อันนี้เห็นด้วยครับ ปัญหาต่างๆของสุวรรณภูมิตอนนี้มีมากจริงๆ ทั้งขาเข้าและขาออก เพราะเฟส 2 เกิดขึ้นช้ากว่าที่ควรจะเป็นมากๆ เพราะด้วยนโยบายต่างๆที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของภาครัฐ และความพร้อมของตัวทอท.เองด้วย
เฟส 2 ณ ปัจจุบัน คงต้องดูที่ความต้องการหลักน่ะครับ เพราะแต่ละส่วนน้ันมีการออกแบบและสร้างตามความต้องการของสุวรรณภูมิ เริ่มจาก
อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 อาคารนี้หลักๆคืออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารและสายการบิน ให้สามารถจอดเครื่องแบบประชิดอาคารได้ ซึ่งจากเดิมมีอยู่แค่ 51 ทางออก และถูกแบ่งไปใช้เป็นภายในประประเทศถึง 11 ทางออก แต่ตอนหลังมีการปรับปรุงให้สามารถเปลี่ยนมาใช้สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศได้ ภายหลังหมดเที่ยวบินภายในประเทศ แต่ในภาพรวมก็น้อยอยู่ดี ซึ่งทำให้ผู้โดยสารและสายการบินต้องใช้ลานจอดกลางแจ้งแทน ซึ่งไม่สะดวก ด้วยเหตุนี้เลยมีการสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 แทน ซึ่งมีช่องจอดถึง 28 ช่อง ครึ่งเป็น 54% จากของเดิม ซึ่งทำให้ภาพรวมในอนาคตเมื่อเสร็จ สุวรรณภูมิจะมีช่องจอดประชิดอาคารถึง 79 ช่อง โดยส่วนนี้จะช่วยรองรับเครื่องบินให้มีที่จอดได้มากขึ้น (ในตอนนี้บางช่วงเวลามีปัญหาช่องจอดไม่พอ)
ส่วนการขยายอาคารผู้โดยสารด้านตะวันออกนั้น ตอนนี้ยังมีข้อมูลที่ไม่ตรงกันอยู่ เช่น ขนาดของอาคาร เพราะในเวปทอท.ลงไว้แค่ 14,580 ตารางเมตร แต่ในข่าวๆหลายๆข่าวลงไว้ถึง 60,000 ตารางเมตร ซึ่งดูสมเหตุสมผลกว่า เมื่อเทียบกับขนาดอาคารในปัจจุบันที่มีขนาดใหย่กว่า 5แสนตารางเมตร http://www.thanonlin...#38;Itemid=448
รวมถึงข้อมูลจาก ผลการประชุม คณะกรรมาธกิ ารการท่องเที่ยวและกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ ๓๓ วันพฤหสั บดีที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ http://www.parliamen...วบินภายในประเทศ ซึ่งตรงกับสิ่งที่เคยได้ยินมาคือ จะปรับปรุงอาคารหลักให้เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมด โดยเพิ่มพื้นที่ตรงหนังสือเดินทางและตัวสัมภาระอีก 1 จุด (น่าจะเป็นบริเวณเดิมของเที่ยวบินในประเทศ) เพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น และรองรับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (โซนทิศตะวันออกสำหรับโซน A B C และ D โซนกลางสำหรับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และโซนตะวันตกสำหรับ D E F และ G เป็นต้น)
ซึ่งส่วนต่อขยายนั้นเหมือนจะมีขนาดใหญ่กว่าแบบเดิม เพราะแบบเดิมที่เคยได้ยินมานั้นจะเป็นช่วงเสาที่สร้างไว้แต่ยังไม่ได้ใช้ทั้งสองข้างของอาคารหลัก แต่จากข่าวเก่าๆในการขยายนั้นจะต้องรื้อศูนย์อาหารในส่วนเที่ยวบินภายในประเทศออกด้วย เลยคิดว่า น่าจะมีขนาดใหญ่กว่าแบบเดิม และทางเข้าออกระหว่างอาคารผู้โดยสารกับอาคารเทียบเครื่องบิน น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจจะตรงเข้าไปคอนคอร์ด A โดยตรงเลย ไม่ต้องผ่านคอนคอร์ด D แบบทุกวันนี้ โดยการแยกเที่ยวบินภายในประเทศออกไปนั้น น่าจะช่วยให้ขีดความสามารถของอาคารหลักมีสูงขึ้น ทั้งเคาเตอร์เช๊คอิน สายพานรับกระเป๋า และพื้นที่โดยรอบ
และในส่วนโถงรอผู้โดยสารเข้า หรือ arrival hall นั้นมีปัญหาจริง ทั้งจากการออกแบบที่มีพื้นที่น้อยเกินไป รวมถึงการจัดการที่ดูแล้วไม่เหมาะสม คือกั้นเป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับผู้โดยสาร ซึ่งทำให้บริเวณรอของคนมารับน้อยลงไปอีก ทางแก้คงแก้ได้เฉพาะเรื่องการบริหารจัดการ เพราะในตัวโครงสร้างคงแก้ลำบาก
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ได้รับจริงๆ เลยครับ
แค่พิจารณาว่า ส่วนอาคารผู้โดยสารอย่างที่บอก คือถ้าเพิ่มเนื้อที่อีก 60,000 ตาราเมตร จากอาคารหลักที่มี 500,000 ตารางเมตร คือเพิ่มแค่ 10 กว่าเปอร์เซนต์เอง แล้วต้องเฉลี่ยออกไปอีก 5-6 ชั้น (รวมใต้ดิน) คิดว่า ไม่น่าจะเพียงพอแน่นอน ถ้าเผื่อผู้มีอำนาจได้อ่านหรือเข้าใจ อยากให้เพิ่มเนื้อที่ขึ้นอีก
arrival hall มีปัญหาหนักจริงๆ เท่าที่ดู ถ้าเป็นไปได้ ควรต้องย้ายเคานเตอร์ต่างๆ ออกไปจะช่วยพื้นที่ ส่วนการบริการต่างๆที่เคาน์เตอร์เดิม ถ้าจะขยายออกด้านข้างๆ ควรจะออกแบบไว้ เช่น พื้นที่คืนภาษี หรือว่าเคาน์เตอร์สายการบินต่างๆ ที่ควรเพิ่มพื้นที่ให้มากขึ้น หรืออาจจะเพิ่มชั้นขึ้นไปอีก
ส่วนอาคารเทียบเครื่องบิน คราวนี้ ถ้าหากจะออกแบบส่วนพื้นที่ช๊อปปิ้ง ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสร้างรายได้ อันที่จริง อยากจะบอกว่า ให้ไปเอาแบบห้างสรรพสินค้ามาเลย อย่างมาเลเซีย ที่มีอาคารรอง เขาก็มีพื้นที่นี้ ผมคิดว่า คนไทยทำได้ดีกว่าแน่นอนในแง่ห้างสรรพสินค้า ออกแบบให้เต็มที่ไม่ใช่ออกแบบแบบกั๊ก ๆ พอเอาร้านค้ามาใส่แน่นขนัดไปหมด หรืออกแบบร้านให้มีเนื้อที่น้อยเกินไป อย่างร้านอาหารบริเวณระหว่างผู้โดยสารขาเข้ากับขาออก ผมมีความรู้สึกว่าร้านมันตื้นไป ถ้าร้านลึกกว่านี้ อาจจะได้ปริมาณร้านค้ามากกว่านี้ เพราะร้านส่วนใหญ่ออกในแนวหน้ากว้าง แต่ตื้น
เหมือนอย่างส่วนที่เทียบเครื่องบิน เราต้องเดินไกลมาก ๆ มีแต่ร้านค้า เพลินๆ ก็ดี เหมือนกัน แต่ถ้าเร่งรีบจะรู้สึกว่ามันไกลไปไหม ถ้าอยากให้ร้านค้ามีเนื้อที่เยอะ น่าจะออกแบบให้ร้านค้าขยายไปในแนวทางลึก จะได้เพิ่มจำนวนร้านค้าได้ แล้วไม่ต้องเดินแบบสาหัสแบบนั้น
ส่วนตัวอยากให้เพิ่มร้านค้าประเภทร้านนั่งพัก เช่น อินเตอร์เนตคาเฟ่ หรือโรงแรมประเภทเดย์รูม หรือว่าอาจจะเป็นcapsule หรือเป็นโรงหนัง โรงละครไปเลย (เช่นอาจจะเอาคาบาเร่ต์ไทยไปเลย เพราะว่าจริงๆ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศมาก)หรือร้านสปาไทย ซึ่งน่าจะเป็นจุดขายที่ดีของประเทศ สำหรับคนที่รอต่อเครื่องจะได้มีอะไรทำ ไม่ใช่มายึดเก้าอี้ เป็นที่นอน บางทีมันก็ดูไม่ดี แล้วแทนที่เราจะได้หาได้รายได้จากผู้โดยสารเหล่านี้