเวลาจริง จะบริหารจัดการยาก อีกทั้งเป็นอาคารกระจกแบบเต็มๆ ทำความสะอาดอะไรเอาเข้าจริงยากกว่าอาคารหลัก ขณะที่ถ้าขยายขนาดอาคารหลัก จะได้พื้นที่ใช้สอยมากขึ้น สามารถสร้างร้านหรือพื้นที่พักคอยที่ใหญ่โตขึ้นดีกว่า

 

เพราะดูจากการออกแบบอาคารจะโป่งๆ ตรงกลาง เพื่อรองรับรถไฟ apm แต่จะเรียว ๆ ยาว ๆ ออกไป ทำให้อาคารมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเล็กลง อันนี้ อาจจะต้องการให้สร้างอาคารแท่งๆ นี่่แหล่ะ ส่วนตัวอยากให้อาคารขนาดใหญ่ขึ้นอีกนิด เพิ่มเนื้อที่ใช้สอยให้เพียงพอ อย่าทำแบบอาคารผู้โดยสารเดิม พอถึงเวลาเอาร้านค้ามาลงจนแน่นขนัดไปหมดเลย เพราะอาคารใหม่ ส่วนตรงนี้น่าจะเป็นส่วนที่ลงทุนสูงสุด อย่าบอกว่าไม่มีร้านค้า เพราะว่า จะทำให้กลายเป็นอาคารที่จะมีค่าเพียงแค่เป็นที่จอดเครื่องบิน ซึ่งทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มได้น้อยกว่าการออกแบบให้มีอรรถประโยชน์เพิ่มเติมในแง่การบริการด้วย อีกทั้งถ้าทำแบบนี้ แสดงว่าปริมาณคนจะเยอะที่ชั้นสอง เพราะคนที่ออกจากเครื่องขึ้นชั้นสาม ก็ต้องวนกลับเข้ามาเข้าเครื่องที่ชั้นสอง รวมกับคนที่จะเข้าเครื่องที่มาจากอาคารหลักคือชั้นสอง แสดงว่าชั้นสองคนจะเยอะมาก ขณะที่ชั้นสามจะไม่ค่อยมีคน เพราะมีแต่ขาออกเท่านั้น ยังไม่นับว่า แล้วคนจะขึ้นรถ apm กลับอาคารหลักเนี่ย จะมีบริการเฉพาะที่ชั้นสองใช่หรือไม่

 

ท่าทางจะไม่เข้าใจแฮะ อยากได้พื้นที่เยอะๆ แต่จะให้ยัดพวก Ramp บันไดเลื่อน ลิฟท์ ลงชั้น 2 เข้าในอาคารหมดเลยแฮะ ลองไปดู ICK, PEK, MUC กันหน่อยดีกว่า

 

Incehon.jpg

 

Incheon International Airport, Incheon, South Korea

 

PEKT3E.jpg

 

Beijing Capital International Airport, Beijing, China

 

raedlinger-flughafen-muc-1.jpg

 

Munich Airport, Munich, Germanny

 

แล้วตรงชั้น 3 ที่ยื่นออกมาเนี่ย มันจะตรงกับ Upper Deck ของ A380 พอดี ทำให้ไม่ต้องทำ Ramp ขึ้นสำหรับงวง Upper Deck อีก

 

ซึ่งถ้าดูจากแบบที่เห็นปัจจุบันอาจจะไม่เห็นภาพ แต่ถ้ามีงวงต่อจากชั้นบนของโครงสร้างที่ยื่นๆ ออกมาคุณจะเห็นภาพชัดกว่านี้ และเข้าใจว่า เขาจะตืดงวง 3 อัน ต่อ 1 เกท สำหรับอาคาร Sat 1 ทุกเกท เพื่อรองรับ Airbus A380 ด้วย ทีนี้จะเห็นประโยชน์ของการใช้อาคารที่ยื่นๆ ออกมา 2 ชั้นมากยิ่งขึ้น



#38 bangkokguy

bangkokguy

    สมาชิก waiting list

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 159 posts

Posted 21 April 2013 - 03:32 PM

จริงๆ ก้อเข้าใจอยู่ว่า จะทำอย่างนั้น แต่แค่ถามว่า มันจะประหยัดได้อย่างไร บ้านเมืองเขาหนาวจะตาย ทำอย่างนั้น มันก็โอเค คือคิดว่า น่าจะออกแบบให้มันประหยัดคือ อาจจะใหญ่กว่านี้ก็ได้ เล็กกว่านี้ก็ได้ แต่เป็นกระจกแบบนี้ เดี๋ยวมีปัญหาแบบเดิม ๆ อีก แอร์ไม่เย็น ไม่ได้คิดว่า อย่างนี้ไม่ดี แต่ว่ากำลังดูว่า จะทำอย่างไรที่่น่าจะดูแลง่าย และประหยัด เผื่อจะช่วยคนออกแบบเขาคิดได้ว่า น่าจะทำอย่างไรให้ดีกว่านี้ ตามมุมมองของผู้บริโภค

 

ที่คิดว่า ทำอาคารใหญ่ ๆ น่าจะดีกว่า เพราะว่า พื้นที่ใช้สอยมาก โอกาสจะเอาพื้นที่ไปทำประโยชน์ก็จะมากกว่า แต่อย่างไรก้อ ตามก็เป็นความเห็นส่วนตัว เพราะว่า ชอบเดินทางเหมือนกัน พอดีเห็นว่า อาคารผู้โดยสารปกติ มันก็ไม่ค่อยจะพอใช้ เห็นว่า สร้างใหม่ ก็ควรจะใส่อะไรที่ขาด ๆ ให้เต็มที่ ไม่ใช่ว่า สร้างเสร็จแล้ว ก็บอกว่า ขาดโน่นขาดนี่ ขาดห้องน้ำ ขาดห้อง บลาๆ ในความจริง ก็ไม่ได้ขนาดที่จะดูไม่รู้เรื่อง แต่เห็นว่า มันน่าจะไม่พอใช้เสียมากกว่า สร้างอาคารมาใหญ่โต แต่พื้นที่ใช้สอยเดี๋ยวเกิดไม่พอขึ้นมาอีก ไม่ได้มองว่าประหยัดขนาดแล้วดีนะ อาจจะเขียนไม่เคลียร์ มองว่า ถ้าจะประหยัดโดยการสร้างยื่นออกมา น่าจะสร้างให้อาคารใหญ่ให้เพียงพอต่อความต้องการ จะสร้างกล่องเป็น 2 ชั้น แยกงวงเข้างวงออกเลยก็ได้ ถ้ามันดี แต่ถ้าแบบนี้ดีก็ดี ไม่ได้ว่า อะไร มองตามความเห็นของผู้บริโภค

 

 เห็นด้วยว่า ถ้าจะทำให้ทำแบบ Munich ไปเลยน่าจะดี เพราะว่า เครื่องแบบ A-380 น่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นในอนาคต จะได้ไม่ต้องมานั่งทำเพิ่มอีก เพราะเห็นว่าจะทำให้ 747 อีกตั้งหลายลำ ก็น่าจะทำเผื่อไว้สำหรับ 380 เลย เพราะว่า ใช้ได้ร่วมกันได้อยู่แล้ว



#39 UsuallyTheBest

UsuallyTheBest

    สมาชิก Economy Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 563 posts

Posted 21 April 2013 - 03:43 PM

ส่วนนี่น่าจะทางลงเชื่อมกับ รถไฟฟ้าด่านล่างนะ

ดูสวยมากครับ



#40 bangkokguy

bangkokguy

    สมาชิก waiting list

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 159 posts

Posted 21 April 2013 - 03:47 PM

ขออธิบายหน่อยนะครับ เพื่อไม่ให้เข้าใจผิด จริงๆอธิบายใต้ภาพไปแล้ว แต่อาจไม่ชัดเจน

 

รูปแบบอาคาร SAT-1 หรืออาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 นั้น มีทั้งหมด 5 ชั้น ได้แก่

ชั้นกึ่งใต้ดิน สำหรับ APM

ชั้น 1 สำหรับเจ้าหน้าที่ต่างๆปฏิบัติงาน

ชั้น 2 สำหรับผู้โดยสารขาเข้าเท่านั้น! เป็นพื้นที่โถงขาเข้า สำหรับผู้โดยสารขาเข้าและใช้เดินไปตรงกลางอาคารเพื่อลงไปยัง APM

ชั้น 3 สำหรับผู้โดยสารขาออกเท่านั้น! เป็นพื้นที่โถงรอขึ้นเครื่องเป็นหลัก และอาจมีร้านค้าต่างๆให้บริการบ้าง ไม่มากไม่น้อย ตามที่บริษัทศึกษาและออกแบบไว้

ชั้น 4 พื้นที่ส่วนอำนวยความสะดวกต่างๆสำหรับผู้โดยสารขาออกเท่านั้น! เช่น ห้องรับรองสายการบิน ร้านค้าต่างๆ แต่จะมีเฉพาะตรงกลางๆของอาคาร

 

จากข้างบน ง่ายๆจะเหมือนสุวรรณภูมิทุกวันนี้ คือผู้โดยสารขาเข้าและขาออกจะไม่เจอกัน แยกกันอย่างชัดเจน ยกเว้นผู้โดยสารต่อเครื่อง สำหรับผู้โดยสารเปลี่ยนเที่ยวบิน ไม่แน่ใจว่าต้องไปที่อาคารหลักหรือไม่ แต่ส่วนตัวคิดว่าใช่

 

เส้นทางสำหรับผู้โดยสารขาออกนะครับ ลงจากชั้น 4 อาคารหลักมายัง APM เพื่อไปยังอาคาร SAT-1 และขึ้นจากชั้นกึ่งใต้ดินที่เป็นชานชาลาของ APM ตรงมายังชั้น 3 ซึ่งเป็นส่วนของโถงรอขึ้นเครื่อง ถึงจุดนี้ก็แล้วแต่ผู้โดยสารว่าจะใช้บริการร้านค้าหรือเปล่า หรือจะตรงไปยังทางออกเลยก็แล้วแต่ และเมื่อถึงเวลาบอร์ด ก็เดินออกจากอาคารมายังส่วนเทียบเครื่องบิน ลงบันไดเลื่อนมาชั้น 2 เพื่อเข้างวงเข้าสู่เครื่องบิน เป็นอันจบ

 

เส้นทางสำหรับผู้โดยสารขาเข้านะครับ ออกจากเครื่องบินแล้วเดินตรงเข้าสู่ชั้น 2 ของอาคาร SAT-1 เท่านั้น และเดินมาตรงกลางอาคาร เพื่อลงสู่ชั้นกึ่งใต้ดินเพื่อใช้ APM มายังอาคารหลัก คร่าวๆประมาณนี้

 

ส่วนเหตุผลว่าทำไมส่วนที่ยื่นออกมานั้นต้องมี 2 ชั้น ก็เพื่อใช้สำหรับวางบันไดเลื่อนและลิฟท์ เนื่องจากสะดวกและประหยัดเนื้อที่กว่าไปวางไว้ในอาคาร และถามว่าทำให้เล็กลงได้ไหม? น่าจะยาก เพราะถ้าดูดีๆ บริเวณที่ยื่นมานั้นมีเสาเพียงจุดเดียวคือปลายอาคารที่เชื่อมต่อกับงวง ซึ่งเหมาะสมสำหรับวางลิฟท์ที่สุด และไม่ชัวร์ว่าเพื่อให้ลิฟท์สามารถเชื่อมกับชั้น 1 หรือเปล่า

 

และที่อาคารมีขนาดตรงกลางที่กว้างกว่าส่วนปลาย เพราะเป็นส่วนที่มีร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ และตรงปลายไม่มีความจำเป็นเลยมีเล็กลง ตามความเหมาะสม และถ้าสังเกตดูเหมือนอาคาร SAT-1 จะมีขนาดหน้าตัดที่กว้างกว่าอาคารเดิม (Concord) 

 

และการที่แยกชั้นขาออกและขาเข้า ออกจากกันนั้น ส่วนหนึ่งเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย และเพื่องานสถาปัตยธรรม ให้มีความเป็นสัดส่วนกัน และสามารถเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานอย่างห้องน้ำลงไปได้ดีกว่าเดิม เช่นขนาดและจำนวน เป้นต้น

 

แต่ส่วนที่นั่งบริเวณทางออกแต่ละทางออกนั้น ไม่แน่ใจว่าจะยังคงแบบเดิม ที่แยกเป็นสัดส่วน ทางออกใครทางออกมัน หรือว่านั่งรวมกัน ตรงนี้คงต้องรอดูแบบอีกทีนึง ส่วนนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แตกต่างกันออกไป 

ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ ผมเห็นห่วงแต่ผู้โดยสารที่เป็น Transit นั่นแหละ เพราะแบบนี้แสดงว่า เขาจะไม่ให้ย้อนกลับมาที่ชั้นสองที่เป็นขาออกได้ คือขาเข้าต้องเข้าไปที่อาคารหลักใหม่ ซึ่งน่าจะทำให้คนยิ่งเยอะแยะเสียเวลามากขึ้นไปอีกหรือเปล่า

 

โดยความคิดเห็นส่วนตัว (อีกแล้ว) มองว่า อาคารหลังนี้ ถ้าเป็นไปได้ แนวความคิดของสุวรรรณภูมิน่าจะเปลี่ยนไป เนื่องจากแต่เดิมเราคิดว่า เราเป็นจุดหมายปลายทาง หรือ Destination คือคนมาเที่ยวกับเราเยอะ ๆ แต่เราไม่ได้ทำตัวเป็น Gateway หรือ Transit เหมือนพวก ดูไบ เอมิเรต การ์ตาร์ แต่ตอนนี้ trend มันก็เปลี่ยน สายการบินหลายๆ สายก็ทำตัวเป็น Transit ให้ต่อเครื่องอย่างไปยุโรป จากเอเชีย ออสเตรเลีย ก็ไปเปลี่ยนเครื่องที่ตะวันออกกลาง หรืออย่างเราก็ควรจะเข้าไปทำหน้าที่ผ่องถ่ายผู้ที่จะมาเที่ยวเพื่อนบ้านในย่านนี้อย่าง ลาว เขมร พม่า ฯลฯ หรือไม่ก็ต้องเข้าไปแย่งชิงกับพวก Kangaroo route ซึ่งตอนนี้ QF ไปร่วมมือกับเอมิเรต จริงๆ ทำให้เกิดช่องว่างถ้าเราจะไปแข่งกับเขาจริง ๆ ซึ่งอันที่จริงผมว่าสู้ได้นะ เพราะตอนนี้ BA พันธมิตรก็หายไปเราน่าจะเสียบซะเลย  ดังนั้น เพื่อการต่อสู้กับเทรนสายการบินแบบนี้ อาคารนี้ น่าจะออกแบบเผื่อไว้ให้สะดวกสำหรับการ Transit ได้ด้วย คือผมมองว่า น่าจะเบ็ดเสร็จภายในอาคารหลังใหม่นี้เลย สำหรับสายการบิน ที่ต้องการเน้นเที่ยวบินที่เป็น Transit เพื่อแบ่งเบาภาระของอาคารหลัง ซึ่งก็แน่นอนแทบจะขี่คอกันอยู่แล้ว โดยใส่บริการต่างๆ นานาๆ ไปให้ครบวงจรกันไปเลย คือต้องคิดนอกกรอบเลย อย่าเพิ่งเอาโจทย์ เห็นที่ไหนสวยมาเป็นที่ตั้ง  เอาวัตถุประสงค์ของธุรกิจเป็นที่ตั้ง แล้ว เราสร้างproduct ของเราให้เป็นไปในทางนั้น น่าจะดีกว่า






0 user(s) are reading this topic

0 members, 0 guests, 0 anonymous users

ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Galileo (แสดงผล waiting list)     ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Amadeus (เแสดงเฉพาะที่นั่งว่าง)
   
    ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนก ตั๋วเครื่องบิน โทร 02-3737-555 / จันทร์ - ศุกร์ 09.00~18.00 น. // เสาร์ 09.00-16.00 น.