183 replies to this topic

[Amakung]

Advertisements

ฝั่ง North Wing นี่คึกคักกว่าเล็กน้อย มีเที่ยวบินกำลังออกอยู่สองสามเที่ยวครับ

เริ่มจากหางแดงเอ็กซ์ A330 ลายเมือง กำลังประกาศขึ้นเครื่องเตรียมบินกลับ KL เที่ยวบิน D7 535 ครับ

9M-XAA -- AirAsia X // Airbus A330-301
First flight -- 24.02.1994
ลำนี้เพิ่งอายุครบ 19 ปีหมาดๆ และยังเป็น A330 ลำที่ 4 ที่ส่งมอบให้ลูกค้าด้วยครับ (early frame มากๆ)

เดินมาอีกนิดก็เจอกาตาร์ A332 กำลัง pushback เที่ยวบิน QR 803 ไปโดฮาครับ


เห็น mood lighting สีม่วงได้ด้วย และเห็นจันทร์ข้างแรมกำลังขึ้นพอดี

A7-ACK -- Qatar Airways // Airbus A330-202
First flight -- 12.10.2006

[Amakung]

และนั่นก็คือเครื่องที่ออกจากคังไซช่วงดึกทั้งหมดครับ เก็บหมดแล้วก็ไป lounge ได้อย่างสบายใจ
พอถึงเคาน์เตอร์ผมก็ยื่น boarding pass ให้ บอกว่าพ่อแม่เข้าไปแล้ว คุณพนักงานรับไปแล้วก็เช็คข้อมูลสักครู่ ก่อนยื่นคืนให้แล้วบอกว่าเชิญได้เลยค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมใช้ lounge ที่ KIX ด้วยครับ (ครั้งก่อนถ่ายเครื่องบินเพลินจนถึงเวลาขึ้นเครื่องเลยไม่ได้เข้า)



บรรยากาศภายใน lounge เป็นห้องยาวๆ ติดหน้าต่างตลอดความยาว



เดินไปอีกนิด...

[Amakung]

พอผ่านประตูก็จะเป็นห้องอีกโซนหนึ่งที่มีเก้าอี้เฉียงเข้าหาหน้าต่าง ประจันหน้ากับ CX 744 ที่จอดนิ่งอยู่แต่ใบพัดเครื่องยนต์กำลังหมุน คงเป็นเพราะแรงลมข้างนอก



และแน่นอนว่าหันไปอีกทางก็จะเจอนางเอกของเราในวันนี้ A330-300 ลำใหม่ที่สุดของการบินไทย (ในขณะที่ทำรีวิว) คุณสระแก้ว HS-TBF ครับ



คุณสระแก้วบินมาถึงสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมาหลังจอดที่ FRA เพื่อติดตั้งที่นั่งที่เป็นเวลาเกือบสองสัปดาห์ และบินรับผู้โดยสารเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เที่ยวบิน TG 602 ไปฮ่องกงครับ อันนี้เป็นภาพคุณสระแก้วกำลังกลับมาจากฮ่องกง TG 603 สี่วันให้หลัง

HS-TBF “Sa Kaeo” -- Thai Airways International // Airbus A330-343X
First flight -- 22.11.2012 (วันเกิดผมพอดีเลยแหะ)

[Amakung]

มาสำรวจอาการและเครื่องดื่มใน lounge กันครับ เริ่มจากตู้เครื่องดื่ม มีเบียร์ โค้ก โค้กซีโร่ น้ำมะเขือเทศ นมสด โยเกิร์ต มีชา น้ำส้มและน้ำแอปเปิ้ล (แบบมีกาก) อยู่ในเหยือกและไวน์แดงอีกขวด ที่จริงอยากให้ใส่ใน ice bucket มากกว่า ใส่ตู้เย็นแบบนี้ยังกับที่บ้าน



เคาน์เตอร์เครื่องทำกาแฟและดราฟท์เบียร์ (มีของอาซาฮีกับอีกยี่ห้อที่ไม่รู้จัก)



มุมของมึนเมาอื่นๆ ได้แก่วิสกี้ของ Black Label, Chivas Regal, I.W.Harper คอนยัคของ Hennessy และ Remy Martin , Apéritif ของ Campari และวอดก้าของ Smirnoff และ Barcadi


(ผมก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องเครื่องดื่มแอลกฮอล์พวกนี้มากนะครับ แต่รู้สึกว่าไม่ได้เป็นแบรด์ที่แพงมาก)

มุมขนม ของขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซุปมิโซะและซุปข้าวโพดแบบถ้วย พ่อบอกว่าซุปข้าวโพดอร่อย
ใกล้ๆ กันก็มีเครื่องปรุงทั้งพริกและโชยุวางอยู่ใกล้ถุงชา



อ้อ lounge นี้มี free wifi นะครับ เร็ว แรงดี ไม่ต้องใช้ WPA ด้วย (แต่ที่จริงสนามบินคังไซก็มี wifi ฟรีอยู่แล้วครับ)

[Amakung]

ตอนนั้นล่วงเลยเวลาขึ้นเครื่องไปแล้วแต่เกทอยู่หน้านี่เองเลยไม่ต้องรีบมาก สำรวจห้องน้ำกันก่อนครับ



เรียบง่ายและสะอาดดี ไม่มีอะไรหวือหวา

[Amakung]

หันกลับไปมองคุณสระแก้วอีกครั้ง ตอนนี้รถโหลดของกลับเข้าที่หมด รถลากประจำที่ ได้เวลาขึ้นเครื่องจริงๆ แล้วครับ เวลาขณะนั้นเที่ยงคืนพอดี

[Amakung]

ยื่น boarding pass ให้พนักงานฉีกแล้วเราก็เก็บส่วนสั้นไว้ เป็น TG 673 ไปกรุงเทพไม่ผิดแน่ เที่ยวบินนี้มีการ codeshare กับ ANA เที่ยวบิน NH 5959 ด้วยครับ



คิวปกติยังเหลือผู้โดยสารอีกพอสมควร แต่ขอขึ้นไปก่อนนะ บ๋ายบาย

[Amakung]

พนักงานต้อนรับกำลังทักทายผู้โดยสารอย่างแข็งขัน ก่อนขึ้นเครื่องก็มีหนังสือพิมพ์ทั้งภาษาไทย อังกฤษและญี่ปุ่นไว้ให้เผื่อใครสนใจอ่าน


มุมบังคับก่อนขึ้นเครื่องครับ คิดไปคิดมารู้สึกว่าไม่เคยขึ้นเครื่องใหม่ขนาดนี้มาก่อนเลย จะเป็นยังไงนะ

[Amakung]

ทันทีที่ก้าวขึ้นเครื่องพนักงานต้อนรับก็กล่าวทักทาย (แต่คราวนี้่ไม่ขอดูบอร์ดดิ้งแฮะ) ผมกล่าวสวัสดีตอบแล้วก็เดินไปยังที่นั่ง ระหว่างทางก็ถ่ายที่นั่งติดหน้าต่างที่ไม่ควรเลือก แถวที่ 34 ครับ



ระหว่างทางก็มีคุณสจ๊วตคอยทักทายและช่วยเหลือผู้โดยสารอยู่เป็นระยะ (ผมทักว่า “เครื่องใหม่จังเลยเนอะ” คุณสจ๊วตตอบว่า “ใหม่สดเลยครับ” ) จนในที่สุดก็มาถึงที่นั่งของผมในคืนนี้ 52K ครับ นั่งประจันหน้ากับจอ Panasonic eX2 ขนาด 10.6” ที่บอกเลขที่นั่งให้ด้วย



รายละเอียดเที่ยวบินในคืนนี้ครับ
Flight - TG 673
Date - 3 March 2013

Origin - Kansai International Airport (KIX/RJBB)
Destination - Suvarnabhumi International Airport (BKK/VTBS)
Distance - 4161 km

Departure time (actual) - 00.30 (00.20)
Arrival time (actual) - 05.00 (04.30)
Flight duration - 6.10

Aircraft - HS-TBF “สระแก้ว” // Thai Airways International Airbus A330-343X
Seat - 52K
Departure gate - 5
Cruising altitude - 38000 ft

[Amakung]

คุณแอร์ในชุดไทยสีเขียวเดินแจกหูฟัง ไม่เหมือนขามาที่หูฟังอยู่ในกระเป๋าหน้าที่นั่งอยู่แล้ว


แต่หูฟังที่ผมใช้มี airline adapter มาอยู่แล้ว ผมจึงคืนหูฟังคู่ที่แจกไป

ส่วนระบบ IFE ก็พร้อมใช้งานตั้งแต่ขึ้นเครื่องเลยครับ ค้นดูคร่าวๆ เจอเพลงนี้ ลุกขึ้นเต้นซักหน่อยดีไหมนะ (หรือว่าตอนนี้เค้าฮิต Harlem Shake แต่อันนั้นเสื่อมไป ไม่ไหว)



บรรยากาศภายในของคุณสระแก้ว ทุกอย่างใหม่เอี่ยม กลิ่นใหม่ ที่นั่งใหม่ จอใหม่ ไฟก็ใหม่


ที่คุณพนักงานเช็คอินบอกว่า 60% คงไม่ใช่ละมั้งครับ มองไปรอบๆ มีที่นั่งว่างแค่ไม่กี่ที่ ผมถามคุณแอร์ชุดเขียวที่เดินผ่านอีกรอบ เธอบอกว่าใกล้เต็มค่ะ

[Amakung]

สักพักหนึ่งมีเสียงดังมาจากข้างหลัง
“Are you okay?”
ผมหันไปมอง ดูเหมือนคุณ FA อาวุโสกำลังพูดกับผู้โดยสารญี่ปุ่นที่นั่ง 54F คนหนึ่ง ในขณะที่คุณแอร์รุ่นน้องที่หน้าออกเหวี่ยงๆ ยืนอยู่
“?!@#*!^” (พูดอะไรฟังไม่ได้ศัพท์) คุณ 54F ตอบ ดูเหมือนจะเมามา ระหว่างนั้นคุณแอร์รุ่นน้องก็กระแทะที่เก็บของเหนือศีรษะปิดดังปัง! แล้วก็เดินไปข้างหลัง
“If you’re not okay I will tell the captain to let you out of the plane, OK?”
“!?@#8&” (พ่นอะไรอีกสักอย่างที่ผมก็ฟังไม่ออก)
“No, you’re in economy class. You pay business class then you go sit there.” คุณแอร์ตอบ (อ้าวป่านนี้เพิ่งจะคิดได้ว่าอยากนั่งบิส ช้าไปมั้ย)
รอบๆ เริ่มมองดูแล้วว่านี่เกิดอะไรขึ้น
“@$%@!#?”
“OK, I will find you another seat, wait here” คุณแอร์ตอบแล้วเดินออกไปคุยกับ FA อีกคน ระหว่างนั้นก็มีคุณสจ๊วตมาทักคุณ 54F ด้วยเสียงหนักแน่นว่า “Are you okay? OK, right?” เจอแบบนี้สงสัยไม่กล้าหือ พี่แกเลยเงียบไปเล็กน้อย สักพักนึงคุณแอร์ก็จัดการย้ายคุณ 54F ไปนั่งที่ 50G (ติดทางเดินและที่ 50F ไม่มีคนนั่ง) พี่แกก็สงบในที่สุด ระหว่างนั้นผมยังได้ยินลูกเรือส่งซิกกัน “50 Golf นะ 50 Golf”

ดราม่าย่อมๆ จบ วิดีโอสาธิตความปลอดภัยก็เริ่มฉายขณะเครื่องเริ่ม pushback เวลาขณะนั้นคือ 00.20 ครับ เร็วกว่ากำหนดเดิมเล็กน้อย แต่ในเมื่อ TG 673 เป็นเที่ยวบินสุดท้ายของคืนนั้น คงแบบว่าทำอะไรเสร็จแล้วก็รีบๆ ไปเถอะ


ต้องขอโทษนะครับ ถ่ายออกมาแล้วกำลังทำหน้าประหลาดอยู่อีกแล้ว ขามาก็คุณแอร์ ขากลับเป็นคุณสจ๊วต


คุณแอร์ชุดเขียวคนเดิมเดินผ่านมาพอดี บอกว่าที่นั่งติดทางเดินแถวหน้าสุด (48F,G) ตรงนั้นว่างอยู่นะคะ พ่อผมจึงย้ายไป ผมเลยได้ควบสองที่นั่งสบายๆ แค่นี้ก็มีความสุขละครับ

[Amakung]

จากนั้นคุณสระแก้วก็เลี้ยวขวาแล้วแท็กซี่ไปเรื่อยๆ ผ่านตลอดความยาวตัวอาคารผู้โดยสารที่มีเครื่องจอดอยู่เรียงราย ส่วนใหญ่เป็นเครื่องภายในประเทศอย่าง Skymark, JAL, JAL Express และ ANA ผมได้เห็น 767 ลายเรโทร “Mohican Jet” ของ ANA ด้วย แต่มืดเกิน ถ่ายยังไงก็ไม่ชัด ขอยกรูปของคุณ Akira Uekawa มาประกอบแทนนะครับ


JA602A -- All Nippon Airways // Boeing 767-381
Credit photo to Akira Uekawa on http://www.airliners...67-381/2229595/

แล้วก็มาถึงอาคารคลังสินค้าที่มี LH Cargo MD-11 ลำนึงจอดอยู่ แสดงว่าคืนนี้คุณสระแก้วจะบินขึ้นจากรันเวย์ 06R ครับ


D-ALCF -- Lufthansa Cargo // McDonnell Douglas MD-11F

[Amakung]

เวลาเที่ยงคืนครึ่ง คุณสระแก้วพร้อมด้วยผู้โดยสารอีกเกือบ 300 คนยกตัวขึ้นจากท่าอากาศยานคังไซ ขึ้นสู่ท้องฟ้าสลัวด้วยแสงจันทร์ข้างแรม เหนืออ่าวโอซากาครับ หลังไต่ระดับได้สักพัก เครื่องก็เลี้ยวกลับหลัง มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ แสงไฟจากข้างล่างค่อยๆ เลือนรางและหายไปในที่สุด

ยังเหลือระยะทางที่ต้องบินอีกพอสมควร

[Amakung]

สำรวจที่นั่งของ ZIM Flugsitz หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “ป้าซิ้ม” กันครับ เริ่มจากที่วางแก้ว



และโต๊ะแบบพับ ไม่เหมือนบน 74R เนื่องจากต้องเผื่อที่ให้รีโมท IFE ด้วย

[Amakung]

พอกดสวิตช์ไฟอ่านหนังสือที่รีโมทก็จะ...


เครื่องลำนี้เป็นเหมือนเครื่องสมัยใหม่ทั่วไปที่ป้ายห้ามสูบบุหรี่เป็นแค่สติ๊กเกอร์ พอเครื่องเริ่มบินระดับ ทั้งไฟเตือนห้ามใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และไฟรัดเข็มขัดก็ดับลง

มีปลั๊กจ่ายไฟ 110V ใต้ที่นั่งทุกคู่ สบายอีกคราวนี้ ใช้คอมฟังเพลงได้โดยไม่ต้องกลัวแบตหมด

[Amakung]

20 นาทีหลังเครื่องขึ้น คุณแอร์ชุดเขียวก็นำอาหารว่างมาเสิร์ฟ เป็นข้าวปั้นใส่สาหร่ายกับงาและแซนด์วิชแฮมชีสและผักกาด (ที่จริงอยากกินไอศกรีมมากกว่านะครับ แต่ตามที่พี่ Hikouki บอก คิดว่าทานไอติมตอนหน้าหนาวอาจไม่เหมาะ แต่ผมชอบครับ )



จากนั้นไม่นานคุณสจ๊วตก็ถือถาดเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ ที่มีในถาดได้แก่น้ำเปล่า น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ลและโค้กครับ ว่าไปก็แกะข้าวปั้นกินดีกว่า



มองออกไปข้างนอกเห็นแสงไฟจางๆ จากเมืองบนเกาะคิวชู บนท้องฟ้าเห็นดาวได้อีกหลายดวง (แต่ไม่เยอะมากเพราะแสงจันทร์ค่อนข้างสว่าง) ถ้าใครสนใจดาราศาสตร์ก็จะดูออกว่ากลุ่มดาวในรูปคือสารถี (Auriga)


ขณะนั้นเครื่องบินกำลังบินต้านลมเกิน 200 kph ทำให้สั่นนิดๆ ตลอด ภาพจึงเบลอๆ ขออภัยนะครับ

[Amakung]

ผมลองเปิดคอมขึ้นมาดูแล้วเปิด wifi ไม่คิดว่าจะเจอภาพนี้



อ้าวนี้เครื่องป้าม่วงมี wifi on board ตั้งแต่เมื่อไหร่ ด้วยความตื่นเต้นเลยลองเข้า Safari สุดท้ายก็ยังใช้ไม่ได้ครับ...
เข้า Network Diagnostics ขึ้นว่ายังไม่ได้ต่ออินเตอร์เน็ต ลองไปถามคุณแอร์ดีกว่า

[Amakung]

ทานได้สักพักคุณแอร์ก็มาเก็บขยะ แล้วไฟในห้องโดยสารก็หรี่ลงให้ผู้โดยสารได้นอน ผมจึงลุกไปเข้าห้องน้ำ แปรงฟันสักเล็กน้อยให้พอสดชื่น จะนอนหรือไม่ค่อยว่ากันเพราะยังไงถึงวันอาทิตย์ ไม่มีภาระอะไร นอนบนเตียงสบายๆ ที่บ้านก็ได้ครับ

ก๊อกน้ำแบบปุ่มกด (ไม่ใช่เซ็นเซอร์) เลือกระดับความร้อน-เย็นได้ตามใจชอบ



ส้วมสะอาดดี (คงยังไม่ค่อยมีใครใช้) พิ้นห้องน้ำปูปาร์เก้ ส่วนผนังตกแต่งด้วยสีม่วงครับ



มี Eau de Cologne กลิ่น High Tea ของเอิบให้เหมือนไฟลท์ที่แล้ว

[Amakung]

พอผมออกจากห้องน้ำก็เจอคุณแอร์สามคน (รวมถึงคุณแอร์ชุดเขียว) กำลังคุยกันอยู่ที่ galley ด้านหลังเลยเข้าแจมด้วยเล็กน้อย ผมเกริ่นว่าเครื่องใหม่ดี เห็นเพิ่งมาเดือนที่แล้ว จออะไรก็ใหม่ไปหมด คุณ purser เลยถามว่านี่สตาฟหรือเปล่าคะเนี่ย ผมก็บอกไม่ใช่ เรียนหมออยู่ ปีสุดท้ายแล้ว พอผมถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนนั้น (คุณ 50G) คุณ purser ก็ตอบว่าไม่มีอะไรหรอกค่ะ วุ่นวายนิดหน่อย เจอแบบพี่รับรองสยบ จากนั้นผมก็คุยต่ออีกสักพัก ถามเรื่อง wifi ของ OnAir ที่ผมเจอเมื่อครู่ พี่แอร์ทำใหน้างงใส่ บอกว่ามีแล้วเหรอคะ พี่ยังไม่ทราบข่าวเลย ไม่เป็นไรครับ ยังไงตอนนี้มันก็ยังใช้ไม่ได้อยู่ดี
พอสังเกตว่าคุณแอร์เริ่มลุกไปทำงานต่อผมเลยขอตัวกลับมานั่งครับ

ในเมื่อยังไม่นอนก็หาหนังดูสักเรื่อง มีให้เลือกเยอะมาก ตอนแรกอยากดู Argo แต่ไม่เอาดีกว่า เครียดไป สุดท้ายก็มาลงตัวที่ Up



จอข้างๆ เปิดแผนที่ คอยดู progress ของไฟลท์ ไม่ทันไรก็จะผ่านไต้หวันแล้วครับ

[Amakung]

มองออกไปข้างนอก อืม ไม่เห็นอะไรเลย เมฆบังข้างล่างหมด



พอ Up จบก็หาเพลงฟังสักนิด ค้นไปเรื่อยๆ จนมาสะดุดที่อัลบั้มนี่ ใครคิดถึงเสียงของเธอบ้างครับ