หลังจากนั้นลูกเรือก็ขายเครื่องดื่มร้อนและเย็น (จ่ายตามปกติ) และสินค้าที่ระลึกกันต่อ
ซึ่งที่น่าแปลกใจมากคือ ในช่องกระเป๋าหน้าที่นั่งไม่มีแผ่นเมนูสินค้าที่ขายบนเครื่องอื่นๆ เลย เช่นเดียวกับ ในนิตยสารนกจิ๊บจิ๊บก็ไม่มี
ผมคิดว่า ... นกแอร์ควรต้องทำแผ่นพับออกมา ลูกเรือจะได้ขายของกันง่ายขึ้น เพราะผู้โดยสารสามารถศึกษาด้วยตนเองก่อนได้
หรือถ้าไม่อยากทำแผ่นพับเพราะต้องอัพเดตตลอดก็ต้องใส่ไว้ในนิตยสารนกจิ๊บจิ๊๊บซึ่งออกทุกเดือน ....
เลยทำให้ลูกเรือขายของได้ยากมากกว่าเดิมมาก เพราะถ้าประกาศบ่อยๆ ผู้โดยสารก็รำคาญ ยิ่งไฟล์ทดึกๆ ส่วนใหญ่ก็จะนอนหลับกันทั้งนั้น
แต่คนที่สนใจก็ยังมีอยู่ ก็ต้องถามคุณแอร์เอาเอง
ด้วยความที่บินคนเดียว แล้วก็เป็นไฟล์ทดึก
วิญญาณ 'ยุ่งชะมัด' บุกครัว แบบตอนสมัยเด็กๆ ก็เลยออกมา
แต่ความจริงเดี๋ยวนี้ผมเลิกบุกครัวมาได้มากกว่า 5 ปีแล้ว เนื่องจากอายุก็เริ่มจะไม่น้อย ไม่ใช่เด็กจำไมถามได้ทุกอย่างแบบตอนแต่ก่อน

พอดีมีคุณแอร์ผ่านมาก็เลยถามตรงๆ เลยว่า
Q : ทำไมถึงต้องเป็น 'นกแมคคาเดเมีย' ? A : นกแมคคาเดเมีย มีให้บริการสำหรับเทียวบินดึกที่สุดในเที่ยวบินขากลับเข้ากรุงเทพเท่านั้น เนื่องจากครัวของอานตี้แอนน์ปิดแล้ว
แต่ในทุกเที่ยวบินอื่นๆ ของนกแอร์ รวมถึงไฟล์ทที่ออกมาจากดอนเมือง ก็ยังคงให้บริการด้วยอานตี้แอนน์อยู่
Q : ในนิตยสารนกจิ๊บจิ๊บ ไม่เห็นมีเมนูของว่าง-เครื่องดื่ม และ สินค้าที่ระลึกเลย ??A : จริงๆ เรื่องนี้ทางลูกเรือก็แจ้งไปทางฝ่ายงานที่เกี่ยวข้องแล้วเหมือนกัน เพราะว่ามีผู้โดยสารสอบถามมาเป็นจำนวนมาก
และเวลาขายของ ลูกเรือเองก็ไม่อยากที่จะประกาศซ้ำบ่อยๆ เวลาขายของก็ขายค่อนข้างลำบาก เพราะจะต้องอธิบายลูกค้ามากขึ้น
ผมก็เลยบอกว่า งั้นผมเขียนใบแนะนำการให้บริการดีกว่า เพราะถ้าเสียงจากลูกค้าน่าจะมีน้ำหนักมากหน่อย
จึงขอแนะนำชาว HFlight ว่า ถ้ามีอะไรที่รู้สึกตะขิดตะข่วงใจ อยากแนะนำการให้บริการ ให้ขอใบนี้จากลูกเรือมาได้เลยครับ
คุณแอร์ก็ใจดีมากๆ รีบไปเอาใบกับปากกามาให้เขียนเลย พร้อมกับนกขนม (จากไฟล์ทก่อนหน้า) อภินันทนาการมาให้ 1 ชุด

สรุปไฟล์ทนี้ ผมก็เลยได้กินทั้ง นกแมคคาเดเมีย และ อานตี้แอนน์ ในถุงนกขนมเลย

ขอขอบคุณคุณแอร์น้องนกด้วยนะครับ