73 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

ติดตามข่าวสารสายการบิน อัพเดททุกโปรโมชันก่อนใคร ทาง Facebook ของเราได้ที่facebook.com/HFLIGHTdotNet << คลิกแล้วกดไลค์ได้เลย

สวัสดีครับ

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา เครื่องบินแบบแอร์บัส เอ380 เครื่องบินโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทะเบียน HS-TUA นามพระราชทานศรีรัตนะ ซึ่งเป็น เอ380 ลำแรกของการบินไทยได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อเข้าประจำฝูงบิน ซึ่งทางเอชไฟลท์ได้พาทุกท่านไปชมวินาทีที่เครื่องบินแตะพื้นแผ่นดินไทย พร้อมภายนอกไปแล้วนั้นที่กระทู้ http://www.hflight.n.../topic/10037-hf

ในวันที่ 6 ตุลาคม 2555 เครื่องบินลำนี้ก็จะเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์เป็นเที่ยวบินแรก ในเที่ยวบิน TG600/601 เส้นทาง กรุงเทพฯ-ฮ่องกง-กรุงเทพฯ จากนั้นในตอนเย็นก็จะทำการบินเที่ยวบิน TG409/410 กรุงเทพฯ-สิงคโปร์-กรุงเทพฯ

แต่ก่อนจะให้บริการจริงแก่ผู้โดยสารทั่วไปนั้น ทีมข่าวHFLIGHT มีโอกาสขึ้นไปสัมผัสห้องโดยสารของเครื่องบินลำนี้ เพื่อนำภาพและเรื่องราวมาให้ทุกท่านได้ชมกันครับ

Attached Thumbnails

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

หากใครยังจำกันได้ เมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ ในขณะที่เครื่องบินลำนี้กำลังอยู่ระหว่างการผลิตโดยแอร์บัส ทีมข่าวHFLIGHT ได้มีโอกาสเดินทางไปยังโรงงานแอร์บัส เมืองฮัมบูร์ก เพื่อไปชมการติดตั้งภายในห้องโดยสารของเครื่องบินลำนี้ ซึ่งเราก็ได้นำทุกท่านชมในกระทู้ http://www.hflight.n...s/topic/8833-hf ลองย้อนไปชมกันดูนะครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เอาหละครับจากวันนั้นถึงวันนี้ เรามาดูกันซิว่าภายในแอร์บัส เอ380 ลำนี้ เมื่อได้รับการผลิต ตกแต่งเสร็จสิ้นเรียบร้อยพร้อมจะให้บริการแล้วจะเป็นอย่างไรกันบ้าง เครื่องบินจอดรอเราอยู่แล้วครับเดี๋ยวขึ้นไปกันเลย

อย่างไรก็ตามเราขอเรียนชี้แจงสองประการดังนี้นะครับ

1. เนื่องจากว่าขณะที่ทีมงานเข้าไปถ่ายทำนั้น ไม่ใช่เป็นช่วงเวลาที่เครื่องบินให้บริการผู้โดยสาร ดังนั้นจึงมีการปูผ้า(สีเทา)ยาวตามทางเดินในห้องโดยสาร เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดของพื้นพรม เพราะในขณะนั้นนอกจากคณะสื่อมวลชนที่ขึ้นไปถ่ายภาพแล้วยังมีเจ้าหน้าที่ของการบินไทยทั้งฝ่ายช่างและฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังทำงานกับเครื่องบินเพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการจริงในวันรุ่งขึ้น(6 ตุลาคม) อีกด้วย

2. แสงในห้องโดยสารนั้่นส่องมาจากแหล่งกำเนิดแสงหลายแห่ง โดยปรกติแล้วแสงขาวจะเป็นแสงสีที่สามารถสะท้อนสีจริงของวัตถุได้ถูกต้องที่สุด แต่ว่าในห้องโดยสารนั้นมีทั้งแสงจากแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านหน้าต่าง และแสงจากไฟในห้องโดยสารซึ่งมีสีต่าง ๆ กัน เพราะเครื่องบินลำนี้สามารถปรับแสงต่าง ๆ (Moodlight) ให้แสดงบรรยากาศต่าง ๆ ได้อีกด้วย


นอกจากภาพนิ่งแล้วเรายังมีวิดีโอมาให้ชมกันด้วยที่

Attached Thumbnails

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เข้าในห้องโดยสารแล้วครับ เข้ามาถึงก็จะเจอบันไดขนาดใหญ่นำท่านขึ้นไปยังชั้น 2 ของห้องโดยสาร เราจะขึ้นไปดูชั้นโดยสารชั้น Royal First Class หรือชั้นหนึ่งกันก่อนครับซึ่งอยู่ชั้นบนของเครื่องบินลำนี้ (แอร์บัส เอ380 เป็นเครื่องบินที่มีห้องโดยสาร 2 ชั้น ยาวตลอดลำตัวเครื่องบินนะครับ) แต่โดยทั่วไปแล้วผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจสามารถเข้าสู่เครื่องบินได้จากสะพานเทียบ(งวงช้าง)พิเศษที่เทียบไปยังชั้น 2 ของเครื่องบินได้โดยตรงอยู่แล้ว

Attached Thumbnails

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เครื่องบินลำนี้มีที่นั่งชั้น 1 ทั้งหมด 12 ที่ จัดเรียง 1-2-1 (ทั้งหมด 3 แถวคือ แถว 1 2 และ 3) ซึ่งที่นั่งจะมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก กว้างขวางใหญ่โต เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสารสูงสุด

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ที่นั่งชั้น Royal First Class มีระยะห่างระหว่างแถว 83 นิ้่ว แต่ละที่นั่งมีความกว้าง 26.5 นิ้ว

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เจาะลึกดูที่ที่นั่งกันบ้าง แต่ละที่นั่งมีจอภาพส่วนตัวระบบสัมผัส 23 นิ้ว ข้าง ๆ จอภาพคือชั้นวางนิตยสาร คู่มือความปลอดภัยและของใช้อื่น ๆ

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

นอกจากนั้นแล้วข้าง ๆ เก้าอี้ที่นั่งก็ยังมีช่องใส่สำหรับเก็บของอีกด้วย อีกฝั่งหนึ่งก็คือช่องสำหรับเก็บอุปกรณ์ควบคุมความบันเทิง นอกจากนั้นแล้วยังใช้เป็น QWERTY Keyboard และก็ใช้เป็นโทรศัพท์ได้อีกด้วย ข้าง ๆ กันนั้นยังมีช่องสำหรับเสียบ USB อีก 2 ช่อง แล้วยังมีเต้ารับจ่ายไฟฟ้าอีกด้วย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ตรงฉากกั้นของแต่ละที่นั่ง เปิดออกมาจะเป็น Coat Room หรือช่องเก็บเสื้อส่วนตัว

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แผงควบคุมการปรับที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ตรงนี้ครับ สามารถเปิดระบบนวดได้ด้วย

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ภาพขณะเลื่อนโต๊ะออกมา เพื่อใช้เวลารับประทานอาหาร จะสังเกตว่าพื้นที่พักเท้าที่อยู่ปลายที่นั่งใต้จอภาพ สามารถใช้เป็นเก้าอี้อีกตัวเพื่อให้เพื่อนร่วมเดินทางร่วมโต๊ะรับประทานอาหารด้วยกันได้

Attached Thumbnails

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ส่วนหากปรับเอนราบ ก็จะสามารถปรับนอนเป็นเตียงราบได้ 180 องศาเลยครับ เป็นเตียงกว้างเสียด้วย

Attached Thumbnails

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สำหรับที่นั่งคู่ตรงกลางนั้น หากต้องการความเป็นส่วนตัว ฉากกั้นนี้สามารถปรับขึ้นลงได้

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ที่หัวเตียงหรือตรงที่นั่ง(เมื่อปรับเป็นเก้าอี้) จะมีทั้งไฟอ่านหนังสือและโคมไฟอีกด้วย

Attached Thumbnails

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ความพิเศษของชั้นโดยสารนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ที่นั่ง เพราะเมื่อเราขึ้นบันไดมา ด้านหน้าเครื่องนั้นจะเป็นที่ตั้งของ Royal First Class Bar สำหรับบริการของว่างเครื่องดื่มตลอดการเดินทาง

Attached Thumbnails

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ข้าง ๆ กันคือ Royal First Class Lounge หรือพื้นที่เอนกประสงค์ สำหรับการพักผ่อนของผู้โดยสาร

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ไม่เพียงเท่านั้นห้องน้ำของชั้นหนึ่งยังกว้างขวางเป็นพิเศษ มีทั้งส่วนสำหรับการเปลี่ยนเสื้อผ้าและส่วนที่เป็นสุขา

ทั้งสองภาพนี้อยู่ในห้องน้ำห้องเดียวกันนะครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ถัดจากชั้นหนึ่ง Royal First Class คือห้องโดยสารชั้นธุรกิจหรือ Royal Silk Class ซึ่งบนเครื่องบินลำนี้มีทั้งหมดถึง 60 ที่นั่ง (แถวที่ 11 - 27) จัดเรียง 1-2-1 แบบสลับฟันปลาแถวต่อแถว ทำให้ทุกที่นั่งติดกันทางเดิน ผู้โดยสารสามารถเดินเข้าออกที่นั่งของตนเองได้ทุกที่นั่งโดยไม่ต้องรบกวนผู้โดยสารท่านอื่นเลย

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ที่นั่งชั้น Royal Silk Class นั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน (Section) ส่วนแรกมีจำนวน 48 ที่นั่งอยู่ระหว่างประตูบานที่ 1 และ 2 ของชั้นบน (แถวที่ 11-24) ส่วนที่ 2 มีจำนวน 12 ที่นั่งคือแถว 25-27 อยู่หลังประตูบานที่ 2 ของชั้นบนไปจนถึงที่นั่งของผู้โดยสารชั้นประหยัด

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ที่นั่งของชั้นธุรกิจนั้นกว้าง 20 นิ้ว ระยะห่างระหว่างแถว 74 นิ้ว(เนื่องจากเรียงแบบสลับฟันปลา คือ A-DG-K ในแถวที่ 11 และ B-EF-J ในแถวที่ 12 ดังนั้นการนับระยะห่างระหว่างแถวจะนับข้ามแถวไปนะครับ เพราะแถวที่อยู่ด้านหน้าเก้าอี้ตัวที่เรานั่งจะไม่มีเลขที่นั่งอักษรเดียวกับเรา)

Attached Thumbnails

• 
• 
•